บทที่ 86 เอาไปโดยไม่ขอ

หมอผีแม่ลูกติด

บทที่ 86

เอาไปโดยไม่ขอ

หลินซีเหยียนก็ได้ลูบหัวของเทียนเอ๋อ “เทียนเอ๋อไม่ใช่ว่าเจ้าจะพาแม่ไปที่ดูร้านหรอกเหรอ?”

หลังจากที่พูดเตือนไป เทียนเอ๋อก็นึกถึงเรื่องธุรกิจได้ เขาจึงได้เดินนำหน้าและพาหลินซีเหยียนกับชิงอวี่ไปยังตรอกแห่งหนึ่ง

ถึงแม้ว่าตรอกนี้จะแคบมาก แต่ก็ยังมีผู้คนสัญจรผ่านไปมา จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะตั้งร้านที่นี่ อย่างน้อยก็ไม่ขาดทุนแน่นอน ไม่นานนักด้วยการนำทางของเทียนเอ๋อ หลินซีเหยียนก็พบร้านชื่อหอเจินเป่าที่นางได้มาจากมหาเสนาบดี

เมื่อพวกนางผลักประตูเข้ามาด้านใน หลินซีเหยียนก็แทบจะสำลักฝุ่น นางไออยู่หลายหนและคิดว่าที่นี่คงจะต้องทำความสะอาดบ้างแล้ว

ชิงอวี่มองไปรอบๆแล้วจากนั้นก็บอกกับหลินซีเหยียนว่าไม่มีใครอยู่ในห้องโถงนี้เลย พวกนางจึงได้พากันเดินเข้าไปด้านในอย่างช้าๆ แล้วก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาจากทางหลังร้าน

“ชิงอวี่พาข้าไปดูที” หลินซีเหยียนนั้นสงสัยมากว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่? จึงได้บอกให้ชิงอวี่เข็นรถเข็นพานางเข้าไปดู

หลังจากที่มาที่หลังร้านแล้ว พวกนางก็พบชายหน้าดำที่กำลังกลิ้งไปมาอยู่ที่พื้น หลังจากที่ช่วยกันดับไฟที่ตัวของเขา ชายคนนั้นถึงได้รู้ตัวว่ามีคนเข้ามา

เขาจึงได้ทักทายทุกคนอย่างใจเย็นแล้วจากนั้นก็ถาม “ไม่ทราบว่าพวกท่านมีธุระอะไรถึงได้มาที่ร้านนี้?”

หลินซีเหยียนก็ได้ยักคิ้ว ด้วยสายตาที่ว่างเปล่าไร้แววตา แล้วนางก็ได้ถามชิงอวี่ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วจากนั้นก็ได้มองไปข้างหน้า “ข้าชื่อหลินซีเหยียน เป็นเจ้าของร้านนี้”

“คะ….คุณหนู ท่าน….ทำไมถึงมาที่นี่” ใบหน้าสงบนิ่งของเขาเมื่อสักครู่นั้นก็ได้หายไปทันที เวลานี้เด็กดูแลร้านคนนั้นก็อยู่ในสภาวะตื่นตระหนก เขารีบก้มหัวให้ราวกับจะเอาหัวฝังลงไปในดิน แต่สุดท้ายเขาก็ละทิ้งความคิดนั้นไป

“ข้าได้ยินมาว่าร้านนี้นั้นไม่มีการจัดการที่ดี เจ้าพอจะบอกปัญหาให้ข้าฟังได้หรือไม่?” หลินซีเหยียนนั้นไม่ได้คิดที่จะดุเขาแต่กลับถามอย่างใจเย็น

ชายคนนั้นจึงได้รีบผงกหัวแล้วยืนตัวตรงและกล่าว “ข้าน้อยมีชื่อว่าไหลฝูเคยเป็นลูกจ้างอยู่ในร้านหอเจินเป่าแห่งนี้ขอรับ ไม่นานมานี้มีข่าวแจ้งมาจากคนในตำแหน่งสูงๆว่าจะมีการเปลี่ยนเจ้าของร้านเกิดขึ้น และเจ้าของร้านคนใหม่นี้เป็นเพียงคนโง่ จากนั้นเถ้าแก่ร้านนี้ก็ได้พาผู้คนหนีไปจากที่นี่พร้อมข้าวของในร้านมากมายเลยขอรับ”

“ถ้าเช่นนั้นแล้วทำไมเจ้าถึงไม่ไปกับเขาด้วย?” หลินซีเหยียนถามอย่างสงสัย

ไหลฝูก็ได้กะพริบตา “ข้าน้อยนั้นมาจากบ้านนอกคอกนา มันไม่ง่ายนักหรอกที่จะหาอาหารและเสื้อผ้าได้ในบ้านนอก ทำให้ข้าไม่อยากที่จะกลับไปที่นั่น”

หลินซีเหยียนจึงได้ผงกหัวแล้วจากนั้นก็หันไปคุยกับ เทียนเอ๋อ “เทียนเอ๋อ เจ้าลองบอกแม่มาซิว่า แม่ของเจ้าควรจะทำเช่นไรดี?”

เทียนเอ๋อก็ได้พูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน “ข้าวของที่ถูกกวาดไปเหล่านั้นก็ต้องไปเอากลับมา แล้วจากนั้นก็ทำการเปิดร้านหอเจินเป่าใหม่”

หลินซีเหยียนก็ผงกหัวแล้วกล่าวต่อ “ไหลฝู เจ้ารู้บ้างหรือไม่ว่าคนพวกนั้นไปไหนกัน?”

ไหลฝูก็ได้ผงกหัวแล้วตอบกลับไปอย่างซื่อตรง “เรียนคุณหนู ร้านที่มีชื่อว่าชูย่วนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นเป็นร้านที่เปิดโดยอดีตเถ้าแก่จางครับ”

หลินซีเหยียนได้ฟังก็ได้ขยับริมฝีปากของนางอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ช่างเป็นคนทำอะไรที่โจ่งแจ้งดีจริงๆ ที่เอาของจากหอเจินเป่าของข้าแล้วไปตั้งร้านชูย่วนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเช่นนี้”

“ท่านแม่ขอรับแบบนี้ยอมไม่ได้นะขอรับ? พวกเรารีบไปทวงความยุติธรรมกันเถอะ” เทียนเอ๋อกล่าวด้วยสีหน้าที่น่ารักและตอบสนองกับพี่เลี้ยงของเขา

ชิงอวี่จึงได้เข็นรถพาหลินซีเหยียนไปโดยมี เทียนเอ๋อเดินนำและมีไหลฝูเดินตามมา แล้วทั้งสี่ก็ได้เข้ามาในร้านชูย่วนพร้อมกัน

ทันทีที่เข้ามาในร้านชูย่วนหลินซีเหยียนก็ได้กลิ่นดอกโบตั๋นคละคลุ้งไปหมด ถึงแม้ว่าดอกโบตั๋นนั้นจะหอมแลดูภูมิฐาน และมีหญิงสาวมากมายที่ชอบกลิ่นนี้ แต่กลิ่นที่แรงมากเกินไปเช่นนี้ทำให้หลินซีเหยียนรู้สึกแย่อย่างมาก

เถ้าแก่จางของร้านชูย่วนนั้นก็กำลังทำการคิดบัญชีอยู่ เมื่อเขาเห็นลูกค้าเข้ามาก็ได้รีบวางพู่กันในมือลงแล้วออกมาต้อนรับอย่างว่องไว

แต่ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไร หัวหน้าจางก็ได้มองไปที่ หลินซีเหยียนแล้วมองไปที่ไหลฝูที่อยู่ด้านหลัง เถ้าแก่จางก็ได้ยักคิ้วขึ้นมาขณะที่มองไปที่ไหลฝูแล้วพูดต่อว่าเขา “ที่นี่ไม่มีก๋วยเตี๋ยวแล้ว?”

ไหลฝูก็รู้สึกอายหน้าแดงขึ้นมา ก็ได้ก้มหัวลงแล้วกล่าว “เถ้าแก่จาง วันนี้ข้าไม่ได้ขอก๋วยเตี๋ยวจากท่าน!”

“ถ้าอย่างนั้นเจ้ามาที่นี่ทำไม?” เถ้าแก่จางก็ดูเหมือนจะไม่พอใจที่เห็นไหลฝู แล้วพูดด้วยน้ำเสียงก่นด่าราวกับถ้าคุยกับไหลฝูแล้วตัวเองจะเสื่อมเสีย

“เถ้าแก่จาง ข้าชื่อหลินซีเหยียนเป็นเจ้าของร้านหอ เจินเป่า” หลินซีเหียนก็ได้กระแอมขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเขาไม่สนใจนางเลย

เมื่อเถ้าแก่จางได้ยินชื่อก็ได้มีแววตาครุ่นคิดและยุ่งยากใจขึ้นมาในดวงตาของเขา แล้วเขาก็ได้มองตรงไปที่นางแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตร “ก็นึกว่าใคร? ที่แท้ก็เป็นคนสายอาชีพเดียวกันนี่เอง ไม่ทราบว่าเจ้าของร้านหอเจินเป่ามีธุระอะไรกับร้านชูย่วนของข้า?”

“เจ้าเอาของของข้าไป ก็ควรที่จะคืนของพวกนั้นมาให้ข้าสิ?” หลินซีเหยียนหรี่สายตาของนางลงราวกับนางตั้งมั่นไว้แล้วว่าจะต้องเอาของคืนมาให้ได้

เถ้าแก่จางก็ได้มองไปที่หญิงสาวที่นั่งบนรถเข็นตรงหน้าเขาแล้วยังตาบอดอีก ก็ได้นึกดูถูกนางขึ้นมา “เอาของของท่านไปงั้นเหรอ? ท่านเห็นเหรอว่าข้าเอาของของท่านไปน่ะ?”

ที่ยืนอยู่ข้างหลังหลินซีเหยียนนั้น ไหลฝูก็ได้ยกมือของเขาขึ้นมาแล้วกล่าว “เถ้าแก่จาง ข้านี่แหละเห็น ข้าเห็นเต็มสองตาของข้าเลย”

“เจ้าน่ะหุบปากไปเลย ข้ารู้ว่าเจ้าน่ะจนเสียไม่มีเงินจะประทังชีวิต แต่เจ้าจะมาปรักปรำข้าแบบนี้ไม่ได้นะ” เถ้าแก่จางไม่ได้มองไหลฝูเลยแม้แต่น้อยและไม่แม้แต่จะสนใจที่เขาพูดด้วย

หลินซีเหยียนก็ได้พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “เถ้าแก่จาง ท่านอยากจะยอมรับดีๆหรือไม่?” ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาตามท้องถนนต่างก็เริ่มหยุดมองดูอยู่ข้างนอกร้านและพากันชี้มาที่นี่ มีคนมากมายที่รู้ว่าเถ้าแก่จางนั้นเคยดูแลร้านหอเจินเป่ามาก่อน แต่ก็ไม่มีอะไรที่ยืนยันได้ว่าของเหล่านี้เขาเอามาจากหอเจินเป่าจริงๆ

ในทางกลับกันเถ้าแก่จางก็ได้มองไปที่ผู้คนมากมายที่อยู่รอบๆแล้วก็สีหน้าไม่ดีขึ้นมา เขาจึงได้เรียกคนออกมามากมายเพื่อล้อมหลินซีเหยียนเอาไว้ โดยคิดที่จะใช้กำลังไล่นางออกไป

ผู้คนรอบๆจึงได้รู้สึกสงสารหญิงสาวที่ดูบอบบางที่นั่งอยู่ในรถเข็นขึ้นมา

แต่แล้วหลังจากที่ฝุ่นตลบจางลง ก็พบหลินซีเหยียนที่ยังนั่งอยู่บนเข็นโดยไร้ซึ่งบาดแผลใดๆ ในขณะที่อีกฝั่งอย่างเถ้าแก่จางและลูกน้องต่างก็พากันลงไปร้องเจ็บขาโดยไม่มีข้อแม้

เถ้าแก่จางก็ได้มองไปที่ผู้คนที่กำลังเดินเข้ามาหาเขาเรื่อยๆ ก็ได้กลืนน้ำลายลงไปก่อนที่จะลุกขึ้นยืนแล้วกล่าว “กลางวันแสกๆแบบนี้เจ้ายังกล้าที่จะทำอะไรกับข้าอย่างนั้นรึ?

หลินซีเหยียนก็ได้ยิ้มออกมาแล้วกล่าว “เถ้าแก่จางพูดอะไรอยู่น่ะ ข้าจะไปทำอะไรกับท่านทำไม? ข้าก็แค่มาเอาของของข้าคืนเท่านั้น”

จากนั้นนางก็ได้ว่าจ้างคนจากนอกร้านที่ดูชมเหตุการณ์นี้แล้วสั่งให้พวกเขาพากันขนย้ายสิ่งของต่างๆจากร้านชูย่วนกลับไปหอเจินเป่า

ขอแค่มีเงินคนเหล่านี้ก็ไม่สนหรอกว่าที่ทำอยู่นั้นจะถูกหรือผิด พวกเขาจึงได้ร่วมจมหัวจมท้ายช่วยกันขนย้ายข้าวของ

เถ้าแก่จางที่ไม่อาจห้ามได้ ก็ได้หลบไปอยู่ด้านหลังอย่างรวดเร็ว “ข้าจะบอกเจ้าไว้ก่อนว่าร้านนี้น่ะเป็นร้านของมหาเสนาบดีหลินเชียวนะ พวกเจ้าจะหยุดหรือไม่?”

“เป็นของมหาเสนาบดีหลินงั้นเหรอ?” หลินซีเหยียนก็ได้พูดขึ้นมาอย่างดูถูก มหาเสนาบดีหลินนั้นคงจะวางแผนที่จะให้ร้านเพชรเปล่าๆแก่นางแน่ๆ!

แล้วผู้คนที่ถูกจ้างมาโดยหลินซีเหยียนนั้นก็ได้หยุดมือเมื่อพวกเขาได้ยินเข้า แล้วต่างก็จ้องมองไปที่หลินซีเหยียน

หลินซีเหยียนก็ได้ขยับริมฝีปากแดงๆของนางแล้วกล่าว “ย้ายต่อไป ข้าจะจัดการเองถ้ามีปัญหาอะไรตามมา”