บทที่ 54 เอส!

“เยี่ยจิ๋ง เธอจะเอาเขาอยู่จริงๆ เหรอ?” โรสส่งข้อความไปถามไนท์ คูนเนอร์

“ไม่! มันเป็นไปไม่ได้! เธอช่วยตอบฉันหน่อยว่าทำไมเธอถึงไปเป็นศัตรูกับเขา” ไนท์ คูนเนอร์ที่ยืนนิ่งๆ อยู่หน้าเซียวเฟิงตอบคำถามของ โรสอย่างไร้ความมั่นใจ

“พวกเราจะช่วยเธอยื้อตัวของเขาไว้ แต่เธอแน่ใจจริงๆ เหรอว่าเธอไม่สามารถฆ่าเขาได้?”

โรสไม่ตอบคำถามของไนท์ คูนเนอร์แล้วถามต่อทันที เพราะโรสคิดว่า ไนท์ คูนเนอร์ที่เป็นหนึ่งใน 10 อันดับผู้เล่นของหอเกียรติยศนั้นแข็งแกร่งมากพอ นอกจากนั้นเธอก็ยังรู้ว่าไนท์ คูนเนอร์มาจากครอบครัวที่สอนศิลปะป้องกันตัว หญิงสาวจึงน่าจะมีข้อได้เปรียบในโลกเสมือนจริงใบนี้

“ถึงไอ้บ้านี่จะดูตลก แต่ฉันเชื่อว่ามันเก่งกว่าซีเหมินชุยเสวียซะอีก เราไม่มีทางจะเอาชนะมัน และฉันก็ไม่สามารถที่จะฆ่ามันได้เพราะเรามีจำนวนคนมากกว่าหรอกนะ” ไนท์ คูนเนอร์ตอบอย่างละเหี่ยใจพลางใช้สายตามองไปทางเซียวเฟิงอย่างอ่อนแรง

“เธอจะบอกว่าเขาคนนี้แกร่งกว่านักดาบคนนั้นเหรอ?” ตาที่กลมโตของโรสขยายขึ้น หญิงสาวมองไปที่เซียวเฟิงอย่างระวัง

ด้วยตัวตนและฐานะของเธอ ทำให้เธอสามารถหาข้อมูลและความลับบางอย่างได้ ชื่อซีเหมินชุยเสวียนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ชื่อธรรมดาทั่วไป เขาไม่ใช่แค่ตัวละครในนิทานพื้นบ้าน แต่เขาเป็นบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ ถือเป็นนักดาบที่อยู่เหนือผู้คน และยังเคยเข้าถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์มาก่อน!

ตระกูลซีเหมินเป็นครอบครัวที่สืบทอดต่อกันมา พวกเขามีเชื้อสายเดียวกันกับผู้ฝึกดาบ ชื่อของอัจฉริยะตัวน้อยของตระกูลซีเหมินก็เป็นชื่อเดียวกับบรรพบุรุษของครอบครัว ทำให้เจ้าตัวมุ่งมั่นที่จะเหนือกว่าบรรพบุรุษของเขา!

ไนท์ คูนเนอร์นั้นมาจากตระกูลเก่าแก่ที่สืบทอดสายเลือดสืบต่อกันมา ดังนั้นเธอจึงได้มีโอกาสพบเจอซีเหมินชุยเสวียอยู่บ่อยครั้ง ทำให้หญิงสาวรู้ดีว่าเขาไม่ใช่บุคคลธรรมดา และคงไม่มีใครที่เก่งเท่าเขาได้อีกแล้ว!

ในเชิงวิทยาศาสตร์ ระดับการตอบสนองทางศักยภาพมนุษย์ของเขานั้นเกินกว่าของมนุษย์ธรรมดาทั่วไป อาจเรียกได้ว่านี่คือพลังเหนือธรรมชาติหรือพลังของซูเปอร์ฮีโร่ แต่นี่ไม่ใช่พลังวิเศษที่เหมือนกับพลังของซูเปอร์ฮีโร่ในหนัง

ตัวอย่างการมีอยู่ของพลังลักษณะนี้ก็ถือว่ามีไม่น้อย เพราะท่ามกลางห้วงเวลาอันยาวนานที่มวลมนุษยชาติได้จดบันทึกไว้ ผู้คนที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ได้แสดงศักยภาพที่มีมากกว่าคนทั่วไปออกมา พวกเขาจึงสามารถกลายเป็นบุคคลที่โด่งดัง และมีชื่อจารึกไว้ในประวัติศาสตร์….

ตัวอย่างโดดเด่นที่สุดก็คือไอน์สไตน์ ที่สามารถใช้พลังสมองได้ราวๆ 30% ในขณะที่ผู้คนทั่วไปสามารถใช้พลังสมองได้ต่ำกว่า 10 % ! ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับบุคคลทั่วไปแล้ว ก็ถือได้ว่าไอน์สไตน์นั้นมีพลังวิเศษ

“นี่เธอแน่ใจจริงๆ ใช่ไหมที่ว่าเขาแกร่งกว่าท่านนักดาบ?” โรสช็อกหลังจากที่ได้ยินสิ่งที่ไนท์ คูนเนอร์พูด

“ฉันไม่ได้พูดเล่นๆ นะ ฉันน่ะมั่นใจในสัมผัสทั้ง 6 ของฉัน ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่สามารถที่จะอยู่ใน 10 อันดับผู้เล่นระดับต้นในหอเกียรติยศได้หรอก จริงๆ แล้วฉันเคยเจอไอ้บ้านี่ในชีวิตจริง ถ้าท่านนักดาบเปรียบได้ดังภูผาที่กดดัน ไอ้บ้านี่ก็จะเป็นท้องฟ้าที่ทำให้รู้สึกหว่าเว้เมื่อเราจ้องมอง มันจะฆ่าเธอได้ง่ายๆ ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหนก็ตาม!!” ไนท์ คูนเนอร์พูดต่อ

“ในโลกเกมแห่งนี้… ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดจะถูกจำกัดด้วยเลเวล อุปกรณ์ และค่าสถานะ แต่ไอ้บ้านี่ได้เป็นอันดับ 1 ในรายการจัดอันดับและมันก็ยังครอบครอง 5 อันดับแรกของรายการอาวุธในเขตฮัวเซียไปอีก เช่นเดียวกับความได้เปรียบด้านค่าสถานะก็เช่นกัน ดังนั้นถึงจะเป็นท่านนักดาบก็คงยังจะโดนไอ้เจ้านี่ฆ่าตายอยู่ดี”

“ถึงฉันจะไม่รู้ว่ามันกลับมาที่หมู่บ้านเริ่มต้นหลังจากที่เปลี่ยนคลาสไปแล้วทำไม แต่อีกฝ่ายก็ถือเป็นผู้เล่นคนแรกของเขตฮัวเซียและของเซิร์ฟเวอร์ที่เปลี่ยนคลาสสำเร็จ ความแข็งแกร่งของเขาห่างจากพวกเรามากเกินไป พวกดูมส์เดย์ลีกนั่นงี่เง่าชะมัด มันต้องไม่ได้ตรวจสอบรายชื่อว่าเขาเป็นคนแรกที่เปลี่ยนคลาสได้สำเร็จแน่ๆ”

โรสเงียบงันเมื่อได้ฟังคำพูดของไนท์ คูนเนอร์ เธอรับรู้ได้อย่างดีถึงความรู้สึกไร้ทางสู้ที่มาจากเซียวเฟิง นอกจากนั้นชายหนุ่มยังมอบความรู้สึกสิ้นหวังของความตายให้กับเธอ แต่ถึงอย่างไรพวกเขาทั้งสองก็เป็นศัตรู ตัวฉกาจต่อกัน เพราะเซียวเฟิงต้องการที่จะต่อต้านโรส เธอจึงไม่มีทาง เลือกอื่นนอกจากที่ต้องต่อสู้

“มาเริ่มกันเถอะ…”

ไนท์ คูนเนอร์ที่ถือมีดเงินเลเวลห้าที่เธอซื้อมาจากเซียวเฟิงเขม่นดวงตาทั้งสองข้าง แล้วร่างที่แข็งทื่อของเธอก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วหลังจากที่ได้ยินคำสั่งของโรส

เธอไม่วิ่งไปหาเขาโดยตรง แต่เลือกที่จะเคลื่อนไหวสลับข้างไปมาและเข้าไปในระยะประชิดอย่างรวดเร็ว

มีรอยยิ้มเกิดขึ้นบนในหน้าของเซียวเฟิง อย่างกับว่าเขารำลึกถึงฉากที่เขาโดนไนท์ คูนเนอร์ไล่ล่าตอนที่เข้าหมู่บ้านเริ่มต้นครั้งแรก ก่อนที่เซียวเฟิงจะเหวี่ยงกระบองกระทิงทองในมือ ทำให้ค้อนแห่งการพิพากษา ปรากฏขึ้น จากนั้นเขาพลันทุบมันเข้าใส่ไนท์ คูนเนอร์โดยทันที!

พลาด!

ทว่าไนท์ คูนเนอร์ก็ก้มหลบได้ทันท่วงทีราวกับว่าเธอคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว หญิงสาวหมุนหุ่นที่ผอมเพรียวของเธอลอดผ่านค้อนทองอย่างฉิวเฉียด วินาทีต่อมาเธอก็อยู่ด้านหน้าของเซียวเฟิงและกำลังจะฟันเขาด้วยมีดสีเงิน

เซียวเฟิงที่โจมตีไม่โดนจึงรีบยกกระบองของเขากลับขึ้นมาแล้วเหวี่ยงไปยังไนท์ คูนเนอร์ที่กำลังจะฟันเขาอย่างเต็มแรงอีกรอบ

แต่การฟันของหญิงสาวครั้งนี้เป็นเพียงการหลอกล่อเท่านั้น เธอดึงมีดของตนกลับในพริบตาแล้วงอตัวหลบการโจมตีอันหนักหน่วงของ เซียวเฟิง ในขณะเดียวกับก็มีแสงสีฟ้าสว่างขึ้นในมือ และมีดระดับน้ำเงินก็ปรากฏขึ้นในมือของหญิงสาว จากนั้นเธอก็โจมตีเซียวเฟิงด้วยความเร็วปานสายฟ้า

“หือ?” เซียวเฟิงทำอะไรไม่ได้นอกจากถอยหลบการโจมตีของเธอ แล้วแสดงความตกใจ “ไม่ได้เจอกันแค่วันเดียว เก่งขึ้นมากเลยนี่”

ไนท์ คูนเนอร์ไม่ตอบคำ ดูเหมือนว่าเธอจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อมีมีดทั้ง 2 ในมือ ก่อนที่ต่อมาหญิงสาวจะก้าวไปข้างหน้าเพื่อร่นระยะห่างจากนั้นก็บิดข้อมือแล้วแกว่งมีดของเธอแทงเข้าใส่เซียวเฟิง!!

ในเวลาเดียวกันนั้น โรสที่อยู่ด้านหลังก็แกว่งคทาร่ายอวยพรอาวุธให้กับอาวุธของไนท์ คูนเนอร์

…ถึงสกิลของเธอจะไม่ได้ช่วยเพิ่มพลังโจมตีเยอะเหมือนกับของเซียวเฟิง แต่โรสเองก็ใช้อุปกรณ์ที่ดีจึงช่วยเพิ่มค่าพลังโจมตีของไนท์ คูนเนอร์ได้มากพอตัว

ลิลลี่และนักธนูที่เหลืออยู่กลุ่มสุดท้ายเองก็เริ่มการโจมตีระยะไกลเพื่อจะหยุดยั้งเซียวเฟิงเช่นกัน ทว่ามันก็ไม่เป็นผล

ไนท์ คูนเนอร์เข้าประชิดและไล่ตีเซียวเฟิงอย่างต่อเนื่อง เธอแกว่งมีดในมือทั้งสองข้างอย่างว่องไว โจมตีเขาด้วยเพลงมีดอันอ่อนช้อยโดยไม่เปิดจังหวะให้ชายหนุ่มได้ตั้งตัว

“ไนท์ คูนเนอร์สมกับเป็นเทพจริงๆ ด้วย ดูสิเธอเก่งสุดยอดไปเลย!” ผู้เล่นที่คอยดูอยู่ข้างนอกแสดงความประหลาดใจ เพราะไนท์ คูนเนอร์นั้นแข็งแกร่งและว่องไว ท่าทางและการเคลื่อนไหวของเธอนั้นสมบูรณ์ไร้ที่ติ เธอเกาะติดเซียวเฟิงแล้วยังโจมตีเขาได้ในเวลาเดียวกัน ทำให้เซียวเฟิงแทบจะไม่มีโอกาสในการตอบโต้เลย

“เป็นการผสมผสานการโจมตีที่ดี… ทว่ามันดูฉูดฉาดเกินไป”

-25!

-32!

อยู่ๆ เซียวเฟิงก็หยุดกลางอากาศปล่อยให้มีดของไนท์ คูนเนอร์ทิ่มเข้าจังๆ ตัวเลขดาเมจที่ค่อนข้างสูงปรากฏขึ้น แต่ในขณะเดียวกันเซียวเฟิง ก็ตีไนท์ คูนเนอร์ด้วยกระบองของเขา

ไนท์ คูนเนอร์อึ้ง เธอไม่คิดว่าเซียวเฟิงจะปล่อยให้เธอโจมตีแบบนั้น แต่หญิงสาวก็รับรู้ในทันทีว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติจึงรีบหลบการโจมตีของเขาไปทางซ้าย

เธอรับรู้ได้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น การหลบหลีกของเธอนั้นเป็น การกระทำด้วยจิตใต้สำนึก แต่ด้วยค่าสถานะที่ยอดเยี่ยมของเซียวเฟิง ทำให้ชายหนุ่มสามารถสู้กับเธอได้อย่างสบายๆ

ผลก็คือไนท์ คูนเนอร์หลบการโจมตีของเซียวเฟิงไม่พ้น หญิงสาวโดนค้อนทองเรืองแสงทุบเข้าไปในทางที่กำลังเคลื่อนตัวไป ราวกลับว่าเซียวเฟิงรู้อยู่แล้วว่าเธอจะหลบไปทางซ้าย เธอจึงโดนค้อนฟาดเข้าไปที่หัวเต็มๆ!

พวกเขาได้ยินเสียงทุบที่คุ้นเคย

-309!

สิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้ ไนท์ คูนเนอร์ไม่สามารถต้านทานต่อดาเมจอันมหาศาลของค้อนแห่งการพิพากษาได้ เธอถูกฆ่า และกลายเป็นศพในทันที หญิงสาวได้แต่จ้องเซียวเฟิงอย่างเคียดแค้น ก่อนที่จะกลายเป็นแสงสีขาวและถูกส่งไปยังหมู่บ้านเริ่มต้นทันที

“โรส เธอรีบออกไปจากที่นี่เร็วๆ เถอะ! เพราะในฐานะของหัวหน้ากิลด์ เธอจะมาถูกฆ่าและส่งกลับไปยังหมู่บ้านเริ่มต้นแบบนี้ไม่ได้!” ลิลลี่ที่หน้าซีดบอกกับโรสให้หนีออกไป ก่อนที่พวกเธอที่อยู่หน้าทางเข้าเกาะกลางจะเดินหายออกไปพร้อมกันกับนักธนูของกิลด์มิดซัมเมอร์

พวกเขาทั้ง 5 คนเข้าไปในพื้นที่ปกติเพื่อหลีกเลี่ยงการไล่ฆ่าของเซียวเฟิง ….เป็นที่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้คิดมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งมันก็ดูจะเป็นความคิดที่ดี

เซียวเฟิงไม่อยากที่จะออกไปฆ่าคนพวกนั้นที่หน้าทางเข้า เพราะถึงเป็นความจริงที่เขาต้องการที่จะต่อต้านกิลด์มิดซัมเมอร์ แต่ชายหนุ่มก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องฆ่าพวกนั้นให้หมด นอกจากนั้นเลเวลก็ยังเหลืออยู่เท่าเดิมถ้าโดนฆ่าในหมู่บ้านฝึกหัดนี่อยู่ดี

“ฮ่า… ฮ่าฮ่า! ท่านเทพฮีล เจ๋งสุดๆ ไปเลย!”

การต่อสู้ได้จบลงแล้ว ไนฟกับเฉียนโตวโตวจึงเข้ามาหาเซียวเฟิงจากระยะไกล ซึ่งไนฟก็ทั้งทึ่งและฝืนยิ้มเมื่อเขาเห็นกิลด์ขนาดใหญ่ถึง 2 กิลด์ทำงานด้วยกันจนสามารถรวมสมาชิกชั้นสูงกว่า 50 คนเพื่อที่จะฆ่าเซียวเฟิง

…ก่อนหน้านี้ไนฟไม่คิดว่าเซียวเฟิงจะมีชีวิตรอดจากเหตุการณ์นี้ไปได้ แต่ผลที่ได้มันกลับทำให้เขาพูดไม่ออก!

ณ บริเวณนี้เคยมีผู้เล่นระดับสูงกว่า 50 คน คนพวกนี้สามารถที่จะรวมตัวกันเป็นกองทหารชั้นสูงในกิลด์หลักใดก็ได้ แต่พวกเขาทั้งหมดกลับถูกฆ่าด้วยผู้ชายคนนี้!

นอกจากนั้นเขายังกำจัดผู้เล่นระดับปรมาจารย์ที่เป็นหนึ่งในผู้เล่นสิบอันดับผู้เล่นของหอเกียรติยศอีกด้วย ซึ่งซ้ำร้ายเธอคนนั้นยังมีคลาสเป็นโจร และเด่นในการฆ่าผู้เล่นอีกด้วย!

แต่ทั้งหมดนี้กลับโดนฮีลเลอร์คนนี้ที่เป็นแค่นักบวชฆ่าตาย!!

เขาแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!

ไนฟไม่รู้ว่าจะอธิบายเกี่ยวกับเซียวเฟิงให้คนอื่นฟังอย่างไร เขาลอบกลืนน้ำลายและสาบานว่าจะไม่มีทางเป็นศัตรูกับฮีลเลอร์คนนี้เด็ดขาด!

“ขอบใจนายมาก เดี๋ยวฉันจะข้อมูลเคล็บลับที่ว่าให้ภายใน 30 นาที” เซียวเฟิงขอบคุณไนฟ ในขณะที่เฉียนโตวโตวไม่พูดอะไรออกมา หญิงสาวเอาแต่มองเซียวเฟิงและคิดในใจว่าเธอเลือกถูกคนแล้ว

“ไม่ต้องรีบครับ ผมไม่ได้เดือดร้อนอะไร” ไนฟตอบอย่างนุ่มนวล เขาที่ได้รู้ถึงพลังที่แท้จริงของเซียวเฟิงไม่กล้าที่จะสบประมาทชายหนุ่มอีกต่อไป

พวกเขาคุยกันอยู่พักหนึ่ง แล้วเซียวเฟิงก็กลับไปยังหมู่บ้านฝึกหัดกับเฉียนโตวโตว ซึ่งตัวหญิงสาวเลือกที่จะยังไม่เปลี่ยนคลาสและคิดจะอยู่ในหมู่บ้านฝึกหัดเพื่อทำกำไรต่ออีกหน่อย

กระเป๋าเป้ของเธอเต็มไปด้วยอุปกรณ์เลเวล 10 ซึ่งในหมู่บ้านนี้ที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ยังไม่ผ่านภารกิจทดสอบ ไอเทมพวกนี้ต้องขายได้แน่นอนไม่ว่าราคาจะแพงเท่าไรก็ตาม ! และถ้าเป็นแบบนั้นจริง งั้นแล้วพวกเขาก็จะสามารถทำกำไรได้มหาศาล !!

คู่นิโคลัสรอเซียวเฟิงอยู่ที่หมู่บ้านฝึกหัด และเมื่อเซียวเฟิงมาถึงพวกเขาก็เดินทางไปยังเมืองเทียนหลงด้วยกัน ก่อนที่จะแยกตัวไปเมื่อพวกเขามาถึง เพราะคู่นิโคลัสต่างมีจุดหมายในใจ พากันรีบวิ่งไปที่ร้านขายยา เซียวเฟิงจึงรู้ว่าพวกเขาโดนเฉียนโตวโตวซื้อตัวไปแล้วแน่นอน

แต่ทว่าเซียวเฟิงก็ไม่ใส่ใจเท่าไหร่ เขาตรวจดูเวลาแล้วนึกได้ว่าเควสเนื้อเรื่องก่อนหน้านี้ยังไม่ถึงเวลา ดังนั้นหลังจากที่ส่งข้อมูลให้กับไนฟแล้ว เขาจึงคิดว่าจะไปที่ร้านขายสัตว์เลี้ยง เพื่อที่จะเรียนสกิลไว้ใช้จับสัตว์เลี้ยงที่แข็งแกร่ง ….เนื่องจากมันจะช่วยให้พลังโจมตีของเขาเพิ่มพูนขึ้นอย่างมากแน่นอน!

บนเกาะกลางของหมู่บ้านฝึกหัดอีกแห่งหนึ่ง กลุ่มผู้เล่นที่หมดกะจิตกะใจต่างพากันยืนอยู่หน้าทางเข้า

“อะไรนะ? เคล็ดลับสำหรับภารกิจทดสอบ? นายได้มันมาได้ไง!?” นักรบในชุดเกราะสีแดงตะโกนด้วยความประหลาดใจ ทำให้ผู้เล่นที่อยู่รอบๆ ตัวเขาตื่นกลัว เพราะพวกเขาคิดว่าชายผู้นี้บ้าคลั่งไปแล้วที่ทำภารกิจทดสอบไม่ผ่าน

นักรบในชุดเกราะแดงที่มีชื่อว่าวอร์สปิริตสกายอยู่บนหัวของเขาพูดขึ้น ชายคนนี้คือหัวหน้าของกิลด์วอร์สปิริตฮอล์!

“ก็มีฮีลเลอร์คนหนึ่งส่งมันมาให้ผมน่ะ ผมบอกพี่ไปแล้วนี่ เขาเป็นคนเดียวที่ฆ่าบอสตัวแรกในเซิร์ฟเวอร์นี้ ผมกับเขาอยู่หมู่บ้านฝึกหัด ที่เดียวกัน”

ไนฟพูดในแชทเสียง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความภูมิใจและพอใจจนเกินไป จึงเห็นได้ชัดว่าเขาต้องการที่จะได้รับคำชม

“แกพูดว่าฮีลเลอร์อะไรนะ? รีบๆ ส่งมันมาสักที! แกทำงานได้ดีมาก! ฮ่าฮ่าฮ่า! ”

สกายพูดอย่างตื่นเต้นพร้อมลูบมือทั้งสองข้างของเขา ก่อนจะพูดเสียงเบาเพื่อป้องกันการแอบฟังจากผู้เล่นที่อยู่รอบๆ

“อะ เอาไปเลย แต่ผมยังไม่ได้ลองทำตามนะ ดังนั้นจึงไม่มั่นใจว่ามันจะมีประโยชน์หรือเปล่า” ไนฟตอบอย่างตื่นเต้น

“นี่แกโง่หรือไง? เขาทำภารกิจทดสอบสำเร็จด้วยตัวเขาคนเดียว! ข้อมูลของเขาก็ต้องมีประโยชน์มากอยู่แล้วซิ”

“แต่ผมเห็นเขาร่วมทีมกับผู้เล่นคนอื่นนะ” ไนฟตอบอย่างไม่มั่นใจ

“ฉันเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าไอคิวของแกเหมาะกับตำแหน่งที่แกนั่งอยู่หรือเปล่า นี่แกโง่จริงๆ ใช่ไหม? แกไม่ได้ดูในรายชื่อเหรอ? คนที่ฆ่าบอสตัวแรกของเซิร์ฟเวอร์และคนแรกที่เปลี่ยนคลาสสำเร็จต่างก็ปกปิดชื่อของพวกเขา ซึ่งฉันก็มั่นใจว่าเขาคือคนคนเดียวกันหลังจากที่ดูในรายชื่อแล้ว ….หัดใช้หัวของแกซะบ้างสิเว้ย!” สกายตอบกลับด้วยความโมโห และผิดหวัง

“พี่จะตะคอกใส่ผมทำไม? ผมเป็นน้องพี่นะ! แล้วผมก็เพิ่งจะทำผลงานที่ดีให้กับกิลด์ของเรา ผมจะไม่ยอมส่งข้อมูลนี้ให้กับพี่ถ้าพี่ยังตะคอกผมอยู่แบบนี้!” ไนฟโต้กลับอย่างเจ็บใจ

“โทษทีพี่ผิดไปแล้ว แต่นายยังอยากจะเป็นผู้บังคับบัญชาของหน่วยนักรบอยู่ไหม? ถ้าอย่างงั้นก็รีบๆ ส่งมันมาให้พี่สิ อย่างไรซะก็มีเพียงสมาชิกหลักของกิลด์เราเท่านั้นที่จะสามารถใช้ข้อมูลนี้ได้ และพวกนั้นก็ห้ามเอาเรื่องในนี้ไปบอกกับคนอื่น เราจะต้องใช้มันให้ดี เพราะนี่เป็นโอกาสดีที่เราจะได้เปรียบกิลด์อื่น!”

“อีกอย่าง ลองชวนฮีลเลอร์คนนั้นมาเข้ากิลด์เราดูสิ พวกเราจะทำทุกอย่างเพื่อให้เขาพอใจ แต่นายอย่าลืมว่านายต้องทำตัวให้สุภาพเข้าไว้ ถึงแม้เขาจะปฏิเสธการชักชวนของเราก็ตาม เพราะมันจะเป็นประโยชน์กับเราอย่างมากถ้าเราได้ปรมาจารย์แบบเขามาเป็นเพื่อน!”

“ใช่แล้ว ผมรู้เรื่องนั้นดี”