ตอนที่ 137 ใส่ยาพิษ? (2)/ตอนที่ 138 ใส่ยาพิษ? (3)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 137 ใส่ยาพิษ? (2)

“องค์หญิง อาหารบำรุงสุขภาพนี่ท่านได้มาจากไหนหรือเพคะ” ในที่สุดฉินอี๋ก็นึกถึงเรื่องอาหารบำรุงสุขภาพขึ้นมา นางหันหน้าไปมองเฟิงหรูชิงแล้วเอ่ยถาม

เฟิงหรูชิงเอามือลูบจมูก เดิมทีนางคิดจะปัดเรื่องนี้ไปให้หอแห่งแรก แต่ว่า…ในงานพบปะที่ผ่านมา นางยอมรับต่อผู้คนที่นั่นแล้วว่านางเป็นคนคิดค้นอาหารบำรุงสุขภาพนี้ขึ้น ถ้าจะหาคนอื่นรับไปแทนคงจะไม่ทันแล้ว

“ท่านป้า หลายปีที่ผ่านมาข้าว่างจนรู้สึกเบื่อ นอกจากเที่ยวก่อเรื่องไปทั่วแล้ว ข้ายังคิดค้นอาหารอยู่ที่บ้าน มีครั้งหนึ่งที่ข้าเผลอใส่ยาเข้าไปในอาหาร และวันนั้น…ข้าเป็นหวัดพอดี ปรากฏว่าอาหารบำรุงสุขภาพช่วยรักษาอาการของข้าได้ หลังจากนั้นข้าก็คิดค้นอาหารบำรุงสุขภาพเรื่อยมา”

เฟิงหรูชิงเงียบไปพักหนึ่ง แล้วจึงพูดต่อไปว่า “แต่ว่า…เมื่อก่อนไม่ค่อยได้ผลนัก ข้าเลยไม่บอกให้ใครรู้เรื่องนี้ ตอนนี้ข้าคิดค้นได้เป็นที่พอใจแล้ว เลยไม่จำเป็นต้องปิดบังพวกท่าน”

ฉินอี๋ขมวดคิ้วเบาๆ นางพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “องค์หญิง ท่านใส่ยาลงในอาหารตามใจชอบได้อย่างไรเพคะ คราวนั้นท่านอาจโชคดีถึงไม่เป็นอะไร ถ้าหากเกิดเรื่องขึ้นกับท่านจะทำอย่างไร”

เด็กคนนี้ช่างใจกล้านัก ทั้งๆ ที่ไม่รู้วิชาเภสัชยังกล้าทำเรื่องอันตรายแบบนี้ได้

เมื่อเห็นฉินอี๋เป็นแบบนี้นางก็รู้สึกดีใจ

ไม่ว่าเมื่อก่อนนางจะโกรธแค้นเฟิงหรูชิงมากแค่ไหน นางก็ไม่อยากให้…เฟิงหรูชิงเป็นอะไรไป!

โชคดีที่น่าหลานฮองเฮาคอยปกป้องนางอยู่ ทำให้นางปลอดภัย ไม่อย่างนั้น…หากนางเป็นอะไรขึ้นมาจะทำอย่างไรกัน

“ท่านป้า ข้ารู้ว่าท่านเป็นห่วงข้า แต่ข้าไม่เป็นอะไรสักหน่อย”

เฟิงหรูชิงยิ้ม “แต่ข้าว่าช่วงนี้ท่านป้าคงเหน็ดเหนื่อยมากไป ดูสิมีผมขาวแล้ว วันหลังข้าจะดูว่ามีอาหารบำรุงสุขภาพอะไรที่ช่วยเสริมความงามของท่านป้าให้กลับเป็นเหมือนเก่าได้”

ฉินอี๋อึ้ง นางเป็นห่วงเฟิงหรูชิง? นางก็แค่…ไม่อยากให้เฟิงหรูชิงเป็นอะไร เพราะคิดถึงน่าหลานฮองเฮากับสกุลน่าหลานเท่านั้นเอง

“จริงสิ ท่านป้า ที่ท่านน้าเหยาไม่ตั้งครรภ์ เป็นเพราะเคยมีอาการครรภ์เป็นพิษใช่หรือไม่”

เมื่อเฟิงหรูชิงเข้าไปในห้อง นางก็ให้ฝูเฉินช่วยตรวจอาการของเว่ยผิ่นเหยา

ที่นางตั้งครรภ์ไม่ได้เป็นเพราะสมัยก่อนตอนยังอยู่ในครรภ์มารดานางเคยโดนพิษ ทำให้มดลูกของนางมีพิษค้างอยู่ ไม่สามารถขับพิษออกได้ จึงไม่อาจตั้งครรภ์

ต่อให้นางตั้งครรภ์ได้ แต่ด้วยสภาพร่างกายแบบนี้ คงไม่อาจรับสภาพไหว

“ครรภ์เป็นพิษ ถูกต้องเพคะ”

เรื่องนี้ไม่ใช่ความลับสำหรับคนของสามตระกูลใหญ่ สมัยก่อนนางอนุที่วางยามารดาของนางก็โดนลงโทษประหารไปแล้ว แต่ฉินอี๋กลับคิดว่านางอนุคนนั้นเป็นเพียงแพะรับบาป ผู้ร้ายตัวจริงคงเป็นคนอื่น!

“ท่านป้า ท่านควรดีใจที่ท่านน้าเหยาไม่อาจตั้งครรภ์”

“…” ฉินอี๋อึ้ง นางขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “องค์หญิงพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรเพคะ การตั้งครรภ์ไม่ได้ถือเป็นความทุกข์ทรมานของผิ่นเหยา ทำไมต้องดีใจด้วยเพคะ”

“เพราะว่า…” เฟิงหรูชิงหันไปมองเว่ยผิ่นเหยา “ด้วยความรักที่ท่านน้าเหยามีต่อท่านน้าซวิน นางต้องอยากมีลูกให้เขาอยู่แล้ว แต่การที่ครรภ์เป็นพิษไม่เพียงทำให้ท่านน้าเหยาไม่อาจตั้งครรภ์ ยังทำให้สุขภาพของนางอ่อนแอด้วย หากนางดึงดันจะตั้งครรภ์ให้ได้ จะเจอกับภาวะคลอดยาก!”

วิชาการแพทย์ของแคว้นหลิวอวิ๋นไม่ก้าวหน้า หากมีปัญหาคลอดยาก จะเป็นอันตรายต่อชีวิตของเว่ยผิ่นเหยา ดังนั้นนางจึงควรดีใจที่เว่ยผิ่นเหยามีปัญหามีบุตรยาก

เว่ยผิ่นเหยาพูดด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ “ต่อให้หม่อมฉันมีภาวะคลอดยาก หม่อมฉันก็อยากมีลูกให้เขาเพคะ”

ฉินอี๋เงียบ

ที่เฟิงหรูชิงพูดเป็นความจริง หากผิ่นเหยามีบุตรย่อมเป็นอันตราย จะว่าไปควรดีใจที่นางไม่อาจมีบุตรได้มากกว่า

“ท่านน้าเหยา ท่านอย่าเพิ่งถอดใจ ข้าจะบอกสูตรอาหารบำรุงสุขภาพให้ท่าน ให้ปรุงกินตามสูตรทุกวัน ปรับสมดุลร่างกายให้ดีขึ้นแล้วค่อยคิดหาวิธีแก้ปัญหาครรภ์เป็นพิษ”

………………………………………

ตอนที่ 138 ใส่ยาพิษ? (3)

“ข้าจะ…ตั้งครรภ์ได้จริงๆ หรือ” เว่ยผิ่นเหยาลืมตาขึ้น แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย

เฟิงหรูชิงกุมมือเว่ยผิ่นเหยาแน่น “ท่านน้าเหยาต้องมีวิธีสิเชื่อข้า”

ถ้าไม่เป็นเพราะ…กำลังความสามารถของนางในปัจจุบันยังอยู่ในระดับต่ำ ไม่อาจปลูกยาวิเศษระดับสูงได้ ป่านนี้นางคงช่วยแก้อาการครรภ์เป็นพิษให้เว่ยผิ่นเหยาได้แล้ว

ต่อให้มีเงินซื้อ ยาวิเศษนั่นก็ใช่ว่า จะหาได้ง่ายๆ เมื่อไร

เว่ยผิ่นเหยากะพริบตา ขอเพียงนางมีบุตรได้ จะให้นางแลกด้วยชีวิตนางก็ยอม

“ผิ่นเหยา องค์หญิงพูดถูก ขอเพียงเจ้าดูแลร่างกายให้แข็งแรงขึ้น เจ้าก็จะตั้งครรภ์ได้ หากเจ้ายังไม่แข็งแรง ซวินเอ๋อร์คงไม่ยอมมีลูกกับเจ้า” ฉินอี๋ถอนหายใจ

แม้การมีลูกจะเป็นเรื่องสำคัญ แต่สำหรับซวินเอ๋อร์แล้ว เว่ยผิ่นเหยานั้นสำคัญยิ่งกว่า

“ข้ารู้ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปข้าจะดูแลร่างกายให้ดี องค์หญิงขอบพระทัยเพคะ ขอบพระทัยท่านจริงๆ หากข้ามีลูกได้จริงๆ ชาตินี้ข้าจะไม่ลืมบุญคุณของท่านเลย”

เว่ยผินเหยาขอบตาแดง การไม่สามารถมีบุตร เป็นความเจ็บปวดในใจนางมาโดยตลอด

“ท่านป้า นี่ก็ดึกแล้ว ข้าต้องกลับล่ะ” เฟิงหรูชิงบิดขี้เกียจ สีหน้าดีอกดีใจ

นางดูออกว่าท่าทีที่ฉินอี๋มีต่อนางเปลี่ยนไปไม่น้อย ที่วันนี้มาถือว่าเหมาะสมแล้ว

“ข้าจะไปส่งท่าน” ฉินอี๋งุนงง ก่อนจะลุกขึ้นพูด

“ได้”

เฟิงหรูชิงไม่ปฏิเสธน้ำใจจากฉินอี๋ นางหันไปมองเว่ยผิ่นเหยาด้วยรอยยิ้ม

“ท่านน้าเหยา ไว้ข้ามาเยี่ยมท่านอีกนะ”

เว่ยผิ่นเหยาพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม

จนสองคนนั้นเดินลับไป นางยังคงจ้องมองดูด้วยท่าทีเหม่อลอย

“ท่านพี่น่าหลาน องค์หญิงเปลี่ยนไปจริงๆ ในที่สุด สกุลน่าหลาน…ก็จะได้อยู่อย่างสันติ ดีจริงๆ”

นี่มัน…ดีเหลือเกิน

กลางห้องรับแขก

ฉินเฟยหยางนั่งตัวตรงอยู่บนเก้าอี้เจ้าบ้าน ด้านซ้ายมือของเขาคือฉินซวินที่ท่าทางกระวนกระวายใจ สายตาของเขามองไปด้านนอกเป็นระยะๆ แววตามีความวิตกกังวล

ฉินเฟยหยางผ่านโลกมามากแล้วมีหรือจะดูไม่ออกว่าฉินซวินกำลังเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของเว่ยผิ่นเหยา เขาส่ายหน้าด้วยความรู้สึกจนใจ “ซวินเอ๋อร์หากเจ้านั่งเฉยๆ ไม่ได้ เจ้าก็กลับไปก่อนเถอะ”

เมื่อพูดจบ เขาก็พูดกับคนสองคนที่กำลังนั่งอยู่

“นายกองเจา คุณชายเจา ขออภัยท่านทั้งสองด้วย”

ที่นั่งถัดไปคือชายวัยกลางคน เขาผู้นี้ดูองอาจผ่าเผย หน้าตาสง่างาม ส่วนคนที่นั่งข้างๆ เขาคือชายหนุ่มรูปร่างงดงาม

หากเฟิงหรูชิงอยู่ด้วยละก็ คงจำได้ทันทีว่าชายหนุ่มผู้นั้นก็คือเจาหยางคนที่นางเคยสนทนาจิปาถะด้วยหลายครั้ง

“ฮ่าๆ ความรักที่คุณชายฉินและฮูหยินมีต่อกัน ผู้คนทั้งหลายต่างรู้ดี การที่เขาเป็นห่วงนางนั้นเป็นเรื่องปกติ ข้าเองก็เคยเป็น ทำไมจะไม่เข้าใจ”

ฉินซวินได้ยินคำพูดนั้นจึงลุกขึ้นอย่างดีใจ เขาคำนับและกำลังจะเดินจากไป แต่ในขณะที่หันหน้าไปมองก็เห็นสาวใช้คนหนึ่งรออยู่ข้างนอกด้วยท่าทีกังวล

แม้สาวใช้คนนี้จะไม่ใช่คนรับใช้ใกล้ชิดเว่ยผิ่นเหยา แต่นางก็เป็นคนที่เว่ยผินเหยาพามาจากบ้านสกุลเว่ยด้วย ดังนั้นเมื่อเห็นนางเดินไปเดินมา ฉินซวินก็ขมวดคิ้ว สายตาของเขาดูกระวนกระวายใจ

“หงเสวี่ย เจ้ามาที่นี่ทำไม ไม่ไปคอยรับใช้ฮูหยินรองที่เรือนเล่า”

หงเสวี่ยเงยหน้าขึ้น นางรู้สึกดีใจแต่แววตานางเต็มไปด้วยความกังวล

นางเป็นสาวใช้ที่แม่ของเว่ยผิ่นเหยายกให้คอยตามปรนนิบัติตอนออกเรือน เดิมคิดว่าเมื่อนางมาอยู่ที่บ้านสกุลฉินจะได้เป็นสาวใช้ที่ได้บำเรอฉินซวิน แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากนั้นไม่นาน เว่ยผิ่นเหยาก็ให้นางไปคอยรับใช้อยู่ด้านนอก ไม่อนุญาตให้นางตามรับใช้ใกล้ชิด

………………………….