ตอนที่ 143 แค่ผู้ชายดี ๆ คนเดียวก็พอแล้ว + ตอนที่ 144 สายลับที่บอสใหญ่ส่งมา?

อัจฉริยะตัวน้อยกับคุณพ่อสุดโฉด

ตอนที่ 143 แค่ผู้ชายดี ๆ คนเดียวก็พอแล้ว

หรือว่าจะให้เธอชอบอย่างนั้นเหรอ?

นี่ไม่เท่ากับว่าเธอกำลังถอนขนบนหัวเสือหรอกเหรอ อีกคนคือจิ่งเป่ยเฉินที่เธอกังวลซะขนาดนั้น ส่วนอีกคนคือถังซั่ว ลูกน้อยของเธอมีหวังถูกแย่งกันจนเหนื่อยตายแน่ ๆ!

“แม่จ๋า อันที่จริงหนูก็คิดว่าคุณลุงจิ่งดูไม่เลวเหมือนกันนะคะ ถ้าพวกแม่สองคนได้อยู่ร่วมกันก็พิจารณาไว้ด้วยนะคะ!” หน่วนหน่วนไม่ยอมแพ้คิดผลักดันเรื่องไปข้างหน้า

ในใจของเธอนั้นแม้จะชื่นชอบคุณลุงถังอยู่บ้าง ทั้งวันนี้ยังช่วยออกหน้าให้พวกเขาอีก แต่ว่าภายในใจของเธอกลับชื่นชอบคุณลุงจิ่งมากกว่า

ตัดสินใจยากจัง! คุณลุงถังก็ดี คุณลุงจิ่งก็ดี

ตอนนี้เหมือนหน่วนหน่วนกำลังคิดว่าจะเอาเนื้อชิ้นไหนดี เธอกำมือน้อย ๆ ก่อนจะมองไปมองมา ราวกับไม่อยากสูญเสียส่วนใดส่วนหนึ่ง

“ลูกจ๋า แม่จ๋าไม่ได้คิดอยากจะหาแฟนตอนนี้หรอกนะ” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ไม่เป็นไร พวกเราไว้ค่อยตั้งมาตรฐานในการตามพ่อก็แล้วกัน” หยางหยางพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม เพราะหลังจากนี้เขาจะมองหาโอกาสที่จะให้คุณลุงถังกับแม่จ๋าได้พบกันมากขึ้นในอนาคต

ถ้าหากถังซั่วไม่ได้ยุ่งเรื่องงานละก็ ทุก ๆ วันหลังเลิกเรียนเขาจะใช้โอกาสพวกนี้ไม่ให้พลาดเด็ดขาด จะใช้ประโยชน์ทุกซอกทุกมุม

“หยางหยาง หน่วนหน่วน เรื่องวันนี้พวกหนู…..” เธอคิดถึงเรื่องนี้สักพักก่อนจะเอ่ยถาม มือจับพวงมาลัยแน่น ใบหน้าของเธอพลันซีดลงเล็กน้อย

ในค่ำคืนที่ถูกวางยาและได้พบกับจิ่งเป่ยเฉิน กระทั่งเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น เธอไม่เคยรู้สึกเสียใจเลยแม้แต่น้อย

โดยเฉพาะคนที่ต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ พ่อติดคุกจนเสียชีวิต ส่วนแม่หายตัวไป หัวใจเธอผ่านเรื่องจิตใจสลายมาสักพักใหญ่แล้ว

และยิ่งช่วงเวลานั้นที่เธอรู้ว่าตัวเองท้อง ความตกใจนั้นยิ่งใหญ่กว่านี้มาก ความคิดของเธอนั้นกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ว่าตอนนั้นพ่อเด็กจะเป็นใครกันแน่ แต่เด็กพวกนี้คือลูกของเธอ เธอเป็นคนให้กำเนิดเขา

หยางหยางกับหน่วนหน่วนชื่อของพวกเขาทำให้หัวใจของเธออบอุ่นเหมือนกับชื่อ หลายปีที่ผ่านมาเธอพยายามอย่างมากที่จะมอบความรักให้พวกเขาให้มากที่สุด แต่ความรักของแม่นั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน พวกเขาก็ยังขาดความรักของพ่อที่ไม่อาจจะชดเชยได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่กลับมา เมื่อเธอมายังบริษัทสกุลจิ่ง หน่วนหน่วนได้พบเขา หนำซ้ำยังชื่นชอบเขามากเป็นพิเศษ หัวใจของเธอก็พลันรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย

จิ่งเป่ยเฉินเป็นผู้ชายที่ดูหล่อเหลา บุคลิกล้วนลึกลับ ยามโกรธก็ยิ่งดูน่ากลัว และถ้าหากทั้งสองคนรับรู้ความจริงของกันและกัน เขาที่โมโหร้ายขนาดนั้นย่อมโกรธเคืองอยู่แล้ว อาจจะถึงขั้นพาหยางหยางและหน่วนหน่วนไปจากเธอด้วยซ้ำ

นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่เธอไม่อยากคิดถึง

“แม่จ๋า พวกเราไม่เป็นไร!” เสียงอบอุ่นของทั้งสองคนทำให้ความคิดที่เตลิดของเธอกลับมา มุมปากของเธอยกขึ้นเล็กน้อย และในที่สุดก็กลับมาถึงอพาร์ตเมนต์ของหลินจือเซี๋ยว

เมื่อหลินจือเซี๋ยวเปิดประตูออกมา ก็พบทั้งสามคนยืนรออยู่ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม สายตาของเธอมองไปยังอันโหรวที่ไม่ได้แต่งหน้า ก่อนจะพูดขึ้น “โหรวโหรวทำไมออกไปในสภาพแบบนี้ เดี๋ยวก็ทำให้ผู้ชายทุกคนหัวใจละลายกันพอดี”

“น้าจือเซี๋ยว ละลายอะไรกัน แค่ผู้ชายดี ๆ คนเดียวก็พอแล้ว” หยางหยางยกมือน้อย ๆ พร้อมกับถุงชอปปิงที่อยู่ในมือขึ้น “น้าเอาไปทำกับข้าวนะ!”

“หนูน้อย น้านี่รักพวกหนูจริง ๆ!” หลินจือเซี๋ยวรับถุงชอปปิงไว้ในมือ ก่อนจะจุ๊บหยางหยางที่แก้มและปล่อยให้พวกเขาเข้ามาในห้อง

“เดี๋ยวก่อน! ที่เด็กน้อยพูดเมื่อครู่ บอกว่ามีผู้ชายคนเดียวนี่หมายถึงใคร ถึงขั้นรับสมัครแล้วเหรอ!” หลินจือเซี๋ยวคว้าตัวหยางหยางไว้และพูดว่า “รีบพูดเร็วเข้า!”

หยางหยางเงยหน้าขึ้นมองแม่จ๋าที่อุ้มหน่วนหน่วนเข้าไปในห้อง ดูเหมือนเธอจะไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้เท่าไร เช่นนั้นก็หมายความว่าเขาสามารถพูดได้อย่างสบายใจเลยสินะ

ด้วยเหตุนี้เขาถึงได้พูดความจริงออกไป!

“ประธานบริษัทสกุลถัง ถังซั่ว!” หยางหยางยิ้มด้วยใบหน้าที่ไร้เดียงสา และใช้ช่วงเวลาที่อันโหรวกำลังดูแลหน่วนหน่วนให้นอนกลางวันอยู่นั้นพูดออกไป เขาต้องรีบบอกเรื่องนี้ให้หลินจือเซี๋ยวรับทราบเรื่องที่เกิดขึ้น

โดยช่วงเวลาที่ถังซั่วมองไปยังแม่จ๋าของตน ดวงตาของเขาบ่งบอกถึงความหลงใหล ดวงตาของเขานั้นบ่งบอกถึงความชัดเจนเป็นอย่างยิ่ง มันเลยทำให้หลินจือเซี๋ยวเอ่ยถามชัด ๆ ก่อนจะรับรู้ว่าเมื่อคืนตัวเธอนั้นไม่ได้มีอาการเมาค้างหลงเหลืออยู่แม้แต่น้อย

หยางหยางหยิบมันถุงฝรั่งทอดขึ้นมา ก่อนจะเปิดออกและยื่นให้หลินจือเซี๋ยว “น้าจือเซี๋ยว แม่จ๋าไม่ได้เปิดใจเรื่องความรัก น้าต้องช่วยพูดเรื่องลุงถังออกมาให้ดี ๆ นะ! แล้วผมจะขอบคุณน้ามาก ๆ”

“แค่ก แค่ก….” หลินจือเซี๋ยวเพิ่งรู้ว่าการกินมันฝรั่งทอดก็ทำให้คนสำลักได้

ถังซั่วเข้ามาเกี่ยวข้องได้ยังไงเนี่ย?

ไม่ถูกสิ หยางหยางเหมือนกับหัวหน้าใหญ่ซะขนาดนั้น ทุกครั้งโหรวโหรวก็ไม่เคยให้หัวหน้าพบเจอกับหยางหยางแม้แต่น้อย ทำไมกันนะ?

ขณะที่เธอกัดมันฝรั่งทอด จู่ ๆ ก็ค้นพบอะไรบางอย่างที่ไม่ธรรมดา

“อันโหรว นี่เธอ!…..” เธอตะโกนเสียงดัง พลางมองไปที่หยางหยางพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า ก่อนจะยื่นมันฝรั่งทอดให้หยางหยาง “หยางหยางกินก่อนเลย”

……………..

ตอนที่ 144 สายลับที่บอสใหญ่ส่งมา?

อันโหรวนั่งอยู่บนเตียง ค่อย ๆ ลูบหัวหน่วนหน่วนด้วยความอบอุ่น แต่แล้วจู่ ๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดออก เธอหันหน้าไปมองก็เห็นหลินจือเซี๋ยวยิ้มตอบกลับมา

หลินจือเซี๋ยวกลอกตา ก่อนจะดึงเธอไปที่อีกด้าน พลางมองไปที่ใบหน้าของเธอด้วยท่าทีที่จริงจัง ดวงตาที่สดใสเผยให้เห็นอารมณ์โกรธที่จริงจัง

“จือเซี๋ยว?” อันโหรวเอ่ยออกมาอย่างงุนงง

“ฉันเหมือนถูกน้ำมันหมูปิดกั้นหัวใจ[1]เลย!” หลินจือเซี๋ยวพูด ก่อนจะเอามือทำท่ากุมไปที่หัวใจของตัวเอง และแสดงความขุ่นเคืองเล็กน้อย

“อะไร?” เธอไม่เข้าใจสิ่งที่จือเซี๋ยวพยายามจะสื่อออกมา

“โหรวโหรว เธอคิดว่าฉันต้องทำยังไงที่เวลากลางวันต้องเผชิญหน้ากับบอส ตอนกลางคืนต้องมาเจอบอสตัวเล็กอีก กว่าจะใช้สมองส่วนลึก ๆ ครุ่นคิดว่าพวกเขาสองคนนี้เป็นพ่อลูกกันนี่เอง อันโหรวเธอนี่มันนักโกหกเกินไปแล้ว!” หลินจือเซี๋ยวเอาแขนกอดไปที่อก ก่อนจะพูดว่า “รีบพูดมา ใช่หรือเปล่า!!”

“เธอเบาเสียงหน่อยสิ” อันโหรวทำท่าทางให้เธอลดเสียงลง เพื่อนของเธอในที่สุดก็รู้ตัวเสียที นี่เธอควรดีใจหรือเสียใจดี?

“เธอบอกมาสิว่าฉันเป็นพวกโง่หรือเปล่า! พวกเขาดูเหมือนกันซะขนาดนั้น ฉันก็เชื่อเรื่องไร้สาระของเธอว่าเขาเป็นลูกครึ่งซะเกือบหมด! อันโหรว ฉันเกลียดเธอ!” เธอกอดไปที่อกด้วยท่าทางโมโห ก่อนจะพูดว่า “ฉันคงไม่มีหน้าไปทำงานในวันมะรืนนี้แน่ ๆ ขืนเจอกับบอสมีหวังได้เจออันตรายของจริงแน่ ๆ!”

“ก่อนหน้านั้นพวกเขาก็ยังไม่เคยเจอกันนี่” อันโหรวพูดกับเธออย่างใจเย็น

“จริงเหรอ? หยางหยางกับหน่วนหน่วนเป็นลูกของบอสเหรอ?” เธอมองอย่างจริงจังอีกครั้ง เพราะยังไม่ได้รับคำตอบที่แน่ชัดจากปากของเพื่อน

“เธอจะปิดบังมันยังไง” เธอเอ่ยถามด้วยเสียงเบา ๆ

อันโหรวรู้ดีว่าไม่ช้าก็เร็ว หลินจือเซี๋ยวก็ต้องรู้เรื่องนี้แน่ แต่เธอไม่คิดเลยว่าเพื่อนจะมารู้เอาตอนนี้

“ถังซั่ว! คิดไม่ถึงเลยนะว่าโหรวโหรวจะเป็นแบบนี้ไปซะได้ รู้ใช่ไหมว่าคุณถังกับบอสเป็นเพื่อนสนิทกัน เขาเป็นสายลับที่บอสส่งมาหรือเปล่า” ถ้าหากเป็นแบบนั้นละก็ ไม่ช้าก็เร็วบอสต้องรู้เรื่องพวกเขาแน่ ๆ

“มันไม่น่าจะเป็นแบบนั้น!” อันโหรวหรี่ตาลง ก่อนจะมองไปที่ใบไม้สีเขียวที่อยู่ด้านนอก พลางพูดว่า “มันไม่น่าจะเป็นไปได้”

ถึงแม้ว่าครั้งที่แล้วจิ่งเป่ยเฉินจะเรียกเธอว่าอันโหรว แต่ด้วยการแสดงออกและคำพูดที่ทิ้งท้ายว่า ‘อย่าให้ฉันจับได้ละกัน’ ตอนนั้นมันก็พอเดาได้แล้ว

“ถึงแม้ว่าถังซั่วจะเห็นหยางหยางแล้ว ถึงจะรู้สึกว่าเขากับจิ่งเป่ยเฉินคล้ายกัน แต่เขาเองก็ไม่ได้เห็นฉัน เขาไม่น่าจะจับเชื่อมโยงระหว่างอันโหรว….หรอก” น้ำเสียงของเธอเอ่ยขึ้นอย่างช้า ๆ เพราะยังไม่แน่ใจ

“ยัยโง่ ไม่ใช่ว่าถังซั่วรู้แต่แรกแล้วแกล้งโง่หรอกเหรอ!” หลินจือเซี๋ยวรู้ดีว่าเขาต้องรับรู้ตัวตนของเพื่อนตนแล้วแน่ ๆ และด้วยสัญชาตญาณ จิ่งเป่ยเฉินก็ต้องรับรู้แล้วเช่นกัน

“เธอคิดว่าไง ถ้าหากฉันขอลาสักเดือน จิ่งเป่ยเฉินจะเห็นด้วยไหม?” อันโหรวมองไปที่เธออย่างจริงจัง ดวงตาของเธอนั้นสวยงามและเปล่งประกายเป็นอย่างมาก

“จะพูดไร้สาระอีกแล้ว” หลินจือเซี๋ยวเอื้อมมือไปแตะหน้าผากของเธอ ก่อนจะพูดว่า “เธอเอาจริงเหรอ?!”

“เฮ้อ” เธอมองไปยังหน่วนหน่วนที่กำลังนอนหลับอยู่ ความกลัวของเธอปรากฏขึ้นมาทันที “พวกเขาเป็นลูกของฉัน ส่วนจิ่งเป่ยเฉินไม่เกี่ยวข้องหรอก อย่างมากแค่สเปิร์มแฝดเท่านั้น อย่าได้คิดจะแย่งพวกเขาไปจากฉัน ฉันไม่มีทางยกให้ ประตูไม่มี หน้าต่างไม่เปิด!”

“โหรวโหรว…เธอไม่กลัวบ้างเลยเหรอ ฉันมองก็รู้แล้วว่าหัวหน้าชอบเธอจะตายไป!” หลินจือเซี๋ยวเลิกคิ้วของเธอขึ้นเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “เรื่องนี้พวกเราจะวางแผนปิดบังจนถึงเมื่อไหร่?”

“แล้วจะทำยังไงได้?” อันโหรวกางมือออกอย่างช่วยไม่ได้ “ฉันกับเขาไม่ใช่คู่รักที่แยกทางกันมาหลายปี ไม่มีทางอยู่ด้วยกันได้หรอก พวกเรายังไม่มีความรู้สึกถึงขนาดนั้น”

“ฉันไม่เชื่อ!” หลินจือเซี๋ยวโต้กลับทันที ก่อนจะพูดว่า “พวกเธอยังนอนด้วยกันมาแล้วเลย!”

“ฉันบอกแล้วไงว่าเป็นอุบัติเหตุ….นี่ไม่เชื่อกันเลย?” ครั้งนั้นเป็นอุบัติเหตุจริง ๆ ช่องว่างระหว่างชายหญิงต่างกันขนาดนั้น และเธอก็ถูกบังคับด้วย

“เธอต้องแต่งหน้าหลอก ๆ ต่อไปนะ! ฉันจะดูว่าหลอกตบตาไปได้อีกหรือเปล่า” หลินจือเซี๋ยวเหลือบมองไปยังเพื่อนของตนด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา

ในความเป็นจริงแล้วเธออยากรู้มากว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับทั้งสองคนในปีนั้น หากย้อนกลับไป คนที่เธอชอบจริง ๆ คือโอวหยางลี่ แต่โอวหยางลี่กลับไปแต่งงานกับเหลียวเว่ย เพียงพริบตาอันโหรวก็หายไปอยู่ต่างประเทศ

ส่วนเรื่องที่เธอกับจิ่งเป่ยเฉินมีความสัมพันธ์กันนั้น ผู้คนต่างก็ไม่รับรู้ว่ามันเกี่่ยวข้องกับจิ่งเป่ยเฉินได้อย่างไร น้อยคนนักที่จะกล้าตรวจสอบ

“จือเซี๋ยว เธอต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับนะ อย่าลืมคุมสติตอนที่เผชิญหน้ากับจิ่งเป่ยเฉินด้วย ความสุขส่วนครึ่งหลังของฉันฝากไว้ที่ตัวเธอแล้ว!”

“หมายความว่าเธอชอบถังซั่วเหรอ เธออยากอยู่กับเขาเหรอ?” ไม่งั้นทำไมถึงไม่อยากให้จิ่งเป่ยเฉินรับรู้?

[1] คนจีนพูดอีกอย่างว่า น้ำมันหมูนั้นป้องกันหัวใจ ไม่ให้ไวกับความรู้สึกภายนอก เรียกอีกอย่างว่าปิดหัวใจให้คนผู้นี้ไม่มีความเมตตาและความอ่อนโยน ไม่เจ็บปวดต่อชีวิตและความตายตรงหน้า ไม่รู้สึกผิดชอบชั่วดี