เล่ม 1 ตอนที่ 67 บนโลกนี้มีเรื่องอะไรที่ข้าไม่กล้าด้วยหรือ!

ราชินีพลิกสวรรค์

“เจียงหลี เจ้ากล้าหรือ!”

 

 

ขณะที่เจียงหลีหลบการโจมตีของเย่ว์หนานซี มือหยิบกริชขึ้นมา เย่ว์ชิงหลิวลุกลี้ลุกลน เขาไม่สนใจกฎกติกาของการประลองชิงเจียว ปลดปล่อยพลังดั่งเหยี่ยว พุ่งทะยานไปที่เวทีการประลอง มือขวากลายเป็นกรงเล็บที่แหลมคมเล็งไปที่เจียงหลี เหมือนกับว่าแค่จับเจียงหลีได้ ก็สามารถบีบหัวนางให้ระเบิดได้

 

 

เจียงหลีมองเขา ในสายตาที่แวววาวเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม “บนโลกนี้มีเรื่องอะไรที่ข้าไม่กล้าด้วยหรือ” นางตอบกลับเย่ว์ชิงหลิวในทันที แทงกริชแร่อิ๋นเสวี่ยเข้าไปที่ขั้วหัวใจของเย่ว์หนานซีอย่างโหดเ**้ยมต่อหน้าเย่ว์ชิงหลิวและทุกๆ คน

 

 

ฉึก

 

 

เสียงคมกริชที่แทงเข้าเนื้อดังขึ้น เย่ว์หนานซีตาเบิกโพลง ไม่อยากจะเชื่อว่าเจียงหลีจะกล้าฆ่าตัวเอง “เจ้า…”

 

 

เย่ว์หนานซีอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่เขาเองก็คงไม่รู้ว่าจะพูดอะไร

 

 

เขาเป็นเทียนเจียวแห่งตระกูลเย่ว์ ต้องเป็นหน้าเป็นตาให้แก่วงศ์ตระกูล ต้องเป็นคนที่มีตำแหน่งสูงศักดิ์ในยุคราชวงศ์โฮ่วจิ้นนี้ ทำไมถึงได้มาตกตายตรงนี้

 

 

ตายในเงื้อมมือของนังผู้หญิงคนนี้

 

 

เจ็บปวด!

 

 

ช่างเจ็บปวดยิ่งนัก!

 

 

เขารับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่แสนสาหัสตรงหน้าอก รู้สึกว่าเลือดในตัวของเขาถูกกริชกลืนกินไป ร่างกายยิ่งรู้สึกเหน็บหนาวขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกก็ยิ่งเบาบางลง

 

 

ข้าไม่ยอม…ข้าไม่ยอม… เขาตะโกนอยู่ในใจ หางตาของเขาเห็นพ่อเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็ว เห็นสีหน้าที่โกรธแค้นของเขา ท่านพ่อ ช่วยข้าด้วย…ช่วยข้าด้วย…ข้าไม่อยากตาย…

 

 

น่าเสียดายที่เขาพูดมันไม่ออก ทำได้แค่ตายอย่างสิ้นหวัง “อ้ากกก ลูกชายข้า! ข้าจะฆ่าเจ้า เจียงหลี!” เย่ว์ชิงหลิวโมโหอย่างบ้าคลั่ง

 

 

เขามองดูลูกชายของตนต้องตายอย่างอนาถ เขาอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่กลับช่วยชีวิตไว้ไม่ได้ นึกไม่ถึงว่าเจียงหลีจะกล้าฆ่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนต่อหน้าเขา

 

 

เขาต้องฆ่านาง! ฆ่านางให้ได้! เพื่อล้างแค้นให้ลูกชาย! ยังต้องเอาแม่ของนางที่ตายไปแล้วขุดขึ้นมาจากสุสานแล้วเฆี่ยนซ้ำอีก!

 

 

“นายท่านเย่ว์ หยุดก่อน!” ผู้ตรวจตรารีบขึ้นมาบนเวที ยืนอยู่หน้าเจียงหลีแล้วขัดขวางเย่ว์ชิงหลิวผู้เคียดแค้น

 

 

เหตุการณ์ก่อนหน้า เขาขัดขวางไว้ไม่ทัน ทำให้เกิดเรื่องร้ายแรง ตอนนี้ต้องห้ามไม่ให้ใครได้รับบาดเจ็บต่อหน้าเขาอีกเด็ดขาด มิฉะนั้นเขาจะมีความผิด

 

 

แต่ทว่า เย่ว์ชิงหลิวจะสนใจคำพูดของเขาหรือ

 

 

เฮ่อเหลียนเฟิงกวาดตามองไปยังบนเวที ขมวดคิ้ว คิดอยู่ในใจ ไม่ดีแน่ เป็นเรื่องแล้ว เห็นเย่ว์ชิงหลิวไม่สนใจการขัดขวางของคนในจวนของเจ้าเมือง ยังคงมองไปที่เจียงหลี ร่างกายเขาหายแวบไปบนเวที

 

 

ในตอนที่ปรากฏตัวขึ้น ก็ยืนอยู่ที่กลางเวทีแล้ว ยกมือขึ้นรับการโจมตีของเย่ว์ชิงหลิว “นายท่านเย่ว์ หยุดเถอะ”

 

 

ทั้งสองล้วนเป็นหลิงเจี้ยง เย่ว์ชิงหลิวอยู่ในหลิงเจี้ยงขั้นเจ็ด เฮ่อเหลียนเฟิงนั้นเป็นหลิงเจี้ยงขั้นแปด คนหนึ่งมาด้วยความโกรธแค้น อีกคนหนึ่งจำใจต้องลงมือ รอบนี้ถือว่าทั้งสองเสมอกัน

 

 

การปรากฏตัวของเฮ่อเหลียนเฟิง ในที่สุดก็ยับยั้งเย่ว์ชิงหลิวไว้ได้

 

 

ตอนนี้ บนเวทีมีคนยืนอยู่สี่คน ยังมีอีกหนึ่งศพที่นอนอยู่ รอบๆ เวทีการประลองตกอยู่ในความเงียบ ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีคนตายในการประลองชิงเจียว

 

 

ไป๋หลี่เฟิ่งผู้ที่ยืนอยู่ที่มุมเงียบๆ ดูสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด แล้วมองที่เจียงหลี เคลื่อนตัวอย่างช้าๆ

 

 

เดิมเขาคิดว่าคงได้ต่อสู้กับนางสักยก การประลองของนางกับเย่ว์หนานซีเมื่อครู่นี้ ก็ยืนยันได้ว่าเขามองไม่ผิด

 

 

ถึงแม้ว่าเจียงหลีจะเป็นเพียงเด็กสาวอายุสิบสอง แต่กลับเป็นเพียงคนเดียวในการประลองชิงเจียวครั้งนี้ที่มีคุณสมบัติที่จะต่อสู้กับเขาได้

 

 

น่าเสียดาย นางได้ฆ่าคนบนเวทีการประลอง คงจะไม่สามารถแข่งขันต่อไปได้

 

 

ในแววตาของไป๋หลี่เฟิ่งมีความเสียดาย แต่กลับไม่มีท่าทีใดๆ เลย เหมือนกับทั้งหมดไม่มีความเกี่ยวข้องกับเขา

 

 

หนานอู๋เฮิ่นตามองไปบนเวที พลางหุบยิ้ม

 

 

อู๋เชียนพูดด้วยความเยือกเย็น “ข้าก็บอกแล้วว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ไม่รักษากฎกติกา อายุแค่นี้ แต่กลับชอบก่อเรื่องจริงๆ”

 

 

“ก็เห็นกันอยู่ว่าเย่ว์หนานซีจะฆ่านางก่อน ทำไมท่านอู๋ถึงบอกว่านางก่อเรื่องล่ะ” หนานอู๋เฮิ่นถามกลับด้วยใบหน้าอมยิ้ม

 

 

อู๋เชียนมองหนานอู๋เฮิ่นยิ้มแล้วพูดว่า “ท่านหนานเข้าข้างเด็กผู้หญิงคนนี้เกินไปแล้ว”

 

 

หนานอู๋เฮิ่นยิ้มแล้วพูดต่อ “ข้าก็พูดไปตามเนื้อผ้า”

 

 

“แต่ว่าในการประลองชิงเจียวมีกฎว่าห้ามฆ่าคน” อู๋เชียนพูด

 

 

“ท่านทั้งสองไม่ต้องเถียงกัน ข้าเชื่อว่าเจ้าเมืองเฮ่อเหลียนเฟิงต้องมีคำตัดสินที่ดีแน่” มู่หว่านโหรวเปิดปากพูด

 

 

นางจำใจต้องยอมรับว่าพลังของเจียงหลีที่ทำให้นางรู้สึกประหลาดใจ

 

 

กระทั่งพลังเลี่ยเทียนซื่อปรากฏขึ้นเมื่อครู่ นางก็ไม่น่าจะรับไหว นางเกิดสงสัยว่าตระกูลลู่ไม่เสียดายหรือที่เอาพลังที่ล้ำค่าเช่นนี้ให้กับนาง นางมีอะไรดีตรงไหนที่เข้าตาตระกูลลู่

 

 

พอนางเปิดปากพูด ก็เป็นธรรมดาที่หนานอู๋เฮิ่และอู๋เชียนต้องไว้หน้านาง

 

 

ด้านล่างเวทีการประลอง เจียงอวี๋แข็งทื่อไปทั้งตัว เหมือนกับอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง นางไม่อยากเชื่อว่าเย่ว์หนานซีจะตายเช่นนี้ เจียงหลีกล้าฆ่าเย่ว์หนานซีจริงๆ

 

 

“เจียงหลีนับวันยิ่งโหดเ**้ยมขึ้นเรื่อยๆ ฆ่าคนได้อย่างง่ายดาย!” น้ำเสียงนางเหอซื่อสั่นเครือ นางและลูกสาวต่างพึ่งพากันเพื่อมีชีวิตรอด พูดเสียงเบา “ดูแล้วตระกูลเย่ว์ก็พึ่งอะไรไม่ได้ อวี๋เอ๋อร์ พวกเราต้องรีบไป เจ้าวางใจเถอะ ด้วยใบหน้าอันงดงามของเจ้า หาคนที่เก่งกาจกว่าเย่ว์หนานซีได้แน่”

 

 

เจียงอวี๋สั่นไปทั้งตัว ตัวแข็งทื่อไปหมด นางอยากบอกกับแม่มากว่านางไม่บริสุทธิ์แล้ว ก่อนหน้านี้นางได้มอบร่างกายของนางให้เย่ว์หนานซีไปแล้ว แต่ตอนนี้เย่ว์หนานซีกลับเสียตายแล้ว “ท่านแม่ ข้า…”

 

 

“แม่รู้ว่าเจ้าชอบเย่ว์หนานซี แต่ว่าใครใช้ให้เขาไร้ประโยชน์เช่นนี้ นึกไม่ถึงว่าจะสู้เจียงหลีไม่ได้ แถมยังมาตายอีก ช่างเถอะ เจ้าก็ไม่ต้องไปนึกถึงแล้ว เชื่อฟังแม่ แม่ไม่เคยทำร้ายเจ้า” นางเหอซื่อพูดแทรกเจียงอวี๋ มองซ้ายมองขวา หาโอกาสที่จะหนี

 

 

แต่ว่าพอนางขยับ ก็รู้สึกว่ามีสายตาที่ดุดันคู่หนึ่งจับจ้องนางอยู่ นางเหอซื่อเงยหน้าขึ้นมามองไปบนเวที สบตากับเจียงหลีที่มีแววตาเหยียดหยาม

 

 

“อวี๋เอ๋อร์ พวกเราไม่ไปแล้ว รอดูการประลองคู่ต่อไป นางคิดว่าได้ทำให้ตระกูลเย่ว์ไม่พอใจ หลังจากฆ่าเย่ว์หนานซี ยังจะมีชีวิตรอดอยู่ได้อีกหรือ นางก็ลอยหน้าลอยตาอยู่ได้แค่ตอนนี้แหละ โชคชะตาของนางไม่เหมือนกับเจ้า” นางเหอซื่อเปลี่ยนใจเมื่อถูกสายตาเหยีดหยามของเจียงหลีจ้องมอง

 

 

บนเวทีการประลอง เจียงหลีมองไปรอบๆ ด้านล่างเวที เห็นนางเหอซื่อและลูกสาวไม่ได้คิดจะหนีแล้ว จึงยิ้มพอใจ แล้วมองไปที่หม่าหยวนจย่ายืนอยู่ แต่ตอนนี้เขาไม่อยู่แล้ว

 

 

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเขาต้องกลับไปตระกูลลู่อย่างเงียบๆ เพื่อนำทหารมาช่วยอย่างแน่นอน

 

 

“ท่านเจ้าเมือง ผู้หญิงคนนี้จิตใจโหดเ**้ยม ฆ่าคนในการประลองชิงเจียงอย่างโจ่งแจ้ง หรือว่าท่านเห็นว่านางเป็นสาวใช้ตระกูลลู่ เลยไม่กล้าทำให้ตระกูลลู่ไม่พอใจ ก็เลยปกป้องคนผิดงั้นรึ” เย่ว์ชิงหลิวพูดเรียกร้องความชอบธรรม

 

 

วันนี้ ใครก็ช่วยเจียงหลีไม่ได้!

 

 

เพราะคำพูดของเขา ทำให้เฮ่อเหลียนเฟิงโกรธเล็กน้อย แต่เขาก็พูดอย่างยุติธรรมว่า “การประลองจบลงแล้ว แพ้หรือชนะ ผู้คนก็รู้กันอยู่แก่ใจ แต่คุณชายเย่ว์ไม่ยอมรับผล ลอบสังหารเจียงหลี นายท่านเย่ว์ กริชที่ใช้ลอบสังหาร ยังอยู่บนเวทีอยู่เลย”

 

 

เย่ว์ชิงหลิวสีหน้าเปลี่ยน ถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “เจ้าเมืองเฮ่อเหลียนเฟิงหมายจะปกป้องนางฆาตกรคนนี้งั้นรึ”

 

 

ตอนที่เขาพูดจบ คนตระกูลเย่ว์ต่างพากันเข้าล้อมรอบๆ เวทีการประการลองไว้