บทที่ 59 การค้นพบ

เซียวเฟิงที่ระวังตัวมาพักหนึ่งแล้วเดินออกมาจากที่ซ่อนหลังจากที่ตรวจดูรอบๆ และไม่พบอะไรที่แปลกตา ดูเหมือนว่าลิชยักษ์จะหนีไปแล้วจริงๆ

ป่ามู่กวางเริ่มเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหลังจากที่ลิชยักษ์จากไป ความมืด และสภาพแวดล้อมที่ดูอึมครึมค่อยๆ หายไป เซียวเฟิงรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่เบาบางลง เหมือนกับว่าพระอาทิตย์กำลังขึ้นขอบฟ้าและทำให้ความมืดมลายหายไป

การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดที่สุดอยู่ตรงกลางทะเลสาบ ผิวโคลนได้ถูกคั่นไว้ด้วยชั้นน้ำมันสีเทา แต่ในตอนนี้ชั้นน้ำมันก็ได้กระจายออกจากทะเลสาบอย่างรวดเร็ว ทำให้พื้นน้ำกลับมาสดใสอีกครั้ง

“อะไรเนี่ย?” เซียวเฟิงมองไปยังทะเลสาบที่สดใส แล้วสังเกตเห็นว่ายังมี วงแหวนเวทมนตร์ขนาดใหญ่หนึ่งวงอยู่ที่พื้นใต้ทะเลสาบ เขาสนใจวงแหวนทันที

หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ชายหนุ่มพลันกระโดดลงไปในทะเลสาบและรีบดำลงไปอย่างรวดเร็ว

จังหวะที่เซียวเฟิงกระโดดลงไป เขาได้ยินเสียงของระบบ ทำให้ทราบว่าทะเลสาบแห่งนี้มีชื่อเรียกว่าทะเลสาบมู่กวาง

ทะเลสาบมู่กวางแห่งนี้ใสสะอาด และไม่มีสัตว์ร้ายอาศัยอยู่ภายใน เป็นทะเลสาบที่มีขนาดใหญ่ แต่เซียวเฟิงก็สามารถค้นพบแหล่งที่มาของแสงที่อยู่ใกล้กันกับขอบของทะเลสาบได้ในทันที

ที่นั่นมีแผ่นหินหลายแผ่นถูกวางไว้ด้วยกัน …ปกคลุมพื้นใต้ทะเลสาบจนมิด รูปแบบการวางของแผ่นหินพวกนี้ทำให้เกิดวงแหวนเวทมนตร์ขนาดใหญ่ที่กว้างพอที่จะครองพื้นที่ทั้งทะเลสาบได้

อย่างไรก็ตาม วงแหวนเวทมนตร์ยักษ์นั้นยังกะพริบอยู่ เหมือนกับว่ามันยังไม่เสร็จสมบูรณ์ อยู่ในสภาวะที่ไม่คงที่

เซียวเฟิงกลั้นหายใจในทันทีที่เขาเข้าใกล้แผ่นหินพวกนั้น ด้วยพบว่าแผ่นหินพวกนั้นใหญ่เท่ากับโต๊ะ มันดูเก่าแก่และมีสัดส่วนไม่เท่ากันแต่กลับเชื่อมกันไว้อย่างไร้รอยต่อ ดูเหมือนกับว่าแผ่นหินพวกนี้จะถูกขุดขึ้นมาจากที่เดียวกัน!

แผ่นหินแต่ละแผ่นถูกฝังอัญมณีโปร่งแสงที่ส่องแสงสีขาวออกมาเอาไว้ด้วย เซียวเฟิงใช้การตรวจสอบระดับสูงกับอัญมณีในทันที

หินอวกาศ

ชนิด: วัตถุดิบ

คุณภาพ: น้ำเงิน

คำอธิบาย: แร่อัญมณีหายากที่มีพลังแห่งอวกาศ แร่อัญมณีนี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างวงแหวนเคลื่อนย้าย มันมีค่าอย่างยิ่ง

มันคือวัสดุหายากจริงๆ ด้วย! ดวงตาทั้งสองข้างของเซียวเฟิงสว่างขึ้น เขาไม่รู้ถึงประสิทธิภาพของแร่หิน แต่เขาก็ดีใจที่มันเป็นวัสดุ ที่มีค่าอย่างยิ่ง

เซียวเฟิงยังไม่ได้ใช้สกิลเก็บเกี่ยวด้วยซ้ำ แต่เขาก็ขุดเอาหินอวกาศออกมาจากแผ่นหินอย่างไม่รีรอ และถึงทะเลสาบมู่กวางจะมีขนาดใหญ่ แต่ชายหนุ่มก็ทำการค้นไปรอบๆ ก่อนพบหินแร่ทั้ง 128 อัน โชคดีที่วัสดุพวกนี้สามารถที่จะกองทับกันได้ในกระเป๋าของเขา ไม่อย่างนั้นกระเป๋าของเซียวเฟิงคงไม่ใหญ่พอที่จะเก็บแร่พวกนี้ไว้

หลังจากที่เก็บหินอวกาศมาทั้งหมด เซียวเฟิงก็มองไปยังแผ่นหินพร้อมกับลูบคางของเขา

ชิ้นส่วนของวงแหวนเคลื่อนย้าย (8)

ชนิด: วัสดุ

คุณภาพ: ???

คำอธิบาย: แผ่นหินแข็งที่บันทึกวงแหวนเคลื่อนย้ายบางส่วนไว้ สามารถใช้สร้างวงแหวนเคลื่อนย้ายได้

หลังจากที่เขาคิดอยู่พักหนึ่ง เซียวเฟิงก็ขุดเอาแผ่นหินขึ้นมาด้วย ชายหนุ่มเอาแผ่นหินทั้ง 128 แผ่นไปใส่ในกระเป๋าเป้ และเรียงมันให้เหมือนกับหินอวกาศ ในขณะนั้นเซียวเฟิงก็ได้ยินเสียงของระบบ และรู้ว่ากระเป๋าเป้ของเขานั้นได้บรรจุสิ่งของเกินพิกัด ทำให้เขาช้าลงในทันที

โชคดีที่เซียวเฟิงอยู่ในน้ำ ทว่าชายหนุ่มก็ถือได้ว่าต้องว่ายน้ำขึ้นไปอย่างยากลำบาก ก่อนที่จะกลั้นหายใจและดำลงไปอีกครั้ง ….เขายังไม่หยุดสำรวจทะเลสาบนี้!

ในตอนที่เซียวเฟิงกำลังขุดแผ่นหินอยู่นั้น เหมือนเขาจะเห็นอะไรบางอย่างอยู่ตรงกลางทะเลสาบ ดังนั้นจึงว่ายน้ำเพื่อค้นหามันในทันที

เซียวเฟิงค่อยๆ ปรับตัวเข้ากับน้ำหนักของแผ่นหินในกระเป๋า แต่เมื่อเขาเข้าใกล้กลางทะเลสาบก็รู้สึกถึงแรงกดดันอันมหาศาล

“นี่มันแปลกๆ แหะ…” เซียวเฟิงรู้สึกไม่ดี เขาไม่รู้สึกถึงแรงกดดันนี้ในตอนที่กัปตันโบลตันและลิชยักษ์ต่อสู้กัน แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เขาเข้าใกล้กึ่งกลางของทะเลสาบ ชายหนุ่มกลับรู้สึกถึงแรงที่ดันร่างของเขาคล้ายกับแรงดันน้ำ ทำให้เซียวเฟิงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

ทว่าความลังเลของชายหนุ่มนั้นอยู่ไม่นานเท่าไหร่เมื่อนึกขึ้นได้ว่านี่เป็นเกม และอย่างมากเขาก็แค่ถูกส่งกลับไปยังจุดเกิดถ้าตาย ดังนั้นชายหนุ่มจึงเดินทางเข้าสู่ตรงกลางของทะเลสาบต่อ

แน่นอนว่าเซียวเฟิงเตรียมที่จะหนีถ้าอยู่ในความคับขัน เพราะถึงอย่างไรก็ตาม เขาจะเสียค่าประสบการณ์อยู่ดีถ้าตาย

“นี่คือ…” เซียวเฟิงค่อยๆ เข้าไปใกล้ตรงกลางของทะเลสาบ และฉากฉากหนึ่งก็เผยให้เขาเห็นอะไรบางอย่าง!

ตรงกลางของทะเลสาบยุบตัวลงเป็นหลุม และมีรูปปั้นดินอยู่ในหลุมนั้น

มีรูปปั้นดินอยู่ข้างใต้ ณ กลางทะเลสาบมู่กวาง รูปปั้นนั่นคุกเข่าอยู่กับพื้น ดูเหมือนผู้ชายตัวสูงที่ดูไม่เป็นมิตรซึ่งกำลังตะโกนอยู่ทั้งยังมีปีกสองข้างติดอยู่กับแผ่นหลัง

“เผ่านางฟ้างั้นเหรอ?” เซียวเฟิงคิดว่านี้คือรูปปั้นของนางฟ้าในครั้งแรกที่เขาเห็น เพราะรูปปั้นดินนี้ดูเหมือนกับรูปของนางฟ้าในโฆษณาของมิธ

รูปปั้นดินของนางฟ้าอยู่ในท่าชันเข่าข้างหนึ่ง มันมองไปบนฟ้าแล้วเปิดปากเหมือนกับกำลังจะตะโกนอะไรบางอย่าง มือข้างหนึ่งถูกยกขึ้นเหมือนกับมันต้องการจะคว้าจับอากาศ ทว่ากลับมีดาบเล่มหนึ่งเจาะทะลุหน้าอกและตรึงมันไว้ยังก้นทะเลสาบ

ดาบเล่มนี้เองก็ถูกสร้างขึ้นมาจากดินเช่นเดียวกัน เป็นดาบที่มีขนาดใหญ่ มันแทงทะลุรูปปั้นนางฟ้าเพื่อตรึงไว้กับพื้นใต้ทะเลสาบ ปล่อยให้ดาบอีกครึ่งด้ามอยู่ด้านนอก

รูปปั้นดินไม่โดนน้ำกัดกร่อนแม้แต่น้อย ดูเหมือนว่าน้ำของทะเลสาบจะถูกบีบออกไปจากที่นี่โดยพลังลึกลับ ทำให้สุญญากาศเกิดขึ้นในบริเวณนี้ มันปกป้องรูปปั่นนั่นไว้ และไม่ใช่แค่น้ำเท่านั้นที่ถูกบีบออกไป แต่ดินที่อยู่ข้างใต้ก็ถูกดูดออกไปเช่นกัน นี่คือเหตุผลที่พื้นที่ตรงนี้เป็นหลุม

ถ้าเป็นธรรมดาเซียวเฟิงคงไม่กล้าที่จะเข้าไปใกล้สุญญากาศแห่งนี้ เขาเดินไปมา และพบกับบางอย่างเข้า

เซียวเฟิงได้ยินเสียงของน้ำที่ดังกึกก้อง

มีบางอย่างกำลังสว่างขึ้นเรื่อยๆ ที่ด้านบนของพื้นที่สุญญากาศกลางทะเลสาบ เซียวเฟิงจึงรีบว่ายน้ำขึ้นไปดูทันที

ณ จุดตรงนั้นนั่นเอง… มันเหมือนกับเสียงของฟองอากาศแตกในน้ำ เซียวเฟิงได้พบเข้ากับคริสตัลสีทองขนาดเท่ากำมือที่นี่ แต่มันถูกเคลือบไว้ด้วยชั้นของเหลวที่เหนียวซึ่งดูคล้ายกับเมือก ในตอนนี้ชั้นเมือกกำลังหดลง และคริสตัลก็ค่อยๆ ปรากฏเด่นขึ้น เพราะเหตุนี้เซียวเฟิงถึงสังเกตเห็นว่ามันกำลังสว่างขึ้น!

แหล่งพลังของมู่กวาง

ชนิด: แก่นพลังงาน

คุณภาพ: ???

คำอธิบาย: บรรจุไว้ซึ่งพลังแสงสว่างที่แข็งแกร่งและไร้เทียมทาน นี่คือแกนพลังงานของป่ามู่กวาง

นี่มันของดี! ดวงตาของเซียวเฟิงเป็นประกายขึ้นมาทันที เขาหยิบคริสตัลสีทองแล้วโยนมันเข้าไปในกระเป๋าอย่างไม่ลังเล

เมือกเหนียวที่ปกคลุมแหล่งพลังของมู่กวางจู่ๆ ก็กลายเป็นลูกบอลกลมขนาดเท่ากำมือ มันลอยขึ้นไปช้าๆ ทำให้เซียวเฟิงที่กำลังใส่คริสตัลเข้าไปในกระเป๋าสังเกตเห็นวัตถุเมือกเหนียวสีเทาคล้ายเยลลี่ ก่อนที่ตาของเขาจะลุกวาวขึ้นอีกครั้ง!

รากฐานแห่งความชั่วร้ายทั้งมวล

ชนิด: แก่นพลังงาน

คุณภาพ: ???

คำอธิบาย: บรรจุไว้ซึ่งพลังแห่งความตาย ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในสุสานที่มีวิญญาณมากมาย

มันดูคล้ายกับแหล่งพลังของมู่กวาง เซียวเฟิงไม่รู้ว่าเจ้าลิชยักษ์ได้ใช้สิ่งนี้เพื่อกระจายบรรยากาศแห่งความตายในป่ามู่กวางหรือไม่ และเขาก็ไม่สนใจด้วย ชายหนุ่มหยิบมันขึ้นมาใส่ลงในกระเป๋าโดยไม่รอช้า

เซียวเฟิงใส่แก่นพลังงานทั้งสองชิ้นลงไปในกระเป๋า เขากำลังจะมองหาสิ่งอื่นเมื่อตอนที่ได้ยินเสียงแตกเบาๆ ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเสียงของอะไร นี่เขาคิดไปเองหรือเปล่า?

เซียวเฟิงตรวจสอบก้นทะเลสาบอยู่หลายครั้ง ทำให้เขามั่นใจว่ามีตนเองอยู่เพียงคนเดียวที่นี่ ชายหนุ่มจึงตื่นตัวในทันทีหลังจากที่ได้ยินเสียงแตกหักที่ไม่คุ้นชิน เซียวเฟิงมองไปรอบๆ ด้วยความระวัง จากนั้นเขาหันไปจ้องยังรูปปั้นดินอย่างไม่รู้ตัว

เซียวเฟิงมีสายตาที่เยี่ยมยอด เขาจึงสังเกตเห็นว่ามีเศษดินลอกออกมาจากรูปปั้นนั่น และเมื่อชายหนุ่มมองมันอีกครั้งอย่างละเอียด แล้วก็ต้องพบว่าขอบของดาบกำลังส่องสว่างอย่างเย็นยะเยือก เพราะว่าดินได้ลอกออกมาจากตัวมัน

เดี๋ยวก่อนนะ!

ทันใดนั้นเซียวเฟิงก็คิดอะไรขึ้นมาได้ ….บางทีรูปปั้นนี้อาจจะไม่ได้เป็นแค่รูปปั้น มันอาจจะเป็นนางฟ้าจริงๆ นางฟ้าที่คุกเข่าอยู่ที่ก้นทะเลสาบมาอย่างยาวนาน! …ดังนั้นรูปปั้นถึงถูกปกคลุมด้วยชั้นตะกอน

กร็อบแกร็บ

เซียวเฟิงได้ยินเสียงแตกหักอีกเสียง เขาอยู่ใกล้กับเสียงนั้นและกำลังมองไปที่มันอย่างใจจดใจจ่อ ดังนั้นชายหนุ่มจึงเห็นฝ่ามือของรูปปั้นที่แตกออกอย่างฉับพลัน

เซียวเฟิงถอยออกมาในทันที เขาทั้งตกใจและมั่นใจว่าสิ่งนี้ไม่ใช่รูปปั้นดิน ยิ่งกว่านั้นดูเหมือนว่ารูปปั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงหลังจากที่เขาเอาแหล่งพลังของมู่กวางใส่เข้าในกระเป๋า!

ชายหนุ่มรู้สึกผิดขึ้นมาในทันทีที่คิดแบบนั้น เป็นจังหวะเดียวกับที่รูปปั้นดินหยุดเคลื่อนไหว ซึ่งเซียวเฟิงไม่อยากที่จะอยู่ที่นี่อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงรีบว่ายน้ำอย่างระวังจนถึงฝั่ง

“บ้าเอ้ย! นี่มันหนักเกินไป” ในทันทีที่วางเท้าลงบนพื้นดิน เซียวเฟิงก็เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความหนักเกินพิกัดของกระเป๋าตน

ขาทั้งสองข้างของเขาหมดแรงอย่างฉับพลัน ทำให้เซียวเฟิงเกือบจะล้มลงไปบนพื้น แต่ชายหนุ่มกัดฟันและยืนขึ้นฝืนต้านน้ำหนักอันมหาศาลบนแผ่นหลัง ก่อนที่เท้าทั้งสองข้างจะปรับตัวเข้ากับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น จากนั้นก็จึงหยิบเอาใบวาปออกมาจากกระเป๋าแล้วขยำมันเพื่อส่งตัวเองกลับไปยังเมืองเทียนหลง

ในเมืองเทียนหลง มีผู้เล่นบางคนได้เข้ามาอยู่ที่จุดวาร์ปของเมืองแล้ว ซึ่งผู้เล่นระดับสูงและผู้เล่นชั้นหนึ่งเกือบทุกคนต่างก็ได้ทำภารกิจทดสอบสำเร็จไปแล้ว และได้แยกย้ายเข้าไปในเมืองต่างๆ นอกจากนั้นยังมีผู้เล่นมากขึ้นเรื่อยๆ ที่รู้ถึงข้อมูลและกลยุทธ์ในการผ่านภารกิจทดสอบ ทำให้ภารกิจนั้นง่ายดายกว่าก่อน ส่งผลให้กลุ่มผู้เล่นจำนวนมากเริ่มทยอยเข้าไปในเมืองหลักหลายแห่ง

“หืม! เป็นเจ้าจริงๆ ด้วย! ท่านนักผจญภัยผู้กล้าหาญ ตอนนี้ท่านไฮพรีส และอาร์คบิชอป รวมถึงกัปตันโบลตัน พวกเขากำลังรอท่านอยู่ในโถงกลาง โปรดรีบไปพบกับพวกเขาด้วย”

เซียวเฟิงไม่รอช้า รีบเดินทางไปยังโบสถของเมืองเทียนหลง แต่ว่าเขายังปรับตัวเข้ากับน้ำหนักได้ไม่สมบูรณ์นัก ดังนั้นจึงไม่สามารถเดินได้เร็วนัก

เมื่อมาถึงหน้าประตูของโบสถ์ อัศวินสองคนพลันเข้ามาต้อนรับชายหนุ่มอย่างอบอุ่น ซึ่งสิ่งนี้ทำให้เซียวเฟิงรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะอัศวินสองคนนี้ไม่ได้สุภาพขนาดนี้ตอนที่เขามาที่นี่ครั้งแรก

เซียวเฟิงรีบเดินไปที่โถงกลางด้วยความสงสัย ก่อนชายหนุ่มจะต้องรู้สึกประหลาดใจกว่าเดิม เมื่อพวกผู้ประกอบพิธีกรรมกับอัศวินทุกคนที่ได้พบระหว่างทางต่างโค้งและทำตัวเป็นมิตรกับตนแทนที่จะเมินเฉย

“ฮ่าฮ่า! แด๊ด! เจ้ามาถึงแล้ว!”

เซียวเฟิงได้ยินเสียงหัวเราะเบิกบานของกัปตันโบลตันทันทีที่เขาเข้ามาในโถงกลาง

ชายหนุ่มมองเข้าไปในห้องโถง นอกจากไฮพรีสและกัปตันโบลตัน ก็ยังมีชายแก่หนวดขาวที่มีชื่อ ‘อาร์คบิชอปแห่งเมืองเทียนหลง’ อยู่บนหัวอยู่ด้านในกับพวกเขาด้วย

“ท่านผู้นี่คือท่านไคเซอร์ ผู้นำวิหารแห่งแสงของเมืองเทียนหลง ผู้ประกอบพิธีกรรมผู้กล้าหาญเอ๋ย เจ้าทำให้ท่านอาร์คบิชอปรู้สึกประทับใจกับความสามารถที่กล้าหาญยิ่งของเจ้า ดังนั้นท่านไคเซอร์จึงอยากพบเจ้าเป็นการส่วนตัว” ไฮพรีสพูดพร้อมมองไปที่เซียวเฟิงอย่างชื่นชม

“ทำได้ดีมากท่านนักผจญภัย กัปตันโบลตันได้ชื่นชมท่านไว้เยอะทีเดียว” บาทหลวงไคเซอร์หันมาพูดกับเซียวเฟิง เขาจับหนวดของตนและยิ้มให้ชายหนุ่มตั้งแต่เข้ามา แต่เซียวเฟิงกลับรู้สึกว่าผู้เฒ่าคนนี้มีเป้าหมายอื่นแฝงอยู่