ลูกตาของบุรุษผู้นั้นแทบจะแนบติดกับตัวเซี่ยยวี่หลัว สกปรกทั้งตัว ผมเผ้าก็ไม่รู้ว่าไม่ได้สระมานานแค่ไหน ดูมันเยิ้ม เห็นแล้วรู้สึกน่าขยะแขยงยิ่งนัก
เซี่ยยวี่หลัวขมวดคิ้วงาม
เซียวเฉิงซานแสยะฟันเหลืองหัวเราะ เขาเห็นเซี่ยยวี่หลัวขมวดคิ้ว จึงเดินเข้ามาในที่นา คิดจะแย่งจอบในมือเซี่ยยวี่หลัว “น้องยวี่หลัว พี่ซานมาช่วยเจ้าทำงานดีกว่า หากเจ้าเหนื่อย พี่ซานก็คงปวดใจแย่”
เซี่ยยวี่หลัวถอยหลังสองก้าว มือกุมจอบไว้แน่น คิดอยากง้างจอบขึ้นสับเจ้าคนสารเลวนี่ให้ตายเสีย
เซียวจื่อเซวียนรีบมาขวางอยู่ตรงหน้าเซี่ยยวี่หลัว พร้อมตะโกนเสียงดัง “เซียวเฉิงซาน เจ้าจะทำอะไร?”
เซียวเฉิงซานเป็นอันธพาลคนหนึ่งในหมู่บ้านสกุลเซียว ทั้งเกียจคร้านและเลวทราม
ตอนที่บิดามารดาของเขายังมีชีวิตอยู่ มีบิดามารดาคอยเลี้ยงดู ยังพอใช้ชีวิตได้ เพราะเขาเกียจคร้านเกินไป จึงไม่มีสตรีคนใดยอมแต่งงานกับเขา หลังจากบิดามารดาเสียชีวิต ทิ้งบ้านไว้หนึ่งหลัง และที่นาอีกหลายหมู่ [1] เขาถือโอกาสขายที่นาของครอบครัว ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายสองปี หลังจากนั้นเงินก็หมด ได้แต่อาศัยการทำงานให้คนอื่นเพื่อหาเงิน เพียงแต่เขาเกียจคร้านเสียยิ่งกว่าอะไร ที่นาบ้านตัวเองยังไม่ยอมลงมือเพาะปลูก จะทำงานให้คนอื่นได้อย่างไร?
ไม่มีใครจ้างเขา เขาก็ไปหาคนจ้างเอง ทำไปทำมา เซียวเฉิงซานก็อาศัยการพึ่งพาคนอื่น จึงใช้ชีวิตอยู่ต่อมาได้
ขอเพียงมีคนกำลังทำงาน เขาก็จะแสร้งทำทีเป็นช่วยทำงาน แท้ที่จริงแล้วไม่ได้ทำอะไร แต่เมื่อถึงตอนให้ค่าแรง เขาจะอยู่หน้าสุดของแถวเสมอ ไม่ให้ก็ไม่ยอมไป ถ้าไม่ใช่ก่อกวนไปทั่วจนคนอื่นทำงานไม่ได้ ก็จะอาศัยอยู่ในบ้านคนอื่นทั้งกินทั้งดื่ม ต้องการทั้งสุราและเนื้อ หากไม่ให้ก็จะก่อความวุ่นวายทุบทำลายข้าวของ
เคยมีคนตักเตือนเซียวเฉิงซานเหมือนกัน แต่ใครให้คนผู้นี้มีร่างกายกำยำและพละกำลังมาก ก่อนหน้านั้นก็เคยเรียนวิชาต่อสู้มาเล็กน้อย เขาคนเดียวสามารถต่อกรกับบุรุษวัยกลางคนที่ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงสามถึงสี่คนได้อย่างไม่เป็นปัญหา ชาวบ้านจำนวนหนึ่งพลาดท่าเมื่อสู้กับเขา ในภายหลังเห็นว่าเขาต้องการเพียงเงินหรืออาหารเท่านั้น จึงปล่อยเขาไป
ส่งผลให้เซียวเฉิงซานทำตามอำเภอใจ กลายเป็นอันธพาลร้ายคนหนึ่งในหมู่บ้าน
เซียวจื่อเซวียนจ้องเซียวเฉิงซานที่เดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆด้วยความระแวดระวัง ร่างเล็กสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง แต่กลับยืนขวางอยู่ตรงหน้าเซี่ยยวี่หลัวด้วยความแน่วแน่ ใช้ร่างกายซูบผอมของตัวเองปกป้องเซี่ยยวี่หลัว
มีชาวบ้านเห็นเซียวเฉิงซานเข้าไปในที่นาของเซี่ยยวี่หลัว ต่างก็วิตกจนเหงื่อเย็นซึมชื้น แต่กลับไม่มีใครเข้าไปช่วยกล่าววาจาเที่ยงธรรมให้เซี่ยยวี่หลัวแม้แต่คนเดียว
ใครกล้าล่วงเกินเซียวเฉิงซานบ้าง นั่นเท่ากับเปิดโอกาสให้เขามาอาศัยอยู่กินกับตัวเองไม่ใช่หรือ!
ช่วงหลายปีมานี้เซียวเฉิงซานก็ต้องการเพียงเงินหรืออาหารกินสักมื้อ เคยแทะโลมหญิงม่ายในหมู่บ้านเป็นครั้งคราว แต่ไม่เคยทำอะไรเกินเลย ทุกคนจึงทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่
ตอนนี้เซียวเฉิงซานกลับเอ่ยวาจาแทะโลมด้วยท่าทางมักมากในกามพร้อมเดินเข้าหาเซี่ยยวี่หลัว ทำให้คนจำนวนไม่น้อยวิตกจนเหงื่อเย็นซึมชื้น
เซี่ยยวี่หลัวเป็นสตรีที่งดงามที่สุดในหมู่บ้าน หรือว่า เซียวเฉิงซานจะหมายตาไว้นานแล้ว?
เซี่ยยวี่หลัวขมวดคิ้ว จ้องมองเซียวเฉิงซานที่เดินเข้ามาใกล้ด้วยแววตาเย็นเยียบ เมื่อคนผู้นี้เข้ามาใกล้ ในอากาศก็เหมือนจะมีกลิ่นมันเยิ้ม เซี่ยยวี่หลัวได้กลิ่นก็แทบอาเจียน
คนผู้นี้ช่างน่ารังเกียจนัก!
เซียวจื่อเมิ่งจับมือเซี่ยยวี่หลัวไว้แน่น น้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย “พี่รอง…”
“จื่อเมิ่ง รีบพาพี่สะใภ้ใหญ่กลับไป! ”
เซียวจื่อเซวียนตะโกนบอก
จากนั้นจึงจ้องเซียวเฉิงซานด้วยแววตาแน่วแน่ไม่หวาดหวั่น
เซียวเฉิงซานเห็นเซียวจื่อเซวียนจ้องตัวเองเขม็ง เขาไม่เห็นเซียวจื่อเซวียนอยู่ในสายตา หัวเราะพร้อมกล่าว “เจ้าหนู จะตื่นเต้นขนาดนั้นไปทำไม พี่ซานก็แค่จะช่วยเจ้าขุดดิน พี่สะใภ้ที่บอบบางของเจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย! ”
“ที่นาบ้านข้าจัดการเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า โปรดออกไปโดยเร็ว! ” เซียวจื่อเซวียนตะคอกเสียงดัง
เซียวเฉิงซานแสยะฟันเหลืองหัวเราะ “เจ้าบอกว่าจัดการเรียบร้อยแล้วก็ถือว่าเรียบร้อยงั้นหรือ? คนที่เหนื่อยไม่ใช่เจ้า แต่เป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้า ถ้าอย่างไร เจ้าลองถามพี่สะใภ้ใหญ่ดู ว่าต้องการให้ข้าช่วยหรือไม่! ”
แววตามักมากในกามของเขาเพ่งมองเซี่ยยวี่หลัว เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกราวกับบนกายเต็มไปด้วยหนาม ไม่สบายไปทั้งตัว
คนไร้ยางอายอย่างไม่มีขีดจำกัดเช่นนี้ เซี่ยยวี่หลัวก็ไม่อยากพูดคุยด้วยเหตุผล นางแง้มริมฝีปากแดงเล็กน้อย เปล่งเสียงออกมาช้าๆ “ไสหัวไป! ”
เซียวจื่อเซวียนรีบสำทับ “ได้ยินหรือยัง พี่สะใภ้ใหญ่ของข้าบอกให้เจ้าไสหัวไป! ”
เซียวเฉิงซานไม่คิดโมโห สตรีรูปโฉมงดงามที่เย็นชาประหนึ่งภูเขาน้ำแข็ง แม้จะเอ่ยวาจาก่นด่าก็ยังคงงดงาม!
เซียวเฉิงซานเป็นชายโสด เกียจคร้านเสียยิ่งกว่าอะไร ไม่มีสตรีคนใดยอมแต่งงานกับเขา บ้านไหนที่มีบุตรสาววัยออกเรือนก็จะอยู่ให้ห่างจากเขา แม้เขาอยากสัมผัสมือเล็กของสตรีเหล่านั้นก็ทำไม่ได้
แต่ตอนนี้ สตรีรูปโฉมงดงามที่แสนบอบบางคนหนึ่งอยู่ตรงหน้าตนเอง!
ใบหน้างดงามดุจภาพวาดก็มิปาน แล้วยังรูปร่างนั่น เอวเป็นเอว บั้นท้ายเป็นบั้นท้าย จุดที่ควรเด่นก็เด่น เอวบางนั่น เกรงว่าเขาใช้แค่มือเดียวก็สามารถโอบได้รอบแล้ว
เซียวเฉิงซานกลืนน้ำลายอึกหนึ่งอย่างไม่อาจห้ามใจได้ บางตำแหน่งของร่างกายเหมือนจะแน่นจนตึง ของดีแบบนี้ แม่เจ้า ทำไมถึงไปแต่งงานกับคนไร้ประโยชน์อย่างเซียวยวี่เสียได้
เซี่ยยวี่หลัวถูกเซียวเฉิงซานจ้องตาเป็นมัน ลูกตาของเขาเหมือนจะแนบติดกับตัวเซี่ยยวี่หลัว นางรู้สึกโกรธถึงขีดสุด “เจ้ายังไม่รีบไสหัวไปอีก! ”
น้ำเสียงอ่อนโยนนุ่มนวลประหนึ่งอาวุธร้ายที่ใช้ล่อลวง เซียวเฉิงซานรู้สึกสะท้านไปทั้งตัว เกิดอาการชาถึงกระดูก
“ยวี่หลัว หากเจ้ามีเรื่องลำบากอะไร ก็บอกพี่ซานได้ แม้ว่าพี่ซานจะเป็นคนหยาบกระด้าง แต่พี่ก็มีพละกำลังมากกว่าเซียวยวี่ เรื่องที่เซียวยวี่ทำไม่ได้ พี่ซานล้วนทำได้ หากเจ้ามีเรื่องลำบากอะไร ก็บอกกับพี่ซาน งานอะไรพี่ซานก็ทำได้ทั้งนั้น” ดวงตาทั้งคู่ของเซียวเฉิงซานแทบจะแนบติดบนตัวเซี่ยยวี่หลัว แววตาฉายประกายมักมากในกาม
เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกอึดอัดยิ่งนัก!
ยังดีที่สุดท้ายเซียวเฉิงซานก็ยอมล่าถอยไป เดินไปพลางหันกลับมาพลาง เมื่อเดินไปไกลแล้ว ยังไม่ลืมที่จะหันกลับมากล่าว “น้องยวี่หลัว มีอะไรก็มาหาพี่ซานได้…”
เซี่ยยวี่หลัวเกือบจะเหวี่ยงจอบในมือออกไป!
เซียวจื่อเซวียนกล่าวด้วยท่าทางกังวลใจ “พี่สะใภ้ใหญ่ ทำอย่างไรดี? ”
เซียวเฉิงซานผู้นี้เหมือนผ้าปิดแผลหนังสุนัข หากถูกเขาเกาะติด ก็ยากจะดิ้นรนให้หลุดพ้นได้
เซี่ยยวี่หลัวเห็นความเป็นห่วงของเซียวจื่อเซวียน แต่นางไม่ได้เก็บเอาเรื่องนี้มาใส่ใจ เพียงเหวี่ยงจอบพร้อมกล่าว “ไม่เป็นอะไร ทำตรงนี้เสร็จเราก็กลับบ้านกัน”
นางไม่เห็นคนอย่างเซียวเฉิงซานอยู่ในสายตา ก็แค่คนเกียจคร้าน แค่อันธพาลที่เห็นว่าตนเองมีพละกำลังมากหน่อยก็ข่มเหงหลอกลวงผู้อื่น นางไม่คิดกลัวเขา!
แต่เซียวจื่อเซวียนกลัว!
พี่สะใภ้ใหญ่ไม่รู้ว่าเซียวเฉิงซานเป็นคนอย่างไร แต่เขารู้!
“พี่สะใภ้ใหญ่… เซียวเฉิงซานเป็นอันธพาล ทำเรื่องไร้ยางอายไปทั่วหมู่บ้าน หากบ้านไหนจะทำงาน เขาก็จะเข้าไปยุ่งเกี่ยว ไม่ทำอะไรสักอย่าง ทว่ากลับบังคับเจ้าของบ้านให้ค่าแรง หรือให้อาหารกิน คนผู้นี้มีพละกำลังมาก และรู้วิชาต่อสู้บ้าง คนในหมู่บ้านต่างทำอะไรเขาไม่ได้! ” เซียวจื่อเซวียนกล่าวด้วยท่าทางวิตก
พวกเขามีกันแค่สามคน ต่างก็เป็นสตรีและเด็กที่ไม่มีกำลังต่อสู้ หากเซียวเฉิงซานคิดจะมาก่อกวน พวกเขาก็มีแต่ต้องตกเป็นฝ่ายถูกกระทำ!
เซี่ยยวี่หลัวไม่กลัวเขาจริงๆ!
นางรู้สึกเจ็บมือมาก
เมื่อครู่ตอนขุดดิน ไม่ทันระวังกระทบใส่ตุ่มน้ำพองบนฝ่ามือ เจ็บปวดถึงหัวใจ
เซี่ยยวี่หลัว “ไม่ต้องเป็นห่วง จื่อเซวียน พี่สะใภ้ใหญ่ย่อมมีวิธี!”
เจ็บเหลือเกิน เจ็บจนน้ำเสียงของนางฟังดูไร้ซึ่งพลัง
เซียวจื่อเซวียนสังเกตเห็นความผิดปกติของเซี่ยยวี่หลัว แต่นางก็กลับสู่สภาพปกติอย่างรวดเร็ว เซียวจื่อเซวียนได้แต่ตามอยู่ด้านหลังคอยปรับหน้าดิน
เชิงอรรถ
[1] หมู่ คือหน่วยวัดพื้นที่ของจีน 1 หมู่ = 666 ตารางเมตร