บทที่ 25 คนไม่ดีนั่นคือใครกันแน่

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

คิดไม่ถึงว่าประโยคเดียวของเส้นหมี่ยังไม่ทันพูดจบนั้น คุณป้าคนนี้จะทิ้งคำพูดเอาไว้สามคำด้วยความเย็นชาเป็นอย่างมาก
และทันใดนั้น เส้นหมี่ที่ยืนอยู่ตรงนั้นบางคำพูดที่กำลังคาอยู่ในลำคอก็ไม่สามารถพูดออกมาได้อีกเช่นกัน
ความจริงแล้วเธอ…..รู้สึกกลัวคุณป้าคนนี้อยู่บ้างเล็กน้อย ตอนเด็กๆรัศมีของคุณหนูที่สืบทอดวัฒนธรรมมาจากบรรพบุรุษนั้นแข็งแกร่งมาก เธอไม่กล้าคุยกับคุณป้า จนกระทั่งโตขึ้น ตระกูลวชิรนันท์ของพวกเธอก็ทำให้คุณป้าเดือดร้อน เธอรู้สึกผิดและโทษตัวเอง และยิ่งไม่กล้าจะมองหน้าเลยเสียด้วยซ้ำ
จนสุดท้ายแล้วเส้นหมี่ก็พาลูกทั้งสองคนจากไป ย้ายไปที่บ้านหลังที่เธอหาเอาไว้ชั่วคราว
หลังจากที่เธอไปแล้ว ทั้งสองคนที่อยู่ในลานบ้านนั้นก็มองออกไปทางด้านนอกพร้อมกับบทสนทนาช่วงหนึ่ง
“นี คุณ….ยังโทษเธออยู่ใช่ไหม? นี ตอนนั้นเธอยังไม่รู้เรื่องจริงๆ เธอ……”
“ฝัน จะกลับมาแล้ว คุณอยากจะให้ในบ้านไม่สงบสุขอย่างนั้นหรือ?”
สาธินีเอ่ยพูดแบบนี้กับสามีที่นั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นอย่างเย็นชา หลังจากนั้นเธอก็หันหลังกลับเข้าไป
ฝัน ลูกพี่ลูกน้องของเส้นหมี่ และเป็นคนที่เกลียดเส้นหมี่มากในตอนนั้นด้วยเช่นกัน
——
ไม่นานนักเส้นหมี่ก็พาลูกทั้งสองคนย้ายมายังบ้านหลังใหม่ที่เธอหาเอาไว้ และเป็นเขตเมืองเก่าด้วยเช่นกัน แต่อยู่ใกล้กับโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง
“คิวคิว รินจัง หม่ามี๊ลงชื่อเข้าโรงเรียนอนุบาลที่นี่ให้พวกหนูแล้วนะคะ พรุ่งนี้พวกเราไปที่โรงเรียนอนุบาลกันดีไหม?”
“อา? หม่ามี๊ พวกเราจะต้องเรียนโรงเรียนอนุบาลที่นี่เหรอคะ? พวกเราจะไม่กลับไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?”
พอรินจังลูกรักได้ยินแล้ว ก็รีบกอดตุ๊กตากระต่ายหูยาวในมือเอาไว้ทันที แสดงท่าทางตกใจเล็กๆออกมา
สาวน้อยคนนี้เป็นคนชอบหวนคิดถึงอดีต ที่โรงเรียนอนุบาลที่เดิมของเธอนั้น เธอมีเพื่อนที่คอยเล่นกับเธออยู่หลายคน และยังมีครูกุหลาบที่ดีกับเธอมากอีกด้วย
เส้นหมี่ลูบใบหน้าอมชมพูของลูกสาว แล้วอธิบาย : “ไม่ค่ะ พวกเราอยู่ที่นี่กันชั่วคราวเป็นระยะเวลานึง เพราะว่าหม่ามี๊ต้องทำงาน ก็เลยรู้สึกผิดต่อลูกเลย”
“อย่างนั้นก็ได้ค่ะ พรุ่งนี้รินจังจะไปที่โรงเรียนอนุบาลที่ใหม่นะคะ”
รินจังได้ยินแล้ว ถึงได้รับปากหม่ามี๊อย่างว่าง่าย
และในขณะนี้เองคิวคิวก็กำลังยุ่งอยู่เช่นกัน เขาก้มหน้าก้มตาค้นหาข้อมูลของหิรัญชากรุ๊ปและคนไม่ดีคนนั้นอยู่กับไอแพดของเขา เขาคิดดีแล้วว่าเขาจะต้องไปพบคนไม่ดีนี่ด้วยตัวเอง ไปดูว่าสรุปแล้วเขามีประวัติความเป็นมาอย่างไร?
ผู้ชายคนนี้ แย่เกินไปแล้ว เขาจะไม่มีทางยอมให้เขามารังแกหม่ามี๊เป็นอันขาด
แต่ หลังจากที่ครั้งนี้เขาหาคนไม่ดีคนนั้นเจอแล้ว ใช้เว็บไซต์ภายในประเทศเปิดรูปถ่ายที่มีความละเอียดสูงแล้ว เขาก็รู้สึกอึ้งไปในทันที
นี่มันเรื่องอะไรกัน? ทำไมคนไม่ดีคนนี้ดูแล้วถึงได้ยิ่งดูเหมือนเขาขนาดนี้?
เหมือนกับเป็นพิมพ์เดียวกันออกมาเลยอย่างไรอย่างนั้น!
หรือว่าผู้ชายคนนี้คือแด๊ดดี๊ของเขา?!!
ในสมองเล็กๆของคิวคิวก็มีสิ่งนี้โผล่ออกมา ทันใดนั้น ดวงตาที่เป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวคู่นั้นก็เบิกโตขึ้น
“คิวคิว ทำอะไรอยู่ลูก? มาช่วยหม่ามี๊หน่อยได้ไหมครับ? หม่ามี๊ต้องการคนมาช่วยตรงนี้หน่อยคนนึง”
เส้นหมี่กำลังเก็บของอยู่ เห็นลูกชายกำลังเหม่อลอย อยากจะเรียกเขามาช่วย เรียกอยู่หลายครั้ง เด็กน้อยถึงได้มีปฏิกิริยาตอบรับ ปิดแท็บเล็ตลงแล้วเดินมาอย่างใจลอยเล็กน้อย
“หม่ามี๊ เมื่อก่อนหม่ามี๊บอกว่า แด๊ดดี้ของผมกับน้องตายไปแล้วใช่ไหมฮะ?”
“ใช่ลูก ทำไมเหรอ?”
เส้นหมี่ที่กำลังยุ่งอยู่จนเหงื่อออกเต็มไปหมด เมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้วก็ไม่ได้มีความลังเลสองจิตสองใจเลยแม้แต่นิดเดียว
เธอบอกลูกทั้งสองคนเอาไว้แบบนี้จริงๆ ตอนห้าปีช่วงนั้นอยู่ต่างประเทศ เธอที่เป็นผู้หญิงคนเดียวเลี้ยงดูลูกทั้งสองคนมา เพื่อเลี่ยงที่จะมีคนถามถึงพ่อของลูก และเมื่อลูกโตแล้วจะถามถึงด้วยเช่นกัน
เธอจึงบอกกับพวกเขา ว่าพ่อของลูกตายไปแล้ว
แต่ก็ไม่ใช่ว่าตายไปแล้วหรอกหรือ? ผู้ชายหมาๆนั่น!
แต่วันนี้ลูกชายดูแปลกๆไปบ้างเล็กน้อย หลังจากที่ได้ยินเธอพูดว่าแด๊ดดี้ของเขาตายแล้ว เขาก็ดูกลุ้มใจอยู่ตรงนั้น และไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ด้วยเช่นกัน แล้วซักพักหนึ่งก็ได้ยินเขาเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง : “ถ้าอย่างนั้นเขาตายอย่างไรฮะ?”
“อา?” เส้นหมี่รู้สึกอึ้งไป “ถูก…..รถชน?”
คิวคิว : “……..”
พูดถึงสามีตัวเองตายแล้วจะดูมีเครื่องหมายคำถามแบบนี้กัน? นี่แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าโกหก หม่ามี๊โง่จัง!
เพราะฉะนั้นคนไม่ดีนี่คือแด๊ดดี้ของเขาจริงๆใช่ไหม?
คิวคิวรู้สึกโมโห สุดท้ายแล้วเขาก็ตัดสินใจที่จะไปหาคนไม่ดีนี่อยู่ดี เขาจะต้องทำให้ชัดเจน ว่านี่มันคือเรื่องอะไรกันแน่? ทำไมเขาจะต้องรังแกหม่ามี๊ด้วย?
และทำไมเขาไม่ต้องการแม้แต่ลูกทั้งสองคนของตัวเอง?
แต่เส้นหมี่กลับไม่รู้ว่าในใจของลูกชายตัวเองนั้นกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ เธอกำลังเร่งรีบกับการจัดเก็บบ้าน เดี๋ยวเธอจะต้องกลับไปที่คอนโดบ้าๆนั่นอีก
ขณะที่กำลังจัดเก็บนั้น จู่ๆ โทรศัพท์มือถือที่เธอซื้อมาใหม่ที่วางอยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล?”
“คุณผู้หญิง ผมเองครับเคมี”
พูดถึงแล้วก็มาเลย ผู้ช่วยของผู้ชายหมาๆนั่นโทรมาหาเธอ
เส้นหมี่ได้ยินแล้วก็รีบอธิบายในสาย : “ขอโทษทีนะคะเคมี ฉันไม่ได้เจอคุณป้ามานานแล้ว พวกเขาไม่ยอมให้ฉันไป รั้งให้ฉันอยู่ทานข้าวก่อน ฉัน…..”
“คุณผู้หญิงไม่ต้องตื่นเต้นไปครับ ผมไม่ได้จะเร่งคุณกลับมา ผมโทรหาคุณ คือมีเรื่องหนึ่งที่อยากจะปรึกษาคุณ”
“อ๊า? เรื่องอะไรคะ?” เส้นหมี่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
สถานะของเธอแบบนี้ ยังจะสามารถปรึกษากับเธอได้อย่างนั้นหรือ? ผู้ชายเลวๆนั่นของพวกเขา หลังจากที่จับตัวเธอมาแล้ว ก็ไม่ใช่ว่ายึดอำนาจข่มเหงโดยตรงเลยอย่างนั้นหรือ?