ตอนที่ 141 ชาตินี้จะไม่ขอมีภรรยา (2)/ตอนที่ 142 ชาตินี้จะไม่ขอมีภรรยา (3)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 141 ชาตินี้จะไม่ขอมีภรรยา (2)

เจาหยางหัวเราะหึ เขาสะบัดหน้าหนี ไม่มองฉินซวินเลยแม้แต่น้อย

ฉินซวินสีหน้ากระดากอาย “คุณชายเจา เมื่อครู่…ข้าวู่วามไปหน่อย”

เมื่อได้ยินว่าเว่ยผินเหยามีหวังแล้ว ความเป็นกังวลของเขาก็วางลงได้

“อะแฮ่ม” นายกองเจาทำเสียงไอเพื่อทำลายบรรยากาศวังเวง “คุณชายเป็นห่วงภรรยามาก ข้าเคยผ่านเรื่องแบบนี้มา เข้าใจความรู้สึกดี ท่านรีบไปดูภรรยาท่านเถอะ”

“ได้”

ฉินซวินแววตาเป็นประกาย ใจของเขาลอยไปหาเว่ยผิ่นเหยาตั้งนานแล้ว ดังนั้นเมื่อได้ยินประโยคที่นายกองเจากล่าว เขาจึงเลิกสนใจเจาหยางที่กำลังโกรธและรีบตะบึงไปยังห้องของเว่ยผิ่นเหยา

“เจ้าออกไปได้แล้ว” ฉินเฟยหยางมองไปที่หงเสวี่ยแล้วพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

หงเสวี่ยกำมือแน่น นางรู้สึกเจ็บใจ เจ็บใจที่เว่ยผิ่นเหยาไม่ถูกพิษตายไปเสีย

แต่นางไม่กล้าพูดอะไร ทำการคำนับแล้วถอยออกไป

“คุณชายเจา” ฉินเฟยหยางมองไปที่เจาหยาง “อาหารบำรุงสุขภาพนั่น องค์หญิงเป็นคนคิดค้นจริงๆ หรือ”

เจาหยางแววตาเป็นประกาย “ถูกต้อง องค์หญิง…มีพรสวรรค์ นางเป็นคนอัจฉริยะ ที่ผ่านมาคนอื่นเข้าใจนางผิดไป!”

“ฮ่าๆๆ”

ฉินเฟยหยางหัวเราะชอบใจ เสียงหัวเราะของเขาฟังดูมีความสุข “ถ้าท่านแม่ทัพเฒ่ารู้เรื่อง จะต้องดีใจมาก แม้แต่น่าหลานฮองเฮาก็คงรู้สึกเบาพระทัย”

จวนองค์หญิงในยามค่ำคืน ปกคลุมด้วยแสงจันทร์และบรรยากาศเงียบสงัด

เมื่อเฟิงหรูชิงเดินเข้าไปในจวน ก็เห็นชิงหลิงนั่งกอดเข่าตัวสั่นอยู่ที่มุมๆ หนึ่ง

ตรงหน้านาง พวกหมีแห่งพื้นปฐพีกำลังเดินอยู่ท่ามกลางความมืด รูปร่างมันใหญ่โตมโหฬาร

            “องค์หญิงเพคะ!”

ชิงหลิงมองเห็นเฟิงหรูชิงที่กำลังเดินเข้ามาในจวน ประดุจเทวดามาโปรด นางร้องไห้ออกมา “ไม่รู้ว่าเจ้าหมาป่านั่นไปพาสัตว์วิเศษจากที่ไหนมาเยอะแยะ ท่านรีบมาช่วยบ่าวด้วยเพคะ”

เฟิงหรูชิงยังไม่ได้กลับมาที่จวนองค์หญิงเลย แม้แต่อาหารบำรุงสุขภาพนางก็ยืมใช้ห้องครัวของในวัง ดังนั้น หมาป่าสีขาวจึงเป็นผู้พาสัตว์วิเศษฝูงนี้กลับมา

ปรากฏว่าชิงหลิงคิดไม่ถึงว่าจะมีสัตว์วิเศษมากมายขนาดนี้ในจวนองค์หญิง นางตกใจจนไม่กล้าขยับเขยื้อนไปไหน

กลัวว่าถ้าขยับ สัตว์วิเศษพวกนั้นจะมาฉีกนางเป็นชิ้นๆ

เมื่อเห็นชิงหลิงหน้าซีดเป็นไก่ต้ม เฟิงหรูชิงรู้สึกเวทนา นางเดินไปอยู่ตรงหน้าหมีแห่งพื้นปฐพีแล้วตบหัวของมันเบาๆ

“จะแนะนำให้เจ้ารู้จัก สัตว์วิเศษพวกนี้ข้าหลอกพวกมันมาอย่างยากลำบาก เจ้าไม่ต้องกลัวพวกมันหรอก ถ้าพวกมันได้กินอิ่มมันไม่มีทางกินคนแน่นอน”

ขอแค่…ได้กินอิ่ม…ก็จะไม่กินคนอย่างนั้นหรือ

ชิงหลิงตกใจจนร้องไห้ “องค์หญิง แล้วถ้ามันกินไม่อิ่มล่ะเพคะ บ่าวจะกลายเป็นอาหารของพวกมันหรือเปล่า องค์หญิง บ่าวทำผิดอะไรหรือเพคะ ท่านบอกมาสิเพคะ บ่าวจะปรับปรุงตัว หากองค์หญิงต้องการให้บ่าวเป็นนางบำเรอ บ่าวก็ยอมเพคะ”

ถูกองค์หญิงลวนลาม…ก็ยังดีกว่าเป็นอาหารให้สัตว์วิเศษ

ต้องเป็นเพราะวันที่องค์หญิงดื่มจนเมา นางกับหลิวลี่ไม่ยอมบำเรอองค์หญิง ดังนั้น…องค์หญิงจึงหาสัตว์วิเศษมาแก้แค้นพวกนาง?

นางยอมปรับปรุงตัว ปรับปรุงตัวใหม่ยังไม่พออีกหรือ

“เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน” เฟิงหรูชิงมองชิงหลิง “พวกมันไม่มีทางกินไม่อิ่มหรอก เจ้าไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวข้าจะพาพวกมันไปทำงานที่เขาท้ายจวน เจ้าไปพักผ่อนเถอะ”

ชิงหลิงพยักหน้ารับแบบงุนงง นางรวบรวมความกล้าแล้วลุกขึ้นยืน แล้วเดินอ้อมพวกสัตว์วิเศษไปอย่างระมัดระวัง

จนกระทั่งเดินพ้นสัตว์วิเศษเหล่านั้นไป นางจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วรีบวิ่งเข้าบ้าน

…………………………………………..

ตอนที่ 142 ชาตินี้จะไม่ขอมีภรรยา (3)

เฟิงหรูชิงเห็นชิงหลิงวิ่งไปอย่างรวดเร็วราวกับโดนผีไล่กวด นางส่ายหน้าด้วยความรู้สึกเซ็ง จากนั้นค่อยๆ หันหน้ามามองฝูงสัตว์วิเศษที่อยู่ในสวน

“ต่อไป เจ้าหมาป่าจะเป็นพ่อบ้านของจวนข้า เรื่องในจวนพวกเจ้าต้องฟังเขา ยาวิเศษที่อยู่บนเขาท้ายจวน ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากข้า ห้ามกินโดยพลการ ถ้าข้ารู้ว่าพวกเจ้าฝ่าฝืนคำสั่งของข้า ข้าจะเลิกจ้างพวกเจ้า”

ฝูงสัตว์วิเศษงงงวย ต่างมองหน้ากันไปมา

เลิกจ้าง…หมายความว่าอย่างไร

เฟิงหรูชิงสีหน้าเซ็ง “เลิกจ้างหมายความว่า ข้าจะยกเลิกสัญญากับพวกเจ้า ปล่อยพวกเจ้ากลับเขาสัตว์วิเศษ พวกเจ้าก็จะไม่ได้รับค่าจ้างอีก”

สัตว์วิเศษพวกนั้นเมื่อได้ยินคำพูดของเฟิงหรูชิงก็รู้สึกร้อนใจ พวกมันมาที่นี่เพื่อผลเทียนหลิงกั่ว ถ้าหากถูกเลิกจ้าง ก็จะไม่ได้กินผลเทียนหลิงกั่ว!

“ถ้าพวกเจ้าเชื่อฟังข้า พวกเจ้าต้องได้กินแน่นอน ไม่แน่ว่าพวกเจ้าอาจได้ของกินเพิ่มด้วย”

เฟิงหรูชิงยิ้ม

“อู๊วๆ” หมาป่าสีขาวเห่าอยู่ข้างๆ ถ้าเทียบกับการเป็นพ่อบ้านแล้ว สิ่งที่มันชอบมากกว่า…คือการได้ของกินเพิ่ม

“เจ้าพาพวกเขาไปที่เขาท้ายจวน แล้วให้ลิงสี่แขนสอนวิธีการปลูกยาวิเศษให้พวกเขาด้วย”

เฟิงหรูชิงเอามือลูบคางเบาๆ ตอนนี้จวนองค์หญิงมีสัตว์วิเศษเพียงพอแล้ว นางควรสอนวิธีปรุงอาหารบำรุงสุขภาพให้แก่ลิงสี่แขนสักที

เพราะว่า…การปรุงอาหารบำรุงสุขภาพไม่เหมือนการปลูกยาวิเศษ ต้องหยิบจับอุปกรณ์ทำครัว ผู้ที่ทำภารกิจนี้ได้ มีเพียงลิงสี่แขนเท่านั้น

“ไม่รู้ว่าเมื่อไรกั๋วซือจะกลับมา”

หญิงสาวถอนหายใจ นางมองดูจันทร์เสี้ยวบนท้องฟ้า ราวกับเห็นชายที่ท่าทีเย็นชาไร้อารมณ์แบบผู้บำเพ็ญพรตบนฟากฟ้ายามค่ำคืนทั้งๆ ที่กั๋วซือพูดไว้ว่าจะไปแค่เดือนเดียวแต่เหตุใดจนบัดนี้…ยังไม่กลับมา

นางอยากนอนกับเขา จะทำอย่างไรดี

ยามราตรีอันเงียบสงัด

แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมา ทะลุเรือนยอดไม้อันหนาทึบ ตกกระทบลงบนชุดสีขาวราวหิมะของชายผู้หนึ่ง เขาดูราวกับเทวดามาจากสวรรค์ ไม่เกลือกกลั้วโลกีย์ ประหนึ่งเป็นบัวขาวไม่เปื้อนเปรอะโคลนตม งามเกินกว่าจะจินตนาการได้

แต่ว่า…

สีหน้าของเขา ไม่ได้เรียบเฉยไร้อารมณ์เหมือนที่เคย แต่มีท่าทีเหยียดๆ ราวกับคนทั้งหลายในโลกนี้ไม่มีใครอยู่ในสายตาของเขา

“ในที่สุดข้าก็ได้พบเจ้า”

จู่ๆ เสียงหัวเราะที่น่าฟังก็ดังมาจากด้านหลังและมีเสียงงึมงำ “หนานเสียน…”

ภาพหนานเสียนที่ยืนหันหลังดูเย็นชาเช่นเดิม ความเย็นชาแบบนี้เหมือนกำแพงกั้นผู้คนออกไปไกลแสนไกล ไม่อาจรู้สึกชิดใกล้

“เจ้ามาทำไม”

ใต้แสงจันทร์

หญิงในชุดแดงแสนงดงามสีสันสวยสด สีหน้าของนางเต็มเปี่ยมไปด้วยหลากหลายความรู้สึก เป็นความงามที่ชายทั้งหลายในใต้หล้าไม่อาจต้านทานได้

“ข้าได้ยินมาว่า เจ้าไปแคว้นหลิวอวิ๋นอะไรนั่น แถมยังเป็นแค่กั๋วซือกระจอกๆ และข้ายังได้ยินว่า เจ้ายอมลดตัวเองลง…เพื่อตามหาผู้หญิงคนหนึ่ง นี่ๆ ข้าสงสัยจริงๆ ผู้หญิงแบบไหนกันนะ…ที่ทำให้เจ้าเป็นแบบนี้”

หนานเสียนหันหลังมา

แสงจันทร์สาดมาบนใบหน้าชายผู้นั้น รูปงามราวกับเทพเทวาหาผู้ใดเปรียบได้ชุดขาวของเขาพลิ้วไหว โบกปลิวราวหิมะ งดงามดุจภาพวาด

สายตาของหญิงผู้นั้นอดตะลึงในความงามไม่ได้ แต่ก็แฝงด้วยความเสียดาย

เพราะชายเช่นนี้…ชะตาลิขิตไว้…ให้ชาตินี้ไม่ขอมีภรรยา

ผู้ชายแบบนี้ ตลอดชีวิต…จะไม่มีหญิงใดได้กล้ำกราย

นี่คือชะตาชีวิตของเขา

“หนานเสียน…” หญิงคนนั้นหัวเราะเบาๆ แล้วเดินเข้ามาหาหนานเสียนช้าๆ

แต่นางหยุดยืนอยู่ที่ระยะห่างจากตัวเขาห้าเมตร นี่คือนิสัยของหนานเสียนกั๋วซือที่ไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ ต่อให้เป็นนางก็ไม่กล้าฝ่าฝืนคำพูดของเขา

……………………………………