ตอนที่ 207 คุณดำเนินงานได้...สนุกมาก / ตอนที่ 208 หึง

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 207 คุณดำเนินงานได้…สนุกมาก 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เกือบจะโพล่งออกมา บอกเธอว่าถังหยวนซือคือคนที่ไปช่วยเธอในวันนี้ 

 

 

แต่พอนึกถึงคำเตือนของอวี๋เยว่หาน เหนียนเสี่ยวมู่ก็กัดริมฝีปาก และได้แต่กอดนางแบบสาวเอาไว้แน่น 

 

 

“ไม่มีอะไรค่ะ ฉันแค่อยากให้คุณอารมณ์ดีขึ้นเท่านั้นเอง” 

 

 

“…แต่ฉันคิดถึงพี่เสี่ยวซือ” พอซ่างซินพูดถึงชื่อของเขา น้ำตาที่เพิ่งจะกลั้นไว้ก็เริ่มจะซึมออกมา 

 

 

ประตูห้องพักผ่อนถูกเปิดออกอีกครั้ง 

 

 

ผู้จัดการเดินเข้ามาจากข้างนอก “ซ่างซิน งานปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่จบแล้ว แฟนคลับรออยู่ข้างนอกเยอะแยะเลย อยากจะขอลายเซ็นของเธอน่ะ” 

 

 

“บอกปัดไปไม่ได้ใช่ไหม” เหนียนเสี่ยวมู่ถามขึ้นมา 

 

 

สภาพของซ่างซินในตอนนี้ อดทนเดินแบบจนจบไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ขืนให้เธอออกไปเจอแฟนคลับอีก ถ้าควบคุมอารมณ์ไม่ได้ขึ้นมา… 

 

 

ผู้จัดการตะลึงงัน “ฉันจะไปบอกฝ่ายรับผิดชอบเดี๋ยวนี้…” 

 

 

“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไม่เป็นไร ให้ช่างแต่งหน้าเข้ามาช่วยฉันเติมเครื่องสำอางก็พอ” ซ่างซินผละออกจากอ้อมกอดของเหนียนเสี่ยวมู่ พลางยื่นมือไปเช็ดน้ำตา และพยายามทำให้ตัวเองใจเย็นลง 

 

 

“ตอนนี้คุณเป็นแบบนี้ จะโอเคเหรอคะ” เหนียนเสี่ยวมู่คว้ามือของอีกฝ่ายไว้ด้วยความเป็นห่วง 

 

 

ซ่างซินกลับยิ้มให้เธอ “ฉันไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ ในเมื่อนี่คือทางที่ฉันเลือก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ต้องอดทนต่อไป นี่เป็นคำพูดที่คุณเคยพูดกับฉันตอนแรกไม่ใช่เหรอคะ” 

 

 

“…” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ยังอยากพูดอะไรอีก แต่ช่างแต่งหน้าก็เดินเข้ามาจากข้างนอกเสียแล้ว 

 

 

ซ่างซินเป็นแขกคนสำคัญของงานปล่อนตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ หลังจากงานทุกอย่างจบลงแล้ว ก็ยังมีแฟนคลับกลุ่มเล็กๆ รอเจอเธออยู่ 

 

 

แฟนคลับที่สนับสนุนและอยู่กับเธอมาโดยตลอด 

 

 

หลังจากแต่งหน้าเสร็จเรียบร้อย ทั้งสองคนก็รีบร้อนบอกลากัน ก่อนที่เธอจะเดินไปกับผู้จัดการ 

 

 

งานจบลงแล้ว เหนียนเสี่ยวมู่ก็ต้องกลับไปรายงานสถานการณ์ที่บริษัทเช่นกัน 

 

 

เธอเพิ่งจะเดินออกจากห้องพักผ่อนของซ่างซิน ก็ชนเข้ากับคนที่เดินมาอย่างไม่ทันระวังในทันที! 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ถูกชนจนต้องถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ทำให้เธอกลับเข้าไปยืนด้านในประตูห้องพักผ่อน ขณะที่เธอยังไม่ทันรู้ตัว ก็ได้ยินเสียงสุภาพอ่อนโยนดังมาจากด้านบน 

 

 

“ขอโทษครับ คุณไม่เป็นไรใช่ไหม” 

 

 

เธอเงยหน้าขึ้น และพบว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้า ท่าทางอายุยี่สิบกว่าปี สวมชุดสูทเนี๊ยบ ผมสั้นของเขาถูกเซ็ตไว้อย่างดี แม้จะไม่นับว่าหล่อเหลาเอาการ แต่ก็เต็มไปด้วยความรู้สึกของดวงอาทิตย์ ที่ทำให้คนอบอุ่นสบายใจ 

 

 

หญิงสาวอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะนึกได้ว่าที่นี่คือห้องพักผ่อนของซ่างซิน และคิดว่าเขามาหาซ่างซิน จึงรีบบอกว่า “ซ่างซินเพิ่งไปค่ะ” 

 

 

คิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะแย้มยิ้มอบอุ่นพร้อมฟันแปดซี่ออกมาในทันที 

 

 

จากนั้นเขาก็พุ่งมาหาเธอ แล้วกล่าวอย่างมีความสุข “ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน ผมมาหาคุณ” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” 

 

 

มาหาเธอเนี่ยนะ 

 

 

เธอตั้งใจมองคนตรงหน้าอีกครั้ง แต่ก็จำไม่ได้อยู่ดี 

 

 

เพียงแต่คุ้นๆ อยู่บ้าง เหมือนเคยเจอกันมาก่อน… 

 

 

แต่เหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก คนตรงหน้าก็ยื่นมือมาหาเธอแล้ว “เฉินจื่อซิน ยินดีที่ได้รู้จักครับ งานในวันนี้สุดยอดมากเลย แถมคุณก็ดำเนินงานได้…สนุกมากครับ” 

 

 

เขาพูดจบก็บิ้มกว้างขึ้นอีกหลายส่วน 

 

 

สายตาที่มองเหนียนเสี่ยวมู่ก็เป็นประกาย 

 

 

เฉินจื่อซิน… 

 

 

เมื่อชื่อนี้ผุดขึ้นมาในหัว เหนียนเสี่ยวมู่ก็เบิกตาโพลงทันที 

 

 

ประธานเฉินแห่งบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้า มีลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอยู่คนหนึ่ง 

 

 

เขาคนนั้นก็คือเฉินจื่อซิน! 

 

 

ได้ยินว่าเขาเพิ่งกลับมาจากเมืองนอกวันนี้ และมาร่วมงานในทันที เธอก็ยุ่งหัวหมุนอยู่ตลอด จึงไม่มีเวลาไปทักทายเลย 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เงยหน้าขึ้นและตีหน้าผากตัวเองครั้งหนึ่ง 

 

 

นับว่าเข้าใจแล้ว ว่าทำไมถึงรู้สึกว่าคนตรงหน้าคุ้นตานัก ตอนที่เธอขึ้นไปแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่บนเวทีเมื่อครู่ เขาก็นั่งอยู่ด้านล่างเวที รองจากที่นั่งประธานของอวี๋เยว่หาน! 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 208 หึง 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ดึงสติกลับมา ก่อนจะรีบฉีกยิ้ม “ที่แท้ก็เป็นรองประธานเฉินนี่เอง เป็นเกียรติมากเลยค่ะที่ได้พบคุณ ไม่ทราบว่าคุณอยากพบฉัน มีธุระอะไรเหรอคะ” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เคยเจอประธานเฉินแห่งบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าแค่ครั้งเดียว 

 

 

เขาเป็นชายวัยกลางคน รูปร่างท้วมเล็กน้อย แต่อ่อนโยนมากทีเดียว 

 

 

โดยเฉพาะตอนที่เขาพูดถึงลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตัวเอง เขาก็ยิ้มจนตาแทบจะเป็นเส้นตรง ให้ความรู้สึกว่าเขาภูมิใจมากที่มีลูกชายแบบนี้ 

 

 

ว่ากันว่าเฉินจื่อซินเพิ่งจะโตเป็นหนุ่มใหญ่ ก็ถูกจัดให้เข้าไปฝึกงานที่บริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้า เดิมทีเตรียมจะได้นั่งตำแห่งรองผู้จัดการสักแผนกหนึ่ง แต่สุดท้ายเขาก็บอกประธานเฉิน ว่าจะขอเริ่มตั้งแต่ต้น 

 

 

เขาพยายามและก้าวหน้าไปทีละขั้น ภายในเวลาไม่กี่ปี เขาก็ได้กลายเป็นผู้จัดการของแผนกหนึ่ง 

 

 

ขณะที่ทุกคนต่างก็คิดว่าเขากำลังจะได้เข้ามาจัดการงาน และรับช่วงต่อบริษัทอย่างเป็นทางการ ชายหนุ่มก็ลาออกอย่างกะทันหัน และขอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ 

 

 

เฉินจื่อซินคิดจะไปเรียนเพิ่มเติมที่ต่างประเทศ และถือโอกาสเรียนเกี่ยวกับการทำธุรกิจให้ลึกซึ้งไปอีกขั้นหนึ่ง 

 

 

จนกระทั่งวันนี้ ถึงได้กลับมา… 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่จับมือของเขา แต่ไม่นานก็ปล่อย 

 

 

จากนั้นก็ยิ้มเหมือนจิ้งจอกน้อย เป็นรอยยิ้มประชาสัมพันธ์แบบมาตรฐาน และถอยออกห่างอย่างมีมารยาท 

 

 

ดวงตาคู่สวยหวานฉ่ำ ดึงดูดสายตาอย่างยิ่ง 

 

 

“ผมได้ยินว่าคุณเป็นคนรับผิดชอบงานในครั้งนี้ทั้งหมด แม้แต่ที่ซ่างซินตกลงเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้เซิ่งต้า ก็เป็นเพราะคุณด้วย” เฉินจื่อซินมองเธอด้วยแววตาเป็นประกาย ก่อนจะถามอย่างอ่อนโยน “ผมอยากจะเชิญคุณไปทานข้าว ถือเป็นการขอบคุณ ไม่ทราบว่าซูเปอร์ไวเซอร์เหนียนว่างไหมครับ” 

 

 

“ไม่ต้องหรอกค่ะ เรื่องพวกนั้นฉันควรจะทำอยู่แล้ว…” 

 

 

“ความจริงแล้วผมมีเจตนาส่วนตัวครับ” เฉินจื่อซินขัดคำพูดปฏิเสธของเธอ แล้วเดินมาข้างหน้าก้าวหนึ่ง 

 

 

เขาตัวสูงมาก ยืนอยู่ตรงหน้าเหนียนเสี่ยวมู่แล้ว ตัวของเขาแทบจะบังตัวเธอเอาไว้มิดเลยทีเดียว 

 

 

ชายหนุ่มก้มหน้าลงมาเล็กน้อย พร้อมทั้งตั้งใจมองเธอ สายตาของเขาดูเคร่งเครียดอยู่บ้าง ราวกับกำลังจะสารภาพรักก็ไม่ปาน 

 

 

แต่เขายังไม่ทันได้เอ่ยปาก หางตาของเหนียนเสี่ยวมู่ก็พลันเหลือบไปเห็นว่ามีคนหนึ่งอยู่ตรงหัวโค้ง จึงตะโกนเรียกตามสัญชาตญาณ “คุณชายหาน” 

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น เฉินจื่อซินก็ชะงักไปเล็กน้อย 

 

 

จากนั้นเขาก็หันไปมองข้างหลังของตนเอง… 

 

 

เงาร่างสูงส่งของอวี๋เยว่หานยืนอยู่ข้างกำแพง สายตาเย็นชากำลังชำเลืองมองมาทางพวกเขา 

 

 

ไม่รู้ว่าเขายืนอยู่ตรงนั้นนานเท่าไหร่แล้ว 

 

 

หลังจากได้ยินเหนียนเสี่ยวมู่เรียก เขาถึงจะสาวเท้าเดินมาข้างหน้า 

 

 

เฉินจื่อซินเห็นเขาแล้ว จึงรีบหมุนตัวไปทักทายพร้อมรอยยิ้ม “คุณชายหาน พ่อของผมมักจะพูดถึงคุณอยู่บ่อยๆ บอกว่าคุณเป็นอัจฉริยะที่หายากในวงการ ให้ผมเรียนรู้จากคุณให้มากๆ” 

 

 

อวี๋เยว่หานกลับไม่ได้มองเขา แต่มองตรงมาที่เหนียนเสี่ยวมู่ “ว่างแล้วเหรอ” 

 

 

“อื้ม งานจบแล้ว ฉันกำลังจะ…” 

 

 

“แล้วทำไมยังไม่ไปอีก” อวี๋เยว่หานเอ่ยปากขัดจังหวะคำพูดของเธออย่างเย็นชา 

 

 

เมื่อเห็นเหนียนเสี่ยวมู่ตะลึงงันและไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาก็หันไปมองเฉินจื่อซิน “คุณมีธุระอะไรอีกไหมครับ” 

 

 

“…ไม่มีแล้วครับ” เฉินจื่อซินมองพวกเขาทั้งคู่ เหมือนจะรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่ไม่ธรรมดา แถมอวี๋เยว่หานยังถามแบบนี้อีก เขาจึงตอบไปด้วยความอึดอัดใจอยู่บ้าง 

 

 

พอเขาพูดจบ ก็เห็นอวี๋เยว่หานคว้ามือของเหนียนเสี่ยวมู่ จูงเธอเดินผ่านตัวเขาไป 

 

 

ครั้นเฉินจื่อซินได้สติกลับมา ทั้งสองคนก็หายไปจากตรงหน้าเขาแล้ว 

 

 

“อวี๋เยว่หาน รองประธานเฉินอยู่ตรงนั้นคนเดียว…คุณเดินช้าๆ หน่อยสิ ฉันตามไม่ทัน…” เหนียนเสี่ยวมู่ถูกลากอยู่ เธอวิ่งสั้นๆ จนเกือบจะล้มอยู่แล้ว ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกโมโห และสะบัดมือเขาออก พร้อมทั้งเรียกชื่อเต็มของเขา 

 

 

ทันใดนั้นอวี๋เยว่หานก็หยุดฝีเท้า และหันกลับมามองเธอ 

 

 

“คุณไม่อยากไปจากเขาหรือไง”