บทที่ 62 มีโหมดเนื้อเรื่องด้วยจริงๆ เหรอ

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

หลินหวานบอกว่าจะลงชื่อให้ของรางวัลเพิ่มเป็นปืนกิเลนเพลิงถ้าเขาทดสอบเกมให้อย่างจริงจัง

อย่างไรเสียราคาตลาดของปืนกิเลนเพลิงก็อยู่ที่แปดร้อยแปดสิบแปดหยวน…

แต่หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เฉินชาก็ส่ายหน้า โยนความคิดนั้นไปจากหัว

ปืนกิเลนเพลิงนี่จะราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวนได้อย่างไร มันก็แค่โค้ดในเกม ใครจะไปซื้อกัน

ถ้าไม่มีใครซื้อ ปืนนี่ก็ไร้ค่าสิ

ใช่ ตราบใดที่ไม่มีใครซื้อปืนกิเลนเพลิง เกมนี้ก็จะเป็นเกมที่ยุติธรรมกับผู้เล่นทุกคน

เฉินชาไม่เข้าใจเกมนี้ เกม FPS ที่เขาเคยเล่นอย่างเกม Counter Strike ไม่มีของให้ซื้อเพิ่มในเกม ทำกำไรจากการขายเกมอย่างเดียว เกม FPS  อย่างเกมกระสุนเพชรฆาตที่เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีก็มีระบบพรีเมี่ยมให้ผู้เล่นจ่ายเงินไต่ระดับพรีเมี่ยมของตัวเอง

แต่เขาไม่เคยพบเห็นเกมแบบเกมฐานทัพกลางทะเลมาก่อน

เฉินชาออกจากหน้าร้านค้าในเกม จากนั้นก็เข้าไปดูระบบอื่นๆ ในเกมด้วยความสงสัย

“มีโหมดต่อสู้ในเกมเยอะมาก โหมดผีกับโหมดไบโอเคมิเคิลเหรอ ไม่เห็นเคยได้ยิน”

“อะไรกัน มีโหมดเนื้อเรื่องด้วย”

เฉินชาแสนแปลกใจเมื่อได้เห็นโหมดผีและโหมดไบโอเคมิเคิล แต่ก็ไม่ได้ตื่นตกใจกับโหมดพวกนั้นเท่าไหร่

ถึงอย่างไรเกมแนว FPS ก็มักจะพัฒนาโหมดต่อสู้ใหม่ๆ ออกมาอยู่แล้ว

แต่เฉินชาก็ต้องตะลึงงันไปเมื่อได้เห็นโหมดเนื้อเรื่อง

ไม่ว่าจะเป็นเกม Counter Strike หรือเกมแนว FPS เกมอื่นในประเทศ ไม่เคยมีเกมไหนทำโหมดเนื้อเรื่องมาก่อน!

การวางพล็อตเนื้อเรื่องให้เกม FPS เป็นสิ่งที่ดูจะต้องลงทุนลงแรงมาก แต่ได้ผลตอบแทนน้อย ผู้พัฒนาเกมในประเทศส่วนใหญ่จึงไม่สามารถทำได้!

เกมดังๆ บางเกมมีการวางพล็อตเนื้อเรื่อง แต่ก็มักจะเป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ทุนหนา เป็นเกมที่มีคอนเซ็ปต์แตกต่างจากเกม FPS ทั่วไป!

เทียนหัวสตูดิโอลงทุนกับเกมกระสุนเพชรฆาตไปเยอะมากเพื่อให้องค์ประกอบทุกอย่างของเกมออกมาสมบูรณ์แบบ แต่ก็ไม่ได้ใส่เนื้อเรื่องเข้าไป

เหตุผลหนึ่งก็เพราะโจวมู่หยันคิดว่าเป็นเรื่องไม่จำเป็น เหตุผลที่สองคือเขาไม่มั่นใจว่าจะทำได้!

แล้วทำไมเกมฐานทัพกลางทะเลที่ไม่ได้ดังอะไรถึงกล้าใส่โหมดเนื้อเรื่องเข้ามา ทั้งๆ ที่เทียนหัวสตูดิโอยังไม่กล้าใส่เข้าไปในเกมกระสุนเพชรฆาต

เรื่องนี้ทำให้เฉินชารู้สึกสนใจ

เขาไม่ได้ปิดเกมทันทีอย่างที่คิดไว้ และตัดสินใจลองเล่นโหมดเนื้อเรื่องดู

เฉินชาเตรียมตัวพบกับความน่าเบื่อหน่ายและความน่ารังเกียจของโหมดเนื้อเรื่อง

เข้าสู่โหมดเนื้อเรื่อง

หน้าจอว่างเปล่า

หน้าจอว่างเปล่าไปพักหนึ่ง

เฉินชาเกือบจะคิดว่าเป็นบั๊กในเกม แต่ไม่นานเสียงก็ดังขึ้นผ่านหูฟัง

“เขาตายแล้วเหรอ”

“ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่มีทางที่เขาจะรอดได้หลังสัมผัสไวรัส G”

“โยนเขาทิ้งไว้ที่นี่แล้วกัน”

เสียงพากย์เป็นภาษาอังกฤษโดยเจ้าของภาษา โชคดีที่มีซับไตเติ้ลขึ้นบนหน้าจอที่ยังคงว่างเปล่าอยู่

หน้าจอค่อยๆ มืดลง บ่งบอกว่าตัวเอกโดนโยนทิ้งไว้

หลังจากนั้น เสียงฝีเท้าก็ค่อยๆ เลือนหายไป

หน้าจอยังคงดำสนิท แต่แสงค่อยๆ ปรากฏขึ้นจากไกลๆ คล้ายวิสัยทัศน์ของคนธรรมดาเมื่อหลับตาตอนกลางวันซึ่งจะสัมผัสได้ถึงแสงที่ผ่านเปลือกตาเข้ามา

เสียงมากมายดังขึ้นในหูฟังของเฉินชา

มีทั้งเสียงหายใจถี่หนักและเสียงโอดครวญเบาๆ เสียงทั้งสองน่าจะมาจากตัวเอก

มีเสียงดังกรอบแกรบที่น่าจะเกิดจากการคลานหรือเดินโขยกเขยก

เสียงพึมพำในลำคอดังขึ้น ฟังดูคล้ายเสียงกล่องขาด เสียงที่ว่าคือเสียงครวญครางอันเป็นมาตรฐานของเหล่าซอมบี้ เสียงคำรามดังขึ้นเป็นพักๆ จากที่ไหนสักแห่ง ห่างไกลออกไป

ครู่ต่อมา วงรีสองวงก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ เผยให้เห็นภาพเลือนรางภายในวง เป็นเหมือนวิสัยทัศน์ของตัวเอกตอนลืมตา

หลังจากกะพริบตาอยู่หลายครั้ง วิสัยทัศน์ของตัวเอกก็กลับมาเป็นปกติ ในที่สุดเฉินชาก็เห็นภาพของเกมได้อย่างชัดเจน

สิ่งแรกที่เห็นหลังจากลืมตาคือมือข้างหนึ่ง เป็นมืออันขาวซีด มีเส้นเลือดปูดโปน มือที่ว่าคือมือของศพ!

เฉินชาและตัวเอกตกใจ

ตัวเอกพยายามลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล ตอนนั้นเองเขาก็ได้พบภาพที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเก่า ที่ที่เขานอนอยู่เมื่อครู่ไม่ใช่เตียงอันนุ่มสบาย แต่เป็นกองศพต่างหาก!

ศพแต่ละศพรูปลักษณ์แตกต่างกัน ศพบางศพมีสภาพเละเทะ น่าขยะแขยงเสียจนอยากจะอ้วกเอาข้าวเย็นที่กินมาเมื่อวานออกมา บางศพยังมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ไม่มีแผลภายในร้ายแรงที่เห็นได้ชัดเจน จุดผิดปกติคือผิวที่ขาวซีดและเส้นเลือดที่ปูดออกมาจากผิวหนัง

ศพบางศพเริ่มเน่าเปื่อย เนื้อที่ผิดปกติเติบโตขึ้นบนศพ พวกมันกำลังกลายพันธุ์!

เลือดสดแห้งเหือดและจับตัวแข็ง ศพเหล่านี้เกาะติดกันแน่น ไม่น่าจะแยกออกจากกันได้

ในตอนนั้นตัวเอกก็กำลังจะกลายเป็นหนึ่งในพวกมัน!

ตัวเอกอยู่ขอบสุดของกองศพ เห็นได้ชัดว่าพวกคนที่แบกเขามาที่นี่ไม่อยากเข้าไปใกล้กองศพ จึงโยนเขาทิ้งไว้ตรงนี้

หลังจากขยับตัวสักพัก ตัวเอกก็หล่นจากกองศพไปตรงพื้น เขาหยุดพักอยู่ครู่หนึ่งเพื่อฟื้นฟูพลัง ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนได้ในที่สุด

ตอนนั้นเองเฉินชาก็พบว่าเขาสามารถควบคุมตัวละครเอกได้ พร้อมทั้งสามารถควบคุมวิสัยทัศน์และการเคลื่อนไหวของตัวละครได้อย่างอิสระ

วิธีการเล่นปรากฏขึ้นบนจอ เฉินชาสามารถใช้เมาส์หันมองสิ่งต่างๆ ได้ และสามารถเคลื่อนไหวไปทิศทางต่างๆ ได้ด้วยปุ่ม W A S และ D

 นี่คือการควบคุมพื้นทางของเกม FPS บนคอมพิวเตอร์ เนื่องจากผู้เล่นบางคนอาจจะไม่เคยเล่นเกมแนวนี้มาก่อน เกมฐานทัพกลางทะเลจึงบอกวิธีเล่นไว้อย่างละเอียด คล้ายกับเกมระดับ AAA ของต่างประเทศ

มุมมองบุคคลที่หนึ่งทำให้เฉินชาเหมือนเป็นตัวละครในเกม

แม้รอบตัวจะมีแต่ความมืดมิด เขาก็พอจะดูออกว่าตัวเอกอยู่ในตึกที่เหมือนจะเป็นฐานทัพอะไรสักอย่าง

รอบๆ มีเก้าอี้ โต๊ะประชุมขนาดใหญ่ และคอมพิวเตอร์ทางการทหารจำนวนหนึ่งวางอยู่กระจัดกระจาย ศพมากมายกองเต็มอยู่บนโต๊ะเก้าอี้

ตอนที่เฉินชามองไปที่ศพกองใหญ่ที่สุด เขาไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า แต่เห็นเหมือนแขนที่อยู่ใต้กองศพนั้นกระตุกเล็กน้อย

ภาพที่เห็นทำให้เฉินชารู้สึกอึดอัด เขาเริ่มมองหาทางออก

มีทางออกอยู่สามแห่ง แต่ละแห่งมีป้ายสีเขียวส่องแสงอยู่ด้านบน ป้ายป้ายหนึ่งมีคำว่า ‘EXIT’ ปรากฏอยู่ แสงในห้องไม่ได้สว่างมาก ตัวเอกต้องพึ่งแสงจากทางออกแต่ละแห่งเพื่อมองสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในห้อง

เฉินชาคุมตัวเอกให้เดินไปทางประตูที่ใกล้ที่สุด

ตัวเอกเดินไปอย่างเชื่องช้า วิสัยทัศน์ของเขาพร่ามัวเป็นพักๆ แขนขวาของตัวเอกแกว่งไปมาตามการเคลื่อนไหว แต่มือซ้ายกลับกุมท้องเอาไว้ เห็นได้ชัดว่าเขาอาการไม่ค่อยดี

เขาพยายามเปิดประตูทางออกหลังไปถึง แต่ก็ไม่สำเร็จ เหมือนว่าประตูจะล็อกเอาไว้ หรือไม่ก็มีอะไรขวางไว้จากอีกฝั่ง

ตัวเอกเดินไปที่ประตูแห่งที่สอง ประตูบานนี้มีเครื่องล็อกดิจิทัล ต้องใช้การ์ดเพื่อเปิด

เฉินชาคุมตัวละครให้เดินไปที่อื่น ตัวเอกย่ำเท้าหนักเข้าไปใกล้กองศพอีกครั้งเพื่อไปยังประตูบานที่สามที่อยู่ห่างออกไปไกลที่สุด

มองจากไกลๆ ประตูดูเหมือนจะแง้มเอาไว้เล็กน้อย สามารถผ่านออกไปได้

บรรยากาศรอบตัวเงียบสงัด ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจและเสียงฝีเท้าของตัวเอก

ในตอนนั้นเอง ศพศพหนึ่งจากกองศพตรงกลางห้องก็พุ่งมาจับขาขวาของเขาไว้ มันอ้าปากกว้างแล้วกัดเข้าที่ขาของตัวเอก!

ตัวเอกกรีดร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด วิสัยทัศน์บนหน้าจอกลายเป็นสีแดง บ่งบอกว่าตัวเอกกำลังโดนโจมตี!

…………………….