บทที่ 187 เธอไม่ใช่ยัยตัวประหลาด / บทที่ 188 ทำไมพูดยังไงก็ไม่ยอมเชื่อนะ! โดย Ink Stone_Romance
บทที่ 187 เธอไม่ใช่ยัยตัวประหลาด
หลังจากเยี่ยหวันหวั่นช่วยพยุงลุกขึ้น คนบางคนก็ไหลเข้ามาซบ ถ่ายน้ำหนักทั้งหมดไว้บนไหล่ของเธอ ลมหายใจถี่รัวพ่นอยู่ที่คอของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า
เยี่ยหวันหวั่นเผชิญกับสายตาอิจฉาริษยาของผู้คน แทบอยากจะโยนคนบนบ่าใส่หน้าพวกเธอเหลือเกิน พวกเธออยากพยุงก็มาพยุงเองซะเลยสิ บุญคุณสาวงามแบบนี้เธอรับไม่ไหว!
หลังจากวุ่นวายกับการจับปูใส่กระด้งแล้ว ในที่สุดก็พาคนส่งถึงห้องพยาบาล
คุณหมอประจำห้องพยาบาลรีบพ่นยาระงับอาการหอบหืดให้ซือเซี่ย จากนั้นทำการตรวจร่างกายขั้นพื้นฐานให้เขาหน่อย
“39.5 องศา ไข้สูงมาก ให้น้ำเกลือ! คาดว่าร่างกายโดนอากาศเย็นจัด และออกแรงมากเกินไป ช่วงนี้จะต้องพักผ่อนให้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่าให้ตื่นเต้นเกินไปและไม่ควรออกแรงมากจนเหนื่อยเกินไปด้วย!” หมอประจำห้องพยาบาลกำชับจริงจัง
หืม ไข้สูง ตากอากาศเย็น เหนื่อยเกินไป…
ได้ยินคำพูดของหมอห้องพยาบาลแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็ยิ่งรู้สึกผิดอย่างบอกไม่ถูก ไม่ได้แกล้งเหรอ ป่วยจริง…
ตากอากาศเย็น? เมื่อคืนผู้ชายคนนี้อยู่ริมทะเลสาบนานแค่ไหน?
ในห้องพยาบาล ตอนนี้เฉิงเสวี่ยและพวกอยู่พร้อมหน้า นอกจากนี้ยังมีนักเรียนกลุ่มใหญ่มาห้อมล้อมดูซือเซี่ยที่มีสภาพอ่อนแอแบบนี้ สาวน้อยบางกลุ่มพากันร้องไห้สะอึกสะอื้น สงสารจับใจ
เสียงดังทำเอาหมอห้องพยาบาลปวดหัวตึบ จึงถลึงตาอย่างหงุดหงิดใส่พวกเธอ “เขาแค่มีไข้บวกกับอาการหอบหืดกำเริบเท่านั้น พวกเธอต้องทำหน้าเหมือนคนจะตายด้วยเหรอ? พอแล้วพอแล้ว อย่ามามุงอยู่ที่นี่เลย คนมากขนาดนี้ไม่เอื้อต่อการไหลเวียนของอากาศ และรบกวนการพักผ่อนของคนไข้ด้วย เหลือไว้คนเดียว ส่วนคนที่เหลือก็ออกไปให้หมด!”
หมอห้องพยาบาลเพิ่งจะพูดจบ เฉิงเสวี่ยพลันหันมองไปทางซือเซี่ยอย่างมีความหวัง ส่วนผู้หญิงคนอื่นๆ ต่างจำใจเดินออกไป
เยี่ยหวันหวั่น แบกผู้ชายคนนี้มาตลอดทาง จนหัวไหล่แทบหลุด เมื่อมั่นใจแล้วว่าเขาไม่เป็นอะไร ก็เตรียมตัวจะหายไปเงียบๆ
เห็นชัดเจนอยู่แล้วว่าที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่ควรอยู่นาน
ใครจะรู้ เธอเพิ่งจะก้าวเท้า พลันรู้สึกกระชับแน่นที่ข้อมือ
วินาทีถัดมา เธอก้มหน้าไปมอง ก็เห็นมือขาวซีดข้างหนึ่ง จับปลายแขนเสื้อของเธอเอาไว้แน่น
และบนเตียงคนไข้แคบๆ ชายหนุ่มใช้สายตาเหมือนโดนทอดทิ้งมองเธอราวกลับกำลังตำหนิ “เธอจะไปไหน?”
เยี่ยหวันหวั่น “……”
เชี่ย! พอได้แล้วกับการแสดงของนายเนี่ย!!!
ซือเซี่ยยังคงทำท่าจับชายแขนเสื้อของเยี่ยหวันหวั่นไว้เช่นนั้น สายตาเย็นชาเหลือบไปยังนักเรียนหญิงอื่นๆ “พวกเธอออกไป”
“เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร…”
“ทำไมถึงเป็นเยี่ยหวันหวั่นยัยตัวประหลาดคนนี้อีกแล้ว! น่าเกลียด!”
บรรดานักเรียนหญิงเห็นเช่นนี้ต่างกระทืบเท้าด้วยความโมโห แต่เทพบุตรเอ่ยปากแล้ว ได้แต่บ่นไม่พอใจอย่างไม่ยอม แต่ก็ต้องทยอยถอยออกไป
เฉิงเสวี่ยที่ร่างกายสั่นเคลือยืนอยู่ข้างเตียง หัวใจที่ท่วมล้นไปด้วยเพลิงโกรธ ในที่สุดก็ไม่อาจอดทนต่อไปได้อีก มองซือเซี่ยที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย พลางเอ่ยถามชัดเจนทุกถ้อยคำ “ซือเซี่ย! นายรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังทำอะไรอยู่? อย่าบอกฉันนะว่านายชอบยัยตัวประหลาดนี่จริงๆ!”
นัยน์ตาของซือเซี่ยผุดรัศมีเย็นชาขึ้นมา “เก็บคำพูดเมื่อครู่ของเธอกลับไป”
เฉิงเสวี่ยได้ยินสีหน้าตกตะลึง เก็บคำพูดเมื่อครู่ของเธอกลับไป?
หรือว่าความหมายของซือเซี่ยคือเขาไม่ได้ชอบเยี่ยหวันหวั่นเหรอ?
เธอรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้! ซือเซี่ยจะชอบเยี่ยหวันหวั่นได้อย่างไร! จะต้องมีความลับอะไรบางอย่างแน่นอน!
ผลที่ได้ เธอเพิ่งจะคิดแบบนี้ ก็ได้ยินซือเซี่ยเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำ “เขาไม่ใช่ยัยตัวประหลาด”
เฉิงเสวี่ยโมโหจนแทบกระอักเลือดออกมา “ซือเซี่ย! ฉันว่านายเสียสติไปแล้วจริงๆ !”
“เยี่ยหวันหวั่น เธออย่าเพิ่งด่วนได้ใจไปนะ!” เฉิงเสวี่ยผลักเยี่ยหวันหวั่นที่อยู่ด้านข้างอย่างแรงแล้ววิ่งออกไป
เยี่ยหวันหวั่นอยากจะวิ่งตามไป แต่แขนเสื้อของเธอกลับถูกดึงไว้แน่น จึงได้แต่ยื่นมือไขว่คว้าอย่างสิ้นหวัง “อ้าก อย่าทิ้งฉันไว้คนเดียวสิที่รัก…”
………………………………….
บทที่ 188 ทำไมพูดยังไงก็ไม่ยอมเชื่อนะ!
เมืองปักกิ่ง ณ ซือกรุ๊ป
หลังสวี่อี้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย รีบไปเคาะประตูห้องทำงานของผู้อำนวยการ “คุณชายเก้า เมื่อกี้ทางโรงเรียนโทรมา บอกว่าคุณชายซือเซี่ยโรคกำเริบ!”
ซือเยี่ยหานได้ยิน ก็เงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร พูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “เตรียมรถ”
“ครับ!” สวี่อี้แสดงสีหน้าอย่างที่คาดไว้
คุณชายซือเซี่ยดื้อรั้นและก่อเรื่องเกินไปแล้ว ใครก็เอาไม่อยู่ แม้แต่พ่อแม่เขาก็ยังไม่เชื่อฟัง ดังนั้นคุณหญิงใหญ่เลยกำชับเป็นพิเศษให้นายท่านช่วยดูแลมากหน่อย ถ้าเขาเกิดเรื่องอะไรขึ้น อย่างน้อยคือนายท่านต้องรับผิดชอบ อย่างหนักอาจจะถึงขั้นโดนสงสัยอีกครั้ง
ที่ชิงเหอมีแค่ผู้อำนวยการโรงเรียนและผู้นำชั้นสูงไม่กี่คนรู้สถานะของซือเซี่ย
พอได้ยินว่าซือเยี่ยหานจะมาด้วยตัวเอง ผู้อำนวยการก็มารออยู่ข้างประตู จนมาถึงแล้ว ก็พาเขาตรงไปยังห้องพยาบาลด้วยตัวเอง
“ยังดีๆ อยู่ทำไมถึงกำเริบขึ้นมาได้ครับ?” สวี่อี้ที่อยู่ข้างๆ ถาม
ผู้อำนวยการโรงเรียนปาดเหงื่อ กลัวว่าจะถูกตำหนิว่าดูแลไม่ทั่วถึง รีบตอบกลับ “คือ… คือว่า… เป็นเพราะตอนซ้อมใหญ่โดนทำให้ตกใจนิดหน่อย…”
“โดนทำให้ตกใจ?” สวี่อี้ไม่เข้าใจ ตอนซ้อมใหญ่จะโดนอะไรทำให้ตกใจ?
ผู้อำนวยการโรงเรียนตอบด้วยสีหน้าอึดอัด “ว่ากันว่าเป็นเด็กผู้หญิงที่ต่อบทกับเขาคนนั้น หน้าตาดูน่าตกใจกลัว…”
สวี่อี้: “เอ่อ…”
เด็กผู้หญิงคนนั้นคงไม่ใช่… คุณหนูเยี่ยหรอกนะ…
“เขาเป็นยังไงบ้าง?” ซือเยี่ยหานพูด
“ตอนนี้ไม่เป็นอะไรมากแล้วครับ เพียงแต่ตัวร้อนนิดหน่อย กำลังให้น้ำเกลืออยู่”
ที่ห้องพยาบาลของชิงเหอ
หลังทุกคนไปกันหมดแล้ว ในห้องพยาบาลเหลือเพียงเยี่ยหวั่นหวันและซือเซี่ยอยู่ตรงนั้นหาทางออกไม่ได้
ปลายแขนเสื้อโดนดึงไว้ไม่ยอมปล่อย ช่วยไม่ได้ เยี่ยหวั่นหวันทำได้แค่พูด “ทำไม? อยากจะกลับไปที่ป่าเล็กกับฉันอีกรอบเหรอ?”
เดิมทีเห็นเขาป่วยเลยไม่อยากรุนแรงกับเขา…
วินาทีที่พูดจบ มือที่เดิมทีจับเธอไว้แน่นก็มีเสียง ‘ฉิว’ กลับเข้าไปทันที
เยี่ยหวั่นหวันพอใจกับผลลัพธ์มาก ถอนมือออกมาแล้วพูด “สิ่งที่ควรพูดเมื่อคืนฉันพูดชัดเจนหมดแล้ว อย่าเปลืองแรงเปล่าเลย!”
ฝั่งสวี่อี้และเจ้านายตัวเองเพิ่งเดินมาถึงหน้าประตูห้องพยาบาล ก็ได้ยินเสียงที่คุ้ยเคยดังมาจากข้างใน เสียงนี้… เหมือนเสียงเยี่ยหวั่นหวันเลย!
ซวยแล้ว! ทำไมเธอก็อยู่ด้วย?
สวี่อี้สีหน้าเปลี่ยน จากนั้นก็ได้ยินเสียงฮึกเหิมของซือเซี่ยดังตามมาจากในห้อง “เยี่ยหวั่นหวัน! คุณชอบซือเยี่ยหานจริงหรือ?”
สวี่อี้ได้ยินคำถามนี้ เหงื่อบนหน้าผากแทบตกลงมา
ทำไมถึงมาได้จังหวะไม่ดีแบบนี้!
เป็นเขาที่ไม่รอบคอบเอง รู้อยู่ว่าเยี่ยหวั่นหวันกับซือเซี่ยอยู่โรงเรียนเดียวกัน น่าจะควรยืนยันสถานการณ์ของฝั่งนี้ให้แน่ชัดก่อน
ในห้อง เยี่ยหวั่นหวันถอนหายใจยาว “ฉันพูดมาแปดร้อยรอบแล้ว คุณจะต้องให้ฉันพูดซ้ำอีกกี่รอบ? ความรักของฉันกับอาเก้าของคุณมั่นคงแข็งแกร่ง รักหนักแน่นดั่งก้อนหิน ถึงแม้ภูเขาจะไม่มียอดเขา น้ำในแม่น้ำเหือดแห้ง ฟ้าร้องในฤดูหนาว หน้าร้อนมีหิมะ ฟ้ากับพื้นดินผสานกัน ฉันก็จะไม่มีวันเปลี่ยนใจ! พอหรือยัง?”
สวี่อี้ที่อยู่หน้ประตู “…”
เยี่ยหวั่นหวันคนนี้ยิ่งทียิ่งเข้าท่าแฮะ!
แต่ว่า คุณชายซือเซี่ยไม่ใช่คนที่ต่อกรด้วยง่ายเลย ถ้าเกิดเขาคิดจะยุแยงขึ้นมา…
สวี่อี้ไม่กล้าละเลย กำลังกังวลอยู่ ก็ได้ยินเสียงซือเซี่ยหัวเราะอย่างเย็นชาแล้วพูดขึ้นมา “เยี่ยหวั่นหวัน คุณพูดจาแบบนี้ ตัวคุณเองเชื่อหรือ? หึ คุณชอบเขา? คุณชอบเขาที่ตรงไหน? เงินของเขา? อำนาจเขา? หรือว่าใบหน้าของเขา? คุณคิดว่าผมไม่รู้หรือ ว่าคุณไม่ได้ยินยอมเลย! แล้วที่คุณแต่งตัวแบบนี้ ก็เพื่อที่จะหลบหนีจากเขาสินะ!”
โอ้ย! เยี่ยหวั่นหวันด่าเสียงเบา เด็กดื้อนี่ ไม่ง่ายที่จะต่อกรด้วยเลย!
ถึงกับเปิดโปงสิ่งที่เธอซ่อนไว้ออกมาแบบนี้
เส้นเลือดที่หน้าผากเยี่ยหวั่นหวันเต้นตุบๆ ในที่สุดความอดทนทั้งหมดที่มีก็หมดสิ้น ตะคอกด้วยความโกรธอย่างหมดความอดทน: “หลบหนีบ้านคุณสิ! คุณมันเด็กดื้อ! ทำไมพูดยังไงก็ไม่ยอมเชื่อนะ! จะต้องให้ตอนนี้ฉันไปเรียกซือเยี่ยหานมามีอะไรกับเขาต่อหน้าคุณ คุณถึงจะเชื่อใช่ไหม!”
………………………………………………