นักพรตปีศาจบนพื้นถูกกวาดล้างจนเหี้ยนอย่างรวดเร็ว
ราชาปีศาจทั้งสี่ ตนหนึ่งตายอย่างไม่เป็นธรรม สองตนตายอย่างอนาถ อีกหนึ่งถูกจับเป็น
ทางด้านนักพรตมนุษย์ แม้จะมีคนไม่น้อยบาดเจ็บ แต่ไม่มีผู้ใดตายในสมรภูมิรบ
เรียกได้ว่าเป็นผลลัพธ์ที่ไม่เลวเลยทีเดียว
ศึกครั้งนี้ ปิดฉากที่นักพรตมนุษย์คว้าชัยชนะไปครอง!
“สหายปัญญา! ในที่สุดพวกเราก็แก้แค้นให้คุณสำเร็จแล้ว!” เถียนหลิงหลิงร้องตะโกนออกมา
เธอยังติดอยู่ในการแสดงถอนตัวไม่ได้
เหล่านักพรตได้ยินต่างก็ยิ้มอย่างรู้กัน
อดพูดไม่ได้ว่าการแสดงเมื่อครู่นี้สาแก่ใจเหลือเกิน ราชาปีศาจปัญญาก็กลายเป็นบุคคลที่อนาถที่สุดในศึกนี้
“สหายอันหลิน ครั้งหน้าฉันจะแอบไปขโมยถ้วยรางวัลออสการ์ที่อเมริกามาให้นาย เอาถ้วยรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมของลีโอนาร์โดให้นายก็แล้วกัน!” ผู้พิทักษ์มักจะไปขโมยของที่อเมริกาอยู่บ่อยๆ ตอนนี้กำลังตบไหล่อันหลินพลางหัวเราะอย่างเริงร่า
เป็นที่รู้กันว่า ผู้ที่ริเริ่มให้ตบตาราชาปีศาจปัญญา ก็คือสหายอันหลินที่ทำท่าเหมือนผู้บริสุทธิ์ตรงหน้าคนนี้นี่แหละ
หากไม่มีการแสดงอันแนบเนียนของเขา ทำให้ศัตรูสูญเสียกำลังสำคัญไป
การต่อสู้ของพวกเขาคงไม่มีทางจบลงง่ายดายปานนี้แน่
กับสิ่งนี้ แม้แต่เถียนหลิงหลิงผู้ที่น่ารักซุกซนก็ยอมนับถือจากใจจริงเช่นกัน
แต่เธอก็อยากให้ผู้พิทักษ์ ช่วยขโมยถ้วยรางวัลออสการ์นักแสดงหญิงยอดเยี่ยมมาให้เธอเช่นกัน อย่างไรเสียเธอก็มีความดีความชอบในสงครามนี้เหมือนกัน!
นักพรตมากมายต่างก็พากันรุมล้อมพูดชมอันหลิน อยากจะตั้งฉายาราชานักแสดงให้เขาบัดนั้นทันที
มันทำให้เขาขัดเขินไม่น้อยเลย ทำได้แค่เกาหัว แสดงความถ่อมตัวออกมา
สวีเสี่ยวหลานเคยเห็นท่าทางชั่วร้ายของอันหลินมานักต่อนักแล้ว จึงไม่แปลกใจกับเรื่องที่เขาตบตาคนอื่นแบบนี้เลยสักนิด แต่มองราชาปีศาจอำมหิตที่อยู่อีกมุมหนึ่งด้วยแววตาสนอกสนใจ
แม้ราชาปีศาจอำมหิตจะถูกพันธนาการ แต่หูไม่ได้หนวกเสียหน่อย!
เมื่อได้ยินบทสนทนาของทุกคน…หากไม่ใช่คนโง่ ก็คงจะเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
เป็นอย่างที่คิด หลังราชาปีศาจอำมหิตได้ยินบทสนทนาของพวกเขา ตาก็เบิกโพลง เกือบจะเป็นลมไปเสียแล้ว
ที่แท้ทุกอย่างก็เป็นเพียงการแสดง!
เพียงแต่ว่านักแสดงไม่ใช่ราชาปีศาจปัญญา แต่เป็นนักพรตมนุษย์พวกนี้!
คุณพระ! เขาทำอะไรกับราชาปีศาจปัญญากัน!
ว่ากันว่าความอำมหิตโหดเหี้ยมเป็นเอกลักษณ์ของราชาปีศาจไม่ใช่หรือ ทำไมนักพรตพวกนี้ชั่วร้ายกว่าพวกเขา พวกเขากลายเป็นผู้เคราะห์ร้ายแทนล่ะ
ราชาปีศาจอำมหิตปวดใจเหลือเกิน อัดอั้นตันใจยิ่งนัก รู้สึกสงสัยในชีวิตปีศาจเป็นหนแรก
ในฐานะปีศาจ ถูกนักพรตมนุษย์ต้มเสียเปื่อย ไม่มีหน้าจะอยู่ต่อไปแล้ว!
แต่ว่า ตอนนี้แม้แต่สิทธิ์ในการตายก็ถูกนักพรตมนุษย์พรากเอาไปแล้ว…
เมื่อนักพรตมนุษย์หารือกันเสร็จแล้ว ก็จดจ้องมาที่ราชาปีศาจอำมหิตอีกครั้ง
ตอนนี้ ได้เวลาของขั้นตอนสอบปากคำแล้ว!
เซวียนหยวนเฉิงปลดพันธนาการบางส่วนของราชาปีศาจอำมหิต ทำให้เขาสามารถพูดได้
“เจ้าพวกระยำ บังอาจทำให้ราชาปีศาจปัญญาตาย พวกเจ้าเลวทรามต่ำช้า! พวกเจ้ามันไม่มียางอาย!” เมื่อพันธนาการถูกปลด ราชาปีศาจอำมหิตก็ตะโกนด่าทอนักพรตมนุษย์ทันที
“เอ๊ะ สหายปัญญาถูกพวกแกฆ่าไม่ใช่เหรอ ทำไมมาโทษพวกเราล่ะ” ใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มของเถียนหลิงหลิงเต็มไปด้วยความสงสัย เบะปากอย่างไม่พอใจ
ราชาปีศาจอำมหิตได้ฟัง เลือดลมก็ไหวเวียนติดขัดขึ้นมาโดยพลัน ไฟโทสะสุมทรวง เลือดไหลออกจากมุมปาก…
บัดซบ!
ยามนี้แล้วยังมีหน้าเรียกราชาปีศาจปัญญาว่า ‘สหายปัญญา’ อยู่อีก นักพรตคนนี้ช่างหน้าไม่อายจริงๆ!
“เอาล่ะๆ หยุดต่อปากต่อคำกันได้แล้ว คุยเรื่องสำคัญเถอะ” อันหลินโบกมือ มองราชาปีศาจอำมหิตอย่างเห็นใจ
ทุกคนได้ฟังก็พยักหน้า ตอนนี้ทำความจริงให้กระจ่างต่างหากเป็นเรื่องสำคัญ
นักพรตทั่นอวิ๋นพูดกับราชาปีศาจอำมหิตว่า “ฉันขอถามแก ทำไมแกต้องวางแผนล้อมสังหารนักพรตมนุษย์ระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณด้วย มีเป้าหมายอะไรกันแน่”
ราชาปีศาจอำมหิตแสยะยิ้ม “ต่อให้ข้าต้องตาย ก็ไม่ยอมบอกพวกเจ้าเด็ดขาดว่าเพราะเหตุใด ข้าขอสาปแช่งให้พวกเจ้าติดอยู่ในฝันร้ายตลอดกาล ทนทุกข์ทรมานปานมีดนับพันนับหมื่นกรีดเนื้อ! ขอให้วิญญาณของพวกเจ้าถูกเปลวไฟแผดเผาไปชั่วกัปชั่วกัลป์ ไม่มีวันหลุดพ้น! ขอให้พวกเจ้า…”
ราชาปีศาจอำมหิตสาปแช่งไม่หยุดไม่หย่อน แต่ให้ตายอย่างไรก็ไม่ยอมปริปากบอกเป้าประสงค์ที่แท้จริงของปฏิบัติการในครั้งนี้
“ท่าทางจะขาดขั้นตอนการทรมานไปไม่ได้…” อันหลินส่ายหน้า เอ่ยถามนักพรตสิบกว่าคนรอบกายว่า “ใครจะเริ่มก่อน”
ราชาปีศาจอำมหิตทำหน้าถมึงทึง “พวกเจ้าเข้ามาได้เลย ข้าผ่านทุกความทุกข์ทรมานมาหมดแล้ว ต่อให้แล่เนื้อข้าทั้งเป็น ก็อย่าหวังว่าจะได้ข้อมูลแม้แต่เศษเสี้ยวไปจากข้า!”
ผู้พิทักษ์เอ่ยปากก่อนใครว่า “ขอฉันลองดูหน่อย!”
ขณะที่พูด เขาก็ล้วงเข็มฉีดยาออกจากกระเป๋า “นี่เป็นยาเพิ่มความเจ็บปวดที่ฉันแอบขโมยมาจากห้องปฏิบัติการชีววิทยาขั้นสูงของอเมวา แค่ฉีดยาเข้าไป เส้นประสาทก็จะอ่อนไหวอย่างรุนแรง แถมยังต้องทนทุกข์ทรมานปานมดหมื่นตัวกัดกินหัวใจ!”
เมื่อทุกคนได้ฟังมุมปากก็กระตุก บริษัทอเมวาเป็นบริษัทชีววิทยาขั้นสูงที่มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับกองทัพอเมริกา…
เจ้านี่ขโมยของจากบริษัทอเมริกาไปเท่าไรแล้ว!
“อีกอย่าง ยาตัวนี้เคยผ่านการดัดแปลงด้วยวิชาปรุงยาของฉันแล้ว นักพรตระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณทั่วไปไม่สามารถใช้พลังในร่างกายขจัดมันได้!”
ใบหน้าอวบอ้วนของผู้พิทักษ์มีรอยยิ้มชั่วร้ายผุดออกมา จากนั้นก็ชูเข็มฉีดยาขึ้น ฉีดยาเข้าสู่เส้นเลือดของราชาปีศาจอำมหิตทันที!
ผ่านไปชั่วครู่ ราชาปีศาจอำมหิตก็แผดร้องออกมาอย่างทรมาน ความเจ็บปวดปานมดหมื่นตัวกัดกินหัวใจ ถูกระบบประสาทอันอ่อนไหวทำให้เพิ่มขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด ความเจ็บปวดแบบนี้ น่ากลัวยิ่งนัก!
“เป็นไงบ้าง แกจะพูดหรือไม่พูด” ผู้พิทักษ์มองราชาปีศาจอำมหิตพลางพูดเสียงเรียบ
“ไม่พูด! ต่อให้เจ็บปวดอีกร้อยเท่าแล้วอย่างไร!” ราชาปีศาจอำมหิตตะโกนลั่น
เจ้าอ้วนได้ยินก็ขมวดคิ้ว วิธีนี้เป็นวิธีเดียวที่เป็นภัยคุกคามที่สุดสำหรับเขาแล้ว
หากว่าเพิ่มฤทธิ์ยา จะทำให้ระบบประสาทของราชาปีศาจอำมหิตรับไม่ไหว จนกลายเป็นอาการชาแทน เช่นนั้นจะไม่เอื้อต่อการสอบปากคำ
ขณะนั้นเอง สวีเสี่ยวหลานก็ก้าวออกมา ปลายนิ้วมีเปลวอัคคีของพญาหงส์เริงระบำ “ขอข้าลองดูหน่อย”
พูดจบ เปลวอัคคีแห่งพญาหงส์ก็พุ่งออกมา แทรกซึมเข้าไปในร่างกายของราชาปีศาจอำมหิต
“อ๊าก!” ราชาปีศาจอำมหิตกรีดร้อง
เขารู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ท่ามกลางเปลวไฟ เรือนร่างถูกแผดเผาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ทุกอณูรูขุมขน แม้แต่อวัยวะภายในก็ราวกับถูกเผาจนเกรียม ทรมานเหลือเกิน
“เจ้าจะยอมบอกไหม” ดวงตาสุกใสของสวีเสี่ยวหลานจ้องราชาปีศาจอำมหิตพลางเอ่ยถาม
“ไม่บอก! ต่อให้เจ้าเพิ่มพลังอัคคีเป็นร้อยเท่าแล้วอย่างไร ข้าก็ไม่ยอมบอกอยู่ดี!” ราชาปีศาจอำมหิตจะขัดขืนให้ถึงที่สุด
สวีเสี่ยวหลานส่ายหน้า “ร้อยเท่าไม่ได้ แต่ข้าเพิ่มหนึ่งเท่าได้…”
“อ๊าก!” เสียงร้องโหยหวนของราชาปีศาจอำมหิตดังกึกก้อง
ในใจเขามีแต่ความสิ้นหวัง ความเจ็บปวดแบบนี้เพิ่มขึ้นอีกเท่าได้ด้วยหรือ…
แต่ว่า เขาก็ยังไม่ยอมปริปากอยู่ดี!
สวีเสี่ยวหลานจนปัญญา ลำดับต่อไป นักพรตทั่นอวิ๋นเริ่มสอบปากคำแล้ว
วิธีเมฆหมอกพิฆาตของเขา ไม่เพียงแค่ใช้ได้กับร่างกายเท่านั้น แต่ยังก่อกวนพลังปราณของราชาปีศาจอำมหิต ทำให้ความเจ็บปวดทวีความรุนแรงได้อีกด้วย
ราชาปีศาจอำมหิตร้องโหยหวน แต่เขาก็ยังกัดฟันทน
จากนั้น วิชาเสียงหายนะของเซียนหญิงเมิ่งอินก็เล่นงานโสตประสาทและจิตวิญญาณ…
ราชาปีศาจอำมหิตร้องโหยหวน แต่เขาก็ยังกัดฟันทน
ต่อมา วิชาเหรียญทองแดงสกัดจี้ของเทพพยากรณ์ก็เล่นงานจุดลมปราณทั้งหลาย…
ราชาปีศาจอำมหิตร้องโหยหวน แต่เขาก็ยังกัดฟันทน
ตามมาด้วยเซวียนหยวนเฉิงและพวกเซียนกระบี่ชิงเหอ ต่างก็สำแดงเดช สรรหาร้อยพันวิธีมาทรมาน…
ราชาปีศาจอำมหิตร้องโหยหวน กัดฟันจนฟันกร่อนแล้ว น้ำตาไหลลงมาโดยไม่รู้ตัว แต่เขาก็ยังไม่ยอมปริปากบอกแม้แต่คำเดียวอยู่ดี
ราชาปีศาจอำมหิตเสียใจยิ่งนัก เขารู้สึกว่าตัวเองอยู่ในขุมนรก นัยน์ตาเปี่ยมด้วยความสิ้นหวัง
หากรู้แต่แรกคงเลือกความตาย…
ก่อนหน้านี้ยังเวทนาราชาปีศาจปัญญา คิดว่าเขาตายอย่างอนาถที่สุด
แต่ตอนนี้กลับพบว่า ในบรรดาจุดจบของราชาปีศาจทั้งสี่ เขาต่างหากที่อนาถที่สุด!
วิธีการทรมานที่น่ากลัวที่สุด ทั้งวิธีที่เขาจินตนาการได้หรือเหนือจินตนาการ ล้วนได้สัมผัสที่นี่แล้ว
หากเขาเป็นพวกซาดิสม์ คงจะสำลักความสุขจนตายอยู่ที่นี่แน่!
อันหลินรู้สึกนับถือความเด็ดเดี่ยวของราชาปีศาจอำมหิตขึ้นมาบ้างแล้ว
ร้อยแปดวิธีทรมานถูกนำมาใช้ทั้งหมด แต่ก็ยังง้างปากเขาไม่ได้อยู่ดี
เหล่านักพรตมนุษย์ทารุณราชาปีศาจอำมหิตอย่างต่อเนื่อง แทบจะเข้าขั้นซาดิสม์แล้ว แต่ราชาปีศาจอำมหิตคนนี้ยังคงไม่ปริปาก ปิดปากเงียบ
…
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน นักพรตมนุษย์สิบกว่าชีวิตต่างก็จ้องมองผู้ชายที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผล คุกเข่าผมเผ้ากระเซอะกระเซิงคนนี้ด้วยความนับถือ
สีหน้าของเขาเหม่อลอย ปากพึมพำว่า “ข้าไม่บอก ข้าไม่บอก ข้าไม่บอก…”
ท่าทางแบบนี้…ถูกทารุณกรรมจนไม่มีสติแล้ว
มุมมองของอันหลินแปรเปลี่ยนไป
แม้แต่กับยาอายุวัฒนะเขาก็ไม่ยอมก้มหัวให้ แต่ยอมราชาปีศาจอำมหิตคนนี้!
ขณะที่พวกเขาถอดใจ ดอกไม้สีแดงก็ยื่นหัวออกมาจากกระเป๋าของอันหลิน พูดเสียงน่าฟังว่า
“คือว่า…นายท่าน ให้ข้าลองดูหน่อยได้ไหม”