หมื่นสวรรค์สิ้นโลกา Online Ep.378 – ตาย

 

“ว่าไงนะ! นายต้องการที่จะฆ่าตัวตายอย่างงั้นหรอ!?” เย่เฟย์หยูอุทานด้วยความประหลาดใจ

 

ซางหยิงฮ่าวเอาแต่มองกู่ฉิงซาน นิ่งค้างไปชั่วเวลาหนึ่ง ก็ยังไม่รู้ว่าตนสมควรจะเอ่ยอะไรออกมาดี

 

“อย่าเข้าใจผิดไป ฉันก็แค่พึ่งจะค้นพบวิธีที่จะแยกจิตวิญญาณออกจากกายหยาบเพื่อที่จะได้เข้าไปสำรวจทางปรภพก็เท่านั้นเอง” กู่ฉิงซานอธิบาย

 

ซางหยิงฮ่าวกับเย่เฟย์หยูเหลือบมองกันวูบหนึ่ง

 

“จริงๆหรอ?” เย่เฟย์หยูเค้นถาม

 

“จริงๆสิ” กู่ฉิงซานกล่าวอย่างจริงจัง

 

ดูจากท่าทางและฟังจากน้ำเสียงของกู่ฉิงซาน ทั้งสองก็เริ่มจะเชื่อขึ้นเล็กน้อย

 

“แล้วพวกเราต้องทำอะไรบ้าง?” ซางหยิงฮ่าวกล่าว

 

“คอยปกป้องร่างมนุษย์ของฉันเอาไว้ เพราะถ้าร่างกายของฉันได้รับความเสียหาย เวลาที่จิตวิญญาณของฉันกลับมา มันก็จะไม่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ และสถานการณ์นั้นจะหมายความว่าฉันได้ตายลงแล้วจริงๆ”

 

“นายสามารถเดินทางไปยังปรภพได้จริงๆน่ะหรอ?” เย่เฟย์หยูอดไม่ได้ที่จะย้ำถาม

 

“ใช่ และมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรด้วย” กู่ฉิงซานกล่าว

 

“งั้นพวกเราล่ะ? พวกเราสามารถไปด้วยได้ไหม?”

 

“ก็ได้อยู่หรอก ถ้าพวกนายมีพื้นฐานวรยุทธระดับก้าวสู่เทพนะ ว่าแต่อยู่ขั้นไหนกันแล้วล่ะ”

 

“อ่า ฉันปราณปรับแต่งขั้น 7”

 

“เอ่อ ฉันอยู่แค่ระดับก่อตั้งเท่านั้นเอง”

 

……..

 

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ถ้างั้นฉันจะรับหน้าที่จัดการเรื่องกำลังคนให้เองก็แล้วกัน” ซางหยิงฮ่าวเสนอตัว

 

เขากล่าวต่อด้วยสีหน้าแข็งกร้าว “แต่ไม่ต้องเตือนนายก็คงจะรู้อยู่แล้วใช่ไหม ว่าปรภพน่ะ เต็มไปด้วยสิ่งน่าพรั่นพรึงมากมาย นอกจากนี้ดูเหมือนว่าเจ้านรกพวกนี้ยังหนีออกมาจากทางฝั่งปรภพอีกด้วย ฉะนั้นการที่มันจะปรากฏขึ้นในโลก ทางปรภพจะต้องเกิดสถานการณ์บางอย่างขึ้นอย่างแน่นอน นายจะต้องระมัดระวังให้ดี”

 

“วางใจเถอะ ฉันจะรีบกลับมาทันทีถ้ารู้สึกว่ามันมีอะไรไม่ถูกต้อง” กู่ฉิงซานกล่าว

 

“ใต้เท้า โปรดทำการเลือกสถานที่ที่จะทำการเก็บรักษาร่างกายมนุษย์เอาไว้ด้วย ส่วนฉันจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องสถานที่นั้นเอง” เทพธิดากล่าว

 

กู่ฉิงซานหันหน้ากลับไปทางหุบเขา มองไปยังทิศทางของวิลล่า “งั้นขอเลือกเป็นในวิลล่าก็แล้วกัน”

 

และทั้งกลุ่มก็กลับไปยังวิลล่า

 

ซางหยิงฮ่าวเปิดอุปกรณ์สื่อสารทันที และเริ่มต้นระดมกำลังพล

 

“งั้นฉันขอรับหน้าที่ปกป้องข้างร่างมนุษย์ของนายก็แล้วกัน” เย่เฟย์หยูกล่าว

 

เทพธิดากงเจิ้งกล่าวต่อ “ส่วนฉันกำลังสร้างมาตรการป้องกันสำหรับใต้เท้า ร้องขอให้ใต้เท้าโปรดรอสักครู่”

 

“โอเค” กู่ฉิงซานตอบรับ ในขณะเดียวกันก็ตบลงบนถุงสัมภาระ และหยิบดิสก์ค่ายกลทั่วไปออกมามากมาย

 

คลังสำรองของนิกายร้อยบุปผานับว่ามั่งคั่งยิ่งนัก มันอุดมไปด้วยดิสก์ค่ายกลอันหลากหลายที่ถูกเก็บสะสมเอาไว้

 

กู่ฉิงซานนำดิสก์ค่ายกลออกมากองหนึ่ง และเริ่มจัดวางค่ายกลประเภทโจมตีและค่ายกลประเภทป้องกันขนาดใหญ่หลายสิบรูปแบบ

 

อย่างไรก็ตาม ศิลาวิญญาณที่จำต้องใช้งานก็มากขึ้นเป็นเงาตามตัว ทว่าสำหรับกู่ฉิงซานแล้ว เขาใช้มันเต็มที่โดยไม่รู้สึกลำบากใจใดๆเลย

 

เพราะเมื่อยามที่จิตวิญญาณออกจากร่างไปยังปรภพ ร่างกายมนุษย์จะเปราะบางมาก กล่าวได้ว่าไร้ซึ่งการป้องกันใดๆ

 

การจัดวางค่ายกลไม่ดี งกนิดๆหน่อยๆโดยไม่สนใจชีวิตตัวเอง หากถึงเวลาคับขันจริงๆก็คงไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้

 

“จัดวางให้คนเป็น สามารถเข้ามาได้ด้วยก็แล้วกัน” กู่ฉิงซานพึมพำ

 

แล้วเขาก็กระตุ้นเปิดใช้งานดิสก์ค่ายกลทั้งหมด

 

ณ ขณะนี้ คนของซางหยิงฮ่าวก็ได้มาถึงแล้ว

 

ซางหยิงฮ่าวเริ่มต้นมอบหมายภารกิจให้เหล่านักฆ่าของเขา

 

เย่เฟย์หยูยืนอยู่อย่างเงียบๆข้างกู่ฉิงซาน ขณะนี้ทั้งคนทั้งร่างของเขาเข้าสู่สถานะตื่นตัวเต็มที่

 

ทุกอย่างได้ถูกเตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว

 

กู่ฉิงซานนั่งในท่วงท่าสมาธิ และเริ่มจีบออกด้วยวิชาลับ

 

ผนึกร่างสู่หยินกับวิญญาณหวนคืนจะต้องถูกใช้ออกในเวลาเดียวกัน และจะต้องไม่มีการผิดพลาดใดๆ

 

เพราะถ้าหากใช้ออกด้วยผนึกร่างสู่หยินก่อน คนใช้ก็จะตายลงโดยตรง และไม่มีทางที่จะทันได้จีบออกด้วยวิชาลับวิญญาณหวนคืนเพื่อทำการเรียกจิตวิญญาณของตนกลับคืนเข้าสู่ร่างได้

.

ขณะเดียวกันหากใช้วิญญาณหวนคืนก่อน จิตวิญญาณก็จะตายลงตรงนั้นเลยโดยตรง มิอาจฟื้นคืนชีพได้อีกเลย

 

กู่ฉิงซานจึงต้องใช้สองวิชาลับนี้ในเวลาเดียวกันและ เขาหยุดลงก่อนที่จะทำการร่ายในส่วนสุดท้าย

 

“ฉันขอตายก่อนนะ แล้วพบกันใหม่” กู่ฉิงซานกล่าว

 

เขากระตุ้นพลังวิญญาณในตันเถียน และผนึกมนตราทั้งสองก็ปะทุขึ้นพร้อมกัน!

 

ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็ปิดลงอย่างไม่ตั้งใจ มือไม้อ่อนห้อยต่องแต่งไม่เป็นภาษา

 

ทั้งคนทั้งร่างของกู่ฉิงซานได้สูญสิ้นกลิ่นอายของชีวิตไปแล้ว

 

“เขาตายลงแล้วจริงๆหรอ? นี่มันน่าทึ่งมาก”

 

ถงถงที่เฝ้ามองจากด้านข้างกลืนน้ำลายอึกใหญ่

 

“เขาแค่ตายลงชั่วคราวน่ะ เพื่อที่จะไปตรวจสอบดูว่าทางปรภพมันเกิดอะไรขึ้น เดี๋ยวก็กลับมา” เย่เฟย์หยูกล่าวอย่างเคร่งเครียด

 

เหล่าผู้คนที่รายล้อมต่างก็อดที่อุทานชื่นชมออกมาไม่ได้

 

ซางหยิงฮ่าวกระแอม ก่อนจะกล่าวให้มันชัดเจน “เอาละๆ พวกเราก็มาเริ่มต้นหน้าที่ของแต่ละคนกันได้แล้ว แม้ว่าจะมีพลังอันแสนจะลึกลับนี่คอยปกป้องอยู่ แต่ฉันก็ยังอยากจะให้ทุกคนกระจายตัวกันออกไปลาดตระเวนรอบหุบเขานะ ถ้ามีสถานกานการณ์อะไรแม้จะเล็กๆน้อยๆเกิดขึ้นก็ขอให้รายงานทันที เราจะต้องแน่ใจว่าจะไม่เกิดความผิดพลาดใดๆ”

 

“เหล่าพี่น้องทั้งหลาย นี่ก็เพื่อการปกป้องโลก หากสิ่งที่เรียกว่าคุณงามความดีมีอยู่จริง ก็หวังว่าการกระทำของเราในครั้งนี้ จะส่งพวกเราไปในภพภูมิที่ดีหลังจากที่ตายลงแล้ว”

 

เหล่านักฆ่าตะโกนขานรับ

 

พวกเขาทั้งหมดได้ลิ้มรสชาติอันหอมหวานของสิ่งที่เรียกว่าการฝึกยุทธแล้ว แถมตอนนี้พวกเขาก็ยังได้เห็นฉากที่ดูมีมนต์ขลังเช่นนี้อีก จึงย่อมเป็นธรรมดาที่จะมีแรงจูงใจที่จะปฏิบัติภารกิจให้ดีที่สุดสำหรับประวัติการณ์ใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้!

 

วิลล่ากลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง

 

เหลียวฮังยังคงอยู่ในเฉินเตี้ยนเฮ่าเพื่อทำการประกอบยานอวกาศใหม่

 

ส่วนซางหยิงฮ่าวกับเย่เฟย์หยู ก็คอยรับหน้าที่ป้องกันที่นี่

 

“แต่แค่พวกเราจะพอหรอ?” เย่เฟย์หยูเอ่ยถาม

 

“นอกเหนือจากเรา ยังมีเทพธิดากงเจิ้งที่คอยตรวจตราบนท้องฟ้าอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นนี่ก็สมควรที่จะไม่มีปัญหาอะไร” ซางหยิงฮ่าวกล่าว

 

“ถ้างั้น แล้ว … เขาล่ะ?”

 

“เขาก็คงต้องพึ่งพาตัวเองแล้ว” ซางหยิงฮ่าวถอนหายใจ

 

“นั่นสินะ เรื่องการเข้าสู่ปรภพน่ะ ไม่มีใครสามารถช่วยเขาได้หรอก” เย่เฟย์หยูเอ่ยเสริม

 

ทั้งสองมองไปยังร่างของกู่ฉิงซานที่ไม่แตกต่างอะไรไปจากคนตายด้วยความเป็นห่วง

 

แต่ทันใดนั้นเอง จู่ๆสองดาบก็ปรากฏขึ้นจากในความว่างเปล่า

 

มันคือดาบของกู่ฉิงซาน

 

จากนั้นพวกมันก็บินเวียนวนโอบล้อมร่างกายมนุษย์ของกู่ฉิงซาน และจู่ๆก็บินฉวัดเฉวียนไปยังทิศทางหนึ่งในฉับพลัน

 

และวินาทีต่อมา ดาบทั้งสองก็หายวับไป

 

“อ่า คราวนี้มันอะไรกันอีกล่ะเนี่ย?” เย่เฟย์หยูเอ่ยด้วยความสงสัย

 

“ฉันขอเดาว่าพวกเขาคงจะตามกู่ฉิงซานไปยังปรภพด้วยกันนั่นแหละ” ซางหยิงฮ่าวกล่าว

 

——–

 

กู่ฉิงซานปิดตาของเขาลง

 

เจ้าตัวรู้สึกได้ถึงความดำมืดวูบหนึ่งเบื้องหน้า และจากนั้นทั้งร่างก็สั่นสะท้านอย่างไม่ตั้งใจ

 

อย่างแรกเลยคือลมหายใจที่หยุดลง

 

ต่อมา การเต้นของหัวใจก็ค่อยๆช้าลงอย่างมาก

 

อุณหภูมิร่างกายค่อยๆลดลง

 

พลังวิญญาณค่อยๆหดตัวเข้าในไปตันเถียน

 

แ้วหัวใจก็หยุดเต้นลงในที่สุด

 

และในช่วงเวลาเดียวกัน กู่ฉิงซานก็พลันลืมตาขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ

 

เขาลุกขึ้นยืนจากตัวเอง

 

แต่กลับพบว่ายังมีตัวเขาอีกคนหนึ่งกำลังนั่งไขว้ขาอยู่ นิ่งงันอยู่ในสถานที่เดิม

 

กู่ฉิงซานหันไปมองรอบๆ

 

และพบว่าถงถงกำลังมองเขาที่นั่งอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าประหลาดใจ

 

ขณะที่ฝูงชนเริ่มที่จะพูดคุยกัน

 

ทว่าสายตาของทุกคนกลับยังคงตกลงบนร่างของเขาที่กำลังนั่งไขว้ขาอยู่

 

กู่ฉิงซานโบกมือไปมาด้านหน้าซางหยิงฮ่าว

 

แต่ซางหยิงฮ่าวกลับไม่ตอบสนองอะไรเลย เขาเพียงจ้องมองกู่ฉิงซานที่กำลังนั่งอยู่อย่างใจจดใจจ่อ

 

เย่เฟย์หยูก็มองไม่เห็นเขาเช่นกัน แต่ตามร่างกายของอีกฝ่ายดูเหมือนว่าจะปรากฏร่องรอยจางๆของเลือดสังหารที่กระพริบไหว บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเจ้าตัวกำลังกระวนกระวาย

 

ณ เวลานี้ ไม่มีใครเลยที่สามารถมองเห็นกู่ฉิงซานที่กำลังยืนอยู่ได้

 

กู่ฉิงซานสามารถเข้าใจได้ในทันที

 

ตนเองได้ตายลงแล้ว

 

ตอนนี้ เขาอยู่ในสถานะจิตวิญญาณ

 

และมีพลังมนตราอันแปลกประหลาดคอยห่อหุ้มตัวเขาเอาไว้ จากนั้นก็เริ่มทำลายอากาศที่ว่างเปล่า และสร้างรูที่มองไม่เห็นขึ้นตรงหน้าเขา

 

นี่คือพลังของวิชาลับวิญญาณหวนคืน

 

มันจะดึงเอากู่ฉิงซานฝ่าวงล้อมอาณาเขตของโลกมนุษย์ และชักนำเข้าสู่มิติที่ว่างเปล่าอันเชี่ยวกราด

 

‘หากคิดจะมุ่งหน้าไปยังปรภพ คงต้องผ่านรูมิตินี้ไปอย่างงั้นหรอ?’

 

“พูดได้ว่า ตอนนี้ฉันสามารถไปยังปรภพได้แล้วอย่างงั้นสินะ” กู่ฉิงซานพึมพำ

 

ทันใดนั้นดาบพิภพก็กระโดดออกมาจากอากาศที่ว่าเปล่าและส่งเสียงกังวานก้อง “ข้าจะไปกับเจ้าด้วย หลังจากนี้ไปสถานการณ์จะวุ่นวายมาก และเจ้าก็อาจจะตกอยู่ในอันตรายได้”

 

“เจ้าสามารถร่วมเดินทางไปด้วยกันได้กระนั้นหรือ?” กู่ฉิงซานเอ่ยถาม

 

ทันทีที่เขาเอ่ยถาม ตนก็จดจำได้ว่าครั้งหนึ่งดาบพิภพก็เคยท่องอยู่ในกระแสมิติที่ว่างเปล่าอันเชี่ยวกราด และเคยไปเฉียดปากทางเข้าปรภพมาแล้ว

 

กล่าวกันว่าดาบพิภพสามารถติดตามตนเองไปได้จริงๆ!

จิตใจของกู่ฉิงซานผ่อนคลายลงทันที

 

สำหรับผู้ฝึกดาบ หากมีดาบอยู่ในมือ ในหัวใจก็หนักแน่นมั่นคงขึ้นไปหลายส่วน

 

“ไม่ใช่เพียงแค่ข้าหรอก เช่าหยินก็เป็นอาวุธของเทพวิญญาณเช่นกัน ดังนั้นมันจึงสามารถร่วมเดินทางไปด้วยได้”

 

และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะดาบเช่าหยินก็ได้ปรากฏตัวขึ้นตามมาในความว่างเปล่าทันที

 

ปลาเล็กกระโดดออกมาจากดาบเช่าหยิน และว่ายวนไปรอบๆกู่ฉิงซาน

 

“เช่าหยินก็ไปด้วยสินะ? ดีล่ะ เช่นนั้นข้าก็รู้สึกใจชื้นเพิ่มขึ้นแล้ว” กู่ฉิงซานกล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

 

“งั้นก็ออกเดินทางกันเถอะ!”

 

เขานำสองดาบ ก้าวผ่านเข้าไปในช่องว่างที่ว่างเปล่า และมิอาจมองเห็นได้อีกเลย