บทที่ 70: แอปของหน่วยงานพิเศษ (2)

ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗]

บทที่ 70: แอปของหน่วยงานพิเศษ (2)

ฉินเย่ทำตามทันที ไม่นานภาพตรงหน้าก็เปลี่ยนไป ประตูโบราณที่ดูท่าจะหนักบนหน้าจอถูกผลักให้เปิดออก เผยให้เห็นลำแสงจ้าที่อยู่ด้านใน เสียงพูดดังขึ้นอีกครั้ง

“เจ้าหน้าที่รักษาการณ์หมายเลขทะเบียน S9527 เข้าสู่ระบบ กรุณาคำนึงถึงข้อกำหนดต่อไปนี้”

“ข้อที่ 1: ข้อมูลทั้งหมดที่เห็นทั้งหมดนี้เป็นความลับสุดยอดและห้ามเปิดเผยในที่สาธารณะเป็นอันขาด ความผิดนี้จะถือเป็นการละเมิดความลับระดับกลาง”

“ข้อที่ 2: ห้ามส่งต่อข้อความที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานหากันโดยเด็ดขาด หากตรวจพบ ผู้กระทำความผิดจะต้องถูกพักงานเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง หากกระทำผิดครั้งที่ 2 จะถูกพักงานเวลา 12 ชั่วโมง กระทำผิดครั้งที่ 3 จะถูกพักงานเวลาหนึ่งวัน กระทำผิดครั้งที่ 4 จะถูกพักงานเวลาเจ็ดวัน และในกระทำผิดครั้งที่ 5 บัญชีของผู้กระทำความผิดจะถูกระงับเป็นการถาวร”

“ข้อที่ 3: โปรดปฏิบัติตามบรรทัดฐานและจริยธรรมของสังคม หากมีผู้รายงานและได้รับการตรวจสอบจากสติกซ์แล้วพบว่าเป็นความจริง บัญชีของผู้กระทำผิดจะถูกระงับเป็นเวลาสามวัน”

“ยินดีต้อนรับสู่ ‘สังหาร’ แอปพิเศษของหน่วยงานที่มีความสำคัญมากที่สุดในประเทศจีน หน่วยสอบสวนพิเศษแห่งชาติ”

ทันทีที่เสียงพูดจบลง ลำแสงบนหน้าจอก็ค่อย ๆ จางหายไป เผยให้เห็นหน้าอินเทอร์เฟซที่ดูค่อนข้างจะโบราณ…

อินเทอร์เฟซสีแดงขาว และด้านข้างของมันดูคล้ายกับเศษซากของซานซิงตุย[1] เว็บบอร์ดปรากฏขึ้นตรงกลางของหน้าจอ

ภายในเว็บบอร์ดได้แบ่งออกเป็นสี่หมวด คือ หน้าหลัก ข้อมูล ปฏิสัมพันธ์ และงาน

ฉินเย่กดเข้าไปที่หน้าหลักทันที เพราะเป็นหน้ารวมที่เขาจะหาข้อมูลต่าง ๆ ได้เร็วที่สุดแล้ว

หน้าเพจมีโพสต์มากมายปราฏขึ้น และโพสต์ที่สะดุดตาที่สุดก็คือโพสต์สีแดงเลือดที่อยู่ด้านบนสุด

“คำเตือน: เมืองเป่าอัน มณฑลอันฮุ่ย จะเปิดเผยความจริงต่อประชาชนในอีกสามวัน” — ผู้อำนวยการกองรับรองและบริหาร

เขารีบคลิกเข้าไปอ่านทันที

“ทุกท่านคงพอจะทราบเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเหตุการณ์เหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นในเมืองเป่าอันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพวกเราไม่สามารถปกปิดสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อีกต่อไป”

“เทศบาลของเมืองเป่าอันและหน่วยสอบสวนพิเศษ ได้เห็นพ้องต้องกันว่าภายในอีกสามวัน เมืองเป่าอันจะเป็นสถานที่แรกในจีนที่เปิดเผยความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติให้กับประชาชนได้รับรู้ และฝ่ายบริหารก็ได้อนุมัติหนังสืออย่างเป็นทางการต่อไปนี้เพื่อที่ผู้ฝึกตน นิกาย องค์กร และสำนักงานทุกแห่ง รวมถึงหน่วยงานสาขาของหน่วยสอบสวนพิเศษได้รับทราบ”

“ข้อที่ 1: เมืองเป่าอันจะต้องอยู่ภายใต้การบริหารงานโดยตรงจากทางรัฐบาลกลาง เป้าหมายที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ ก็คือการบ่มเพาะพลัง”

“ข้อที่ 2: ด้วยความช่วยเหลือจากผู้สนับสนุนของเราซึ่งประกอบไปด้วยบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ 12 แห่ง เฮ่ยหม่าหยี่กรุ๊ป ชางหยวนกรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์เฟ่ยตู้ และอื่น ๆ สำนักฝึกตนแห่งแรกของจีนได้รับการจดทะเบียนแล้วด้วยเงินร่วมลงทุนรวมกว่า 42 ล้านหยวน เราจะเริ่มการคัดเลือกและลงทะเบียนนักเรียนกลุ่มแรกหลังจากช่วงฤดูหนาว ข้อมูลนอกเหนือจากนี้ต้องรอการยืนยันเพิ่มเติม”

“ข้อที่ 3: สถานประกอบการและที่พักอาศัยที่อยู่ในเขตเมืองหลักทั้งหมดจะต้องย้ายออก พื้นที่ 350 ไร่ถูกสงวนไว้เพื่อเป็นวิทยาเขตหลักสำหรับของสำนักฝึกตน ซึ่งเป็นขนาดที่เล็กลงมาจากมหาวิทยาลัยที่สุดสองแห่งในจีน ปัจจุบัน ชางหยวนกรุ๊ป บริษัทอสังหาริมทรัพย์เฟ่ยตู้ และผู้พัฒนารายอื่น ๆ อีก 5 รายที่ได้เริ่มดำเนินการและส่งทีมประเมินราคาของพวกเขามาที่เมืองเป่าอันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนทีมก่อสร้างจะถูกจัดเตรียมโดย บริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งประเทศจีน”

“ข้อที่ 4: ทางเมืองเป่าอันได้ส่งคำเชิญไปให้นิกายฝึกตนใหญ่ ๆ องค์กรและสถาบันต่าง ๆ จากทั่วประเทศรวมถึงสถาบันวิจัยหลักหลายแห่งเพื่อเข้าร่วมในครั้งนี้ รายละเอียดที่แน่นอนของเงื่อนไขพิเศษจะถูกประกาศในอีกสามวันหลังจากนี้”

เมื่อจบข้อประกาศทั้งสี่ ฉินเย่ก็พบว่าที่ด้านล่างสุด มีข้อความสีแดงเข้มสะดุดตาอยู่ด้วย

“นี่คือข้อมูลทั้งหมดที่ฉันมีในตอนนี้ รายละเอียดที่เหลือจะถูกประกาศพร้อมกับการแถลงการณ์ที่จัตุรัสกลางเมืองในอีกสามวัน และมีเพียงผู้ฝึกตนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในเมืองเป่าอันได้ ในอีกสามวันหลังจากนี้ ผู้อำนวยการใหญ่ของหน่วยสอบสวนพิเศษ รองหัวหน้าผู้ตรวจการ ผู้ว่าราชการประจำมณฑลอันฮุ่ย และเลขานุการจะมาเข้าร่วมงานแถลงด้วยตัวเอง สหายทุกท่าน นี่นับเป็นสัญญาณที่ดีของเรา”

“ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา พวกเราต่างต้องดิ้นรนและต่อสู้อย่างเงียบ ๆ กับกองกำลังจากยมโลก เป็นความจริงที่ว่ายมโลกได้สูญเสียสมดุลและจนไม่สามารถทำหน้าที่ของตนได้แล้ว อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ยังไม่มีประชาชนคนไหนทราบมาก่อน”

“พวกเราไม่สามารถปล่อยให้สถานการณ์เลวร้ายลงกว่านี้ได้ พวกเราคือประเทศที่มีประชากรมากกว่าพันล้านคน หากเกิดอะไรขึ้น มันจะต้องกลายเป็นหายนะของโลกแน่นอน ดังนั้นสิ่งแรกที่เราต้องทำก็คือรักษาเสถียรภาพ และก็เพราะเหตุนี้เอง…กองทัพทหารมากมายจึงเข้าร่วมกับกองกำลังของเรา พวกเขาต่อสู้และแม้กระทั่งสละชีวิตของพวกเขาเอง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับชื่อเสียงจากมันก็ตาม แม้แต่สหายของพวกเราเองก็ได้เสียสละชีวิตของพวกเขาเพื่อประเทศชาติ แต่กลับไม่สามารถเปิดเผยให้ใครรู้ได้”

“มีคนตั้งที่มากมายที่ต้องต่อสู้ เพียงเพื่อให้ตัวเองมีโอกาสได้มายืนอยู่ตรงนี้ เหมือนอย่างพวกเรา เมืองเป่าอัน…จะกลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์สำหรับผู้ฝึกตนทุกคนในประเทศ! และนี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ฉันเชื่ออย่างสุดใจว่าพวกเราจะกลับมามีชีวิตที่สงบสุขเหมือนเดิมได้!”

“สหายทุกท่าน พวกเราไม่เคยเห็นคนของยมโลกมานานกว่าสิบปีแล้ว ดังนั้นพวกเรามีแต่ต้องร่วมมือกัน จึงจะสามารถคว้าชัยชนะในการต่อสู้มาได้ ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสหายทุกท่านจะสามารถสละเวลามาร่วมงานแถลงกลางจัตุรัสของเมืองเป่าอัน ทำให้ที่แห่งนี้เป็นบ้านของเหล่าผู้ฝึกตน ฉัน ในฐานะของ ผู้อำนวยการใหญ่ของหน่วยสอบสวนพิเศษ สามารถยืนยันได้เลยว่าตราบใดที่ทุกท่านเป็นผู้ฝึกตน การกระทำผิดทั้งหมดของท่านก่อนหน้านี้จะได้รับการให้อภัย เราจะปล่อยให้อดีตเป็นเพียงเรื่องของอดีตเท่านั้น!”

กระทู้ดังกล่าวตามมาด้วยความคิดเห็นมากมาย ที่แทบจะระเบิดกล่องข้อความกระทู้นั้นในทันที!

“เมืองเป่าอันเกิดการระบาดของเหตุการณ์เหนือธรรมชาติอย่างนั้นเหรอ? จริงหรือเปล่า? ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องนี้?” –ผู้ใช้ที่ได้รับการยืนยันแล้ว ผู้ฝึกตนเดี่ยวแห่งเฉินโจว หวงซื่ออั้ง

“ฉันได้ยินมาว่าทั่วทั้งประเทศ ได้สั่งระงับข่าวทุกอย่างที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ มันเป็นเรื่องเหรอ?”

“ในที่สุดไอ้พวกเวรนั่นเริ่มเคลื่อนไหวแล้วอย่างนั้นหรือ? สถานการณ์ที่นั่นเป็นอย่างไรบ้าง?”

โพสต์เพิ่มเติมของเจ้าของโพสต์ ที่ตอบความคิดเห็นของผู้คนนับพันคน เลื่อนขึ้นมาที่ความคิดเห็นแรกสุด และเป็นข้อความสีแดงเช่นเดิม “รายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ทั้งหมดจะถูกปักไว้ด้านบนสุดของกระทู้นี้ในอีกสามวัน พวกเราจะแถลงว่ามนุษย์เพิ่งได้รับชัยชนะครั้งใหญ่ จากเขตไล่ล่าเก้าเขตจากทั้งหมดสิบเขต! อีกทั้งยังสามารถจัดการหัวหน้าของเหล่าวิญญาณร้ายได้สำเร็จ อีกไม่นานเมืองเป่าอันจะกลายเป็นพื้นที่แรกและที่เดียวในแผนที่จีนที่เป็นพื้นที่สีเขียวในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา!”

“พื้นที่สีเขียวนี้…ในอนาคตผู้ฝึกตนก็จะสามารถทำการฝึกฝนได้อย่างปลอดภัยน่ะสิ!”

“ใช่แล้ว เมื่อไม่นานมานี้…อาจารย์ของฉันถูกสังหารโดยวิญญาณขณะที่ท่านกำลังจะบรรลุวิชา และฉันจะต้องล้างแค้นให้แก่อาจารย์ของฉันอย่างแน่นอน!”

“ช่วยเปิดเผยเงื่อนไขที่จะเป็นผู้ฝึกตนหน่อยสิ ฉันเป็นเจ้าของร้านของของเก่าเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง แล้วฉันจะได้รับผลประโยชน์อะไรจากการย้ายที่อยู่กัน?”

ความคิดเห็นมากมายถูกส่งมาอีกครั้ง

ฉินเย่กับอาร์ทิสนิ่งเงียบ พวกเขาจมลงสู่ภวังค์ความคิดของตัวเอง

“ช่างเป็นการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวจริง ๆ….” ในที่สุดอาร์ทิสก็เอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบไปนาน

ทุกสิ่งทุกอย่างจะเปลี่ยนไป ภายในสามวันข้างหน้า!

การบ่มเพาะพลังคือสิ่งที่เคยกล่าวขานต่อกันมาตั้งแต่โบราณ ในขณะที่กองกำลังของยมโลกเป็นเพียงสิ่งที่อยู่ในภาพยนตร์เท่านั้น แต่ความจริงของเรื่องนี้ก็จะถูกเปิดเผยสู่สาธารณะภายในวันเดียวกันนี้เอง! นอกจากนี้ทั่วทั้งเมืองเป่าอันก็จะกลายเป็นเมืองแห่งการบ่มเพาะแห่งแรกอีกด้วย!

และนี่ยังไม่ใช่สิ่งที่น่าเหลือเชื่อที่สุด

จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป?

จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ก่อตั้งเมืองแห่งการบ่มเพาะแห่งแรก? แห่งที่สอง? แห่งที่สาม?

เมืองเป่าอันไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าโครงการนำร่อง เช่นเดียวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขตปกครองพิเศษภายในประเทศ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าภายในเวลาอีกห้าปีหลังจากนี้ ระบบเมืองแบบเมืองเป่าอันจะต้องแพร่กระจายไปทั่วทั้งประเทศอย่างแน่นอน!

นี่เป็นเหมือนกับเสียงเป่าแตรดังสนั่นเพื่อประกาศสงครามอย่างเป็นทางการ จากเหล่าเจ้าหน้าที่แดนมนุษย์!

“พวกเขากำลังพยายามทำให้การบ่มเพาะพลังกลายเป็นเรื่องปกติ” ฉินเย่เอ่ยราวกับยังอยู่ในภวังค์ของตัวเอง ขณะที่นิ้วของเขากดไปบนหน้าจออย่างรวดเร็ว

“เจ้ากำลังทำอะไร?”

ฉินเย่เลิกคิ้วขึ้นและแย้มยิ้ม “ท่านไม่สังเกตหรือ?”

“ข้ารู้มาว่าในหน่วยสอบสวนพิเศษนี้ เจ้าหน้าที่ระดับ S นั้นมีจำนวนน้อยมาก และคนส่วนใหญ่ที่มาแสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้ก็อยู่แค่ระดับ D หรือ E เท่านั้น”

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” อาร์ทิสงุนงง

ฉินเย่กดปุ่ม ‘ส่ง’ และยิ้มอย่างมีเลศนัย “อันดับแรก ข้าก็จะทำตัวเหมือนกับพวกโง่งี่เง่านี้…”

ฟึ่บ….ความคิดเห็นหนึ่งปรากฏขึ้นมา “แล้วหลังจากนี้ ผู้อยู่อาศัยที่อยู่ในเมืองเป่าอันจะยังสามารถออกไปจากเมืองได้อีกหรือเปล่า?” — ผู้ใช้ที่ได้รับการยืนยันแล้ว เจ้าหน้าที่รักษาการณ์ เมืองเป่าอัน

จากนั้น ความคิดเห็นมากมายก็ปรากฏขึ้นในชั่วพริบตา!

“บ้าน่า?! เจ้าหน้าที่ระดับ S จริงดิ!! ระดับ S เนี่ยนะ? นี่เป็นครั้งแรกเลยที่มีผู้ใช้ระดับ S มาแสดงความคิดเห็นในกระทู้!” — ผู้ใช้ที่ได้รับการยืนยันแล้ว นักเขียนนิรนาม หลิวเหวิน หมู่บ้านชานฮวา

“ดูนั่น! ดูตำแหน่งของเขาสิ!” — ผู้ใช้ที่ได้รับการยืนยันแล้ว ผู้ฝึกตนฝึกหัด หลินเฟิงไฉ่ เมืองตงหู

“เมืองเป่าอัน? เมืองเป่าอันอย่างงั้นเหรอ?! หรือเขาจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเหตุการณ์โดยตรง?!”

“พระเจ้า! นี้คือพยานที่ยังมีชีวิต! อยากได้คนใช้สักคนไหม?”

“คุณเจ้าของโพสต์ นี่มันเกิดอะไรขึ้นในเมืองเป่าอันกันแน่? บอกรายละเอียดพวกเราหน่อยสิ? ไม่มีที่ไหนออกข่างวเกี่ยวกับเมืองเป่าอันเลย!”

ฉินเย่รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากกับปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นหลังจากเขาโพตส์ข้อความนั้นออกไป

แต่อาร์ทิสกลับไม่ขำเลยสักนิด

“นี่มันอะไรกัน…” ลูกบอลผนึกลอยอยู่ข้าง ๆ ร่างของฉินเย่ จากนั้น หลังจากผ่านไปไม่นาน นางก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ “มาตรการป้องกัน”

“ถูกต้อง” เด็กหนุ่มดีดนิ้ว “ข้าเพิ่งนึกขึ้นมาได้ตอนที่เห็นใต้โพสต์ของผู้อำนวยการนั่น”

“ท่านลองดูสิ ผู้ใช้ทั้งหมดที่เลขทะเบียนนำหน้าด้วย E D หรืออาจจะ C ล้วนมีตำแหน่งและชื่อของพวกเขาอยู่ต่อหลังอย่างละเอียด และมีแม้กระทั่งตำแหน่งของพวกเขา แต่ของผู้อำนวยการนั่นกลับไม่มี”

“นอกจากนี้…เริ่มจากเจ้าหน้าที่ระดับขึ้นมา B ท่านจะเห็นว่าชื่อและอาชีพของพวกเขาจะไม่แสดงอีกต่อไป ตอนที่ข้าลงทะเบียนลายนิ้วมือกับระบบ ตัวตนของข้าก็ได้รับการยืนยันโดยสติกซ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมันก็มีความเป็นไปได้ว่ามันอาจจะยังมีพวกระดับสูงที่ยังไม่ได้เปิดเผยตัวตนเหมือนอย่างอำนวยการนั่นและข้าอีกมาก และโดยพื้นฐานแล้ว มันก็เป็นไปไม่ได้ที่ผู้ดูแลกระทู้จะมีอำนาจในการเข้าถึงข้อมูลของสติกซ์ได้โดยตรง และมันก็ไม่มีเหตุผลที่พวกเขาจะสามารถเข้าถึงข้อมูลของสมาชิกหลักในแต่ละภาคส่วนได้ หรือในอีกความหมายก็คือ คนพวกนี้ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของข้าหรือใครก็ตามอย่างแน่ชัดอยู่แล้ว!”

ในโลกอินเทอร์เน็ต ไม่มีทางแน่ใจได้เลยว่าคนที่คุณกำลังคุยด้วยอยู่นั้นเป็นคนจริง ๆหรือเป็นแค่สุนัขตัวหนึ่ง

อย่างฉินเย่เป็นตัวอย่าง….ฮัสกี้ที่ได้แฝงตัวเข้ามาอยู่ในฝูงหมาป่า เข้ามาอยู่วงในของกลุ่ม และกำลังวิเคราะห์แอปภายในขององค์กรอย่างละเอียด ข้อมูลที่แต่เดิมเป็นความลับภายในหน่วยสอบสวนพิเศษ ตอนนี้ได้เปิดเผยสู่สายตาของยมทูตเช่นเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว….

“มันมีช่องว่างมากเกินไป ยกตัวอย่างเช่น…” ฉินเย่ลองพิมพ์ประโยคสวย ๆ แต่ไม่ได้ใจความอะไรเลยว่า “ฉันก็คือเปลวไฟที่ลุกโชน” แต่ไม่ว่าเขาจะกดปุ่ม ‘โพสต์’ กี่ครั้ง เขาก็พบว่ามันไม่สามารถส่งได้!

“เฮ้ย?!” ฉินเย่ตกใจเป็นอย่างมาก ให้ตายเถอะ…นี่มันเป็นการรวมมือกันของสติกซ์กับเป่ยโต่ว(ชื่อระบบดาวเทียมของจีน)นะ! จะพังง่าย ๆ แบบนี้น่ะเหรอ?!

ติ๊ง…ข้อความบางอย่างปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์ของเขาในเวลาต่อมา “เรียนผู้ใช้ S9527 บัญชาของคุณถูกระงับเป็นเวลาหนึ่งวัน โปรดรักษาสิทธิ์ในบัญชีของคุณโดยการหลีกเลี่ยงการเปิดเผยข้อมูลใด ขอบคุณ”

ขอบคุณ?!

ไม่มีการผ่อนปรนให้เขาสักหน่อยเลยเหรอ?! คนของหน่วยสอบสวนพิเศษไม่มีความปรานีบางเลยหรือไง?!

ขณะที่ภายในใจของฉินเย่กำลังสบถอย่างโกรธเกรี้ยว เขาก็ได้รับข้อความเสียงข้อความหนึ่ง

A3125

“สวัสดี คุณคงจะเป็นผู้ใช้ใหม่ ผมต้องขอเตือนว่าเจ้าหน้าที่ระดับ S ห้ามโพสต์ข้อความใด ๆ ลงบนกระทู้เด็ดขาด เว้นแต่ว่ามันจะจำเป็นจริง ๆ และสุดท้าย คุณสามารถเข้าไปดาวน์โหลดของหน่วยสอบสวนพิเศษได้ที่หน้าหลัก และโปรดใช้แอปนั้นในการเชื่อมต่อกับผู้ใช้ระดับ S คนอื่น ๆ”

“การระงับบัญชีเป็นเวลาหนึ่งวันเป็นแค่คำเตือน ในระหว่างนี้ คุณยังสามารถใช้ฟังก์ชันอื่น ๆ ของแอปสังหารได้ตามปกติ ยินดีต้อนรับ”

ติ๊ง…ฉินเย่ถูกเตะออกจากหน้าหลักทันที เส้นเลือดบริเวณหน้าผากของเขาเต้นตุบ ๆ อย่างไม่สามารถควบคุมได้

อ๊ากกกกก….นี่สุนัขฮัสกี้จำเป็นจะต้องเผชิญหน้ากับการยั่วยุของราชาหมาป่าคนก่อนถึงจะสามารถขึ้นครองบัลลังก์ได้หรือไง….

“หึหึหึ…ดูเหมือนว่าพวกระดับสูงของหมาป่าจะไม่ค่อยชอบเจ้านะ….ในบรรดาลูกหมาป่าที่เชื่อฟังนับพันตัว จู่ ๆ กลับมีสิ่งมีชีวิตหน้าขนที่จู่ ๆ ก็ส่งเสียงเห่าออกมามันคงดูน่าขัดตาพวกเขาไม่น้อย…” อาร์ทิสหัวเราะเสียงดังสนั่น

“เจ้าหนู อยากกลับบ้านตอนไหนดีล่ะ แต่ข้าว่า…เจ้าคงยังไม่ได้กลับบ้านในเร็ว ๆ นี้แน่ ฮ่า ๆๆๆๆ…..”

ข้าอยากกลับบ้านตอนไหนอย่างนั้นหรือ?

ฉินเย่ครุ่นคิดเงียบ ๆ อยู่ครู่หนึ่ง

จากนั้นเขาก็พึมพำเสียงเบาว่า “ข้าอยากจะกลับตอนนี้เลย”

[1] แหล่งโบราณคดียุคสำริดโบราณ