บทที่ 50 กินอึไปสองกิโลกรัม

Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子]

บทที่ 50 กินอึไปสองกิโลกรัม

“ลูกพี่ พวกเราอยู่นี่!”

มีคนกว่าร้อยคน ที่นี่มีทีมกว่า 20 ทีมจากกิลด์ใหญ่ๆ ส่วนพวกที่ไม่ได้ทำอะไรก็รออยู่ที่มุมขอบเกาะ

เฉียนโตวโตวตะโกนเรียกชื่อเซียวเฟิงออกมาโดยไม่สนใจว่าสายตาของทุกคนจะมองมาอย่างไร

“นี่คือนักบวชที่พวกนายบอกเหรอ?”

มีคนประมาณ 10 – 20 คนในกลุ่ม พวกนิโคลัสและเฉียนโตวโตวเองก็ยืนรวมกับเด็กรูปหล่อคนหนึ่งอยู่ เขาจ้องเซียวเฟิงตั้งแต่หัวจรดเท้า และถามเฉียนโตวโตวด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม

“เฮ้! ไอ้ตัวเล็ก พูดดีๆ หน่อย ลูกพี่คือสุดยอดที่สุดแล้ว” เฉียนโตวโตวได้ยินแบบนั้นก็บอกกับเขา

“ผมไม่เคยเห็นคนเล่นเก่งๆ ใส่ชุดเริ่มต้นเลยนะ” เด็กคนนี้อายุประมาณ 16 หรือ 17 ปี ตัดผมเกรียน และรูปหล่อพอใช้ได้ ชื่อของเขาคือ ซางกวน อาโอเชิน

“ใครเนี่ย?” เซียวเฟิงไม่อยากทะเลาะกับเด็ก แต่ก็ยังหันไปถาม

“แค่คนแปลกหน้า พวกเราทำเควสทดสอบไม่ผ่านก็เลยอยากจะตั้งทีมขึ้นมา จนมาเจอเด็กคนนี้ และเขาเองก็มองหานักบวชอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่คิดว่านายจะกลับมาเร็วแบบนี้ ตอนนี้พวกเราสามารถตั้งทีม 5 คนได้เลยนะ” เถียซูอธิบาย

“เฮ้ ผมไม่ตั้งตี้กับหมอนี่แน่ พวกนายมีอุปกรณ์ดีๆ ก็จริง แต่ก็ใช่ว่าผมจะให้ใครที่ไหนก็ได้เข้าทีมหรอกนะ” ซางกวนเองก็เป็นนักรบเหมือนกัน เขาถือดาบไว้ในมือ พูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย

“เด็กเวรนี่น่ารำคาญชะมัด” เจ๋าซือกัดฟัน กลอกตาไปมาก่อนจะเกิดไอเดียดีๆ

“เฮ้ ไอ้หนูอยากพนันอะไรไหม?”

“พนันอะไร?” ซางกวนมองไปยังเจ๋าซือด้วยสีหน้างุนงง

“ถ้าพวกเราสี่คนสามารถทำเควสสำเร็จได้ทันเวลา นายจะยอมพนันกับฉันไหม?” เจ๋าซือยิ้มอย่างชั่วร้ายออกมา

“หา? พวกนายแค่สี่คนเหรอ? พวกนายไม่มีนักรบ แถมนักบวชเองก็ดูแปลกๆ อีก พวกนายทำไม่ได้หรอก ถ้าทำได้ผมจะไปกินอึให้ดูเลย!” ซางกวนมีใบหน้าที่เด็กมาก ซึ่งมันก็ดูเย่อหยิ่ง และน่าตบเสียเหลือเกิน

“โอเค ตามนั้นเลย!” เจ๋าซือตัดสินใจทันที “ถ้าพวกเราทำเควสเสร็จทันเวลานายจะต้องกินอึ!”

“… แล้วถ้าทำไม่ทันเวลาล่ะ?” ซางกวนหยุดพูด แม้ว่าเขาจะเด็กแต่ก็ยังพอรู้ตัวว่าน่าจะโดนหลอกอยู่ และก็ยังไม่คิดจะยอมรับความผิดตัวเอง

“ถ้าพวกเราทำไม่ทันฉันจะกินอึสองกิโลกรัมเลย แต่ถ้าพวกเราทำสำเร็จนายจะต้องกินอึหนึ่งกิโลกรัม เอาไง? กล้าไหมล่ะ? ลูกผู้ชายไม่กลับคำหรอกนะ!” เจ๋าซือยิ้มชั่วร้ายไม่หยุด

“ผมไม่กลัวหรอก! มาเลยดีกว่า นายต้องกินอึสองกิโลกรัมแน่!”

“พวกนายทุเรศชะมัด!” เฉียนโตวโตวรับไม่ได้กับบทสนทนานี้

“ฮ่าๆ นายต้องได้กินมันแน่ๆ!” เจ๋าซือดีใจ “มาๆ มารีบเข้าทีมเถอะ มาดูกันให้เต็มสองตา!”

เด็กหนุ่มยิ้มและขอเข้าทีม “ผมแค่ต้องการเข้าไปด้วยเพื่อดูว่าพวกนายจะไม่โกงเท่านั้น แต่ไม่ช่วยหรอกนะ!”

“ได้เลย! นายมาเป็นปลิงเกาะทีมก็ได้!”

ฝูงชนทั้งหลายต่างก็พูดคุยกันถึงเควสทดสอบนี้ เพราะมีหลายทีมได้เข้าไปข้างในแล้วก็ตายจนถูกส่งกลับออกมา นี่คือสาเหตุว่าทำไมพวกเขาถึงมาพูดคุยถกเถียงกันอยู่จนถึงตอนนี้

หลังจากเข้าไปยังทางใต้ดิน เซียวเฟิงเห็นทางเดินที่คุ้นเคย และวิสัยทัศน์ที่มืดสนิท “พูดตรงๆ เลยนะ พวกเราติดอยู่ที่ด่านแรก และถึงฉันมีพลังชีวิตมากพอก็จริง แต่เจ๋าซือและเฉียนโตวโตวต้านไม่ไหว” เถียซูอธิบายสถานการณ์

“แต่ก็ไม่ได้มีแค่พวกเราหรอกนะ หลายๆ คนที่มาที่นี่ต่างก็ติดอยู่ที่นี่กันตลอด ตายก่อนจะได้เห็นหน้ามอนสเตอร์ด้วยซ้ำ” เจ๋าซือพูดเสริม

เซียวเฟิงพยักหน้า และเข้าใจว่าเควสนี้มันยากจริงๆ ทางเข้านี้เต็มไปด้วยหนามมากมาย ถ้าไม่ระวังจะต้องติดพิษตายก่อนชัวร์ๆ

“แน่นอนว่ามันยากมาก พวกนายผ่านไม่ได้หรอก” ซางกวนกอดอก และยืนบ่นอยู่อย่างนั้น

“ฉันทำอะไรไม่ได้หรอก พวกนายต้องระวังกันเอง ถ้าต้องการก็เปิดระบบแสงในหน้าจออุปกรณ์ก็ได้ ถึงจะไม่สว่างมากแต่ก็พอช่วยได้” เซียวเฟิงพูดถึงระบบแสงไฟจากอุปกรณ์ ที่ต่างกันไปตามระดับของอุปกรณ์ที่มี เช่นระดับเขียวก็จะมีแสงสีเขียว ระดับน้ำเงินก็จะมีแสงสีน้ำเงิน แต่ระบบจะปิดแสงเอาไว้เพื่อไม่ให้แสบตา

“ใช่แล้ว! ทำไมถึงนึกไม่ออกกันนะ?” เถียซูตื่นเต้น และรีบเปิดมัน

“ฉันด้วย!” เจ๋าซือเองก็เปิดตาม พวกเขาเห็นแสงสีเขียว และน้ำเงินเต็มไปหมด ทำให้สามารถหลบพวกหนามได้อย่างง่ายดาย

“ลูกพี่ก็เปิดด้วยสิ พวกสองคนนั้นเปิดแล้วดูเหมือนตัวหนอนอะ” เฉียนโตวโตวพูดออกมา

“ใช่แล้ว จะได้สว่างมากกว่าเดิม!” พวกนิโคลัสเองก็รบเร้าเซียวเฟิง เพราะพวกเขารู้ดีว่าชายหนุ่มต้องมีไอเทมเจ๋งๆ แน่

“ก็ได้”

มีคนนอกแค่คนเดียวในถ้ำนี้ แถมยังเป็นเด็กอีก เซียวเฟิงจึงเก็บชุดเริ่มต้นและเปิดแสงจากไอเทมของตนทันที

ทันใดนั้น แสงสีทอง สีเงิน แม้แต่สีขาวก็สว่างไปทั่วทั้งถ้ำ

“หน๊อย…”

เห็นเซียวเฟิงที่ใส่ชุดธรรมดาแบบนั้น ทำให้ซางกวนไม่คิดว่าเขาจะทำเพื่อซ่อนของที่อยู่ในตัวแบบนี้ เด็กหนุ่มอ้าปากกว้างด้วยความตะลึง

เขาเริ่มรู้ตัวแล้วว่ากำลังจะเกิดความฉิบหายแน่ๆ

“ไปกันเถอะ” เซียวเฟิงเหวี่ยงไม้เท้าไปมาราวกับไฟฉาย

พวกนิโคลัสตะลึงในขณะที่เฉียนโตวโตวมองร่างของเซียวเฟิงด้วยสายตาโลภมาก ดวงตาของเธอแทบจะกลายเป็นรูปเงินไปแล้ว พวกเขารวบรวมความกล้า และเดินตามเซียวเฟิงจนผ่านไปได้

ด้วยความช่วยเหลือของชายหนุ่ม พวกเขาจึงไม่เป็นอะไรมากต่อให้ โดนหนามพวกนี้ก็ตาม ด่านแรกจึงผ่านได้โดยใช้เวลาไม่ถึงนาที

เสียงมอนสเตอร์มากมาย

ไม่นานนักมอนสเตอร์กลุ่มแรกก็ปรากฏตัวออกมา เป็นงูหินพิษเลเวล 10 ที่มีพลังโจมตีระยะไกลที่เก่งกาจ พวกนักรบนั้นไม่อาจทนการโจมตีพวกมันได้แน่ๆ นี่จึงถือเป็นโซนที่ท้าทายพวกเขาเป็นอย่างมาก

“เราต้องทำยังไงต่อ?” เจ๋าซือถามชายหนุ่มที่เคยทำเควสทดสอบนี้เสร็จไปแล้ว

“โจมตีตามปกตินั่นแหละ พวกนี้ไม่มีอะไรมากหรอก” พูดจบเขาก็อวยพรอาวุธให้กับเจ๋าซือ

“คุณได้รับผลจากสกิล [อวยพรอาวุธ] พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 97 หน่วยป็นเวลา 60 วินาที จากแด๊ด”

“หา? พลังโจมตีเพิ่มขึ้นเฉย?”

เจ๋าซือที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบเปิดหน้าจอข้อมูลตัวเองขึ้นมาและพบว่าพลังโจมตีของเขาทะลุ 150 ไปแล้ว “อะไรเนี่ย? บัฟนี่โคตรดี!”

“มัวรออะไรอยู่ล่ะ? รีบไปจัดการพวกมันสิ!” เถียซูหงุดหงิดที่เห็นเจ๋าซือมัวแต่ตะลึง

“ช้าก่อน ฉันจะจัดการพวกนี้เอง”เจ๋าซือมองเซียวเฟิงและพูดออกมา

“นี่นายโง่หรือไง? นี่มันมอนสเตอร์เลเวล 10 เลยนะ มีพลังชีวิตตั้ง 280 หน่วยและ ป้องกัน 15…”เจ๋าซือไม่รอให้เถียซูพูดจบ เขาก็ใช้สกิลของธนูยิงเข้าใส่งูทั้ง 5 ตัว

-132!

-136!

-137!

-133!

-268! คริติคอล!

เถียซูตะลึง งู 4 ใน 5 ตัวพลังชีวิตลดหายไปกว่าครึ่งแถมหนึ่งในนั้นยังติดคริติคอลอีกด้วย เขาตะลึงจนพูดไม่ออก รู้ว่าเจ๋าซือมีพลังโจมตีแรงกว่าก็จริง แต่ก็แค่มากกว่า 60 หน่วยเท่านั้นนี่นา และไม่น่าจะโจมตีได้แรงขนาดนั้น! หลังจากรวบรวมความกล้าได้ เถียซูก็มองไปยังเซียวเฟิงที่เป็นคนเดียวซึ่งสามารถร่ายสกิลบัฟได้

“นาย! ไม่สิ! ท่านเทพฮีล ช่วยฉันด้วยฉันเองก็อยากจะฆ่ามันเหมือนกันนะ!”

“ใจเย็นสิ ยังคูลดาวน์อยู่”

เซียวเฟิงส่ายหัว หลังจากที่ผ่านไป 30 วินาทีเขาก็ร่ายมันใส่เถียซู

“คุณได้รับผลจากสกิล [อวยพรอาวุธ] พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 97 เป็นเวลา 60 วินาที จากแด๊ด”

หลังจากที่เห็นแล้วว่าตาของเขาไม่ได้มองอะไรผิดไป เถียซูก็เริ่มตื่นเต้น

“อ๊า! ปล่อยมอนสเตอร์พวกนี้ให้ฉันเอง ฉันจะจัดการพวกมันให้หมด!”

“ไม่! ของฉันโว้ย!”

“พวกนายบ้าไปแล้วหรือไงเนี่ย?” เฉียนโตวโตวมองไปยังคู่นิโคลัสด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะเดินเข้าไปหาเซียวเฟิง

“ทำไมเด็กนั่นไม่ตามเรามาล่ะ?” เซียวเฟิงมองไปข้างหลังก็ไม่เห็นซางกวนแล้ว ในข้อมูลทีมก็เห็นว่ายังยืนอยู่ที่หน้าทางเข้า

“ฮ่าๆ โคตรเจ๋งเลย!” หลังจากฆ่าพวกงูพิษไปมากแล้ว เถียซูก็เริ่มตื่นเต้นมากขึ้น

เจ๋าซือเองก็เข้ามากอดต้นขาเซียวเฟิง “อ๊า! จากวันนี้นายคือเทพผู้ช่วยชีวิตฉันเลย! อ๊า! นายแม่งโคตรเก่ง! เป็นดั่งดวงตะวันในช่วงหน้าหนาว ฉันจะขอติดตามนายตลอดไปเลย! แม้ความตายก็ไม่อาจแยกเราจากกันได้!”

“ไปไกลๆ เลย!”

เซียวเฟิงพยายามเตะอีกฝ่ายออกไปแต่ก็ไร้ผล จึงได้แต่พูดไล่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย