ตอนที่ 173 ข้ารักษาได้ / ตอนที่ 174 กู้ซี

คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา

ตอนที่ 173 ข้ารักษาได้

ไป๋จื่อเริ่มโมโหแล้ว ที่นางเกลียดที่สุดก็คือคนไข้ที่ยอมแพ้

นางถลาไปยังด้านหน้าประตูเรือนของเมิ่งหนาน ใช้เท้าหนึ่งถีบเปิดประตู ก่อนจะเข้าไปโดยที่ยังไม่ได้ถอดรองเท้าด้วยซ้ำ

เมิ่งหนานที่นั่งซึมกะทืออยู่บนเตียงเห็นนางบุ่มบ่ามเข้ามา ก็ล้มลงนอนลงบนเตียงเสียเลย หันหลังให้กับนาง

ไป๋จื่อเร่งฝีเท้าเดินไปที่ข้างเตียง มองเมิ่งหนานที่กำลังหันหลังให้นาง ในใจมีไฟกองหนึ่งสุมอยู่ “ใต้เท้าเมิ่ง ท่านตั้งใจจะทำอะไรกันแน่ โทษที่วันนั้นข้าพาท่านไปยังภูเขาลั่วอิง ทำให้ท่านต้องบาดเจ็บเช่นวันนี้หรือ”

อีกฝ่ายพลิกตัวลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว ความซีดเซียวบนใบหน้าทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกปวดใจนัก เขาส่ายหน้า “ไม่ใช่ ข้าไม่ได้กล่าวโทษเจ้า นี่ไม่เกี่ยวกับเจ้า”

“ในเมื่อไม่ได้กล่าวโทษข้า แล้วเหตุใดท่านไม่ยอมพบข้า” ไป๋จื่อถาม

อีกฝ่ายตาละห้อย กลบความเจ็บปวดในแววตาเอาไว้ “ข้าเพียงไม่รู้ว่าควรพูดอะไรกับเจ้า”

นางอยากต่อว่าเขายิ่งนัก แต่เห็นท่าทางของเขาแล้ว นางก็ทำได้แต่อดกลั้นเอาไว้ แล้วถอนใจออกมาในที่สุด นางเข้าไปใกล้เขา ก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ “ยื่นมือมา”

เมิ่งหนานจนใจ ทำได้แค่ยื่นมือซ้ายออกไปแต่โดยดี

บนมือซ้ายของเขาพันผ้าสีขาวเอาไว้ ทำให้มองไม่เห็นสภาพบาดแผล

ไป๋จื่อใช้มือหนึ่งประคองหลังมือของเมิ่งหนานไว้ ส่วนอีกมือหนึ่งคลายผ้าพันแผลออกอย่างรวดเร็ว ครั้นบาดแผลฉกรรจ์ปรากฏสู่สายตา นางก็พลันสะดุ้งตกใจ

เอ็นข้อมือของเขาขาดจริงดังว่า แรงกัดของเสือน่าตื่นตะลึงยิ่ง หากไม่ใช่เพราะหูเฟิงและองครักษ์จินมาถึงได้ทันกาล มือข้างนี้ของเขาคงจะถูกกัดขาดไปแล้ว

องครักษ์จินเห็นไป๋จื่อจ้องมองบาดแผลพลางเหม่อลอย สีหน้าคลุมเครือไม่ชัดเจน ในใจเขาก็รู้สึกร้อนรนขึ้นมาบ้าง “แม่นางไป๋ บาดแผลของคุณชายนั่น ยังรักษาหายได้หรือไม่”

เมิ่งหนานยิ้มขื่น ช้อนสายตามององครักษ์คนสนิท “เจ้าอย่าทำให้นางลำบากใจเลย เจ้าเคยได้ยินว่าเอ็นข้อมือขาดแล้วรักษาหายได้กี่ครั้งกัน ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก ข้าไม่ได้พิการ เพียงแค่ยิงธนูไม่ได้ก็เท่านั้น อย่างมากหลังจากนี้ข้าก็แค่ใช้เพียงกระบี่ นั่นใช้แค่มือขวาก็พอแล้วไม่ใช่หรือ” ประโยคหลังนี้เขากล่าวกับไป๋จื่อ

ขอบตาขององครักษ์จินแดงระเรื่อขึ้นมา “รักษาไม่ได้แล้วจริงหรือ” แม้วรยุทธ์ของคุณชายจะยังไม่นับว่ายอดเยี่ยม แต่ก็ฝึกมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ป้องกันตัวเองได้ดีทีเดียว แต่เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น มือซ้ายย่อมไม่ต่างอะไรกับพิการ ต่อไปไม่ใช่แค่ยิงธนูไม่ได้เท่านั้นแน่

ไป๋จื่อพันผ้าพันแผลบนข้อมือของเมิ่งหนานอีกครั้ง “ข้ารักษาได้”

องครักษ์จินตะลึงงัน จากนั้นก็ดีใจยกใหญ่ “จริงหรือ เจ้ารักษาได้จริงหรือ”

เมิ่งหนานมองไปทางไป๋จื่อ “เจ้าว่าอย่างไรนะ รักษาได้?”

เด็กสาวพยักหน้า “ข้ารักษาได้ เพียงแต่ขาดสิ่งของจำนวนหนึ่ง เมื่อข้าเตรียมของเหล่านั้นเรียบร้อยแล้ว รับรองจะต้องรักษาท่านหายอย่างแน่นอน”

องครักษ์จินดีใจจนเกือบจะกระโดดโลดเต้น “ต้องเตรียมอะไรบ้าง ข้าจะเตรียมให้เอง”

ไป๋จื่อส่ายหน้า “ท่านเตรียมไม่ได้ ข้าต้องเป็นคนเตรียมเอง วางใจเถอะเจ้าค่ะ เรื่องนี้มอบให้ข้า ข้าจะต้องรักษาเขาให้หาย”

เมิ่งหนานไม่กล้าเชื่อหูตนเองว่าเอ็นข้อมือขาดแล้วยังรักษาได้ “เจ้าพูดจริงหรือ”

นางชำเลืองมองเขา ในดวงตาสดใสแจ่มชัดแฝงความกังวลเจือจาง ทว่าบนใบหน้ากลับยังคงยิ้มกว้าง “ข้าเคยหลอกท่านเมื่อไรเจ้าคะ”

ใบหน้าของเขาที่นางบอกว่ารักษาได้ นางก็รักษาจนหายแล้ว

ไป๋จื่อผุดลุกขึ้น ยืนมองอีกฝ่าย “พี่เมิ่ง ตั้งสตินะเจ้าคะ อย่าได้มั่นใจว่าข้าจะรักษาได้ ถึงแม้ข้ารักษาไม่ได้จริงๆ เช่นนั้นแล้วชีวิตของท่านจะแหลกสลายเพราะบาดแผลเล็กๆ แค่นี้หรือ หากเป็นเช่นนั้น ชีวิตของท่านก็อาภัพนัก”

“เทียบกับผู้คนมากมายบนโลกนี้ ท่านโชคดีและมีชีวิตที่เป็นสุข ดูชาวบ้านในหมู่บ้านหวงถัวของพวกข้าสิ ยังมีคนอีกมากมายที่ไม่มีข้าวกิน และยังไม่คนอีกมากมายที่ไม่มีเสื้อผ้าใส่”

……….

ตอนที่ 174 กู้ซี

“ชีวิตของคนพบเจออุปสรรคต่างๆ มากมาย หากใช้ความสิ้นหวังมารับมือทุกครั้งที่เจออุปสรรค เช่นนั้นชีวิตของคนจะยังมีความหมายอะไร แตกต่างอะไรกับสัตว์ในพันธนาการที่ถูกพรานล่า แล้วรู้อยู่แก่ใจดีว่าต้องตาย”

“เมื่อพบเจอปัญหา มนุษย์อย่างพวกเราควรจะแก้ไขปัญหา พุ่งเข้าชนทางตันตรงหน้า ข้าเชื่อว่าบนโลกนี้ไม่มีเรื่องใดยาก มีเพียงคนอ่อนแอ หดหัวเข้ากระดองเมื่อเจอเรื่องยากก็เท่านั้น”

คำพูดนี้ นอกจากเมิ่งหนานและองครักษ์จินที่ฟังแล้วรู้สึกกินใจ แม้แต่หูเฟิงที่เงียบเชียบและเย็นชามาโดยตลอดได้ยินเข้า บนใบหน้าก็ปรากฏสีหน้าประทับใจอยู่บ้างเช่นเดียวกัน

ไป๋จื่อพูดจบแล้วก็ไป ครั้นเดินถึงประตู นางก็หันกลับไปกล่าวกับเมิ่งหนานว่า “ข้ามอบจีตั้นปิ่งที่นำมาให้ท่านแล้ว แม้จะเย็นชืดไปสักหน่อย ทว่ารสชาติน่าจะยังไม่แย่ หากหิวแล้วก็กินสักคำสองคำนะเจ้าคะ ข้าไปล่ะ”

เด็กสาวก้าวเท้ายาวๆ จากไป ทว่าหูเฟิงกลับยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตู สายตาเรียบเฉยของเขามองข้อมือที่พันผ้าไว้ของเมิ่งหนาน “อย่าได้ทำลายเจตนาดีของนาง จงเป็นบุรุษตัวอย่าง อย่าได้แพ้ให้กับสตรี”

หูเฟิงพูดจบก็หมุนกายจากไป ผ่านไปครู่ใหญ่องครักษ์จินถึงได้สติกลับมา “คุณชาย หูเฟิงหมายความว่าอย่างไร เขาบอกว่าท่านสู้สตรีไม่ได้อย่างนั้นหรือ ข้าจะไปคิดบัญชีกับเขาเอง”

เมิ่งหนานรั้งอีกฝ่ายไว้ “ไม่ต้องไป หูเฟิงพูดถูก เขาไม่ได้ต้องการดูถูกข้า เขาเพียงใช้วิธีการของเขาปลุกใจข้า และสิ่งที่เขาพูดไม่ผิดเลยสักนิด ข้าเป็นบุรุษที่สง่างามคนหนึ่ง เพียงพบกับอุปสรรคก็ผิดหวังราวกับฟ้าถล่ม ดินทลายเสียแล้ว พูดเช่นนี้แล้วข้าก็สู้กับจื่อยาโถวไม่ได้จริงๆ”

สายตาของเขาจ้องมองไปที่มือขององครักษ์จิน ในมือของคนสนิทถือห่อกระดาษน้ำมันอยู่

“ข้าหิวแล้ว”

องครักษ์จินดีใจนัก คุณชายไม่มีข้าวตกถึงท้องสักเม็ดมาสองวันแล้ว ทำเอาเขาเป็นกังวลจนนอนไม่หลับ “ขอรับ ข้าจะให้ทางห้องครัวเตรียมอาหารให้”

เมิ่งหนานชี้ห่อกระดาษในมือเขา “ยังจะเตรียมอะไรอีก มีอยู่แล้วไม่ใช่หรือ”

คราวนี้องครักษ์จินถึงจะนึกออก รีบเปิดห่อกระดาษในมือออก แล้วยื่นม้วนจีตั้นปิ่งที่ม้วนอย่างสวยงามชิ้นหนึ่งให้เมิ่งหนาน

เมิ่งหนานรับม้วนจีตั้นปิ่งมา กลิ่นหอมดึงดูดเตะจมูกอย่างยิ่ง กระเพาะที่แต่เดิมไม่รู้จักหิวเริ่มส่งเสียงเอะอะขึ้นมาแล้ว

องครักษ์จินเห็นคุณชายกินอย่างเอร็ดอร่อยแล้ว ก็รู้สึกน้ำลายสอขึ้นมาบ้าง ถือโอกาสตอนที่คุณชายไม่สังเกต หยิบม้วนจีตั้นปิ่งใส่เข้าไปในปากเสียคำหนึ่งอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่เมิ่งหนานเห็นดังนั้น เขาก็รีบชี้ไปที่องครักษ์จิน “ข้าเห็นนะ ยังเหลืออีกสองชิ้น ข้าไม่อนุญาตให้เจ้ากินอีกแล้ว”

อีกฝ่ายรีบกินม้วนจีตั้นปิ่งในมืออย่างว่องไว แล้วหยิบอีกชิ้นหนึ่งออกมาจากในห่อกระดาษอย่างไม่รีรอ ใส่เข้าปากไปพลาง หัวเราะฮ่าๆ ไปพลาง “ทั้งหมดมีสี่ชิ้น แม่นางไป๋บอกว่าให้พวกเราแบ่งกันคนละสองชิ้นขอรับ”

“นางบอกตอนไหน เหตุใดข้าไม่ได้ยิน” เมิ่งหนานไม่เชื่อ เขาได้ยินเพียงนางบอกว่าเขาหิวแล้วก็กิน ไม่ได้พูดถึงองครักษ์จินแม้แต่ครึ่งประโยค

แต่ไม่ว่าเขาจะเชื่อหรือไม่ ม้วนแป้งไข่ไก่สองชิ้นก็ลงท้องไปแล้ว องครักษ์จินเลียปากพลางยิ้มอย่างโง่งม

“พวกท่านกำลังกินอะไรอยู่” เสียงแปลกใจของสตรีดังมาจากหน้าประตู

องครักษ์จินออกไปต้อนรับทั้งๆ ที่บนริมฝีปากยังมันแผลบ เขายิ้มแห้งๆ ว่า “คุณหนูใหญ่กู้ เหตุใดท่านจะมาที่นี่ถึงไม่ให้คนส่งข่าวมาสักหน่อย ถึงแม้จะไม่ทันส่งข่าวมา แต่มาถึงหน้าเรือนของคุณชายข้าแล้ว ก็ควรจะเคาะประตูก่อนไม่ใช่หรือขอรับ”

กู้ซีหน้าแดง กล่าวอย่างเขินอายว่า “ไอ้หยา…ข้าเห็นประตูเรือนเปิดอยู่ ก็เลยเข้ามา”

เมิ่งหนานกินม้วนจีตั้นปิ่งในมือหมดแล้ว ในใจยังหวนคิดถึงชิ้นสุดท้ายในมือขององครักษ์จิน ขณะนี้กู้ซีมาเยี่ยมเยียนกะทันหัน ในใจเขารู้สึกไม่ชอบใจเท่าไรนัก ทว่าบนใบหน้าก็จำต้องยิ้มแย้มออกมาเล็กน้อย “คุณหนูกู้มาที่นี่ มีธุระอะไรหรือ”