คิวคิวละสายตากลับมาคุยกับเหล่าบอดี้การ์ดอย่างไร้อารมณ์ทางสีหน้า “รู้แล้ว พวกนายไปได้”
“หา?ไปเหรอครับ?แต่……”
“ต้องให้ผมโทรหาแด๊ดดี๊ใช่ไหม?”คิวคิวกล่าวหนึ่งประโยคโดยเรียนแบบชินจังผู้ซึ่งไม่แยแสอื่น
สุดท้ายคนพวกนี้ได้ยินก็รีบหุบปากทันควัน จากนั้นคิวคิวก็ยืนดูพวกเขาสบตากันปราดหนึ่ง ก่อนจะถอยออกไป
คิวคิว:“……”
เก่งชะมัดเลย ไอ้คนคร่ำครึน้อยมีพลานุภาพร้ายกาจเพียงนี้เลย
คิวคิวเดินเข้าห้องเพรสซิเดนท์สูทอย่างภาคภูมิใจ สิ่งที่เขาไม่รู้คือ สาเหตุที่บอดี้การ์ดพวกนี้เชื่อฟังชินจัง เป็นเพราะหากเจ้าบรรพบุรุษน้อยไม่พอใจขึ้นมา พวกเขาจะโดนแสนรักและคุณท่านกมลภพลงโทษอย่างไม่ต้องสงสัย
พระเจ้าช่วยกล้วยทอด มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลยนะโว้ย ?โดนลงทัณฑ์อย่างสาหัสซ้ำสองแบบนี้!
ก็รีบหนีสิครับ รอไร!
คิวคิวเดินเข้าไป ทว่าไม่มีกะจิตกะใจชื่นชมห้องเพรสซิเดนท์สูทอันวิจิตรตระการตานี้ เขาเริ่มค้นหาหม่ามี๊อย่างไม่รีรอ
“หม่ามี๊?”
“ใคร?”
โชคดีมาก เขาเรียกปุ๊บหม่ามี๊ก็ขานรับปั๊บ ทันใดนั้นขาอันสั้นเล็กของเขาวิ่งไปยังต้น
“หม่ามี๊?เอ๋?หม่ามี๊เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?”
“หา!คิวคิวมาได้ยังไง?ลูกหาที่นี่เจอได้ยังไง มีคนเห็นลูกไหม?ที่นี่อันตรายมาก ลูกรีบกลับไปเถอะ!”
เส้นหมี่นั่งอุ้มเข่าหลบอยู่หลังโซฟา เมื่อได้ยินเสียงลูกชายก็รีบลุกขึ้น ด้วยความที่รีบร้อน จึงลืมเช็ดน้ำตาทิ้ง
คิวคิวเห็นเข้า ใบหน้าหล่อกระชากใจก็มืดครึ้มทันที
“หม่ามี๊โดนใครรังแกเหรอครับ?คนเลวคนนั้นใช่ไหมครับ?”
“ไม่ใช่ ไม่ใช่ลูก คิวคิว หม่ามี๊ไม่เป็นอะไร ลูกมาได้ยังไง?มาช่วยหม่ามี๊เหรอ?งั้นพวกเรารีบไปกันเถอะ”
เส้นหมี่รีบส่ายหน้า แล้วปาดน้ำตาทิ้ง จากนั้นก็เตรียมพาลูกชายหนีออกไป
ทว่าเวลานี้คิวคิวกำลังโกรธขึ้ง
คนเลวนี้กล้ารังแกหม่ามี๊ของเขา?เขาไม่ปล่อยไปแน่ ผู้หญิงที่อิคคิวอย่างเขาอยากปกป้อง ไม่ใช่ใครหน้าไหนจะรังแกได้ง่าย ๆ ?
เด็กน้อยที่พึ่งจะเข้าสู่วัยห้าขวบกวาดสายตามองห้องนี้ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ก่อนจะหยิบปากกาขึ้นมาหนึ่ง
เส้นหมี่ “คิวคิว ลูกจะทำอะไร?”
คิวคิว “ไม่มีอะไรครับ แค่ทิ้งข้อความไว้ให้เขาเท่านั้นครับ”
จากนั้นมือเล็กก็จับปากกาพลันเขียนภาษาอังกฤษอย่างว่องไวบนกระดาษหนึ่งประโยค——
【You’redead!】
(คุณต้องตายแน่!)
เส้นหมี่ “คิวคิว——!!”
——
แสนรักไปหาหมออีกคนหนึ่ง
เขาหลับไม่ค่อยสนิทมาหนึ่งอาทิตย์เต็ม ๆ แล้ว โดยเฉพาะเมื่อคืน หลังจากที่รู้ว่าผู้หญิงสมควรตายนั้นยังมีชีวิตอยู่ เขาก็ยิ่งข่มตานอนไม่หลับ ความเจ็บปวดเช่นนี้เขาเกือบจะรับไม่ไหวแล้ว
ทว่าหมอคนนี้ก็รักษาอาการของเขาไม่ได้
“คุณแสนรัก ขออภัยที่ผมพูดตรง ๆ นะครับ อาการของคุณน่าจะเกี่ยวข้องกับสภาพจิตใจด้วยนะครับ เพราะขนาดยาแวเลียมยังเอาไม่อยู่ อาการจึงรุนแรงมากครับ หรือว่าคุณลองไปหาหมอจิตแพทย์ดูนะครับ?”
“หมอจิตแพทย์?”
นัยน์ตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดอย่างแสนรักเมื่อได้ยินประโยคนี้ คิ้วงามก็ขมวดแน่นเป็นปม เห็นได้ชัดว่าไม่ยินดีปรีดากับคำชี้แนะนี้
คุณหมอเห็นก็ได้แต่ทอดถอนใจ จากนั้นก็ไม่พูดอะไร
โรคทางด้านสภาพจิตใจเป็นเรื่องที่ทุกคนไม่อยากเปิดเผย ไม่มีใครอยากยอมรับว่าตัวเองป่วยทางใจ โดยเฉพาะสาเหตุของภาวะการเกิดโรคนั้น ยิ่งเป็นความลับที่ไม่อยากเอื้อนเอ่ย
สุดท้ายคุณหมอก็สั่งจ่ายยาแวเลียมในปริมาณมาก
แสนรักรับยากแล้วเตรียมจะออกไป ทางโรงแรมก็โทรมา
“ท่านประธานครับ แย่แล้วครับ เมียเก่า……ผู้หญิงคนนั้นหนีไปแล้วครับ”
“นายว่าอะไรนะ?หนีไปแล้วเหรอ?”
“ใช่ครับ พวกเราเห็นกระดาษโน๊ตในห้องด้วยครับ โดยเขียนเนื้อหาไว้ดังนี้ครับ”
ผู้ช่วยเคที่อยู่ในสายถ่ายรูปกระดาษโน๊ตแผ่นนี้ด้วยความหวาดหวั่น
แสนรักเห็นแล้วเส้นประสาทบนหน้าผากก็กระตุกอย่างร้ายกาจ “แม่งเอ้ย ผู้หญิงคนนี้รนหาที่ตายจริง ๆ ฝีมือใคร?ไปสืบดูสิ ยังซื่อบื่ออะไรอยู่ รอผมกลับไปแจกเกียรติบัตรเหรอ?”
“ไม่……ไม่ใช่ครับท่านประธาน พวกเราตรวจสอบดูแล้วครับ กล้องวงจรปิดในห้องเสียหมดเลยครับ และผมลองสอบถามว่า นอกจากคุณชายเล็กเข้ามาในห้องนี้ก็ไม่มีคนอื่นอีกเลยครับ”
“โอ๊ย!”
แสนรักรู้สึกสมองของตัวเองใกล้จะระเบิดเป็นเสี่ยง ๆ แล้ว
ซึ่งนี่ไม่ใช่ข่าวร้ายสุด เพราะเรื่องที่ดุเดือดอยู่ตอนหลัง ผ่านไปไม่นาน ผู้ช่วยของเขาก็รายงานว่าพวกเขากลายเป็นข่าวหน้าในด้านลบ
“ท่านประธานครับ ไม่รู้ว่าใครเอาวิดีโอตอนพวกเราจับตัวผู้หญิงคนนั้นในห้องทำงานผู้อำนวยการโรงพยาบาลไปลงโซเชี่ยลครับ ตอนนี้คุณกลายเป็นที่จับตามองในอินเทอร์เน๊ตไปแล้วครับ บอกว่าจะทวงความยุติธรรมให้กับแพทย์หญิงที่ถูกทำร้ายครับ ……”
อันที่จริง กล่าวว่า“เป็นที่จับตามอง”นั้นยังเบาไป
ความจริงก็คือทัวร์ลง ทัวร์ลงท่านประธานที่เป็นนักธุรกิจระดับโลก ……
แสนรักรู้สึกปวดศีรษะอย่างรุนแรง จากนั้นมือถือก็ร่วงหล่นเกิดเสียง “ปัง”บนพื้น เขารีบก้มหน้าเก็บขึ้นมา
“คุณแสนรัก!คุณแสนรัก!!”