ตอนที่ 117 เหตุการณ์วุ่นวาย! + ตอนที่ 118 ถอนตัวออกจากตระกูล! Ink Stone_Romance
ตอนที่ 117 เหตุการณ์วุ่นวาย!
ผู้คนทั้งตะลึงและประหลาดใจอย่างมาก มีเพียงผู้นำตระกูลกวนที่ใบหน้าดำมืดราวกับหม้อต้ม และมีความหมองหม่นเอ่อล้นทะลักออกมา
สองมือเขากำหมัดแน่น มองกวนสีหลิ่นบนเวทีด้วยแววตามัวหมองนัก ในดวงตาฉายแววจิตสังหารอันเยียบเย็น
ส่วนกวนสีหร่วนในเวลานี้ มือข้างหนึ่งถูกหัก มืออีกข้างถูกบิดกดไว้บนเวที ร่างกายไม่อาจขยับเขยื้อนได้แม้สักนิด เพราะใบหน้าแนบติดชิดพื้น ถึงกับส่งเสียงร้องไม่ออกด้วยเหตุนี้
กวนสีหลิ่นจ้องมองพี่ชายที่พ่ายแพ้ในเงื้อมมือด้วยแววตาซับซ้อน เดิมคิดจะทำลายแขนเขาเสีย ทว่าในหัวกลับนึกถึงภาพที่เคยฝึกฝนวิชาด้วยกันตอนเด็กๆ จึงอดไม่ได้ที่จะใจอ่อน
“ท่านแพ้แล้ว”
เขาดึงมือกลับ ละสายตาออกมองไปล่างเวที หนึ่งมีดนั้นที่ด้านหลังในป่าเก้าหมอบตัดขาดสิ้นซึ่งสัมพันธ์พี่น้องระหว่างพวกเขาไปนานแล้ว วันนี้ที่เอาชนะพี่ชายได้ เป็นการพิสูจน์ตัวเอง เพื่อบอกพวกเขา ว่ากวนสีหลิ่นไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร!
“ช่างเป็นหนุ่มน้อยยอดวีรบุรุษโดยแท้ ท่านผู้เฒ่ากวน หลานท่านทำให้ข้าตะลึงมากจริงๆ! แสดงความยินดีกับท่านผู้เฒ่ากวน เด็กๆ ในตระกูลโดดเด่นเช่นนี้ อนาคตต้องไร้เทียมทานแน่!”
เหล่าท่านผู้นำตระกูลเห็นการตัดสินแพ้ชนะ ต่างพากันเอ่ยแสดงความยินดีกับท่านผู้เฒ่ากวนข้างๆ ในวงศ์ตระกูลมีเด็กหนุ่มมากพรสวรรค์เช่นนี้ คงรุ่งโรจน์ขึ้นจริงๆ ในไม่ช้า!
“เหอะๆๆ ขอบคุณมากๆ”
ผู้เฒ่ากวนยิ้มแย้มอยู่ไม่หยุดปาก เมื่อสายตาที่มีรอยยิ้มและความพึงพอใจมองขึ้นไปบนเวที สีหน้ากลับพลันผันเปลี่ยนยกใหญ่ เปล่งเสียงอุทานตะโกนลั่น
“หยุดนะ!”
ผู้คนตื่นตกใจ มองไปตามสายตา พอเห็นก็ตะลึงงันกันอย่างมาก
เห็นเพียงกวนสีหร่วนที่ตะเกียดตะกายตัวขึ้นมาจากเวที ดึงมีดสั้นที่ซ่อนไว้ในรองเท้าออกมา แทงไปยังกวนสีหลิ่นที่กำลังหันหลังให้ด้วยแววตาดุดันบ้าคลั่ง
แต่กวนสีหลิ่นที่หันหลังอยู่กลับหมุนตัวเตะสวนทันทีท่ามกลางเสียงอุทานของฝูงชนโดยไม่แม้แต่จะหันกลับไป กวนสีหร่วนที่จับมีดสั้นแทงเข้ามาพลันกรีดร้อง ทั้งร่างกระเด็นกลิ้งร่วงลงล่างเวทีออกไปไกลหลายเมตร
“อั่ก!”
กวนสีหร่วนที่ร่วงลงด้านล่างกระอักเลือดออก ทั้งตัวนอนแผ่บนพื้นด้วยลมหายใจรวยริน แม้แต่แรงจะลุกยืนขึ้นมาก็ยังไม่มี
“สีหร่วน!”
ผู้นำตระกูลกวนอุทาน เร่งฝีเท้าวิ่งเข้าไปประคองคนขึ้น
“ท่านพ่อ ฆ่า ฆ่าเขาซะ!”
สองมือกำขยำแขนเสื้อท่านพ่อไว้แนน เอ่ยคำพูดประโยคนี้ออกมาอย่างยากลำบากเพราะมีเลือดเอ่อล้นอยู่ในปาก
เคอซินหย่านิ่งอึ้ง มองสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทีละภาพๆ อย่างตกตะลึงไปทั่วร่าง เพียงรู้สึกว่าทั้งผืนฟ้าล้วนล่มทลายลงมา การจู่โจมอันทรงพลังทำให้ความคิดอ่านไม่อาจใจเย็นขึ้นมาได้ เลือดลมหมุนตลบขึ้นไปบริเวณลำคอเสียจนมีรสฝาด
“อั่ก!”
นางกระอักเลือดออกมา ภาพตรงหน้าดับมืด และทั้งร่างก็เป็นลมล้มไป
“ซิน ซินหย่า!”
นายท่านเคอกับฮูหยินเคออุทานเสียงสั่นเครือ รีบร้อนรับตัวคนไว้
เห็นเหตุการณ์ที่สับสนอลหม่าน ผู้คนล้วนมีสีหน้างุนงง ตระกูลกวนนี้ จะวุ่นวายเกินไปแล้วกระมัง?
ลูกชายผู้นำตระกูลกวนชวดตำแหน่งนายน้อยในการคัดเลือก แล้วยังจะถือมีดมาฆ่าคนอีกรึ? ตอนนี้ยังดี กำลังตัวเองสู้ไม่ไหวจึงถูกเตะกระเด็นออกไป ด้วยแรงเท้าของกวนสีหลิ่น แค่พวกเขามองยังสะพรึง เดาว่าไม่สิบวันก็ครึ่งเดือนเขาคงลงจากเตียงไม่ไหว
แต่ว่า เมื่อเทียบกับเขาที่เคลื่อนไหวตามจิตคิดสังสาร ลูกเตะนั้นของกวนสีหลิ่นยังถือว่าเมตตานัก มิเช่นนั้น ด้วยพละกำลังเท่านี้ หากอยากจะฆ่าเขาระหว่างที่หันตัวกลับ เดิมทีก็เป็นเรื่องที่จัดการได้อย่างง่ายดาย
เฟิ่งจิ่วด้านล่างหรี่ตายิ้มพลางมองเหตุการณ์วุ่นวายนี้ เหมือนกลัวว่าใต้หล้าจะไม่อลหม่าน เอ่ยอย่างยิ้มกริ่มว่า “ท่านพี่ ท่านยังมีเรื่องต้องพูดไม่ใช่หรือ? รีบหน่อย พอพูดเสร็จพวกเราต้องเดินทาง ที่นี่วุ่นวายเกินไปแล้ว”
…………………………
ตอนที่ 118 ถอนตัวออกจากตระกูล!
ทุกคนฟังนางเรียกท่านพี่ ต่างชะงักไปพักหนึ่ง แต่ไม่เคยได้ยินว่ากวนสีหลิ่นมีน้องสาวด้วย? หรือว่า คุณหนูท่านนี้จะเป็นญาติห่างๆ ของตระกูลกวน?
“คุณหนูเป็นคนตระกูลกวนรึ?”
บุรุษนายนั้นที่ยืนอยู่ด้านข้างเฟิ่งจิ่วเอ่ยถามอย่างสงสัย แอบคิดว่า ‘หากเป็นคนตระกูลกวน หลังกลับไปเขาจะให้ท่านพ่อมาสู่ขอที่บ้านแน่นอน ไม่เพียงได้สานสัมพันธ์อันดีกับตระกูลกวน ซ้ำยังได้อุ้มสาวงามกลับบ้าน ไยจะไม่ยินดีเล่า?’
“ไยข้าจึงจำไม่ได้ ว่าตระกูลกวนมีคนเช่นเจ้าอยู่ด้วย?” ท่านผู้เฒ่าจ้องมองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง น้ำเสียงชราภาพทุ้มเล็กน้อย
เฟิ่งจิ่วกะพริบตาลง กล่าวอย่างแปลกใจ “อย่าได้สำคัญตัวเองผิดไป ข้าบอกตอนไหนว่าเป็นคนของของตระกูลกวนท่าน?”
“บังอาจนัก!”
“อย่ารังแกน้องสาวข้า!”
สิ้นสุดเสียงตะโกนของท่านผู้เฒ่ากวน กวนสีหลิ่นบนเวทีก็แผดเสียงดังลั่งตามมาติดๆ ท่าทางขึงขังไม่ด้อยไปกว่าท่านปู่ ทำให้ทุกคนต่างขวัญหนีดีฝ่อ ไม่แม้แต่จะส่งเสียงดังตอบโต้กลับมา
เขาบ้าไปแล้วรึ? ท่านผู้เฒ่ากวนเป็นปู่แท้ๆ ของเขา นึกไม่ถึงเลยว่าจะขึ้นเสียงดังกับท่านขนาดนั้น?
แม้แต่ผู้เฒ่ากวนก็ยังมีสีหน้าแดงก่ำ ไม่รู้ว่าอับอายหรือโกรธเคือง ร่างกายสั่นเทาอยู่เล็กน้อย ไม้เท้าที่ถือค้ำไว้ในมือเคาะลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง เอ่ยปากด่าทอเสียงดัง “เจ้ามันนอกคอก! คิดนอกคอกกันไปหมดแล้วรึ? แต่ละคนกลายเป็นพวกนอกคอกกันไปแล้วกระมัง? ยังมีระเบียบกันอยู่อีกรึ?”
กวนสีหลิ่นด้านบนนิ่งรับสายตาขุ่นเคืองโดยไม่คิดถอยหนี ผึ่งผายแผงอก มองลึกไปที่ท่านปู่ด้วยสายตาที่มีความเฉียบขาด ความแข็งขืนที่แอบแฝงในแววตา ทำให้ท่านผู้เฒ่ากวนที่เดิมยังโกรธเกรี้ยวไม่สิ้นสุด ตื่นตระหนกขึ้นมาในหัวใจชั่วขณะ
เมื่อกำลังจะเอ่ยปากให้ทุกคนออกไปก่อน ก็ได้ยินน้ำเสียงทรงพลังที่มีกลิ่นอายพลังเร้นลับดังลอยมาจากปาก เข้าสู่หูของทุกคนเบื้องล่างอย่างชัดเจน
“ข้า กวนสีหลิ่นขอประกาศไว้ ณ ที่นี้ ว่าจะถอนตัวจากตระกูล! ตั้งแต่วันนี้ไป ทั้งคนและเรื่องในตระกูลกวนนี้ จะไม่เกี่ยวข้องกับข้าอีก!”
น้ำเสียงชายหนุ่มเปล่งออกมาดังสนั่นและทรงพลัง ราวกับสายฟ้าผ่าลงในหัวใจผู้คนทีละถ้อยทีละคำ ระหว่างที่พวกเขาต่างสูดหายใจเข้ากันด้วยความตกใจ ก็รู้สึกเหลือเชื่อ
ถอนตัวจากตระกูล? เขาบ้าไปแล้วรึ?
การมีวงศ์ตระกูลคอยคุ้มหัวกับไม่มีนั้นช่างแตกต่างกันนัก เด็กหนุ่มที่มีความสามารถโดดเด่นเช่นนี้ การถอนตัวออกจากตระกูลจะหมายความว่าอะไร? นั่นหมายถึงการตัดขาดซึ่งหนทางการฝึกฝนวิชา พอไม่มีตระกูลคอยเป็นโล่กำบังให้ ก็กลายเป็นหัวเดียวกระเทียมลีบ!
ผู้นำตระกูลกวนที่ให้องครักษ์ประคองลูกชายตนเองกลับเข้าเรือนมองกวนสีหลิ่นด้านบนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม แววตาเป็นประกายน้อยๆ ไม่พูดไม่จา
ทว่าท่านผู้เฒ่ากวนกลับโมโหเสียจนสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง ชี้ไปที่เขา “เจ้า แน่จริงเจ้าลองพูดอีกรอบสิ!”
แววตากวนสีหลิ่นลึกล้ำ กล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง “พูดอีกร้อยครั้งก็ยังเหมือนเดิม ข้ากวนสีหลิ่น ขอถอนตัวจากตระกูล!”
“กวนสีหลิ่น เจ้าชนะการคัดเลือก เป็นนายน้อยตระกูลกวน จะถอนตัวจากตระกูลได้เช่นไรเล่า!” ด้านล่างเวที เด็กหนุ่มคนหนึ่งตะคอกเสียงดังใส่กวนสีหลิ่นบนเวทีด้วยท่าทางกังวลใจ “เจ้ารีบๆ ยอมรับผิดซะ ท่านปู่จะได้ไม่เอาเรื่องเจ้า”
“ไม่ว่าพวกเจ้าจะยินยอมหรือไม่ วันนี้คำพูดของข้ามีเพียงเท่านี้ นี่เป็นเหตุผลที่ข้ากลับมาในวันนี้ ข้าจะไม่อยู่ในตระกูลกวนอีกต่อไป”
ได้ยินคำพูดนี้ ผู้เฒ่ากวนก็โวยวายด่าว่าเสียงดังอย่างเกรี้ยวกราด “ตระกูลกวนใจร้ายกับเจ้าหรืออย่างไร? เจ้าถึงอยากถอนตัว? วันนี้หากเจ้าไม่บอกเหตุผลมา ก็อย่าคิดว่าจะถอนตัวจากตระกูลได้ ข้ายังต้องเชิญกฎระเบียบประจำตระกูลออกมาสั่งสอนหลานชายไร้ยางอายเช่นเจ้าดีๆ อีก!”
……………………………