บทที่ 28 เผชิญหน้ากับครอบครัวสุดยอด

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

“ไอ้หยา เสี่ยวเซวี่ยนเซวียนหึงเหรอ มาๆๆ เดี๋ยวข้าจะปลอบใจเจ้าเอง”

เซี่ยวอวี่เซวียนตบมือกู้ชูหน่วนออกไปอย่างไม่เกรงใจ แล้วตะคอกด่าเย่เฟิงว่า “ยังไงเจ้าก็เป็นจ้วงจื่อผู้มีการศึกษา มากินเหล้ากับผู้หญิงได้ยังไง ยังไม่รีบไปอีก”

เย่เฟิงมากความสามารถ ไม่ใช่เด็กเสิร์ฟธรรมดา ถูกเซี่ยวอวี่เซวียนด่าและดูถูกต่อหน้าต่อตา ทุกคนคิดว่าเย่เฟิงจะต้องโกรธแน่นอน ไม่คิดว่าเขาแค่ลุกขึ้น โน้มตัวคารวะพวกเขาอย่างมีมารยาท จากนั้นก็กลับหลังหันเดินออกไป เหลือเพียงแผ่นหลังที่หยิ่งยโส

“นี่ อย่าไปสิ ข้ายังไม่ได้ดื่มเหล้ากับเจ้าดีๆเลย”

“ยัยขี้เหร่ เจ้ายังเป็นผู้หญิงอยู่ไหม?”

“เสี่ยวเซวียนเซวียน ข้าเห็นว่าเจ้าน่ารักขึ้นทุกวันเลยนะ”

เซี่ยวอวี่เซวียนลูบอกตัวเองแรงๆ เพื่อจะได้ไม่โกรธนางไปมากกว่านี้

ผ่านเรื่องราวของซ่างกวนฉู่และเย่เฟิงมา เขาก็รู้แล้วล่ะ ผู้หญิงคนนี้บ้ากาม

เห็นคนหล่อๆหน่อยเป็นไม่ได้ ก็คงเหลือแต่แบกกลับบ้านแล้วล่ะ

“คุณหนู ทำไมถึงดูถูกสหายเรียนเย่ล่ะเจ้าคะ?”

“เจ้าจะเข้าใจอะไร”

กู้ชูหน่วนมองดูทางที่เย่เฟิงเดินจากไป แล้วกระตุกยิ้ม

ไม่เคยมีชื่อเสียงอันใด แต่กลับเข้ารอบสุดท้ายได้

ทั้งที่มีชื่อเสียง ได้ผลประโยชน์ควบคู่ แต่กลับมาทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในโรงเตี๊ยมเล็กๆนี้

น่าสนใจจริงๆ

คนผู้นี้น่าจะมีเรื่องราวเยอะเลยล่ะ

“พี่ใหญ่ ของที่สั่งพวกเราไปซื้อ พวกเราซื้อมาหมดแล้ว จ่ายไปทั้งหมดหนึ่งแสนสองหมื่นตำลึง แต่ยาพวกนี้เป็นของดีทั้งหมดเลย”

หลิวเยว่กับอวี่ฮุยถือกล่องเข้ามาอย่างรีบร้อน พอเห็นอาหารเลิศรสและสุราเต็มโต๊ะ ดวงตาเป็นประกาย และรีบหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบอาหารกิน

“อาหารอร่อยเยอะขนาดนี้ คงต้องใช้เงินเยอะแน่ อาหารและสุราของหอหยุนจุ้ยไม่ถูกเลยนะ”

กู้ชูหน่วนเปิดกล่องออก ตรวจสอบยาด้านใน แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ถูกแล้ว เป็นยาที่ข้าต้องการ”

ชิวเอ๋อร์ร้อนรนจนดวงตาแดงก่ำ “คุณหนู คุณหนูเสียเงินไปเยอะขนาดนี้ ซื้อยามาทำอะไรเจ้าคะ? ตอนนี้หาเงินไม่ง่ายเลย พวกเราประหยัดหน่อยก็ดีนะเจ้าคะ”

“ข้าว่านะชิวเอ๋อร์ เจ้าเริ่มบ่นอีกแล้ว รีบๆกินเถอะ กินอิ่มแล้ว พวกเรากลับบ้านกัน”

ชิวเอ๋อร์สลดใจ

ถ้ากลับจวนเฉิงเซี่ยงแล้ว นายท่านกับอนุภรรยาห้าต้องหาเรื่องคุณหนูแน่ นางจะกินลงได้ยังไง ในหัวนางตอนนี้คิดแต่ว่าจะตอบนายท่านยังไง แต่คุณหนูของนางกลับกินดื่มกับพวกคุณชายเซียวอย่างสุขสำราญ โดยไม่คำนึงถึงผลลัพธ์เลย

จนกระทั่งเกือบเที่ยงคืน กู้ชูหน่วนถึงยอมกลับจวนเฉิงเซี่ยง

ตลอดทางชิวเอ๋อร์ก็ร้อนรนมาก

“คุณหนู ทำไมคุณหนูถึงไล่พวกคุณชายเซียวล่ะเจ้าคะ ถ้าพวกเขาอยู่ด้วย นายท่านอาจจะไม่ลงโทษคุณหนูเพราะเห็นแก่คนนอกที่อยู่ด้วย”

“รอพวกเขากลับไปแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว”

“งั้น……พวกเราไปหาอ๋องเจ๋อมาช่วยดีไหมเจ้าคะ ขอแค่อ๋องเจ๋อออกหน้าแทนพวกเรา นายท่านไม่มีทางลงโทษพวกเราแน่”

กู้ชูหน่วนแสยะยิ้มเย็นชา

หาเขาเหรอ?

เกรงว่าคงไม่ได้เจอหน้าหรอก

“ร้อนใจไปไย ยังไงเจ้าก็ยังมีข้าอยู่ทั้งคน”

จวนเฉิงเซี่ยงอยู่ตรงหน้าแล้ว ชิวเอ๋อร์ก็พูดเสียงสั่นว่า “คุณหนู พวกเราเข้าประตูหลังดีไหมเจ้าคะ?”

“เข้าประตูหน้า ยืดตัวตรง อกผายไหล่ผึ่ง เดินเข้าไปอย่างสง่า”

ไม่ว่าจะเป็นประตูไหน เกรงว่าคงมีคนคอยพวกเขาอยู่แล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมต้องหลบๆซ่อนๆด้วย

เสียง ‘แอ๊ด’ ดังขึ้น กู้ชูหน่วนเปิดประตูใหญ่เข้าไป เป็นไปตามที่คิดไว้ จวนเฉิงเซี่ยงสว่างทั่วทุกที่ มีกู้เฉิงเซี่ยงนำหน้า ต่อด้วยฮูหยินใหญ่ อนุภรรยาสาม อนุภรรยาห้า รวมไปถึงพวกคุณหนูทั้งหลายที่ยืนเรียงแถวกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

กู้ชูหน่วนกวาดตามองรอบๆ คนใช้ในจวนทุกคนคงยืนอยู่ที่นี่กันหมดแล้วสินะ

ชิวเอ๋อร์ที่กลัวอยู่แล้ว ตอนนี้พอเห็นภาพแบบนี้ ก็ตกใจจนหน้าซีดเซียว

นางเข่าอ่อนทรุดลงไปกับพื้น กู้ชูหน่วนดึงตัวนางขึ้นมา แล้วพูดอย่างเกียจคร้านว่า “เจ้าเป็นคนของข้า นอกจากข้าแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องคุกเข่าให้คนอื่น”

“นายท่าน ดูนางสิเจ้าคะ คุณหนูสามยโสโอหัง ไม่มีกาลเทศะ นางไม่เพียงแต่ไม่เอาข้าที่เป็นฮูหยินไว้ในสายตา นางยังไม่เอาท่านไว้ในสายตาด้วยเจ้าค่ะ”

อนุภรรยาห้าสะอื้นฟ้อง เหมือนกู้ชูหน่วนทำผิดมหันต์จนไม่อาจให้อภัยได้

กู้เฉิงเซี่ยงโกรธอยู่แล้ว ตอนนี้เห็นลูกสาวที่อ่อนแอขี้กลัวมาตลอดกล้าไม่สนใจเขา ก็รู้สึกโมโหยิ่งกว่าเดิม

กู้ชูหลันยิ้มอย่างได้ใจ อยากจะให้กู้เฉิงเซี่ยงโกรธมากกว่านี้ จะได้แก้แค้นแทนนางด้วย

ทุกคนในจวนเห็นว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ทุกคนก็ต่างรอดูกันหมด

“กู้ชูหน่วน ในสายตาเจ้ายังมีข้าผู้เป็นพ่อคนนี้อยู่ไหม?”

อนุภรรยาห้าบอกว่านางฟาดเซี่ยหยู่จนตายโดยไม่มีสาเหตุ แถมยังฟาดนางอีกหลายที เขาไม่อยากจะเชื่อเลย

หลันเอ๋อร์บอกว่านางต่อยอาจารย์ แถมยังตบหน้าองค์หญิงอีกด้วย เขายังไม่อยากจะเชื่อเลย

ตอนนี้……

ลูกสาวตรงหน้าของเขา ไม่มีท่าทีถ่อมตน อ่อนแอรังแกง่ายเหมือนเมื่อก่อนเลย

ตอนนี้บุคลิกของนางดูฉลาดหลักแหลม รอบกายยังแผ่ซ่านไปด้วยความหยิ่งผยอง

ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง เขาคงไม่เชื่อ

กู้เฉิงเซี่ยงรังเกียจ เพราะนางในตอนนี้ เหมือนกับแม่ของนางที่เสียไปอย่างกับแกะ

กู้ชูหน่วนแสยะยิ้ม สบตาอย่างไม่เกรงกลัว “แล้วในสายตาท่านยังมีลูกสาวคนนี้ไหม? ตั้งแต่ข้าเกิดมา ท่านก็ไม่เคยแยแสเลย ท่านแม่ของข้าเสียไป ท่านก็ปล่อยให้บ่าวไพร่พวกนั้นรังแกข้า ตอนที่ข้าเกือบหิวตายในจวน หนาวจนตัวสั่น ท่านกำลังทำอะไรอยู่? ท่านกอดพวกฮูหยินอย่างสำราญใจไงล่ะเจ้าคะ”

“คุณหนูสาม ฟาดข้าก็ช่างเถอะ ยังไงข้าก็เป็นแค่ฮูหยินผู้ต่ำต้อย แต่เจ้าพูดแบบนี้กับพ่อเจ้าได้อย่างไร เขาเป็นพ่อแท้ๆของเจ้าเชียวนะ” อนุภรรยาห้าแสร้งทำท่าอ่อนแอ แล้วใช้ผ้าเช็ดคราบน้ำตา

กู้ชูหน่วนขี้เกียจมองนาง จึงไม่สนใจสิ่งที่นางพูดเลย เหมือนในสายตาของนาง อนุภรรยาห้าเทียบไม่ได้กับมดตัวเล็กๆเลยด้วยซ้ำ

ความรู้สึกที่โดนเพิกเฉย แถมยังเป็นคนที่ตัวเองดูถูกเพิกเฉยอีก ในใจของอนุภรรยาห้าแทบแตกสลาย

นังคนชั่วช้า แค่เซ้นไหว้แม่นางครั้งเดียว นิสัยก็เปลี่ยนไปขนาดนี้เลยเหรอ?

“ทำไมเจ้าต้องตีเซี่ยหยู่จนตายด้วย ทำไมต้องตีอนุภรรยาห้าของเจ้าด้วย?” กู้เฉิงเซี่ยงถามด้วยสีหน้าบึ้งตึง เลือกที่จะไม่สนใจคำพูดเมื่อกี้ของกู้ชูหน่วน

“ตอนที่ท่านถามคำถามนี้ ท่านควรจะถามอนุภรรยาห้าที่ท่านรักนักรักหนาก่อนนะว่าหลายปีที่ผ่านมาทำอะไรไว้กับข้าบ้าง? ก็ใช้ ไม่ว่าข้าจะถูกรังแกยังไง ในสายตาของท่าน ยังไงก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรอยู่แล้ว”

“นี่เจ้ากำลังโทษข้าอยู่งั้นเหรอ?”

“โทษเหรอ? เมื่อก่อนอาจจะโทษท่านเจ้าค่ะ แต่ตอนนี้ ท่านไม่คู่ควรอีกแล้ว”

ฟึ่บ……

ทุกคนอึ้งกันไปหมด

กู้ชูหน่วนบ้าไปแล้ว?

กล้าเถียงนายท่านซึ่งๆหน้าได้ยังไงกัน?

ชิวเอ๋อร์ตัวสั่นเทา ในใจก็ร้อนรนเหมือนมดที่วิ่งอยู่บนกระทะทองแดงร้อนๆ

ตายแล้วๆ เรื่องราวไม่อาจควบคุมได้อีกแล้ว

กู้เฉิงเซี่ยงโกรธจนหัวเราะออกมา “ดี ดี ดี ดีมาก ข้ามีลูกสาวที่ดีมากเลยนะ ตีคนจนตาย แถมยังตีอนุแม่ รังแกน้องสาว ตบหน้าองค์หญิง ต่อยอาจารย์ ไม่กลับบ้านทั้งคืน ตอนนี้ยังกล้าเถียงข้าอีก เจ้าเก่งเสียจริงนะ วันนี้ถ้าข้าไม่สั่งสอนเจ้าให้เข็ดหลาบ ข้าก็ไม่ใช่คนตระกูลกู้อีก พวกเจ้า เอาบทลงโทษของตระกูลมา”

ชิวเอ๋อร์คุกเข่าลงพื้น ก้มหัวคำนับที่พื้นไม่หยุด

“นายท่านโปรดอภัย คุณหนูสำนึกผิดแล้ว ครั้งนี้คุณหนูกลับมาเพื่อยอมรับผิดต่อนายท่านเจ้าค่ะ ขอนายท่านให้โอกาสคุณหนูอีกครั้งนะเจ้าคะ คุณหนูไม่กล้าทำอีกแล้วเจ้าค่ะ”

“นางใจกล้าขนาดนี้ เป็นเพราะเจ้านังบ่าวตัวดีที่คอยช่วยอยู่เบื้องหลัง พวกเจ้า ลากตัวนังบ่าวนี่ลงไป ตีให้ตายไปเลย แล้วตีคุณหนูสามอีกห้าสิบที”