บทที่ 62 หญิงผู้เพียบพร้อม

Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子]

“ท่านฮีลเลอร์ นี่คือกลุ่มนักบวชของพวกเราในตอนนี้ เนื่องจากผู้เล่นที่มีคลาสนักบวชนั้นหายาก นักบวชส่วนใหญ่ในกิลด์ของเราจึงอยู่ที่หมู่บ้านฝึกหัดเพื่อช่วยเหลือสมาชิกคนอื่นของกิลด์เราให้ทำภารกิจทดสอบได้สำเร็จ ทำให้ตอนนี้เรามีนักบวชอยู่กับเราไม่ถึง 30 คน”

สกายนำทางเซียวเฟิงมายังแนวหลัง นักบวชทั้งหมดที่นี่เป็นผู้เล่นหญิงที่กำลังยืนอยู่บนหินน้ำแข็งก้อนหนึ่ง

“เขาเป็นใครกันคะหัวหน้ากิลด์?”

มีผู้เล่นเพศหญิงที่ทั้งสวยและหุ่นดีอยู่ประมาณ 30 คนตรงนี้ และเนื่องจากเซียวเฟิงถูกหัวหน้ากิลด์พามาที่นี่ พวกเธอจึงมองไปที่ชายหนุ่มอย่างสงสัย หญิงสาวกลุ่มนั้นพากันกระซิบกระซาบถึงเรื่องเขาอย่างตื่นเต้นด้วยเสียงหวาน ๆ ของพวกเธอ

ผู้นำของกลุ่มผู้เล่นหญิงที่เป็นคลาสนักบวชเดินเข้ามาทักทายพวกเขา ชื่อของผู้เล่นคนนี้คือ จืออี้ เธอเป็นผู้หญิงที่มีมนตร์เสน่ห์ดึงดูดผู้ชายให้เข้าหาเธอด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวของวัยสาว 20 ต้น ๆ ดวงตาของเธอนั้นงดงาม และเย้ายวนใจ เมื่อเธอมองคุณคุณก็จะหลงเสน่ห์ความนุ่มนวลของเธอ

สิ่งที่ทำให้เขาประทับใจมากที่สุดคือรูปร่างของอีกฝ่ายซึ่งดูดีมาก ขาของหญิงสาวยาวและเรียว เอวคอดของเธอผอมบาง ต่างจากหน้าอกที่ ใหญ่เอามากๆ ทรวดทรงเองเอวของเธอช่างสวยงามจริงๆ!

เสื้อคลุมของนักบวชที่สวมอยู่นั้นไม่สามารถที่จะปกปิดรูปร่างอันยอดเยี่ยมของเธอได้ หน้าอกของอีกฝ่ายทั้งใหญ่และสะดุดตา! มันทั้งดูบอบบางและขาวสว่างเย้ายวน เซียวเฟิงสามารถมองเห็นร่องอกของหญิงสาวอย่างชัดเจน เขาเชื่อเลยว่าผู้ชายจะต้องถูกดึงดูดด้วยหน้าอกที่ใหญ่ของเธอเป็นอย่างแรก แทนที่จะเป็นใบหน้าที่สวยจิ้มลิ้มของเธอ

“นี่คือท่านฮีลเลอร์ ฉันขอให้เขามาช่วยพวกเรา” ดูเหมือนว่าสกายจะกลัวการที่ได้พบกับจืออี้ ดังนั้นอีกฝ่ายจึงเบือนหน้าหนีหันไปมองกลุ่มนักบวชที่อยู่ข้างหลังเธอแทน ก่อนจะพูดขึ้นว่า “เราจะโจมตีบอสตัวนี้ในทันที และท่านฮีลเลอร์จะทำหน้าที่เป็นหัวหน้ากลุ่มนักบวชชั่วคราว ทุกคนต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเขา”

“คุณพูดว่าอะไรนะคะ?” จืออี้รู้สึกหงุดหงิดกับสิ่งที่สกายพูดออกมา หญิงสาวกอดอกด้วยความไม่พอใจ ซึ่งนั่นยิ่งทำให้หน้าอกของเธอดูโต และน่าดึงดูดมากขึ้น

“หัวหน้ากิลด์คะ คุณมีปัญหาอะไรกับฉันหรือเปล่า? ฉันเป็นหัวหน้าทีมของกลุ่มนักบวช แต่ในตอนนี้คุณกับเอาชายคนหนึ่งมาและขอให้เขาทำหน้าที่แทนฉัน! เห็นได้ชัดว่าคุณไม่เชื่อมั่นในความสามารถของฉัน! โปรดอย่าลังเลที่จะแสดงความคิดเห็นหรือให้ข้อเสนอแนะถ้าคุณมีมัน ฉันไม่สนใจว่าใครจะเป็นหัวหน้า ฉันสามารถลาออกได้ถ้าคุณไม่ไว้ใจฉัน”

ทุกคนรู้สึกถึงความไม่พอใจของจืออี้ แต่นี่เป็นเรื่องปกติ เธอทั้งสวยและมีรูปร่างดี นอกจากนี้ยังเป็นหัวหน้ากลุ่มนักบวชของกิลด์วอร์สปิริตฮอล์อีกด้วย

….ในฐานะที่เธอเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจ เธอย่อมต้องรู้สึกรำคาญ และรู้สึกละอายใจเมื่อถูกลิดรอนความสามารถในการออกคำสั่งระหว่างการต่อสู้ในที่สาธารณะแบบนี้

“ฉันไม่ได้กีดกันความสามารถในการออกคำสั่งของเธอ แต่บอสตัวนี้ยากที่จะจัดการ ดังนั้นฉันจึงขอให้ท่านผู้นี้มาช่วยเรา ท่านฮีลเลอร์เป็นนักบวชอาวุโส และฉันเชื่อว่ากลุ่มนักบวชของเธอจะมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมด้วยความช่วยเหลือของเขา” สกายฝืนยิ้มและอธิบายอย่างไม่มั่นใจ เขาดูไม่เหลือคราบของหัวหน้ากิลด์เลยเมื่อพูดคุยกับสาวสวยแบบจืออี้

ความจริงแล้วไม่ว่าชายคนไหน พวกเขาก็คงไม่สามารถทำตัวปกติเมื่อพูดคุยกับผู้หญิงที่มีเสน่ห์อย่างจืออี้ได้

“คุณคิดว่าฉันไม่ดีพอ และกลุ่มนักบวชนี้จะสามารถทำได้ดีกว่านี้กับหัวหน้าคนอื่นใช่ไหม?” หญิงสาวค้านเสียงแข็ง เธอปฏิเสธที่จะเข้าใจการกระทำของสกาย

“เธอเข้าใจเจตนาของฉันผิด..” สกายที่ดูลำบากใจทำได้เพียงมองไปทางเซียวเฟิงและอธิบายกับชายหนุ่มว่า “ท่านฮีลเลอร์ จืออี้คือหัวหน้าของกลุ่มนักบวช แล้วเธอยังเป็นฮีลเลอร์ที่ดีที่สุดของกิลด์วอร์สปิริตฮอล์อีกด้วย ดังนั้นเธอจึง….”

“อ่า ฉันเข้าใจ เธอมีน่มน้มที่โตเอามากๆ” เซียวเฟิงหันออกมาจากหน้าอกใหญ่ๆ ของเธออย่างช้าๆ ก่อนที่จะพยักหน้าเห็นด้วยกับสกาย

“นายพูดว่าไงนะ?” จืออี้จ้องเซียวเฟิงอย่างไม่เป็นมิตรในทันที

“ก็เปล่านี่ เธอน่าจะเริ่มได้แล้วนะ เข้าไปโจมตีบอสตามปกติได้เลย แล้วฉันจะมองหาโอกาสเพื่อดูว่าฉันจะสามารถทำอะไรให้ได้บ้างก็แล้วกัน”

“ก็ได้” สกายไม่สามารถค้านอะไรจืออี้ได้เลย เขาเพียงแต่พยักหน้าแล้วเดินจากไป ซึ่งในทันทีที่เขาออกคำสั่ง ผู้เล่นกว่าร้อยคนก็พลันเข้าเรียงแถวกันในทันที

“ท่านฮีลเลอร์! โปรดใช้สกิลอวยพรชีวิตกับผมด้วย” ในฐานะนักรบโล่ที่ดีที่สุดของวอร์สปิริตฮอล์ ไนฟมีหน้าที่รับผิดชอบหลักในการต่อสู้กับบอส หลังจากตรวจสอบโพชั่นแล้วเขาก็ยืนต่อหน้าบอสและเตรียมพร้อมเข้าโจมตี โดยในขณะนี้เขาเลือกที่จะมองกลับไปและขอให้เซียวเฟิงบัฟ เพราะไนฟมั่นใจว่าเซียวเฟิงสามารถเพิ่มพลังชีวิตให้เขาได้อย่างมาก

“ฉันไม่ได้เรียนสกิลนั้น” เซียวเฟิงตอบสั้นๆ

“อะไรนะ?” ไนฟตะลึง แต่เพราะพวกเขาตะโกนคุยกัน ผู้เล่นของวอร์สปิริตฮอล์ที่อยู่ใกล้เคียงจึงได้ยินเสียงตะโกน คนทั้งหมดจึงพากันหันหลังกลับดูเซียวเฟิงที่ยืนอยู่ในกลุ่มนักบวชด้วยความประหลาดใจ

“นายเป็นนักบวชแต่ไม่ได้เรียนสกิลอวยพรชีวิต? นี่นายเป็น ‘ท่านฮีลเลอร์’ จริงๆ หรือเปล่า?”

จืออี้ที่ยืนอยู่ข้างเซียวเฟิงรู้สึกไม่พอใจอยู่ก่อนแล้ว เธอจึงเยาะเย้ยเขาทันทีที่ได้โอกาศ

ทว่าชายหนุ่มไม่ตอบคำถามของเธอ เขาทำแค่แตะจมูกของตัวเองและไม่พูดอะไรทั้งนั้น ซึ่งนั้นทำให้จืออี้รู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก

“หัวหน้าจืออี้ โปรดให้อวยพรชีวิตกับฉัน!” ไนฟยอมแพ้ เขาขอให้จืออี้เพิ่มบัฟให้กับตน เพราะไม่ว่าอย่างไรจืออี้ก็คือฮีลเลอร์ที่เก่งที่สุดของวอร์สปิริตฮอล์ และผลของบัฟของเธอก็ถือได้ว่าสูงที่สุดในกิลด์นี้แล้ว

จืออี้ทำเสียงฮึดฮัดในจมูก เพราะรู้สึกว่าเธอเป็นเพียงแผนสองต่อจากไนฟ หญิงสาวมองไปที่เซียวเฟิงด้วยความโกรธ แต่ก็ยังใช้สกิลอวยพรชีวิตให้กับไนฟ เพราะถึงอย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นงานของเธอ และเธอก็ต้องทำมันอย่างจริงจัง

หลังจากได้รับอวยพรชีวิต ขีดจำกัดสูงสุดของพลังชีวิตไนฟก็พลันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ดังนั้นไนฟจึงไม่รอช้า เขากระชับโล่ในมือ ก่อนจะพุ่งเข้าไปหาบอสยักษ์น้ำแข็งตัวนี้ในทันที!

“กลุ่มนักบวชต้องให้ความสนใจกับพลังชีวิตของผู้เล่นแถวหน้า! นักรบโล่สองแถวเดินหน้าเข้าไปและล้อมตัวบอสเอาไว้! พยายามหยุดมันไว้อย่าให้มันวิ่งออกมาได้! และก็อย่าเข้าใกล้ตัวบอสมากเกินไป! คอยระวังสกิลของมันไว้!”

“ส่วนผู้เล่นระยะไกลอย่าเพิ่งโจมตีมัน! พวกนายค่อยเริ่มโจมตีเอาตอนที่ผู้เล่นแถวหน้าดึงตัวบอสไว้แล้วเท่านั้น!

สกายที่ยืนอยู่บนหินน้ำแข็งกำลังออกคำสั่ง เขายืนอยู่ท่ามกลางผู้เล่นหลายร้อยคนที่กำลังจ้องมองตัวบอสอย่างกังวล

“ฮึมมมม!”

ไนฟเข้าต่อสู้กับยักษ์น้ำแข็งบนทะเลสาบน้ำแข็งแล้วในตอนนี้

ตัวยักษ์น้ำแข็งนั้นสูงเท่ากับตึกสามชั้น มันยังหมอบอยู่บนทะเลสาบที่เยือกเย็นแห่งนี้เหมือนกับรูปสลักน้ำแข็ง ซึ่งเมื่อไนฟทุบโล่ลงบนขาของมัน ก็ดูเหมือนว่ามันจะตื่นขึ้นมาในทันที ร่างที่ใหญ่โตของมันลุกขึ้นอย่างช้าๆ

พลาด!

พลาด!

-1!

ไนฟเอาโล่มาไว้ที่หน้าอกของเขาด้วยมือซ้าย และถือดาบมือเดียวไว้ในมือขวา เป็นจังหวะเดียวกับยักษ์น้ำแข็งเพิ่งตื่นขึ้นมา มันจึงยังไม่โจมตีเขา ดังนั้นไนฟเลยใช้โอกาสนี้ในการแทงเท้าอันใหญ่โตของยักษ์น้ำแข็งไปอีกหลายครั้ง

แน่นอนว่าในฐานะนักรบโล่ที่เพิ่มค่าสถานะทั้งหมดลงไปที่ค่าความทนทาน มันก็ทำให้พลังโจมตีของไนฟนั้นต่ำมาก เขาทำให้เกิดดาเมจได้เพียงหน่วยเดียวเท่านั้น

“ฮึมมมมม!” ยักษ์น้ำแข็งได้ตื่นขึ้นมาเต็มที่แล้ว ! และหลังจากที่มันส่งเสียงอันก้าวร้าว เจ้ายักษ์พลันขยับเท้าขนาดใหญ่เตะเข้าใส่ไนฟจนกระเด็นออกมา ทำให้เกิดตัวเลขความเสียหายจำนวนมหาศาลลอยอยู่บนหัวของเขา

-171!

ไนฟกระเด็นขึ้นไปในอากาศ พลังชีวิตของเขาเกือบจะหมดในทันที และแม้จะอยู่ภายใต้ผลของสกิลอวยพรชีวิต…. เขาก็มีพลังชีวิตเหลือเพียงแค่ 200 เท่านั้น!

“กลุ่มแรกใช้โฮลี่ไลท์! ส่วนกลุ่มที่สองช่วยบัฟเพิ่ม! เอาเลย อย่าให้ตัวแทงค์กิลด์เราตายได้!”

จืออี้ที่ยืนถัดจากเซียวเฟิงกำลังออกคำสั่ง ทันใดนั้นตัวเลขรักษาหกตัวเลขก็ลอยขึ้นบนหัวของไนฟ

+53!

+6! +6! +6…

+61!

+5! +5! +5…

+47!

+5! +5! +5…

พลังชีวิตของไนฟถูกเพิ่มขึ้นในทันที เขาหันกลับไปอีกครั้งแล้วลุกขึ้นก่อนที่จะวิ่งเข้าหายักษ์น้ำแข็ง

เซียวเฟิงไม่ได้สนใจผลของการรักษาจากพวกเขา ในความเป็นจริงมีนักบวชอยู่มากมายที่นี่ และพวกนั้นย่อมสามารถช่วยไนฟได้ตราบเท่าที่เขาไม่โดนบอสฆ่าในทีเดียว

แต่เซียวเฟิงนั้นสงสัยเกี่ยวกับยักษ์น้ำแข็งอย่างมาก เพราะไนฟสวมใส่อุปกรณ์อย่างดี ทว่าบอสตัวนี้กลับเกือบจะฆ่าเขาในทีเดียวอย่างง่ายดาย ไนฟอาจถูกส่งกลับไปยังจุดเกิดของเมืองเซิงสุ่ยไปแล้วหากจืออี้ไม่ได้ใช้สกิลอวยพรชีวิตกับเขา

ดังนั้นเซียวเฟิงจึงสนใจเลเวลของบอสตัวนี้ ทำให้เขาตัดสินใจใช้สกิลสอดแนมขั้นสูงเพื่อค้นหาข้อมูลของมัน

ยักษ์น้ำแข็งผู้พิทักษ์

เลเวล: 30

ระดับ: บอส

พลังชีวิต: ???

พลังป้องกันกายภาพ: ???

พลังป้องกันเวทมนตร์: ???

สกิล: ???

อธิบาย: ???

“มันเป็นบอสระดับ 30! พวกนายใจกล้ามาก! ทำไมพวกนายถึงจะสู้กับมันในตอนนี้กัน?” เซียวเฟิงแปลกใจและถามพวกเขาไป พวกเขาเพิ่งจะเข้ามาในเมืองหลักแท้ๆ ทำไมถึงกล้าที่จะสู้กับบอสที่เลเวลสูงขนาดนี้?

สกายอยู่ไม่ไกลจากเซียวเฟิง หลังจากที่เขาได้ยินสิ่งที่เซียวเฟิงพูด สกายก็พลันหันหน้ามาตอบพร้อมรอยยิ้มว่า “เพราะมีแต่บอสเลเวล 30 ขึ้นไปเท่านั้นที่จะสามารถดรอปตรากิลด์ให้กับเราได้ ซึ่งเราจะทิ้งมันไปไม่ได้เพราะครั้งนี้ถือว่าโชคดีมากที่หามันเจอ พวกเรามีผู้เล่นไม่มากพอในวันนี้ และอาจฆ่ามันไม่ได้ แต่ถ้าใช้สมาชิกของวอร์สปิริตฮอล์ที่ได้เปลี่ยนคลาสแล้วทั้งหมด คนของเราก็จะมีเกินหมื่นภายในวันพรุ่งนี้ แล้วในตอนนั้นฉันจะสามารถขอให้ผู้เล่นหลายๆ คนล้อม และฆ่ามันได้!”

เซียวเฟิงส่ายหัว ชายหนุ่มคิดว่าสิ่งที่ยิ่งใหญ่ไม่อาจสามารถทำให้สำเร็จได้ด้วยความพยายามของมวลชนเท่านั้น

“อย่าหยุดรักษา ใช้ยาเพิ่มมานาหากมานาของพวกเธอลดลง ต่อไปขอให้กลุ่มที่สองใช้โฮลี่ไลท์ และกลุ่มที่สามใช้สกิลบัฟ ให้ใช้ฮิลรักษาเขาไว้ตลอดแม้ว่าพลังชีวิตของเขาจะเต็มอยู่ก็ตาม กลุ่มที่สาม และสี่โปรดทำหน้าที่ของเธอต่อหลังจาก 3 วินาทีผ่านไป”

จืออี้จ้องเซียวเฟิงกับสกายที่กำลังพูดคุย และออกคำสั่งอย่างใจเย็นแม้จะรู้สึกไม่พอใจ

เซียวเฟิงมองไปที่เธออย่างไม่ตั้งใจ เขาไม่ได้ถูกหน้าอกโตๆ ของเธอดึงดูดในครั้งนี้ เพราะรับรู้ได้ในทันทีว่าคำสั่งของเธอมีประสิทธิภาพจริงๆ

เธอแบ่งนักบวช 30 คนออกเป็น 10 กลุ่ม สกิลโฮลี่ไลท์มีระยะเวลาคูลดาวน์ที่ 30 วินาที แต่ภายใต้การควบคุมของเธอ เหล่านักบวชสามารถใช้สกิลโฮลี่ไลท์ได้ในทุก 3 วินาทีเพื่อเพิ่มพลังชีวิตของไนฟอย่างไม่มีจำกัด ดังนั้นพลังชีวิตของเขาจะกลับมาเต็มในทุกๆ 3 วินาที!

ในช่วงเวลา 3 วินาที กลุ่มนักบวชจะเพิ่มพลังชีวิตของเขาอย่างต่อเนื่องด้วยการใช้สกิลรักษา ยิ่งไปกว่านั้นไนฟยังมีโพชั่น ดังนั้นโดยทั่วไปแล้วพลังชีวิตของเขาจะถือได้ว่าเต็มอยู่ตลอดการต่อสู้กับบอสตัวนี้อย่างไร้กังวล

ในฐานะที่เป็นหัวหน้าของกลุ่มนักบวช จืออี้นั้นทั้งมีความสามารถและเพียบพร้อมยิ่งนัก แต่เธอกลับมีชื่อเสียงด้วยหน้าอกอันใหญ่โตของเธอ

แต่เซียวเฟิงก็พลันนึกถึงปัญหาหนึ่งขึ้นมาได้ เพราะถ้าการรักษาแบบนี้ใช้ได้ผลจริงๆ งั้นแล้วเขาก็ไม่มีทางที่จะเจอกับไนฟที่จุดเกิดของเมืองได้!!

ยักษ์น้ำแข็งผู้พิทักษ์เป็นบอสระดับ 30 เลเวลของมันนั้นสูงเกินไป และสามารถที่จะสร้างความเสียหายอันมหาศาลได้ถึงแม้ว่าการโจมตีของมันจะไม่เกิดขึ้นบ่อย ไนฟแทบจะทนต่อดาเมจเล็กน้อยของมันไม่ได้ และเกือบที่จะถูกบอสฆ่าตายในทันที แต่ด้วยความช่วยเหลือของกลุ่มนักบวช ทำให้เขาสามารถทนดาเมจเหล่านี้ได้ด้วยหลอดพลังชีวิตที่เต็ม …แต่ทว่ามันก็ยังมีปัญหาอยู่!

เพราะไนฟสามารถต้านได้เพียงความเสียหายของการโจมตีปกติเท่านั้น ถ้าหากบอสโจมตีคริติคอล หรือใช้สกิลที่มีความเสียหายสูงขึ้นมา เขาจะต้องถูกฆ่าตายแน่นอน และหลังจากการตายของเขา มันก็จะไม่มีนักรบโล่คนใดในวอร์สปิริตฮอล์ที่จะสามารถต้านทานการโจมตีปกติของบอสตัวนี้ได้ …ถึงตอนนั้นพวกเขาก็คงไม่สามารถควบคุมบอสได้อีกต่อไป!!!