อี้เฉินเฟยกับซั่งกวนฉู่มองเยี่ยเฟิงอย่างละเอียดถี่ถ้วนทีละคนๆ

ชายผู้นี้นั้นเกรงว่าจะไม่ธรรมดา

“ใช้ไฟสลายผึ้ง ใช้ไฟ……” อาจารย์สวีตะโกนเสียงดังพวกองครักษ์จึงได้รีบหาคบไฟมาถึงได้ขับไล่ผึ้งทั้งหมดบนร่างกายของเจ๋ออ๋องไป

หลังจากเหตุการณ์นี้แล้วเจ๋ออ๋องก็เกือบจะเสียชีวิต

หมอหลวงแต่ละคนหิ้วหีบยามารักษาอาการให้

เซี่ยวอวี่เซวียนกลืนน้ำลาย “แม่สาวอัปลักษณ์ที่แท้เจ้าก็จงใจเทน้ำผึ้งบนตัวเขา”

“พูดจาไร้สาระ ข้านั้นหวาดกลัวจึงได้ป้องกันตนเอง”

หวาดกลัว?

นางหวาดกลัวเป็นด้วย?

แม่สุกรสามารถปีนขึ้นต้นไม้ได้แล้ว

“แม่สาวอัปลักษณ์ เหตุใดผีเสื้อถึงได้เกาะอยู่บนรูปดอกโบตั๋นของเจ้า? หรือว่าเจ้าไม่ได้ใช้น้ำผึ้งเพื่อมาโกงหรอกหรือ?

กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างรื่นเริงพร้อมกล่าวอย่างเกียจคร้านว่า “เนื่องจากฝีมือการวาดของข้ายอดเยี่ยมไง”

“ข้าเชื่อเจ้ากับผีสิ” เซี่ยวอวี่เซวียนเลียนแบบน้ำเสียงของนางแล้วกล่าวอย่างโมโหและยังมีความสุขที่ได้เห็นเจ๋ออ๋องพ่ายแพ้

เนื่องจากหาไม่พบว่ารูปดอกโบตั๋นของกู้ชูหน่วนโกง ครั้งนี้จึงตัดสินว่ากู้ชูหน่วนกับเยี่ยเฟิงชนะด้วยกันและได้รับรางวัลที่หนึ่ง

กู้ชูหน่วนแสร้งทำเป็นปวดใจแล้วกล่าวอย่างไม่เป็นธรรมว่า “ท่านเจ๋ออ๋องข้าบอกแล้วว่าข้าไม่ได้โกงแต่ท่านก็ไม่เชื่อ ดูสิ ผึ้งมาประท้วงกันแล้ว”

“กู่ชูหน่วน ข้าจะสังหารเจ้าเสีย……”

เจ๋ออ๋องลุกขึ้นอย่างโกรธเคืองและต้องการที่จะบีบคอกู้ชูหน่วนให้ตาย แต่ว่าถูกผึ้งต่อยหนักเกินไปเขาเพิ่งลุกขึ้นมาก็นั่งตัวแข็งลงจนหงายล้มเท้าชี้ฟ้าไปเลย

กู้ชูหน่วนส่ายศีรษะพร้อมถอนหายใจ “ดูสิ แม้แต่สวรรค์ก็ทนดูไม่ได้”

“กู้ชูหน่วน……โอ๊ย……”

เจ๋ออ๋องโกรธยิ่งนักไหนเลยจะยังมีภาพลักษณ์อยู่ แล้วยังจะสามารถสนใจทูตจากแคว้นต่างๆที่อยู่ฝั่งหนึ่งได้ที่ใด แววตาของเขาลุกโชนจนแทบจะพังพินาศไปพร้อมกับกู้ชูหน่วน

เขาในเวลานี้ราวกับหญิงปากร้าย หากมิใช่ว่าเขาบาดเจ็บสาหัสและคนรับใช้จับตัวเขาเอาไว้แน่นก็คงจะต่อสู้กับกู้ชูหน่วนไปนานแล้ว

หลังจากกู้ชูหน่วนตบหน้าอกเล็กๆของตนเองด้วยความหวาดผวาแล้วกล่าวอย่างหวาดกลัวว่า “หม่อมฉันไม่รู้ว่าเจ๋ออ๋องเป็นผู้ที่ไม่สามารถพ่ายแพ้ได้ เพื่อเงินสองล้านตำลึงเล็กน้อยนั้นแล้วช่างไร้ยางอายเช่นนี้ได้”

แม้จะเป็นปรมาจารย์หมากรุกก็เกือบจะล้มลงไปแล้ว

เจ้าเด็กน้อยคนนี้ทำให้คนโกรธโดยไม่กล่าวเหตุผลเลย

เจ๋ออ๋องนั้นเพื่อเงินสองล้านตำลึงนั้นที่ใดกัน เห็นชัดว่านางแกล้งอ่อนแอหลอกให้ตายใจโดยจงใจเทน้ำผึ้งใส่ร่างของเขา

เมื่อเห็นว่าเจ๋ออ๋องถูกต่อยบาดเจ็บไปทั่วร่างแม้แต่ใบหน้าอันหล่อเหลาก็บวมขึ้นมา ปรมาจารย์หมากรุกเห็นแล้วก็รู้สึกเจ็บปวด

“กู้ชูหน่วนหากข้าไม่ล้างแค้นข้าก็ไม่ใช่บุรุษแล้ว”

“เจ้าดูเจ้าสิอายุก็ปูนนี้แล้วในจวนไม่มีนางสนมเลยแม้แต่คนเดียวผู้ใดจะรู้ว่าเจ้าเป็นบุรุษ? แต่หากว่าเจ้าต้องการพิสูจน์จริงๆก็ถอดกางเกงออกเลยโดยตรงให้ทุกคนเห็นก็จะได้รู้”

เจ๋ออ๋องโมโหจัดจนแทบจะเป็นลมไป หมอหลวงรีบเร่งกันจับตัวเขาเอาไว้โดยเกรงว่าจะเกิดสิ่งไม่คาดคิดกับเจ๋ออ๋องขึ้น

คนในที่นั้นแต่ละคนลิ้นจุกปากพูดไม่ออก

หญิงผู้นี้ก็ช่างโหดร้ายยิ่งนัก นางไม่ทำให้เจ๋ออ๋องถึงตายก็ไม่รู้สึกพอใจหรือ?

จักรพรรดิเยี่ยทรงไม่พอพระทัยแล้วตรัสอย่างเย็นชาว่า “เจ๋ออ๋องได้รับบาดเจ็บสาหัส นำตัวเขาออกไปรักษาก่อนเถอะ”

“ข้าไม่ไป หากว่าวันนี้ไม่ชนะแม่สาวอัปลักษณ์ผู้นั้นข้าจะไม่ยอมแพ้” เจ๋ออ๋องจ้องไปยังกู้ชูหน่วนอย่างดุเดือดโดยอยากจะถลกหนังเลาะกระดูกของนางแล้วฉีกออกเป็นชิ้นๆ

หมอหลวงเกลี้ยกล่อมว่า “ท่านอ๋อง ท่านได้รับบาดเจ็บสาหัสและต้องรีบรักษาเป็นการด่วน ไม่สามารถล่าช้าได้พ่ะย่ะค่ะ”

“ไปให้พ้น บาดแผลของข้าข้ารู้ดี” วันนี้ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะต้องให้กู้ชูหน่วนสูญเสียทั้งฐานะและชื่อเสียงลงให้ได้

“เอ่อ……แล้วสองล้านตำลึงของหม่อมฉันหล่ะ?”

“พวกเจ้า ไปในจวนของข้านำเงินสองล้านตำลึงมาให้นาง”

กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างอารมณ์ดี “ในเมื่อท่านอ๋องต้องการที่จะประลองต่อเช่นนั้นก็ประลองต่อเถอะ ต่อไปประลองสิ่งใดหล่ะ?”

สวัสดีผู้อ่านทุกท่านขอบคุณที่ติดตามนิยายของผู้เขียนนะคะ