แม้ว่าเธอและฮ่อหยุนเฉิงจะมีสัญญาเพียงสามเดือน แต่ในขณะนี้ สถานะของเธอก็คือคู่หมั้นของฮ่อหยุนเฉิงจริงๆ
ดังนั้นจึงไม่ถือว่าเป็นการหลอกลวงเฉินจุนเหยียนหรอกจริงไหม?
เธอไม่ต้องการให้เฉินจุนเหยียนมีความหวังอีกต่อไป เนื่องจากเฉินจุนเหยียนและฮ่อหยุนเฉิงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมา ดังนั้น…เขาน่าจะยอมแพ้ใช่ไหม?
คำพูดของซูฉิงราวกับสายฟ้าฟาดลงมาอย่างไงอย่างงั้น ทำให้เฉินจุนเหยียนเจ็บปวดอย่างมาก “ทำไม? ฮ่อหยุนเฉิงเขาดีกว่าฉันงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่ดีหรือไม่ดี แต่มันเป็นเพียงความเหมาะสมเท่านั้น” หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ซูฉิงก็พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “เฉินจุนเหยียน ฉันบอกไปแล้วว่าเราไม่เหมาะสมกัน”
“ไม่ เป็นไปไม่ได้!” ใบหน้าของเฉินจุนเหยียนก้าวข้ามความขมขื่นที่ไม่สามารถบรรยายได้ และทันใดนั้นก็ยื่นมือออกมาและคว้าไหล่ของซูฉิง “ซูฉิง คุณให้โอกาสฉันได้ไหม ฉันจะทำให้ดีกว่าฮ่อหยุนเฉิงอย่างแน่นอน ฉันจะพิสูจน์ให้เห็นชัดๆว่าฉันเหมาะกับเธอมากกว่าเขา!”
“เฉินจุนเหยียน นายปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” ซูฉิงดิ้นรน แต่เฉินจุนเหยียนก็จับแน่นขึ้น
“ซูฉิง อย่าโหดร้ายกับฉันได้ไหม?” เสียงของเฉินจุนเหยียนสั่นเล็กน้อย
ซูฉิงสะบัดเฉินจุนเหยียนอย่างดุเดือด และพูดอย่างโกรธเคือง “ทำไมคุณยังไม่เข้าใจอีก?”
ฮ่อหยุนเฉิงรออยู่ในห้องอาหารนานแล้ว แต่เมื่อเห็นว่าซูฉิงยังไม่กลับมา เขาก็ลุกขึ้นและเดินตรงไปที่ห้องน้ำ
จากระยะไกล เขาเห็นซูฉิงและเฉินจุนเหยียนอยู่ด้วยกัน ท่าทางของพวกเขาใกล้ชิดกันมาก…
ซูฉิง เธอกำลังทำอะไรอยู่?
ทำไมเธอถึงอยู่กับเฉินจุนเหยียนได้?
ฮ่อหยุนเฉิงเดินไปและถามด้วยใบหน้าที่เยือกเย็น “ซูฉิง เธอทำอะไรอยู่?”
ซูฉิงผลักเฉินจุนเหยียนออก แล้วหันกลับมาพบกับดวงตาที่เย็นชาของฮ่อหยุนเฉิง และฝืนยิ้มบนริมฝีปากของเขา “ไม่มีอะไร ฉันแค่มาขอลายเซ็นของดาราดังเฉินเท่านั้น”
“งั้นเหรอ?” ฮ่อหยุนเฉิงขมวดคิ้ว มองเฉินจุนเหยียน เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เชื่อคำพูดเหล่านี้
ใบหน้าของเฉินจุนเหยียนดูเฉยเมย เขาเพียงแต่มองไปที่ฮ่อหยุนเฉิงด้วยแววตาที่ดูซับซ้อนเท่านั้น
“แน่นอนอยู่แล้ว” ซูฉิงขยับมุมปากของเธอและพูดพร้อมกับจับแขนของฮ่อหยุนเฉิง “ไปกันเถอะ กลับกันเถอะ”
เมื่อเห็นซูฉิงและฮ่อหยุนเฉิงออกไปพร้อมกัน ดวงตาของเฉินจุนเหยียนก็ลุกวาวทันที มันเต็มไปด้วยความคับข้องใจและความเศร้า
ทำไมซูฉิงถึงเลือกฮ่อหยุนเฉิง?
หรือว่าซูฉิงไม่รู้หรือว่าฮ่อหยุนเฉิงรักเพียงผู้หญิงที่ชื่อถังถังคนนั้นมาโดยตลอดงั้นหรอ?
เขาไม่ได้รักซูฉิงเลย เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะรักและถนุถนอมซูฉิงได้
วันหนึ่งซูฉิงจะเข้าใจว่ามีเพียงเขาเท่านั้น เฉินจุนเหยียนคนนี้เท่านั้นที่เป็นรักแท้ของซูฉิง และมีเพียงเขาเท่านั้นที่เหมาะสมกับซูฉิง
ซูฉิงคว้าแขนของฮ่อหยุนเฉิง และทั้งสองก็กลับไปที่ห้องอาหาร
“เธอรู้จักเฉินจุนเหยียนงั้นหรือ?” ใบหน้าของฮ่อหยุนเฉิงมืดมนและดวงตาที่ดูสังสัยของเขาก็มองลงมาที่ใบหน้าของซูฉิง
ชูฉิงแสร้งทำเป็นผ่อนคลายและยิ้ม “ซุปเปอร์สตาร์ดังฌฉินเขาดังมากเลย ใครจะไม่รู้จักเขากันล่ะ ยิ่งไปกว่านั้นนะ เมื่อกี้นายเพิ่งจะเแนะนำเขาให้ฉันรู้จักว่าเขาเป็นเพื่อนของคุณ”
“งั้นหรอ”? ฮ่อหยุนเฉิงหรี่ตาลงเล็กน้อย
เมื่กี้นี้ซูฉิงและเฉินจุนเหยียน กำลังยื้อกันไปมาอยู่ที่ประตูห้องน้ำ เห็นได้ชัดว่ามันไม่เหมือนการขอลายเซ็นธรรมดาๆ
เมื่อกี้เขาสองคนกำลังทำอะไรอยู่นะ?
ฮ่อหยุนเฉิงรู้ว่าเฉินจุนเหยียนมีผู้หญิงที่เขารักอย่างสุดซึ้งอยู่คนหนึ่ง
เป็นลูกสาวของครอบครัวที่ร่ำรวยและยังเป็นเจ้านายของเฉินจุนเหยียนอีกด้วย
เฉินจุนเหยียนรักผู้หญิงคนนั้นมากเท่ากับที่เขารักถังถัง
เฉินจุนเหยียนกำลังจีบผู้หญิงคนนั้น และเป็นไปไม่ได้ที่จะมองหาผู้หญิงคนอื่นอีก
ดังนั้น ที่ทั้งสองคนยื้อยุดกันเมื่อกี้ ต้องเป็นซูฉิงที่เป็นคนเริ่มอย่างนั้นหรือ?
หรือว่าจะเป็นเหมือนกับที่ฮ่อเฉียนพูดจริง ๆงั้นเหรอ? ซูฉิงชอบคบกับผู้ชายรวยๆอย่างนั้นเหรอ?
ฮ่อหยุนเฉิงไม่เชื่อว่าซูฉิงเป็นผู้หญิงแบบนี้ แต่…
“ใช่ เมื่อกี้ฉันเกือบจะได้ลายเซ็นของเขาอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะนายปรากฏขึ้นกะทันหันละก็ เขาก็คงเซ็นลายเซ็นต์พร้อมรูปถ่ายให้กับฉันแล้ว” เมื่อเห็นใบหน้าที่มืดมนของฮ่อหยุนเฉิง ซูฉิงก็กล่าวด้วยความรู้สึกผิดว่า “ครั้งหน้านายต้องช่วยฉันขอลายเซ็นเขานะ”
ฮ่อหยุนเฉิงเหลือบมองที่เธอและไม่พูดอะไรอีก
บรรยากาศในห้องค่อนข้างอึดอัดเล็กน้อย
ซูฉิงก้มศีรษะลงและกินอาหารอย่างเงียบๆ แต่ท้องของเธอก็รู้สึกไม่สบายมากขึ้นเรื่อยๆ
“เธอเป็นอะไรไป?” ฮ่อหยุนเฉิงถามเมื่อรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติกับซูฉิง
ใบหน้าของซูฉิงซีดและรู้สึกปวดท้องมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอลุกขึ้นยืน “ฉันปวดท้อง … ”
“เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาล” ดวงตาของฮ่อหยุนเฉิงเบิกกว้างด้วยความเป็นห่วงและขายาวๆของเขาก็ก้าวไปข้างหน้าซูฉิง”เธอโอเคอยู่ใช่ไหม?”
ซูฉิงรู้สึกปวดท้องมาก เธอพยุงตัวเองบนโต๊ะด้วยมือทั้งสองข้าง เธอคงไม่ได้เป็นประจำเดือนใช่ไหม?
ความร้อนที่ไหลผ่านช่องท้อง และความรู้สึกคุ้นเคยนี้ น่าจะเป็นประจำเดือนจริงๆ แต่เธอก็ไม่เคยปวดท้องเท่านี้มาก่อน
“ฉัน…” ซูฉิงอ้าปากของเธอ และในขณะที่ต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้น ดวงตาของเธอก็มืดลง ร่างกายของเธอก็เซไปเซมา และเธอก็ล้มลงไปที่ด้านข้าง
“ซูฉิง เกิดอะไรขึ้น?” เสียงของฮ่อหยุนเฉิงฟังดูประหม่าเล็กน้อยและเขาก็ยื่นมือใหญ่ๆออกมากอดซูฉิง
ฮ่อหยุนเฉิงรีบอุ้มซูฉิงไปที่โซฟาข้างๆ เขา และพบว่ามีเลือดที่กระโปรงของเธอเข้าในทันใด
ทำไมถึงมีเลือดออก? หรือว่าเธอได้รับบาดเจ็บ?
เมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย แล้วทำไมจู่ๆ ถึงได้รับบาดเจ็บได้ล่ะ?
ฮ่อหยุนเฉิงตกใจ เขาหยิบรีบโทรศัพท์มือถือแล้วโทรหาคนที่ชื่อเสี่ยวเฮ่อหงเหว่ยทันที และพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ร้านอาหารญี่ปุ่น มาที่นี่ภายในห้านาที”
ครอบครัวเฮ่อ เป็นแพทย์มาหลายชั่วอายุคนและมีความสัมพันธ์ที่ดีกับครอบครัวฮ่อ เฮ่อหวงเหว่ยสืบทอดโรงพยาบาลของครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อยและมีทักษะทางการแพทย์ที่ไม่ธรรมดา
ในขณะนี้ เขากำลังอยู่ในบาร์ กำลังสนทนากับนักแสดงสาวอย่างสนุกสนาน และทันใดนั้นเขาก็ได้รับโทรศัพท์จากฮ่อหยุนเฉิง จึงถามด้วยความสงสัยว่า “เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอครับนายน้อยฮ่อ คุณไม่สบายอย่างนั้นเหรอ? ทำไมถึงได้รีบร้อนเช่นนี้กัน?”
“อย่าพูดมากเลย รีบมาที่นี่เร็วเข้า!” ฮ่อหยุนเฉิงอดไม่ได้ที่จะเร่งเร้า
“โอเคๆๆครับ ฉันกำลังจะรีบไปเดี๋ยวนี้ครับ” เฮ่อหงเหว่ยคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับฮ่อหยุนเฉิง ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะรอช้า และรีบไปที่ร้านอาหารอย่างรวดเร็ว
“รีบดูเธอเร็วเข้า เธอได้รับบาดเจ็บ” เมื่อเห็นเฮ่อหงเหว่ยมาถึง ฮ่อหยุนเฉิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ดวงตาที่ประหลาดใจของ เฮ่อหงเหว่ยจับจ้องไปที่มือของฮ่อหยุนเฉิงที่กำลังจับซูฉิงไว้แน่น เมื่อไหร่กันที่นายน้อยฮ่อรู้สึกประหม่ากับผู้หญิงคนหนึ่งแบบนี้?
“เธอเป็นใครกัน?” ไฟแห่งการนินทาปะทุขึ้นในใจของเฮ่อหงเหว่ย “ดูท่าทีคุณประหม่าขนาดนี้ เป็นไปได้ไหมว่า… เธอคือถังถัง?”
ฮ่อหยุนเฉิงมองเขาอย่างเย็นชา “อย่าพูดไร้สาระ เธอคือ ซูฉิง”
“ซูฉิง?” เฮ่อหงเหว่ยอุทาน “นี่คือคู่หมั้นในนามของคุณ? คือคนที่คุณปู่ของคุณทำสัญญาการแต่งการไว้นะหรือ? แต่ไม่ใช่ว่าคุณไม่ชอบเธอหรือ? ทำไมคุณถึงดูเป็นกังวลขนาดนี้ … ”
“พูดมากจริง รีบไปดูเธอเร็วเข้า” ฮ่อหยุนเฉิงกวาดตามองด้วยสายตาเย็นชาและชี้ไปที่เลือดบนร่างกายของซูฉิงด้วยนิ้วที่เรียวยาวของเขา “เธอได้รับบาดเจ็บ”
“ได้รับบาดเจ็บ?” เฮ่อหงเหว่ยมองดูเลือดบนกระโปรงของซูฉิงอย่างสงสัย เขาตรวจดูชีพจรของเธออีกครั้ง และอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ดูคุณดูเป็นกังวลใจสิ เธอก็แค่ญาติมา (มีจำเดือน)”
“อะไรนะ? ญาติ?” ฮ่อหยุนเฉิงตกตะลึง
เฮ่อหงเหว่ยอธิบายด้วยรอยยิ้มว่า “ก็ไอ้นั่นไง สิ่งที่ผู้หญิงต้องมีทุกเดือน”
ฮ่อหยุนเฉิงเพิ่งจะเข้าใจว่าญาติที่ว่าก็คือสิ่งนั้น
“แล้วทำไมเธอถึงเป็นลมไปได้? ” ฮ่อหยุนเฉิงถามอย่างกังวล
เฮ่อหงเหว่ยมองดูจานอาหารบนโต๊ะ “เธอมีอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ อาจเป็นเพราะการรับประทานอาหารที่ไม่ปกติและเธอหน้าจะเหนื่อยเกินไป พักผ่อนสักหน่อยเดี๋ยวก็ดีขึ้น”
ฮ่อหยุนเฉิงพยักหน้าอย่างเย็นชา ในใจรู้สึกผิดเล็กน้อย เขาไม่ควรบังคับให้เธอทำงานล่วงเวลาเลย
เมื่อซูฉิงตื่นขึ้น เธอก็อยู่ในห้องของฮ่อหยุนเฉิงในเมืองใหม่สุ่ยเยว่แล้ว