บทที่ 87 ที่แท้สามีภรรยาคู่นี้เป็นพวกเห็นแก่ตัว

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

เมื่อเฉินชางเดินเข้าไปก็พบว่าชายร่างผอมเริ่มก่อเรื่องแล้ว!

“คุณทำอะไรน่ะครับ? จะตรวจทั้งๆ ที่ยังไม่ให้ผมเซ็นชื่อหรือ? ผมจะบอกพวกคุณให้ ผมไม่มีเงิน!”

เฉินชางเห็นสถานการณ์ดังนั้นก็รีบพูดขึ้นว่า “อย่าทำแบบนี้เลยครับ! ตอนนี้ภรรยาของคุณอยู่ในอันตราย เป็นอาการถูกพิษอย่างหนึ่ง จำเป็นต้องรีบตรวจให้ชัดเจน ถ้าเลยสี่สิบแปดชั่วโมงไปแล้วอาการอาจสาหัสขึ้นนะครับ!”

ทักษะในการแยกแยะพิษเป็นทักษะที่ทำงานอัตโนมัติ เฉินชางไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังเสแสร้ง!

อาการบางอย่างเสแสร้งได้ แต่อาการบางอย่างคุณเสแสร้งไม่ได้!

คุณแกล้งทำให้มือเท้าของตัวเองเย็นเฉียบได้หรือ? แกล้งทำให้ความดันเลือดกลายเป็น 90/60 ได้หรือ?

ในฐานะที่เฉินชางเป็นหมอคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นหมออายุรกรรมหรือหมอศัลยกรรมก็ต้องมีทัศนวิสัยที่ดี

ก็เหมือนกับที่หวังหย่งพูด บางทีผู้ป่วยอาจมาหลอกเอาเงิน ใช่แล้ว! ยังไม่อาจตัดความเป็นไปได้นี้ออกไป แต่เขาต้องคิดถึงชีวิตผู้ป่วยเป็นอันดับแรก

ไม่ว่าจะเป็นคนดีหรือคนเลว เมื่อมานอนอยู่บนเตียงฉุกเฉิน ก็อาจเป็นคนป่วย

การเป็นหมอไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น แค่รักษาเพื่อช่วยชีวิตคนก็พอแล้ว

จะดีหรือเลวเฉินชางไม่คิดอยากไปตัดสิน แต่จะป่วยหรือไม่ เฉินชางจะทำการวินิจฉัยให้ดี นี่คือความรับผิดชอบของเขา

ชายร่างผอมได้ยินเฉินชางพูดว่าภรรยาตกอยู่ในอันตรายก็กลอกตาไปมา ไม่ได้ร้อนรน ทว่ากำลังระดมสมอง! รีบลากชายร่างอ้วนไปที่ห้องน้ำทันที

ชายร่างผอมเพิ่งจะเข้ามาในห้องน้ำ ก็มองไปรอบด้านเพื่อดูให้แน่ใจว่าไม่มีคน จากนั้นจึงค่อยพูดกับชายร่างอ้วนว่า “แกได้ยินหรือเปล่า ตอนนี้ภรรยาฉันอาการอันตรายมาก เธอไม่ได้ทำประกัน แกต้องเป็นคนออกเงินทั้งหมด”

ชายร่างอ้วนเปิดร้านอาหาร ย่อมเคยเจอสถานการณ์เช่นนี้มาแล้ว เขาไม่อยากมีปัญหาจึงถามไปตามตรงว่า “คุณต้องการเงินเท่าไหร่?”

ชายร่างผอมตอบ “ห้าพันหยวน! แกดูสิว่าภรรยาชฉันมีสภาพยังไง ค่าหมอค่ายาอย่างน้อยก็คงห้าพันหยวน”

……

……

การตกลงนี้เฉินชางไม่ได้รู้เห็นด้วย เสี่ยวหลินผู้เป็นพยาบาลวิ่งเข้ามาอย่างร้อนรน เอกสารตรวจระดับน้ำตาลในเลือดที่ถืออยู่ในมือปรากฏชัดเจน!

“ระดับน้ำตาลในเลือด 33.3mmol/L!”

เฉินชางตกตะลึง!

กระทั่งนิ่งไป!

สูงขนาดนี้เชียวหรือ!

ตอนนี้เฉินชางมั่นใจมากขึ้น มั่นใจว่าจะต้องหมดสติเพราะระดับน้ำตาลในเลือดสูงเฉียบพลันแน่นอน

แต่ถ้าจะให้แน่ใจยังต้องรอผลการตรวจแลปออกมาก่อน!

ในเมื่อหวังหย่งบอกว่าอีกฝ่ายเป็นพวกหลอกเอาเงิน อีกทั้งท่าทางของผู้ชายก็เหมือนอย่างที่พูด แต่เฉินชางยังคงไม่คิดประมาท

ตอนนี้คงไม่ผิดแล้ว!

ระดับน้ำตาลในเลือด 33.3

เสี่ยวหลินพูดเสริมอีกประโยคหนึ่ง “หมอเฉินคะ เครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือดเครื่องนี้วัดได้สูงสุดแค่ 33.3 ความจริงอาจมากกว่า 33.3 ก็ได้! จะมากแค่ไหนยังต้องรอผลตรวจแลปออกมาก่อนค่ะ”

เมื่อเฉินชางได้ยินคำพูดนี้ก็ขมวดคิ้วโดยพลัน หลังจากใคร่ครวญครู่หนึ่งก็พูดขึ้นมาว่า “ให้สารปรับสมดุลเลือดอีก! หวังหย่งล่ะ? ไปสั่งสารปรับสมดุลมาอีกขวดหนึ่ง!”

หวังหย่งพูดด้วยน้ำเสียงขอไปที “สารอะไรล่ะครับ!? ผมจะบอกคุณให้ ครั้งที่แล้วก็มีคนระดับน้ำตาลในเลือดสูงถึง 33 ไม่แน่ว่าอาจกินน้ำตาลมากไปก็ได้!”

ขณะนั้นเอง เฉินชางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “โซเดียมคลอไรด์ 0.9% ห้าร้อยมิลลิลิตร รีบไปเบิกมา!”

หวังหย่งส่งเสียงชิ แต่บ่นก็ส่วนบ่น อย่างไรก็ต้องทำตามคำพูดของเฉินชาง

ไม่นานเสี่ยวหลินก็พูดขึ้นว่า “หมอเฉินคะ ผลการตรวจเลือดออกมาแล้ว!”

เฉินชางดวงตาสว่างวาบ “เท่าไหร่ครับ?”

เสี่ยวหลินพูดว่า “เม็ดเลือดขาว 18.4 เป็นกลาง 90% ระดับฮีโมโกลบิน 135 กรัม”

เฉินชางหมุนตัวไปกล่าวต่อว่า “เพิ่มโซเดียมคลอไรด์ 0.9% อีก 250 มิลลิลิตรและลีโวฟลอกซาซิน[1]0.4 กรัม ตรวจระดับกลูโคสในเลือดด้วย!”

หากเมื่อครู่เป็นเพียงน้ำเกลือปกติก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้ใช้ลีโวฟลอกซาซิน เห็นได้ชัดว่าหวังหย่งคิดว่าเฉินชางทำเกินไป จึงอดพูดไม่ได้ว่า “นี่ลูกพี่ คนอื่นเขาเป็นพวกหลอกเอาเงินชัดๆ คุณต้องทำแบบนี้ด้วยหรือ? ลีโวฟลอกซาซินของแผนกเรามีจำกัด คุณถามเสี่ยวหลินดูสิ นี่เป็นพวกต้มตุ๋นมาหลอกเอาเงินจริงๆ!”

บริเวณเคาน์เตอร์หน้าห้องกู้ชีพมีพยาบาลยืนอยู่อีกสามสี่คน เมื่อเห็นหวังหย่งพูดเช่นนี้ต่างก็เงียบไป

ความจริงทุกคนเคยเห็นสามีภรรยาคู่นี้มาแล้ว พวกเขาเคยมาหลายครั้ง ทุกครั้งก็จะมีสภาพเช่นนี้

เฉินชางหันไปถลึงตาใส่หวังหย่ง “ผมเป็นแพทย์เจ้าของไข้ ถ้าผู้ป่วยเป็นอะไรไปผมต้องรับผิดชอบ คุณหลบไปซะ เสี่ยวหลิน คุณไปช่วยผมส่งใบสั่งตรวจ!”

หวังหย่งแค่นเสียงเย็น ลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า “ใครอยากเป็นลูกน้องใครกัน!”

เขาพูดจบก็เดินจากไป!

เสี่ยวหลินทอดถอนใจ พูดอธิบายกับเฉินชางว่า “หมอเฉินคะ คุณอย่าโกรธไปเลย ความจริงหมอหวัง…แค่รู้สึกอิจฉาจนแค้น เห็นคนพวกนี้ก็รู้สึกขัดหูขัดตา มีครั้งหนึ่งหมอหวังเคยถูกหลอก ผลก็คือ…ถูกคนดักตีหลังเลิกงานตอนกลางคืน! ฉันคิดว่าคนพวกนี้ก็มาหลอกเอาเงินนะคะ…”

เฉินชางได้ยินดังนั้นก็ถอนใจ แต่ไม่ได้พูดอะไรมากความ

เมื่อออกคำสั่งตรวจแลปไปแล้ว รอไม่ถึงยี่สิบนาทีผลการตรวจก็มาถึง!

ระดับน้ำตาลในเลือด 35.1mmol/L (ผลตรวจแลปแม่นยำกว่าเครื่องตรวจระดับน้ำตาลในเลือด เครื่องตรวจระดับน้ำตาลในเลือดตรวจได้มากสุด 33.3 เครื่องตรวจขนาดเล็กตรวจได้แค่ 20.3) ระดับโซเดียมในเลือด 182 mmol/L ระดับโพแทสเซียมในเลือด 4.95 คลอรีนในเลือด 100 ผลการตรวจปัสสาวะ: คีโตน 3+ น้ำตาลในปัสสาวะ 3+

นี่คือภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงของโรคเบาหวาน ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเฉียบพลันจนหมดสติ!

ไม่นานผลวิเคราะห์อื่นๆ เช่นผลวิเคราะห์เลือดและกรดแลคติกก็ออกมา!

เฉินชางยิ่งอ่านก็ยิ่งรู้สึกใจสั่น ยังดีที่ตรวจทันเวลา มิฉะนั้นอาจเกิดปัญหาใหญ่จริงๆ ก็เป็นได้

ต้องทราบว่าโรคนี้อันตรายถึงชีวิต

ตอนนี้เอง ชายอ้วนผอมทั้งสองคนก็เดินเข้ามา ไม่รู้ว่าตกลงกันเรียบร้อยแล้วหรืออย่างไร แต่ดูภายนอกทั้งสองคุยกันอย่างเบิกบานใจ

ชายร่างอ้วนกลับไปแล้ว ส่วนชายร่างผอมผลักประตูห้องกู้ชีพ เดินเข้าไปอย่างชำนาญ

เพิ่งมองเห็นเฉินชางก็เดินเข้ามาหาทันที “อาการของภรรยาคุณอันตรายมาก ตอนนี้เป็นช่วงเวลาอันตรายที่สุด จะต้องแอดมิทเพื่อรักษานะครับ”

ชายคนนั้นหัวเราะออกมา แสร้งทำเป็นหูหนวกตาบอด เดินเข้าไปตบไหล่ผู้หญิง “ภรรยา! ไปกันเถอะ พวกเรากลับบ้านกัน”

เพียงแต่…

ตบไหล่ไปหลายครั้งแล้ว ผู้หญิงก็ยังไม่มีปฏิกิริยาอะไร

ผู้ชายชะงักไปก่อนจะหัวเราะออกมา “เธอนี่ถึงกับหลับเลยหรือ เดี๋ยวฉันแบกเธอกลับบ้านเอง”

พูดจบก็คิดจะถอดอุปกรณ์ถ่ายของเหลวบนร่างของผู้หญิงออกแล้วแบกเธอออกไป เฉินชางเห็นดังนั้นก็รีบขวางประตูไว้ทันที!

“ตอนนี้สถานการณ์ของเธออันตรายมาก คุณอย่าขยับนะครับ” เฉินชางรีบเดินเข้าไป

ผู้ชายชะงักไปทันที “หมายความว่าอย่างไร?”

เฉินชางพูดต่อ “ตอนนี้เธออยู่ในช่วงอันตราย มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเฉียบพลันจนหมดสติ อาการถือว่าอันตรายมาก คุณเป็นสามีของเธอ ผมต้องให้คุณเซ็นชื่อหน่อยนะครับ”

ชายคนนั้นได้ฟังก็นิ่งไปทันที “เล่นอะไรของคุณ? พวกคุณคิดจะหลอกเอาเงินน่ะสิ! ฉีดยากล่อมประสาทให้เธอใช่หรือเปล่า อย่าคิดว่าผมไม่รู้!”

เฉินชางได้ยินคำพูดของชายคนนี้ก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าคนคนนี้กระทำผิดจนชำนาญ แม้แต่เรื่องยากล่อมประสาทก็ยังนำออกมาใช้!

เรียกว่าปฏิบัติต่อสุภาพบุรุษด้วยนิสัยของคนถ่อยจริงๆ ความสามารถในการพลิกตรรกะเช่นนี้คงต้องนับถือ!

เฉินชางหยิบผลการตรวจแลปขึ้นมา “นี่เป็นผลการตรวจแลปของเธอ คุณลองดูสิครับ บางทีคุณอาจไม่เข้าใจ แต่ผมขอบอกคุณตามตรงแล้วกัน สถานการณ์ของเธออันตรายมาก ถ้าคุณไปอาจมีอันตรายถึงชีวิต ตอนนี้เธอจำเป็นต้องแอดมิทเพื่อรักษาตัว”

ชายร่างผอมได้ยินดังนั้นพลันหน้าเปลี่ยนสี รีบใช้สมองอย่างรวดเร็ว ยืดตัวขึ้นวิ่งออกไปทันที วิ่งไปพลางพูดว่า “ฉันไม่มีเงิน เธอไม่ใช่ภรรยาของฉัน พวกเราสองคนไม่รู้จักกัน”

วิ่งหนีไปแบบนี้ ช่างเหมือน…“ความรัก” จริงๆ

และเหมือนชีวิตจริงเสียด้วย!

คนรอบๆ มองจนตาค้างไปแล้ว!

พยาบาลสาวหลายคนอดบ่นไม่ได้ว่า ชายเลว! ขยะ!

เฉินชางรู้สึกจนใจ กระทั่งทอดถอนใจออกมา

บางทีคงเป็นคู่สามีภรรยาที่เห็นแก่ตัว พอเจอปัญหาก็แยกย้ายกันเอาตัวรอดสินะ?

ตอนนี้เรียกได้ว่าพยาบาลที่อยู่รอบๆ มั่นใจในตัวเฉินชางจนถึงขีดสุด

เฉินชางวินิจฉัยจริงเท็จภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ได้ เห็นได้ว่ามีความสามารถไม่ธรรมดา

จิตใจและบรรยากาศของเขาเช่นนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเด็ดขาดในตอนวินิจฉัยโรค ความมั่นใจในตัวเองเช่นนั้น! เหมือนกับหัวหน้าหลี่เป่าซานจริงๆ!

บางทีคนเก่งคงมีลักษณะเหมือนกันสินะ

เสี่ยวหลินเห็นดังนั้นจึงพูดขึ้นว่า “หมอเฉินคะ ทำยังไงดีคะ?”

เฉินชางถอนใจออกมา “ใช้เงินฉุกเฉินของแผนกไปก่อนแล้วกัน รักษาก่อน เดี๋ยวผมจะออกใบสั่งให้ คุณไปทำตามนั้นเถอะ”

เสี่ยวหลินพยักหน้า “หมอเฉิน เธอไม่ได้แกล้งจริงหรือคะ?”

เฉินชางพยักหน้า “ครับ ไม่ได้แกล้ง อาการแบบนี้ไม่มีใครอยากแกล้งทำหรอกครับ มันอันตรายเกินไป เป็นอาการที่สาหัสถึงขั้นตายได้เลย!”

เสี่ยวหลินได้ยินดังนั้นก็ถอนใจออกมา คิดไปถึงชายเลวที่วิ่งหนีไปคนนั้น รู้สึกว่าผู้หญิงน่าสงสารอยู่บ้างจึงอดถามไม่ได้ว่า “โอเคค่ะ หมอเฉิน…โรคนี้ทำให้คนตายได้หรือเปล่าคะ?”

เฉินชางส่ายหน้า ไม่ได้พูดอะไร

ต่อให้โรคภัยจะอันตรายแค่ไหนก็คงไม่โหดหี้ยมเท่าใจคนหรอก?

ต่อให้โรคภัยจะโหดเหี้ยมแค่ไหน คงเทียบไม่ได้กับตอนที่ผู้ชายคนนั้นหนีไปเมื่อครู่นี้หรอก?

เฮ้อ…

สิ่งที่เป็นตัวทดสอบมนุษย์ สุดท้ายก็คือใจคน ไม่ใช่โรคภัย

ผ่านไปประมาณครึ่งนาที เฉินชางก็ออกใบสั่งแพทย์ด้วยความเชี่ยวชาญ

อาการในประเภทถูกพิษแบบนี้ สิ่งที่ยากที่สุดก็คือการหาสาเหตุของโรค ถ้าหาสาเหตุของโรคพบ ก็รักษาโรคได้

ตอนนี้เองจู่ๆ เฉินชางก็พบว่า ทักษะ [แยกแยะพิษ] ระดับปรมาจารย์ที่ได้มาจากหัวหน้าหลี่ยอดเยี่ยมขนาดไหน!

หลังจากเห็นผู้ป่วย ความสามารถในการคิดเชิงตรรกะในสมองของเฉินชางก็วินิจฉัยออกมาได้อย่างชัดเจน

จำแนกประเภทของพิษตลอดจนวิเคราะห์พฤติการณ์ทางเวชคลินิกออกมาได้ ทำให้เฉินชางพบสาเหตุของพิษโดยตรง และหาวิธีการรักษาได้ด้วย

ส่วนหวังหย่งไม่รู้ว่าไปไหนเสียแล้ว เฉินชางถอนใจออกมา บางทีวิธีที่ตนใช้จัดการเรื่องนี้คงมีปัญหา ต้องหาเวลาคุยกับหวังหย่งสักหน่อยแล้ว

[1] ลีโวฟลอกซาซิน (Levofloxacin) เป็นยาในกลุ่มยาปฏิชีวนะ มีฤทธิ์ในการต่อสู้และยั้งยับเชื้อแบคทีเรียภายในร่างกาย