อาจเป็นเพราะข่ายพลังที่สูญหายมีความดึงดูดมากเกินไป ทำให้คนที่มาศึกษาในครั้งนี้ แม้จะผ่านการคัดเลือกจากสำนักเทียนซือแล้ว แต่ก็ยังมีจำนวนคนถึงสี่ร้อยยี่สิบเอ็ดคน
หลังจากที่สำนักเทียนซือส่งทองคำมาสี่หมื่นสองพันหนึ่งร้อยตำลึงแล้ว ห้องเรียนการสอนทางไกลของอวิ๋นเจี่ยวก็เริ่มขึ้นในที่สุด
เนื่องจากคนที่มาฟังนั้น ส่วนใหญ่เป็นบุคคลระดับเจ้าสำนักและผู้อาวุโส ต่ำสุดก็เป็นถึงขั้นศิษย์เอกของสำนักต่างๆ อวิ๋นเจี่ยวจึงข้ามบทเรียนข่ายพลังขั้นพื้นฐานในตอนต้นไป เริ่มต้นถ่ายทอดวิธีการสร้างข่ายพลังที่สูญหาย รวมทั้งสิ่งที่ควรระวังในการสร้างข่ายพลัง
ถึงแม้เรื่องที่อวิ๋นเจี่ยวอัญเชิญปรมาจารย์ผู้ก่อตั้งเสวียนเหมินที่หมู่บ้านซื่อสือนั้นจะถูกแพร่กระจายไปทั่วแล้ว แต่นอกจากท่านอาวุโสของสำนักเทียนซือที่อยู่ในเหตุการณ์ คนส่วนมากยังคงสงสัยในความสามารถของอวิ๋นเจี่ยวอยู่ เนื่องจากศิษย์ที่มีอายุเพียงยี่สิบกว่าปี ถึงแม้จะมีพรสวรรค์มากเพียงใด หรือเป็นศิษย์สายตรงของสำนักชิงหยาง แต่จะบอกว่าชำนาญข่ายพลังมากมายเช่นนั้นก็คงจะเป็นไปไม่ได้
เพราะว่าในข่ายพลังมีสิ่งที่ต้องทำมากมาย นักข่ายพลัง เมื่อถึงคราวอายุมากถึงได้เป็นผู้นำ และสามารถซึมซับข่ายพลังชั้นสูงไม่กี่อันก็ถือว่าดีมากแล้ว
แต่นางกลับบอกว่าตนเองรู้ข่ายพลังที่สูญหาย ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นข่ายพลังชั้นสูง ในรายชื่อข่ายพลังกว่าร้อยกว่าอันนั้น มีบางอันที่แม้แต่พวกเขาเองยังเคยได้ยินเพียงชื่อเท่านั้น ประโยชน์ของข่ายพลังนั้นคืออะไรก็ไม่แน่ชัด แต่นางกลับรับปากในทันที ไม่มีแม้แต่ความลังเล อีกทั้งยังพูดอีกว่าจะถ่ายทอดการสร้างข่ายพลังทั้งหมด
เหตุนี้จึงทำให้ทุกคนยิ่งสงสัยในความสามารถของนางมากยิ่งขึ้น แต่ก็คิดว่าสำนักเทียนซือคงไม่นำเรื่องเช่นนี้มาล้อเล่น ดังนั้นพวกเขาจึงมาด้วยจิตใจแบบลองดูไม่ว่าในมือของอีกฝ่ายจะมีวิชาข่ายพลังที่สูญหายหรือไม่ อย่างน้อยพวกเขาก็คงจะได้เรียนรู้รูปข่ายพลังบ้าง อีกทั้งร่วมแรงกันศึกษา ไม่กลัวว่าจะไม่มีคนศึกษาสำเร็จ
ราวแปดสิบเปอร์เซ็นต์ที่มาฟังนั้นล้วนมาด้วยจิตใจเช่นนี้ แต่พวกเขาไม่เชื่อว่าอวิ๋นเจี่ยวจะสร้างข่ายพลัง และซึมซับเนื้อหาของข่ายพลังเหล่านี้ได้ ถึงแม้จะมีพรสวรรค์มากแค่ไหนก็ตาม
แต่ความคิดเช่นนี้ก็ตอกกลับเข้าหน้าตัวเองทันที หลังจากฟังอวิ๋นเจี่ยวสอนจบในคาบแรก นาง…นางทำได้จริงๆ!
○| ̄|_
อวิ๋นเจี่ยวใช้เวลากว่าสองชั่วยามในการอธิบายข่ายพลังแปดอัน นางไม่เพียงแต่อธิบายรูปข่ายพลัง อีกทั้งยังอธิบายวิธีการสร้างข่ายพลัง การสร้างด้วยห้าธาตุ การควบคุมผลกระทบ การจัดวางตำแหน่ง และรายละเอียดความยากอื่นๆ อีกด้วย
ถึงแม้จะมีหลุดคำที่ฟังไม่เข้าใจอย่าง สูตรบ้าง เส้นระนาบบ้าง ยกกำลังบ้าง แต่นอกเหนือจากนี้นางล้วนใช้พูดที่เช้าใจง่าย ง่ายเสียจนขอแค่เพียงคนฟังไม่ใช่คนหูหนวกก็สามารถเข้าใจได้ รูปของข่ายพลังชั้นสูงและซับซ้อนที่สูญหายไปเป็นเวลานานถูกนางอธิบายง่ายเสียจนเป็นข่ายพลังระดับขั้นพื้นฐาน ที่คนทั่วไปสามารถสร้างออกมาได้
หลังจบคาบเรียน อย่าว่าแต่คนที่เดิมทีมีความชำนาญในข่ายพลังอยู่แล้ว แม้แต่เหล่าศิษย์ที่มาฟังเพื่อความสนุกนั้นก็ฟังเข้าใจ…เจ็ดแปดส่วน
อีกทั้งยังมีคนจำนวนไม่น้อย เริ่มทดลองการสร้างข่ายพลังในตอนนั้น และมีคนทำสำเร็จเสียด้วย เจียวเหิงอีก็เป็นหนึ่งในนั้น
“สำเร็จแล้ว สำเร็จแล้วจริงด้วย! ที่แท้ก็เช่นนี้สหายอวิ๋น ข่ายพลังนี้…” เจียวเหิงอีสีหน้าตื่นเต้น กำลังจะถามคำถามออกมาอีกหลายข้อ
ทางอวิ๋นเจี่ยวกลับพูดขัดเขาขึ้นมา “วันนี้พอแค่นี้ พรุ่งนี้ค่อยมาสอนข่ายพลังที่เหลือต่อ เลิกเรียน!”
“เดี๋ยว สหายอวิ๋น…” เจียวเหิงอีถามต่ออย่างไม่ลดละ
“ข้าจะเตรียมตำราที่อธิบายข่ายพลังเหล่านี้แล้วส่งไปยังสำนักเทียนซือ” อวิ๋นเจี่ยวพูดต่อ “มีคำถามอะไร พวกท่านสามารถหาคำตอบได้จากในนั้น คนที่อยากรู้ก็คัดลอกเอา”
เจียวเหิงอีถึงได้หุบปากด้วยความพึงพอใจ แต่ว่า…เขาดูผิดหรือเปล่า? ทำไมรู้สึกเหมือนสหายอวิ๋นไม่ค่อยอยากสนใจเขา? อืม ต้องเข้าใจผิดแน่ๆ !
“จริงสิ พวกท่านล้วนเป็นคนที่มีความสามารถในแต่ละสำนัก ข่ายพลังทั้งแปดในวันนี้ แม้ว่าจะไม่เป็นทั้งหมด แต่อย่างน้อยต้องสร้างออกมาได้ห้าหกอันอย่างต่ำ อืม ถือเป็นการบ้านของวันนี้แล้วกัน พรุ่งนี้ข้าจะมาสุ่มตรวจ!”
“…” หืม?
การบ้านอะไรกัน?
(⊙_⊙)
ทุกคนต่างตะลึงไป ได้ยินเพียงนางยังคงพูดต่อ
“แล้วก็…ในเมื่อพวกท่านคิดจะเรียนที่นี่ ข้าก็ต้องรับผิดชอบต่อพวกท่าน สำนักชิงหยางของพวกเรามีกฎว่า ในหนึ่งเดือนจะมีการสอบประจำเดือนหนึ่งครั้ง แต่ข่ายพลังที่พวกท่านอยากเรียนมีจำนวนน้อยไป ทั้งหมดคงเรียนไม่ถึงหนึ่งเดือน ดังนั้นข้าจึงเปลี่ยนเป็นสอบทุกสามวัน พวกท่านไม่มีปัญหาใช่หรือไม่”
“…”
“ข้อสอบครั้งที่หนึ่ง ข้าได้ส่งไปยังสำนักเทียนซือล่วงหน้าแล้ว สวี…เจ้าสำนักสวีรบกวนท่านช่วยแจกจ่ายไปยังแต่ละสำนัก อย่าหลุดรั่วไปเด็ดขาด! ขอบคุณ!”
“…”
“เนื่องจากระยะทาง ข้าจะไม่สอบตัวต่อตัว ล้วนเป็นข้อสอบเขียนตอบง่ายมาก ส่งข้อสอบสามวันหลัง!”
“…”
“แล้วก็ หลังจากเรียนจบหนึ่งเดือน พวกท่านต้องส่งรายงานจบการศึกษาด้วย”
“…”
“วันนี้แค่นี้ อย่าลืมส่งการบ้าน เลิกเรียน!”
พูดจบ นางก็ตัดสัญญาณของยันต์ส่งสารไปโดยตรง
ทุกคน “…”
เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น พวกเขาเป็นใคร พวกเขาอยู่ไหน พวกเขาต้อง…ทำอะไร
Σ(°△°|||)︴
ทันใดนั้น ท่านอาวุโสจากแต่ละสำนักล้วนสงสัยว่าตนเองหูฝาดไปหรือไม่ จนกระทั่งพวกเขาได้รับข้อสอบจากสำนักเทียนซือ พวกเขาถึงได้รู้ว่า นี่เป็นความจริง!
สหายอวิ๋นทิ้งการบ้านไว้ให้พวกเขาจริงๆ ด้วย
ในตอนแรกทุกคนต่างรู้สึกแปลกใจ คิดว่าสหายอวิ๋นไม่เพียงแต่สอนดี อีกทั้งตั้งใจสอนอีก พวกเขาตั้งใจจะให้ความร่วมมือ แต่เมื่อพวกเขาเปิดข้อสอบออกมา กลับไม่คิดอย่างนั้น
เพราะว่า…มันยากเกินไปจริงๆ ข้อสอบกับตอนเรียนช่างแตกต่างกัน! พวกเขาไม่สามารถตอบออกมาได้!
w(゚Д゚)w
ดังนั้น เหล่าศิษย์เสวียนเหมินของแต่ละสำนักพบว่าเกิดปรากฏการณ์ประหลาดขึ้นมา เหล่าท่านอาวุโสและเจ้าสำนักที่ปกติแล้วท่าทางเคร่งขรึมน่าเคารพนั้น ล้วนศึกษาวิชากันอย่างลืมวันลืมคืน อีกทั้งในบางครั้งยังได้ยินเสียงร้องคำรามของพวกเขา…
“ข้อนี้ทำยังไง ข้อนี้ต้องทำยังไง…ทำยังไง อ๊ากกก!!”
“ข้าคิดไม่ออก…คิดไม่ออก อ๊ากกก!”
ლ(゚Д゚ლ)
เหล่าศิษย์ “…”
เจ้าสำนัก/ท่านอาวุโสของพวกเขา…บ้าไปแล้ว?
(⊙_⊙)
ทันใดนั้น ทั้งเสวียนเหมินล้วนตกอยู่ในความหวาดกลัวการสอบขึ้นมา
ไป๋อวี้ในฐานะที่เป็นคนผ่านมาก่อนนั้นแสดงความเห็นใจ และ…สนับสนุนให้อวิ๋นเจี่ยวออกข้อสอบอีกหลายชุด!
ฮ่าๆ…ในที่สุดก็มีคนเหมือนเขาแล้ว ความรู้สึกนี่มันช่างสะใจเสียจริง! ไป๋อวี้รู้สึกว่าเขาสามารถหัวเราะได้เป็นเดือน
“อ่อ จริงสิ ชายแก่ การบ้านและข้อสอบในคาบเรียนนั้น ข้าได้เหลือไว้ให้ท่านชุดหนึ่ง อย่าลืมทำ!”
“…” เอ๊ะ?
“ท่านมีพื้นฐานมากกว่าพวกเขา ดังนั้นข้าจึงปรับความยากให้มากขึ้นนิดหน่อย ข้าเชื่อว่าท่านทำได้!”
“…”
“ช่วงนี้ข้าค่อนข้างยุ่ง ไม่มีเวลาตรวจการบ้านให้ท่าน ดังนั้นท่านส่งให้อาจารย์ปู่อ่านเลยนะ”
“…”
ไม่! นี่ไม่ใช่เรื่องจริง เจ้าหนู…เจ้ากลับมานะ!