ตอนที่ 56 งานประมูล (2)

แม่ครัวยอดเซียน

ตอนที่ 56 งานประมูล (2) Ink Stone_Romance

“อื้อหือ นักปรุงยาเป็นใครมาจากไหนกันเนี่ย สุดยอดขนาดนี้”

“นั่นสิ เอายาออกมามากมายขนาดนี้ในทีเดียว อีกทั้งยังเป็นยาคุณภาพระดับสูงกับคุณภาพชั้นเลิศ สิ่งที่ทำให้ใจเต้นก็คือปรุงจากเพลิงอัคคีนี่แหละ”

“อย่างที่รู้ๆกัน ยาที่ทำมาจากเพลิงอัคคีจะให้ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว ไม่รู้ว่ายาในครั้งนี้ทำมาจากเพลิงอัคคีประเภทไหน”

“คนขายยานี่ทำการค้าไม่เป็นเลยจริงๆ ถ้าหากว่าแบ่งขายยากลุ่มสุดท้าย ข้าเกรงว่าถึงแม้จะต้องล้มละลาย ก็จะต้องซื้อมาครอบครองไว้สัก 1 เม็ด”

“เมื่อเทียบกันแล้ว ข้าอยากจะรู้จักนักปรุงยาท่านนี้เสียมากกว่า เสียดายที่หอประมูลเก็บความลับดีเกินไป”

“นักปรุงยาท่านนี้ขาดแคลนหินวิญญาณหรือ ถึงได้ขายยาเยอะขนาดนี้”

“ไม่เช่นนั้น พวกเรารวมกันประมูลหนึ่งกลุ่ม แล้วค่อยเอามาแบ่งกันไหม”

“สหาย แผนการของท่านไม่เลวเลย”

“ไม่ทราบว่าสามารถแบ่งขายได้ไหม”

ไม่รู้ว่ามีใครตะโกนขึ้นมา เสียงเซ็งแซ่เงียบลง

“ขออภัยด้วย ผู้บำเพ็ญที่ส่งยามาพูดไว้แล้วว่า ประมูลทีละอันช้าเกินไป ประมูลทีละกลุ่มจะดีกว่า ต้องขออภัยด้วย” ผู้บำเพ็ญหญิงในงานประมูลพูดแสดงความขอโทษ

“อยากจะรู้จักนักปรุงยาท่านนี้จังเลย”

“อัตราความสำเร็จในการปรุงยาของนักปรุงยาท่านนี้ค่อนข้างดีเลย”

“สหาย รบกวนช่วยบอกชื่อของนักปรุงยาท่านนี้หน่อยได้หรือไม่”

“ขออภัยเจ้าค่ะ งานประมูลก็มีกฎของการประมูล” ผู้บำเพ็ญหญิงที่ดูแลงานประมูลกล่าวขอโทษ

เมื่อเป็นเช่นนั้น ไม่ว่าจะสนิทหรือไม่ก็จับกลุ่มกันชั่วคราว ประมูลยาอย่างมีความสุขตามเงินทุนที่มี

“กลุ่มที่ 3 คือกลุ่มฝึกอสูร ช่วยท่านสยบอสูรภูตที่ต้องการ ยาสานสัมพันธ์อสูรคุณภาพระดับสูง 5 ขวดกับยาวิญญาณอสูรคุณภาพระดับสูง 5 ขวด เริ่มประมูลที่ 6,000”

เพียงไม่นานกลุ่มที่ 3 ก็ถูกประมูลไปในราคา 30,000

“กลุ่มที่ 4 กลุ่มเสริมกำลัง ช่วยท่านฝึกบำเพ็ญ ไม่มีผลข้างเคียง ยาเพิ่มพลังเซียน 10 ขวด หากเป็นผู้บำเพ็ญเพียรที่จะบรรลุช่วงพลังเล็กๆใช้เพียง 1 เม็ด หากบรรลุช่วงพลังมากๆก็ใช้ 3 เม็ด อีกทั้งยังสามารถใช้เสริมพลังเซียนในตอนที่พลังเซียนขาด เหมาะสำหรับผู้บำเพ็ญเซียนที่มีช่วงพลังต่ำกว่าช่วงแยกจิตลงไป ราคาประมูลเริ่มต้นที่ 8,000”

หลังเสียงของผู้บำเพ็ญหญิงในงานประมูลสิ้นสุดลง คนจำนวนไม่น้อยก็เริ่มประมูล

“นักปรุงยาท่านนี้เป็นผู้ที่มีพรสวรรค์แน่แท้ ถึงขนาดทำยาออกมาได้หลายกลุ่มขนาดนี้ ประสิทธิภาพของมันทำให้หลายคนใจเต้นจนอยากจะตัดมือทิ้ง”

“นั่นสิ รู้สึกว่าไม่ควรประมูลของที่ประมูลมาก่อนนี้เลย ไม่รู้ว่าจะขอคืนได้ไหม”

“รู้สึกเช่นกัน”

หลิวหลีฟังคำวิจารณ์ที่แปลกประหลาดมากมาย รู้สึกราวกับตัวเองทำเรื่องที่น่าเหลือเชื่อขึ้นมาเสียอย่างนั้น

“กลุ่มที่5 กลุ่มสังหารหมู่ ยามอมเซียน 5 เม็ดกับยาจุดสติ 5 เม็ด และมียาสลบที่สามารถทำให้ทุกสิ่งรอบกายในระยะ 10 เมตรสลบ 1 เม็ด ทำให้ผู้บำเพ็ญใหช่วงปราณก่อนกำเนิดสลบ 15 นาที ช่วงอมตะสลบ 1 ชั่วยาม ยิ่งช่วงพลังต่ำ ยาก็มีออกฤทธิ์ได้นาน ราคาประมูลเริ่มต้นที่ 10,000 หินวิญญาณ”

ผู้คนต่างนิ่งไปพักหนึ่ง จากนั้นก็เริ่มประมูลกันอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง อยากจะรู้จักนักปรุงยาคนนี้เหลือเกิน สามารถปรุงยาเช่นนี้ก็ได้ ท้ายที่สุดยากลุ่มนี้ถูกประมูลไปที่ราคา 80,000 ทุกคนต่างถอยห่างจากผู้ที่ประมูลยากลุ่มนี้ไปได้

“กลุ่มที่ 6 กลุ่มยาถอนพิษ ตามชื่อกลุ่ม มีไว้ถอนพิษ ยาถอนพิษคุณภาพระดับสูง 10 เม็ด ราคาประมูลเริ่มต้นที่ 10,000 หินวิญญาณ”

“กลุ่มที่ 7 ตัวช่วยในการบำเพ็ญ ยาเพิ่มพลังลมปราณคุณภาพชั้นเลิศ 10 เม็ด ประสิทธิภาพคงไม่ต้องให้ข้าอธิบาย มีประสิทธิภาพดียิ่งกว่าคุณภาพระดับสูงถึง 10 เท่า ไม่มีขายแยก ราคาเริ่มต้นที่แสนห้า”

“กลุ่มที่ 8 ยามอมเซียนคุณภาพชั้นเลิศ 5 เม็ดกับจุดสติคุณภาพชั้นเลิศ 5 เม็ด ราคาเริ่มต้นที่แสนแปด”

“กลุ่มที่ 9 ยาคุ้มกมลคุณภาพชั้นเลิศ 10 เม็ด ขอเพียงแค่ยังมีลมหายใจ เมื่อกินยาคุ้มกมลเข้าไป 1 เม็ดก็จะสามารถป้องกันหัวใจไว้ได้ ยารักษาชีวิตชั้นดี ราคาประมูลเริ่มต้นที่สองแสนห้า”

“กลุ่มสุดท้ายแล้ว ข้าก็จะไม่พูดอะไรแล้ว ยาก่อนนี้ทุกชนิดอย่างละ 1 เม็ด เป็นยาคุณภาพชั้นเลิศที่ปรุงจากเพลิงอัสนีครามทำให้รู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าอยู่ด้านในด้วย ราคาประมูลเริ่มต้นที่ห้าแสน”

“ท่านพ่อ นักปรุงยาคนนี้เก่งกาจเสียจริง ข้าไปรวมกลุ่มกับสกุลใหญ่ประมูลยาคุ้มกมลมา คุณภาพไม่เลวเลยจริงๆ” สุ่ยหลิงกวงพูดขึ้น

“จริงด้วย หากได้รู้จักนักปรุงยาท่านนี้คงดีไม่น้อย” สุ่ยเจิ้นปัวอยากจะรู้จักอีกฝ่าย

“ท่านพ่อ ตอนนั้นน้องหลิวหลีก็บอกว่านางเป็นนักปรุงยา ไม่รู้ว่านางจะเข้าร่วมงานชุมนุมยาศักดิ์สิทธิ์ที่เมืองเฟยเซียนหรือไม่” สุ่ยหลิงเอ๋อร์เอ่ยขึ้น พลางลูบราชางูเหลือมมรกตตรงข้อมือ

สุดท้าย ยา 10 เม็ดที่ปรุงจากเพลิงอัคคีถูกประมูลออกไปในราคาสูงถึง1 ล้านหินวิญญาณ

เมื่อหลิวหลีออกมาจากงานประมูล แข้งขาอ่อนลงทันที สติเลือนลางเล็กน้อย ยาของนางประมูลออกมาได้เม่ากับมูลค่าของเส้นลมปราณเส้นหนึ่งเลย แน่นอนว่านางไม่ได้สูญเสียสติจนเลอะเลือน นางเดินออกมาจากงานประมูลด้วยท่าทีปกติ หลังจากนั้นก็พยายามหาที่ลับตา ของที่ได้มาส่วนใหญ่ก็ป้อนให้กับมิติเทพเจ้ามังกรจอมเขมือบ อีกส่วนก็ใส่ไว้ในแหวนเก็บของเพื่อเก็บไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน

“หลิวหลี ยาคุณภาพระดับกลางกับระดับล่างของเจ้า เจ้าคิดว่าจัดการกับมันอย่างไร” ถึงแม้จะมีจำนวนไม่มากก็เถอะ

“อืม ให้คนอื่นละกัน ไม่สามารถอยู่บ้านคนอื่นเปล่าๆ รอวันสุดท้ายที่จะเดินทางแล้วค่อยมอบให้เขาแล้วกัน” หลิวหลีพูดพลางพยักหน้า มอบให้คนในสำนักคงไม่เหมาะ อีกทั้งยังมีอาจารย์ที่เป็นนักปรุงยาระดับ 9 อยู่คงจะไม่ขาดเหลืออะไร

ต่อมาเมื่อเสวียนหั่วรู้ความคิดของลูกศิษย์ตัวเองจึงตีอกชกหัวขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ศิษย์เอ๋ย ไม่ใช่ว่าใครก็จะมีพรสวรรค์แบบเจ้า อัตราสำเร็จในการปรุงยาของพวกเขาจะมาเทียบเท่ากับเจ้าได้อย่างไร และแน่นอนว่าหลิวหลีรู้เรื่องนี้ในภายหลัง

ช่วงนี้หลิวหลีกำลังฝึกฝนวิชาในการปรุงยา บางครั้งก็ออกไปขายยา เพื่อเอามาเติมเต็มให้กับมิติเทพเจ้ามังกร เรื่องที่น่ายินดีก็คือถึงแม้รูปร่างจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ปริมาณสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์เกิดมากขึ้น น้ำในสระน้ำที่กินหินวิญญาณเป็นอาหารก็มีปริมาณเพิ่มขึ้นมากเช่นกัน

“หลิวหลี พลังบำเพ็ญของเจ้าในตอนนี้คงที่แล้ว ส่วน ‘เคล็ดวิชามังกรนพเก้า’ เจ้าก็ฝึกมาได้พอสมควรแล้ว ระดับในการปรุงยาก็คงที่แล้ว ควรจะออกเดินทางได้แล้วหรือยัง” เอ๋าเลี่ยเห็นหลิวหลีเหม่อลอยจึงพูดขึ้น

“ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น อาเลี่ย ข้าอยากจะอยู่กับท่านแม่สักพัก เจ้าช่วยดูแลจื่อฉีกับหงหลินให้หน่อยได้ไหม”

“ได้”

“ท่านแม่ในชาตินี้ของข้า ท่านช่างงามเหลือเกิน ข้าก็เหมือนจะได้รับพันธุกรรมจากแม่มาเหมือนกันนะ ท่านจะตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่หรือ อาจารย์ของข้าเป็น 1 ใน 3 ของนักปรุงยาระดับ 9 เลยนะ ข้าก็กำลังพยายามอยู่ ตอนนี้เป็นนักปรุงยาระดับ 6 แล้ว น่าเสียดายที่ตัวข้ายังไม่สามารถปรุงยาระดับ 8 ออกมาได้ ท่านแม่ ท่านจะตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่ ท่านรู้ไหม ตอนแรกที่เห็นท่าน ข้าตื่นเต้นและประหลาดใจมากเพียงใด”

หลิวหลีพูดไปน้ำตาก็อดที่จะเอ่อล้นออกมาไม่ได้ นางไม่รู้ว่าทำไมวันนี้ตัวเองจึงมีอารมณ์ที่หลากหลายเช่นนี้ นางจับมือหลงซินเยว่ร้องไห้แล้วก็ผล็อยหลับไป

เอ๋าเลี่ยมองดูจื่อฉีที่อยู่นิ่งไม่ขยับ แน่นอนว่าเขาสัมผัสได้ถึงอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงของหลิวหลี ก็ใช่ นางยังเป็นแค่เด็กอยู่ ถึงนางจะมีพลังบำเพ็ญสูงส่งแต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธความจริงที่ว่านางยังเป็นเด็กได้ เอิ่ม จิตใจของเด็กผู้หญิงเขาไม่เข้าใจเท่าไร จะว่าไปแล้วทำไมตอนนั้นนางถึงไม่หาคู่พันธนาการที่เป็นเพศเมียนะ แล้วเอ๋าเลี่ยก็คิดออกนอกประเด็นไป

หลิวหลีไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไร ตื่นขึ้นมาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมามาก มนุษย์จำเป็นต้องระบายออกมาจริงๆด้วย ถึงแม้ว่าจะบำเพ็ญเพียรก็ยังจำเป็น

หลิวหลีจัดการตัวเองเรียบร้อยจึงคิดว่าจะทำอาหารมื้อสุดท้ายในเมืองต้าเย่ ย่างแพะทั้งตัว ซี่โครงหมูเปรี้ยวหวาน ซุปหมูพริกเผาเสฉวน ปีกไก่ทอดไข่เค็ม เนื้อตุ๋นน้ำแดง อีกทั้งยังละเมิดกฎทำซุปเนื้อห่าน ทำเกี๊ยวหลากหลายไส้

เอ๋าเลี่ยเห็นหลิวหลีทำของกินจำนวนมากก็กลืนน้ำลายอย่างอดไม่ได้ หลิวหลีอารมณ์ไม่ดีจึงระบายด้วยการทำอาหารเยอะขนาดนี้ เป็นลาภปากจริง ๆ

เอ๋าเลี่ยเรอออกมาด้วยความอิ่ม รสชาติได้ไม่เลวเลยจริง ๆ จื่อฉีรู้สึกชื่นชอบเกี๊ยวไส้ต่างๆอย่างมาก หลิวหลีทำเกี๊ยวหลายรูปแบบให้กับจื่อฉี เพราะคิดถึงจื่อฉี นางจึงทำเกี๊ยวแบบพอดีคำให้กับมัน ส่วนหงหลินชื่นชอบซุปหมูพริกเผาเสฉวนอย่างมาก

หลักจากกินกันอย่างอิ่มหนำสำราญ หลิวหลีก็จิบชาศักดิ์สิทธิ์พลันรู้สึกสบายใจขึ้นมาก