ตอนที่ 65 ใจเย็นไว้ อย่าเพิ่งลืมบท! / ตอนที่ 66 นครในสายหมอกยามอาทิตย์อัสดง

ลืมรักเลือนใจ

ตอนที่ 65 ใจเย็นไว้ อย่าเพิ่งลืมบท!

 

 

หลินเยียนใช้ทักษะการแสดงทั้งหมดที่มีเพื่อทำให้เขาเห็นว่าเธอมีความสุขขนาดไหน

 

 

สิ่งที่เธอพอจะคิดเพื่อปลอบใจตัวเองได้ คืออย่างน้อยๆ เธอก็ยังไม่ตายวันนี้

 

 

“ฉัน…ขออะไรสักอย่างได้ไหมคะ ด้วยหน้าที่การงานของฉันแล้ว ฉันต้องเก็บเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเราไว้เป็นความลับ” เมื่อหลินเยียนตั้งสติและเริ่มคิดอย่างมีเหตุมีผลได้ เธอจึงหยิบยกเรื่องที่สำคัญที่สุดขึ้นมาพูดเป็นอันดับแรก

 

 

“งานและชีวิตของเธอจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรอย่างแน่นอน ฉันจะไม่ก้าวก่ายเรื่องของเธอ” เผยอวี้เฉิงให้สัญญา “มีอย่างอื่นอีกมั้ย”

 

 

หลินเยียนรู้สึกผิดเมื่อได้ยินเผยอวี้เฉิงตอบอย่างเอาใจใส่ “ถ้าสำหรับตอนนี้ก็…ไม่มีอะไรแล้วค่ะ…”

 

 

จู่ๆ เธอก็ได้แฟนหนุ่มมาคนหนึ่งแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย…ราวกับพายุที่โหมเข้ามาดื้อๆ…

 

 

เป้าหมายชีวิตต่อไปของเธอนอกจากการหาเงิน คือการเลิกกับเผยอวี้เฉิง!

 

 

พักหลังมานี้เธอสูญเสียการควบคุมร่างกายของตัวเองอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้น เธออาจก่อเรื่องเลวร้ายได้ทุกเมื่อ

 

 

ถ้าเกิดเธอนอกใจไปหาผู้ชายคนอื่นล่ะ?

 

 

ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเผยอวี้เฉิงจะไปได้ถึงไหนกันนะ…

 

 

นี่เธอเอาตัวเองเข้ามาเสี่ยงกับบททดสอบที่มีชีวิตเป็นเดิมพันชัดๆ!

 

 

นอกจากนี้ เธอไม่ได้อยากคบหากับใครสักหน่อย!

 

 

หลังจากเลิกกับหันอี้เซวียน หลินเยียนได้เรียนรู้แล้วว่าเธอไม่เหมาะจะคบกับใครหน้าไหนทั้งนั้น และเธอยังได้เตรียมใจที่จะเป็นโสดไปตลอดชีวิตแล้วด้วย

 

 

อีกอย่าง การมีแฟนต้องใช้เงินมากโข…

 

 

และว่ากันตามตรง เธอรู้ดีว่าเธอไม่เป็นที่ชื่นชอบในฐานะหญิงสาวเท่าไร เธอเบื่อกับการแอบซ่อนกรงเล็บแล้วคอยเอาอกเอาใจคนอื่นเต็มทน

 

 

หลินเยียนไม่เหมือนหลินซูหย่าที่ทั้งแต่งตัวเก่งและทันแฟชั่น น้องสาวของเธอเป็นคนน่ารักและดูน่าทะนุถนอมในสายตาคนอื่น แต่หลินเยียนไม่สามารถทำตัวเป็นหญิงสาวอ่อนต่อโลกผู้อ่อนโยนที่รอให้ผู้ชายมาพาเธอออกไปเห็นโลกกว้างได้

 

 

หลินซูหย่ามีแฟนคลับมากมายทั้งชายและหญิง

 

 

ทุกคนชมเชยหลินซูหย่าทางออนไลน์ว่าเป็นเด็กสาวที่ไร้เดียงสาและน่าเอ็นดู บรรดาแฟนคลับที่สถาปนาตัวเองเป็นแม่ของเธอต่างพร่ำบอกเสมอว่าเด็กหญิงคนนี้ทำให้ใจของพวกเธอละลาย ทั้งยังข้องใจว่าหลินซูหย่าที่แสนอ่อนหวานและสะสวยคนจะใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้อย่างไร พวกเธอตั้งใจเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะปกป้องซูหย่าไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ และอื่นๆ อีกมาก

 

 

ความเหน็ดเหนื่อยของหลินเยียนเพียรพยายามทำงานหนักมาตลอดนั้นเทียบกับคำพูดหวานๆ ปานน้ำผึ้งเพียงหยดเดียวของหลินซูหย่าไม่ได้เลย

 

 

ด้วยเหตุนี้ เธอจึงได้รู้ว่า…

 

 

การเลิกกับเผยอวี้เฉิงอาจเป็นเรื่องง่ายๆ ก็ได้ล่ะมั้ง

 

 

เธออาจจะเป็นไทได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า! และอาจจะไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้

 

 

เมื่อคิดอย่างนี้แล้ว หลินเยียนก็อารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย

 

 

แต่ทันใดนั้นเอง เผยอวี้เฉิงส่งเสียงขึ้นขัดจังหวะจนความคิดของเธอเตลิดเปิดเปิง “คุณหลินพกโทรศัพท์มือถือมาด้วยหรือเปล่า”

 

 

หลินเยียนตื่นจากภวังค์ “ค่ะ เอามาค่ะ ทำไมเหรอคะ”

 

 

แสงแดดส่องผ่านหน้าต่างสไตล์ฝรั่งเศสบานใหญ่ ชายหนุ่มบนโซฟาส่งสายตาที่ดูอบอุ่นขึ้นเล็กน้อยเป็นเชิงตอบคำถาม “ไม่มีอะไรมาก แค่คิดว่าควรจะรู้เบอร์โทรศัพท์ของแฟนตัวเองเอาไว้น่ะ”

 

 

“แค่ก แค่ก แค่ก…” หลินเยียนหน้าแดงแปร๊ด

 

 

ผู้ชายคนนี้หลอมละลายหัวใจเหล็กไหลของเธอด้วยคำพูดแค่ไม่กี่คำได้ง่ายๆ ได้ยังไงกัน

 

 

เธอเกือบไขว้เขวจากเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งอย่างการหาเงินเสียแล้ว

 

 

น่ากลัวจริงๆ…

 

 

หลินเยียนที่ยังไม่ค่อยชินกับสถานะใหม่ของตัวเองยื่นโทรศัพท์ให้ชายหนุ่มด้วยท่าทีประดักประเดิด

 

 

เผยอวี้เฉิงกดหมายเลขโทรศัพท์ของตัวเองบนมือถือของหลินเยียนก่อนโทรออก แล้วการแลกเปลี่ยนเบอร์โทรระหว่างทั้งคู่ก็เรียบร้อย

 

 

และเผยอวี้เฉิงยังขอบัญชีวีแชทของเธออีกด้วย

 

 

หลินเยียนตอบตกลงอย่างว่าง่าย แต่ในขณะที่เธอกำลังจะแตะบนแอปฯ ก็มีบางอย่างทำให้เธอชะงักจนนิ่งค้างไป

 

 

เธอใช้ชื่อเผยหนานซวี่เป็นชื่อวีแชท แถมยังใช้รูปของเขาเป็นรูปโปรไฟล์อีกต่างหาก

 

 

เธอเพิ่งประกาศตนและให้คำมั่นว่าเธอชอบเผยอวี้เฉิง แต่หลักฐานทั้งหมดที่มีกลับบ่งบอกว่าเธอชอบน้องชายของเขา…

 

 

ถ้าเผยอวี้เฉิงเห็นเข้าละก็…

 

 

ตาย! ตัวเธอในบทหญิงสาวผู้มีความรักต้องตายแหงแก๋!

 

 

 

 

ตอนที่ 66 นครในสายหมอกยามอาทิตย์อัสดง

 

 

เธอจะทำยังไงดี…

 

 

ชีวิตของหลินเยียนช่างเศร้าเหลือเกิน ทำไมเธอถึงรู้สึกเหมือนเพิ่งทะลุผ่านประตูนรกก็ไม่รู้

 

 

หลินเยียนรีบพูดขัด “เอ๋! มือถือเป็นอะไรเนี่ย จู่ๆ ก็ดับเอง จะพังแล้วหรือไงน้อ…รอประเดี๋ยวนะคะ…”

 

 

และในจังหวะนั้นเอง เธอเห็นการสนทนาระหว่างเธอและเผยอวี่ถัง

 

 

เวร!

 

 

เธออาการหนักขนาดส่งข้อความที่อ่านไม่ได้ศัพท์ถึงเผยอวี่ถังในตอนที่หมดสติอีกด้วย นี่อาจทำให้เขาเข้าใจผิดไปกันใหญ่

 

 

หลับ?

 

 

แล้ว…วิดีโอพวกนั้นมันอะไรกันเนี่ย?

 

 

เผยอวี่ถังส่งวิดีโอมากมายให้เธอ และจำนวนหนึ่งในนั้นเป็นวิดีโอของเผยอวี้เฉิงที่สวมแค่กางเกงว่ายน้ำตัวเดียว…

 

 

ส่วนวิดีโอที่เหลือดูไม่มีอะไรแปลก เผยอวี่ถังบันทึกอิริยาบถต่างๆ ของเผยอวี้เฉิงขณะทำงานและใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ หากแต่ทุกวิดีโอนั้นล้วนดูดีเหมือนถ่ายมาจากงานแฟชั่นโชว์หรือกองถ่ายทำภาพยนตร์ หลินเยียนจะใช้เป็นภาพพื้นหลังหน้าจอโทรศัพท์ยังได้

 

 

และตอนนี้ชีวิตของหลินเยียนกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย เธอจะประมาทไม่ได้อีกแล้ว

 

 

หลินเยียนรีบตัดภาพชายหนุ่มขณะยืนอยู่ที่ด้านหน้าของหน้าต่างและมีแสงแดดทอประกายอยู่บนตัวเขาแล้วจึงจัดแจงใช้รูปนี้เป็นรูปโปรไฟล์

 

 

จากนั้น เธอพยายามเค้นพลังสมองเพื่อหาคำและวลีมาใช้โดยด่วนก่อนเปลี่ยนชื่อผู้ใช้เดิมของเธอให้กลายเป็น ‘นครในสายหมอกยามอาทิตย์อัสดง’

 

 

หลินเยียนจัดการทุกอย่างได้สำเร็จในเพียงอึดใจเดียว เธอแตะบนคิวอาร์โค้ดแล้วเอ่ยกับชายหนุ่มว่า “ไม่…ไม่เป็นไรแล้วค่ะ…เพิ่มฉันเป็นเพื่อนได้เลย”

 

 

เผยอวี้เฉิงไม่ได้แสดงท่าทีว่าเพิ่งเห็นอะไรที่ดูผิดปกติ เขายกมือถือขึ้นมาสแกนคิวอาร์โค้ดของเธอ

 

 

หลินเยียนกลั้นหายใจขณะรอดูปฏิกิริยาของเผยอวี้เฉิง

 

 

เผยอวี้เฉิงต้องจำตัวเองได้เมื่อเห็นรูปภาพ และเขาต้องรู้ความหมายแฝงของ ‘นครในสายหมอกยามอาทิตย์อัสดง’ อย่างแน่นอน

 

 

ในเวลาแค่ไม่กี่วินาที เธอทำได้ขนาดนี้เลย…

 

 

ชายหนุ่มคิดว่าเขาควรจะประเมินความฉลาดของหลินเยียนเสียใหม่…

 

 

เผยอวี้เฉิงยังคงสีหน้าเรียบเฉย แต่ปากของเขาคลี่ยิ้มออกมาน้อยๆ โดยไม่รู้ตัว

 

 

ความเศร้าหมองในแววตาของเขาเองก็เหือดหายไปอย่างเห็นได้ชัดเช่นกัน

 

 

หลินเยียนรับคำขอเป็นเพื่อนจากเผยอวี้เฉิงในไม่ช้า แล้วทั้งคู่ก็อยู่ในรายชื่อผู้ติดต่อของกันและกัน

 

 

ดูเหมือนว่าเผยอวี้เฉิงจะไม่ค่อยได้ใช้วีแชทเท่าไร เขาใช้ชื่อของตัวเองและใช้โลโก้บริษัทเจเอ็ม คอร์เปอเรชั่นเป็นรูปโปรไฟล์

 

 

หลังจากที่สถานการณ์คลี่คลาย หลินเยียนถอนหายใจยาวๆ ด้วยความโล่งอก เธอแอบมองชายหนุ่มขณะไอเบาๆ “ฉัน…ฉันไม่มีรูปถ่ายของคุณเลย…รูปนี้ นายน้อยลำดับที่สามเป็นคนถ่ายให้ค่ะ…”

 

 

หลินเยียนแสร้งเป็นผู้หญิงที่ตกหลุมรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้นอีกครั้ง

 

 

เธออดไม่ได้ที่จะแอบชื่นชมทักษะการแสดงของตัวเองหลังจากที่พูดประโยคนั้นไป มันดูสมจริงมากถึงขนาดที่เธอเองก็เกือบจะเชื่อว่าตนเองกำลังมีความรัก

 

 

การรักษาชีวิตช่างเป็นเรื่องยากสำหรับเธอจริงๆ…