ตอนที่ 215 ต้อนรับพระอาทิตย์ / ตอนที่ 216 หึง

หวานรักจับหัวใจท่านประธาน

ตอนที่ 215 ต้อนรับพระอาทิตย์ 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ “…” 

 

 

มือที่กำลังถือช้อนชะงักไปเล็กน้อย แล้วเธอหันหน้าไปกวาดสายตามองในห้องอาหารอย่างคร่ำเคร่ง แต่ก็ไม่พบเงาร่างของอวี๋เยว่หาน 

 

 

จากนั้นเธอก็ออกแรงกลืนข้าวในปากลงไป แล้วมองพ่อบ้านด้วยความสงสัย “พ่อบ้าน คุณพูดว่าอะไรนะคะ” 

 

 

“…” 

 

 

“คุณไม่เป็นไรใช่ไหมคะ” เหนียนเสี่ยวมู่วางช้อนลง ก่อนจะยืนขึ้น แล้วเดินไปข้างหน้าพ่อบ้าน เธอเพิ่งยื่นมือจะไปสัมผัสหน้าผากของพ่อบ้าน แต่เขาก็เบี่ยงตัวหลบไปแล้ว 

 

 

ใบหน้าของชายชราคร่ำเคร่ง ยากนักที่จะปรากฏท่าทางอึดอัดจนลนลานแบบนั้น 

 

 

เทียบกับหน้าตาเคร่งเครียดในเวลาปกติ ก็ดูชัดเจนมาก 

 

 

พ่อบ้านสบสายตาช่างสังเกตของเธอ เขาเหมือนแมวที่ถูกเหยียบหาง พลางพูดเน้นย้ำอย่างไม่มั่นใจ “ฉันเป็นคนเตรียมอาหารให้เธอทั้งหมด กินข้าวของเธอให้ดีเถอะ กินเสร็จแล้วก็รีบไปนอน” 

 

 

พูดจบแล้วก็กลับหลังหันเดินไป 

 

 

ฝีเท้าของเขาเร่งร้อน ราวกับมีใครตามฆ่าอยู่ข้างหลัง 

 

 

“…” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ยืนอยู่หน้าโต๊ะอาหาร มองพ่อบ้านที่หายวับไปกับตา แล้วหันหน้ากลับมามองอาหารบนโต๊ะ พลางขมวดคิ้วมุ่น 

 

 

เธอรู้สึกแปลกๆ 

 

 

หรือว่าพ่อบ้านจะไม่ได้เป็นคนเตรียมอาหารพวกนี้ให้เธอ?  

 

 

อย่างนั้นยังมีใครกลัวเธอหิว ถึงได้เตรียมอาหารให้เธอ… 

 

 

คฤหาสน์ตระกูลอวี๋ใหญ่มาก แต่คนที่เธอรู้จักและมีอำนาจพอจะสั่งห้องครัวได้มีอยู่ไม่มากจริงๆ 

 

 

หรือว่าจะเป็นอวี๋เยว่หาน? 

 

 

พอเหนียนเสี่ยวมู่นึกถึงชื่อของเขา ในหัวของเธอก็ปรากฏภาพใครบางคนปล่อยมือให้เธอล้มลงกับพื้น แถมยังใช้สื่อการสั่งสอนเสี่ยวลิ่วลิ่วอีกขึ้นมทันที ทำเอาเธอโมโหขึ้นมาตงิดๆ ก่อนจะนั่งลงตรงหน้าโต๊ะอาหาร แล้วหยิบน่องแกะขึ้นมาฉีกกินคำหนึ่ง 

 

 

เธอออกแรงเคี้ยว ท่าทางดูดูดัน เหมือนเห็นน่องแกะในมือเป็นอวี๋เยว่หาน! 

 

 

เจ้าก้อนนำแข็งไม่เตรียมอาหารให้เธอแบบนี้หรอก ต้องเป็นเพราะเสี่ยวลิ่วลิ่วที่เห็นเธอไม่ได้กินข้าว เลยให้พ่อบ้านเตรียมไว้ให้แน่ๆ 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่กินดื่มจนอิ่ม ถึงจะนอนหลับสนิทได้ 

 

 

วันต่อมา หญิงสาวนึกขึ้นได้ว่ายังมีงานที่ต้องทำ จึงไปบริษัทตั้งแต่เช้าตรู่ 

 

 

ตอนอวี๋เยว่หานตื่นนอน ก็ไม่เห็นเงาร่างของเธออยู่ในคฤหาสน์แล้ว 

 

 

“คุณชาย อาหารเช้าเรียบร้อยแล้วครับ” พ่อบ้านเดินมาข้างหน้า แล้วกล่าวเตือนเขาอย่างนอบน้อม 

 

 

“เหนียนเสี่ยวมู่ล่ะ” อวี๋เยว่หานหลุบตา เดินเข้าไปในห้องอาหาร และเอ่ยปากอย่างเรียบเฉย 

 

 

“เหนียนเสี่ยวมู่ไปบริษัทตั้งแต่เช้าแล้วครับ ดูเหมือนจะมีธุระสำคัญมาก” พ่อบ้านตอบด้วยความสงสัยอยู่ข้างหลังเขา 

 

 

เมื่อได้ยินดังนั้น ฝีเท้าของอวี๋เยว่หานก็หยุดชะงัก แล้วหันกลับไปมองอีกฝ่าย “เธอพูดว่ายังไง” 

 

 

“วันนี้อากาศดีจริงๆ เลย ฉันต้องไปต้อนรับพระอาทิตย์ของฉันที่บริษัท พ่อบ้าน บ๊ายบายค่ะ อย่าคิดถึงฉันเกินไปนะคะ!” พ่อบ้านพูดคำพูดของเหนียนเสี่ยวมู่ซ้ำอีกครั้งโดยไม่ตกหล่น และวินาทีต่อมาเขาก็เห็นอวี๋เยว่หานมีสีหน้าดำคล้ำลง 

 

 

ถ้าเขาจำไม่ผิด เมื่อวานเหวินหย่าไต้เตือนเธอว่า วันนี้คุณชายจากบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าจะไปที่บริษัท จึงฝากฝังงานไว้กับเธอ 

 

 

พระอาทิตย์หมายถึงใคร เฉินจื่อซินเหรอ! 

 

 

อวี๋เยว่หานขมวดคิ้วมุ่น ใบหน้าหล่อเหลามีแต่ความมืดมนปกคลุมอยู่ 

 

 

เขากวาดสายตามองอาหารเช้าบนโต๊ะ ไม่มีความอยากอาหารขึ้นมาทันใด 

 

 

จากนั้นเขาก็หมุนตัวเดินออกไปข้างนอก 

 

 

“เตรียมรถไปบริษัท” 

 

 

 

 

 

งานปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าประสบความสำเร็จอย่างมาก 

 

 

มีการพูดถึงงานอย่างร้อนแรงทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ทำให้รอบข้างมีแต่เสียงแสดงความยินดี เมื่อเหนียนเสี่ยวมู่เดินเข้าไปในบริษัท 

 

 

“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน งานประสบความสำเร็จแบบนี้ ตอนนี้คงไม่มีใครกล้าสงสัยความสามารถของคุณแล้ว” เสี่ยวเสี่ยว นักศึกษาฝึกงานที่อยู่ข้างๆ เธอพูดอย่างเบิกบานใจ 

 

 

เลขาที่อยู่อีกข้างก็กล่าวสมทบ “ทุกคนเป็นเพื่อนร่วมงานกันหมด ประนีประนอมกันได้ดีที่สุด” 

 

 

เลขาพูดพลางส่งตารางงานให้เหนียนเสี่ยวมู่ 

 

 

“วันนี้รองประธานจากบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าจะมาถึงตอนสิบโมงเช้า คนที่มากับเขามีผู้จัดการงานคนเก่าด้วย ข้อมูลอยู่ในนี้ค่ะ” 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 216 หึง 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่เพิ่งยื่นมือไปรับข้อมูลมา และมองเห็นรูปภาพที่เสียบอยู่บนนั้นตั้งแต่ครั้งแรก 

 

 

เลขาอธิบายต่อ “นี่เป็นรูปคุณชายของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าค่ะ มีข่าวเกี่ยวกับเขาอยู่ไม่น้อยเลย ได้ยินว่าเขาเป็นคนที่ไนซ์มาก ไม่มีมาดอะไร เป็นคนที่เขาถึงได้ง่ายมากค่ะ” 

 

 

“…” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่มองรูปภาพ ก่อนจะมีภาพชายหนุ่มที่เจอด้านหลังเวทีงานปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ผุดขึ้นมาตรงหน้า 

 

 

ตัวจริงดูดีกว่าในรูปทีเดียว โดยเฉพาะตอนที่เขายิ้ม ทำให้คนรู้สึกถึงความอบอุ่นได้จริงๆ 

 

 

เขาเหมือนพระอาทิตย์ในฤดูหนาว เห็นแล้วสบายใจอย่างยิ่ง 

 

 

เมื่อวานเขาเชิญเธอไปกินข้าว หากรู้อยู่แล้วว่าเขาตะมารับช่วงต่องานนี้ เมื่อวานเธอคงจะไม่รีบร้อนวิ่งไปอย่างนั้น 

 

 

คุณชายคงจะไม่คิดว่าเธอไม่มีมารยาท และมาต่อว่าเธออย่างถึงใจในวันนี้หรอกมั้ง? 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่คิดเป็นตุเป็นตะ เธอเพิ่งจะเตรียมกลับไปนั่งดูเอกสารตรงที่นั่งของตัวเอง อยู่ๆ ก็ได้ยินคนเรียกชื่อของเธอ 

 

 

เมื่อหันไปมอง ก็เห็นใครคนหนึ่งเดินออกมาจากในลิฟต์ 

 

 

เขาสวมชุดสูทสีเงิน ผมสั้นถูกเซ็ตไว้อย่างดี จังหวะก้าวเดินมั่นคง และมีรอยยิ้มสดใสประดับอยู่บนใบหน้า 

 

 

เฉินจื่อซิน… 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่อึ้งไป แต่ก็รีบหันหน้าไปมองเลขาหลังจากที่ดึงสติกลับมาได้ 

 

 

คนของบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าจะมาถึงตอนสิบโมงไม่ใช่เหรอ 

 

 

แล้วตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย 

 

 

“ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขานัดไว้ตอนสิบโมงเช้า…” เลขามองตารางงาน มีสีหน้างุนงงเช่นกัน 

 

 

เพียงเวลาชั่วพริบตา เฉินจื่อซินก็เดินมาถึงหน้าประตูแผนกประชาสัมพันธ์แล้ว 

 

 

และเมื่อมองให้ดี เขามาแค่คนเดียว! 

 

 

คนอื่นๆ จากบริษัทเทคโนโลยีเซิ่งต้าล่ะ 

 

 

“ไม่ต้องมองหรอก มีแค่ผมคนเดียว ผมก็เลยมาก่อนเวลา” เฉินจื่อซินล้วงมือสองข้างอยู่ในกระเป๋ากางเกง พูดพลางยิ้มกริ่ม 

 

 

รอยยิ้มของเขาจริงใจมาก เพียงแค่มองครั้งเดียวก็อยากจะยิ้มตามโดยไม่รู้ตัวแล้ว 

 

 

เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเหนียนเสี่ยวมู่ที่กำลังอึ้งงัน ก่อนจะยื่นมือไปเกาหัวเล็กน้อย ราวกับเด็กหนุ่มขี้อาย “ซูเปอร์ไวเซอร์เหนียน เดิมทีเมื่อวานผมอยากนัดคุณไปกินข้าว เพื่อขอให้คุณชี้แนะเรื่องงานสักหน่อย แต่ก็ไม่สำเร็จ วันนี้ผมมาถึงก่อนเวลาแล้ว ไม่ทราบว่าคุณกินข้าวเช้าหรือยังครับ” 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่ยังไม่ทันตอบ เขาก็พูดขึ้นมาเอง 

 

 

“ผมรู้มาว่าฝั่งตรงข้ามบริษัทตระกูลอวี๋มีร้านอาหารเช้าที่อร่อยมากอยู่เจ้าหนึ่ง ไม่ทราบว่าคุณจะให้เกียรติไปกินข้าวเช้ากับผมไหมครับ” 

 

 

ถ้าเป็นการเชิญไปกินข้าวธรรมดาทั่วไป เหนียนเสี่ยวมู่อาจจะปฏิเสธ 

 

 

แต่เฉินจื่อซินพูดชัดเจนแล้ว เขาต้องการคำแนะนำเรื่องงาน ถ้าเธอเอ่ยปากปฏิเสธ ก็เป็นการเสียมารยาทอย่างชัดเจน 

 

 

บวกกับวันนี้พวกเขาต้องคุยเรื่องงานกันอยู่แล้ว… 

 

 

เธอกลอกตาครั้งหนึ่ง “ก็ได้ค่ะ ฉันยังไม่ได้กินข้าวพอดี” 

 

 

“ดีจังเลยครับ งั้นพวกเราไปกันเถอะ” เฉินจื่อซินยื่นมือมารับกระเป๋าของเธออย่างเป็นสุภาพบุรุษ แล้วพยักเพยิดให้เธอเดินข้างหน้า 

 

 

ตอนที่ทั้งสองคนเกือบจะเดินมาถึงหน้าลิฟต์ เขาก็เร่งฝีเท้าขึ้นมาก้าวหนึ่ง เพื่อกดลิฟต์ให้เธอ จากนั้นก็กั้นประตูลิฟต์เอาไว้ ให้เธอเข้าไปก่อน 

 

 

ท่าทางของเขาเป็นธรรมชาติมาก ดูสง่าผ่าเผยมากด้วย 

 

 

เหนียนเสี่ยวมู่พึมพำอยู่ในใจ ผู้ชายคนนี้เหมือนที่เลขาพูดเอาไว้จริงๆ เข้าถึงง่าย ถ้าเป็นอย่างนี้ งานต่อไปคงจะสบายมาก… 

 

 

“ติ๊ง!” ประตูลิฟต์เปิดออก 

 

 

เธอเดินไปข้างหน้าก่อน กำลังจะถามเฉินจื่อซินว่าร้านอาหารเช้าอยู่ที่ไหน ก็ได้ยินเสียงกล่าวต้อนรับภายในโถงใหญ่ของบริษัทตระกูลอวี๋ดังขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย 

 

 

“คุณชายหาน” 

 

 

เงาร่างสูงส่งของอวี๋เยว่หานเดินเข้ามาจากข้างนอก พร้อมๆ กับผู้ช่วย กำลังเดินมาทางลิฟต์ส่วนตัวของประธานบริษัท 

 

 

วินาทีต่อมา อวี๋เยว่หานเหลือบไปเห็นเหนียนเสี่ยวมู่ยืนอยู่กับเฉินจื่อซิน ลูกตาของเขาหดลง และหยุดฝีเท้าทันควัน!