ตอนที่ 80 เลื่อนสู่ 13 อันดับแรก

I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ

อย่างไรก็ตาม ต่อให้อาจารย์โมโหกลัดกลุ้มอีกสักแค่ไหนก็ทำอะไรหลิงหลานไม่ได้ ถ้าบอกว่าเด็กห้องเอเป็นอัจฉริยะที่พวกเขาให้ความสำคัญอยากจะอบรมบ่มเพาะอย่างยิ่งยวด เช่นนั้นหลิงหลานก็ถือเป็นสมบัติล้ำค่าในหัวใจพวกเขา ไม่ต้องพูดเลยว่าในใจชื่นชอบมากแค่ไหน นี่ก็เลยทำให้อาจารย์ได้แต่พุ่งเข้าไปทำท่าทางตวาดใส่หลิงหลานสองประโยค เตือนหลิงหลานว่า อย่าลงมือโหดเหี้ยมมากเกินไปนัก เพื่อไม่ให้พวกเขาลำบากใจ

ต่อให้ในใจพวกเขาจะชื่นชอบหลิงหลานอีกยังไง แต่ภายนอกพวกเขายังคงต้องปฏิบัติต่อทุกคนเสมอภาคกัน ไม่ว่ายังไง เด็กๆ พวกนั้นก็เป็นเสาหลักของอนาคตสหพันธรัฐเช่นกัน ไม่สามารถทอดทิ้งพวกเขาได้จริงๆ

การกระทำแบบนี้ของอาจารย์ก็เหมือนกับลูกตัวเองไปตีลูกของคนอื่น ในฐานะที่เป็นผู้ปกครองก็จำเป็นต้องต่อว่าสักหลายคำเพื่อปลอบใจอีกฝ่ายมากๆ ส่วนในใจจะรู้สึกภาคภูมิใจหรือไม่นั้น….หึๆ ทุกคนต่างก็เข้าใจดี

ด้วยเหตุนี้เอง หลิงหลานเลยได้แต่ผงกศีรษะอย่างเชื่อฟังบ่งบอกว่าตัวเองรับทราบแล้วภายใต้การพูดพล่ามซ้ำไปซ้ำมาของอาจารย์ ช่วยไม่ได้นี่นา หลิงหลานยังต้องถูกบังคับให้อยู่ในสถาบันอีกสิบปี เธอจำเป็นต้องทำตัวเงียบๆ ไม่ให้เป็นจุดเด่น แน่นอนว่าตัวหลิงหลานเองก็เป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่ายจนไม่อาจว่านอนสอนง่ายได้อีกแล้ว เชื่อฟังจนถึงขั้นชาติที่แล้วเธอไม่เคยผ่านช่วงวัยต่อต้านมาก่อนเลย….

เมื่อคิดถึงตรงนี้ หลิงหลานก็ครุ่นคิดดูว่าชาตินี้เธอจะลองต่อต้านสักครั้งดีหรือไม่? แต่เมื่อใบหน้าอ่อนแอที่ดูโศกเศร้าเจ็บปวด ดวงตาพร่ามัวไปด้วยหยาดน้ำตาของหลานลั่วเฟิ่งมารดาในชาตินี้ปรากฏขึ้นมาในห้วงสติของหลิงหลาน ความคิดเล็กน้อยแบบนี้ก็หายไปโดยสิ้นเชิง อืม เธอรับมือกับมารดาที่แสดงเก่งถึงขั้นออสการ์ไม่ได้หรอก ถ้าบอกว่าหลิงหลานเป็นจิ้งจอกน้อยที่ยังบำเพ็ญตนไม่สำเร็จ เช่นนั้นมารดาของเธอก็ย่อมเป็นปีศาจจิ้งจอกผู้ยิ่งใหญ่ที่บำเพ็ญเพียรมาพันปีแน่นอน ไม่ใช่คนระดับเดียวกันเลย

เธอพ่ายแพ้อยู่ภายใต้กระบวนท่านี้ของมารดาเธอมาหลายครั้งแล้ว  ต่อให้รู้อยู่แก่ใจว่าหลานลั่วเฟิ่งเสแสร้ง แต่เธอก็ตกหลุมพรางอย่างเชื่อฟังอยู่ดี ใครใช้ให้เธอเห็นคนร้องไห้ไม่ได้ล่ะ จุดอ่อนที่นำมาจากชาติก่อนถูกมารดาปีศาจจิ้งจอกพันปีในชาตินี้ควบคุมไว้หมดแล้ว เป็นเหมือนกับลิงหงอคงที่อยู่ในมือของพุทธองค์ เธอไม่อาจหนีออกจากฝ่ามือของมารดาได้ตลอดกาล

หลิงหลานคิดถึงตรงนี้ก็หดหู่ท้อแท้ใจ เริ่มแค้นเคืองบิดาที่ตายเร็วเกินไปหน่อย จนทิ้งตัวปัญหาใหญ่คนนี้มาให้เธอ ถ้าหากบิดาของเธอยังอยู่ จิ้งจอกพันปีคนนี้ก็อยู่ในความรับผิดชอบของบิดาเธอไปแล้ว

แต่หลิงหลานก็แค่คิดเท่านั้น หลานลั่วเฟิ่งคือภาระที่แสนสุขใจของหลิงหลานในชาตินี้ เธอทั้งเจ็บปวดและก็มีความสุข…

………..

การประลองเลื่อนอันดับอย่างเป็นทางการในช่วงเช้าสิ้นสุดลง เด็กๆ ที่เลื่อนอันดับก็ไม่มีธุระอะไรอื่น สามารถทำกิจกรรมได้อย่างอิสระ นักเรียนที่ถูกคัดออกก็ยังคงอยู่ในหอต่อสู้ต่อไป รอคอยระบบประกาศรายชื่อแข่งขันของอันดับที่ 26 ถึง 50 อีกครั้ง แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกหลิงหลานสี่คนเลย พวกเขากลับไปที่บ้านพักของพวกฉีหลง นั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก ดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ ชมการแข่งขันอย่างสบายอารมณ์

การประลองอันดับที่ 26 ถึง 50 ของปีหนึ่งห้องสเปเชียลเอที่ทำให้พวกเขาสนใจได้ก็มีแค่หลินจงชิงเท่านั้น ใครใช้ให้หลินจงชิงตั้งใจทำไม่ดีกับพวกเขามาตั้งแต่แรกล่ะ ทำให้พวกหลิงหลานอดสนใจเขาไม่ได้

ในการแข่งขันเลื่อนอันดับจาก 50 เข้าสู่อันดับที่ 25 หลินจงชิงได้ประลองกับอู่จย่งอันดับสองของห้องเอ หลินจงชิงพ่ายแพ้เหมือนกับที่ทุกคนคาดไว้ ทว่าเขาไม่ได้ถูกอู่จย่งเอาชนะได้อย่างรวดเร็วอย่างที่ทุกคนคิดไว้ ทว่าเขาต่อสู้กับอู่จย่งไปหนึ่งร้อยกว่าท่า จนสุดท้ายเขาก็ใช้เรี่ยวแรงจนหมดถึงค่อยถูกอู่จย่งที่อดทนรอคอยโอกาสมาตลอดเอาชนะไปได้

เมื่อผลการต่อสู้นี้ออกมาก็ทำให้เพื่อนๆ ห้องเอต่างร้องฮือฮา แต่การส่งเสียงเอะอะเกรียวกราวของบรรดาเพื่อนร่วมห้องนั้นไม่ได้ตกใจเรื่องความเร็วในการพัฒนาอย่างน่าทึ่งของหลินจงชิง หากแต่ตกตะลึงในความแข็งแกร่งของหลิงหลาน เนื่องจากพวกเขาจำได้ว่าตอนเปิดเรียน หลิงหลานเคยล้มหลินจงชิงอย่างสบายๆ ในหมัดเดียว นี่เป็นการพิสูจน์ว่า ความแข็งแกร่งของหลิงหลานเหนือกว่านักเรียนสามอันดับแรกของห้องเอไปไกลแล้วใช่ไหม?

เวลานี้สายตาของพวกเพื่อนร่วมห้องที่มองหลิงหลานแฝงไปด้วยความรู้สึกหวาดหวั่นอย่างลึกล้ำ เด็กห้องเอลืมไปแล้วว่าช่วงเวลาต่อสู้กับหลินจงชิงในครั้งนั้นผ่านไปเกือบครึ่งปีแล้ว ความแข็งแกร่งของหลินจงชิงในตอนนี้ไม่อาจเอาไปเปรียบเทียบกับการต่อสู้ในตอนนั้นได้แน่นอน ถ้าหลิงหลานต่อสู้กับหลินจงชิงอีกครั้ง เธออาจจะไม่สามารถเอาชนะได้กระบวนท่าเดียวก็ได้ แต่ถ้าจัดการในสองกระบวนท่าก็ยังมีความเป็นไปได้สูงอยู่

ต่อมา ผลการต่อสู้ของหลินจงชิงก็ทำให้บรรดาเพื่อนร่วมห้องค่อยๆ คลายความหวาดกลัวลง หลินจงชิงได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของตัวเองในการแข่งจัดอันดับเพื่อยืนยันอันดับที่แท้จริงแล้ว เขาเอาชนะติดต่อกันหลายคน จนสุดท้ายเขาก็อยู่ในอันดับที่ 28 ของห้องเอ

ถึงแม้ว่าผลการสอบนี้จะไม่ได้ดูเตะตาขนาดนั้น แต่เมื่อเทียบกับตอนเปิดเทอมแล้ว การก้าวหน้าของเขาน่าตกตะลึงอย่างไม่ต้องสงสัย ควรทราบว่าการเลื่อนอันดับของห้องเอไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เนื่องจากพวกเด็กห้องเอต่างก็เป็นอัจฉริยบุคคลที่มาจากสถานที่ต่างๆ พวกเขามีความสามารถโดดเด่นเหนือใคร ถ้าคิดจะเลื่อนอันดับในหมู่ปีศาจอัจฉริยะกลุ่มนี้  มันยากมากจริงๆ นี่จึงพิสูจน์คุณสมบัติของหลินจงชิงได้เช่นกันว่าฝืนชะตาฟ้ามากจริงๆ แน่นอนว่าเขาพยายามมากกว่าเพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ด้วย ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถก้าวหน้าได้มากขนาดนี้

ผลงานของหลินจงชิงในคราวนี้ทำให้พวกหลิงหลานสี่คนให้ความสนใจเขาขึ้นมา ถึงแม้ว่าไอ้เด็กที่ท้องเต็มไปด้วยแผนการชั่วร้ายจะไม่สามารถคุกคามหลิงหลานได้ แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าเขาจะกลายเป็นศัตรูของพวกฉีหลง โดยเฉพาะหานจี้จวินที่ได้รับแรงกดดันมากที่สุด เนื่องจากแนวทางการพัฒนาในอนาคตของหลินจงชิงมีความเป็นไปได้อย่างมากว่าจะเป็นทหารประเภทกลยุทธ์เหมือนกับเขา

ในขณะที่พวกหลิงหลานเฝ้าดูการประลองของพวกนักเรียนที่มีอิทธิพลในชั้นปีสูง พวกเขาเป็นศัตรูที่น่ากลัวตามที่คาดคิดไว้จริงๆ ท่าไม้ตายโผล่ออกมาอย่างไม่ขาดสาย หลิงหลานดีใจมาก เธอให้เสี่ยวซื่อก็อปปี้ไว้ทั้งหมด ถ้าหากสามารถถอดเคล็ดลับได้สักท่าสองท่า หลิงหลานก็เก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้มหาศาลแล้ว

ทักษะการต่อสู้ของมิติการเรียนรู้ย่อมเป็นทักษะระดับสุดยอดแน่นอน แต่ว่าพลังทำลายล้างเยอะมากไป ทุกการเคลื่อนไหวทุกกระบวนท่าต่างก็เล็งไปที่จุดตายของคู่ต่อสู้ ไม่เหมาะกับการประลองแลกเปลี่ยนความรู้บนสนามประลองของสถาบัน ส่วนทักษะการต่อสู้ของตระกูลหลิงก็มีปัญหาแบบนี้เหมือนกัน แน่นอนว่าทักษะการต่อสู้ของผู้คุ้มกันย่อมมีประสิทธิภาพด้านการเอาชีวิตศัตรูเท่านั้น แน่นอนว่าตระกูลหลิงไม่ได้ขาดสิ่งที่เรียกว่าพวกทักษะการต่อสู้ต้นตำรับ เพียงแต่หลิงเซียวเสียชีวิตไป หลานลั่วเฟิ่งก็แตกคอกับตระกูลหลิง ทำให้หลิงหลานไม่มีโอกาสและสถานที่ไปเรียนรู้ทักษะการต่อสู้แบบนี้

ดังนั้นหลิงหลานจึงไม่สามารถต่อสู้พัวพันกับเพื่อนร่วมชั้นหลายกระบวนท่าแล้วค่อยเอาชนะอีกฝ่ายได้ เมื่อเธอลงมือก็จะตัดสินความเป็นความตายเลย คุณจะให้เธอมีโอกาสต่อสู้พัวพันกับคนอื่นได้เหรอ? ดังนั้นหลิงหลานถึงได้สนใจพวกทักษะลับต่างๆ มากมายในสถาบันที่อาจารย์ในมิติการเรียนรู้ดูถูกแบบนี้

แค่ก ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องไว้หน้าอาจารย์ในสถาบันบ้างใช่ไหมล่ะ อย่างน้อยที่สุดเธอก็ต้องแสดงออกว่าเธอเชื่อฟังคำสั่งสอนแล้ว

เมื่อการแข่งขันทั้งหมดสิ้นสุดลง พวกหลิงหลานก็เตรียมตัวทานอาหารเที่ยง ทว่าคราวนี้พวกเขาไม่ได้ไปทานข้าวที่โรงอาหาร หากแต่สั่งอาหารกลับบ้านจากทางออนไลน์ ให้โรงอาหารนำอาหารชุดระดับสูงมากมายมาส่งที่บ้านพัก

เมื่อทานอาหารเที่ยงเสร็จแล้ว พวกหลิงหลานก็พักผ่อนกันเล็กน้อยก่อนจะกลับไปที่หอต่อสู้ ตอนนี้หอต่อสู้เปลี่ยนเป็นเงียบสงัดมาก ไม่มีเสียงดังเอะอะเหมือนในตอนแรกแล้ว นอกจากนักเรียนห้องเอสิบชั้นปีที่รอให้ระบบประกาศอันดับสุดท้ายแล้ว คนอื่นๆ เกือบทั้งหมดต่างก็อยู่ในหอพักของตัวเองชมศึกจัดอันดับ 25 คนสุดท้าย

ไม่นานข้อมูลก็ส่งมา หลิงหลานเปิดอ่านก่อนจะตะลึงงันไป การประลองของเธอคราวนี้ถูกปล่อยผ่านเข้ารอบต่อไปเลย มีความเป็นไปได้สูงว่าทางสถาบันกลัวหลิงหลานจะเอาชนะศัตรูด้วยการโจมตีเดียวอีกครั้ง ทำให้พวกเขาลำบากใจ ดังนั้นพวกเขาก็เลยจัดการปล่อยให้เธอผ่านรอบนี้ไปเลย

เมื่อข่าวนี้ออกมา เด็กคนอื่นๆ ที่อยู่ใน 25 อันดับแรกต่างก็ร่วมกันร้องไชโยขึ้นมา ดูท่า ทุกคนไม่อยากต่อสู้กับหลิงหลานเร็วขนาดนั้น ถึงแม้พวกเขาต้องต่อสู้กันจริงๆ แต่ว่ามันย่อมมีความหวังมากกว่าต่อสู้กับหลิงหลานที่ไม่มีความหวังเลยสักนิดเดียว

การประลองจัดอันดับในคราวนี้เป็นการสุ่มจริงๆ นักเรียน 25 อันดับแรกไม่ได้แบ่งเป็นแข็งแกร่งอ่อนแอแล้ว พวกเขาถูกระบบสุ่มจับคู่ต่อสู้ อย่างไรก็ตามโศกนาฎกรรมก็มาถึง โดยเฉพาะทางฝั่งหลิงหลาน หานจี้จวินเจอกับฉีหลงก่อนที่เวลาที่คาดไว้ กลุ่มของหลิงหลานเกิดการต่อสู้กันเองเป็นครั้งแรก นี่ทำให้เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ดีอกดีใจอย่างยิ่ง ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้กลุ่มของหลิงหลานแข็งแกร่งขนาดนั้นล่ะ ลดไปได้หนึ่งคนก็โชคดีมากแล้ว

หานจี้จวินก็ทำอย่างตรงไปตรงมามาก เมื่อเขาขึ้นไปบนสนามประลองก็ยกมือสื่อว่ายอมแพ้ เขาไม่อาจสู้ฉีหลงด้านการต่อสู้ได้ พวกเขาสองคนฝึกซ้อมแลกเปลี่ยนความรู้ด้วยกันบ่อยๆ หานจี้จวินรู้ดีว่าผลสุดท้ายเป็นยังไง เขาก็เลยไม่สิ้นเปลืองพละกำลัง

คู่ต่อสู้ของลั่วล่างอ่อนแอกว่าเล็กน้อย แต่ว่านักเรียนที่เข้าสู่ 25 อันดับแรกได้ย่อมมีความแข็งแกร่งเหนือคนอื่น ลั่วล่างต่อสู้กับพวกเขาก็ไม่ได้มีข้อได้เปรียบมากมายเช่นกัน มากสุดก็มีโอกาสแพ้ชนะกันที่หกสิบสี่สิบเท่านั้น

ลั่วล่างที่แข็งแกร่งกว่าเล็กน้อยต่อสู้อย่างระมัดระวังมาก เขาย่อมจดจำเรื่องเรือล่มในคลองระบายน้ำ[1]ที่หลิงหลานเตือนก่อนหน้าจะเริ่มแข่งขันได้ เขาไม่อยากให้เกิดขึ้นกับตัวเขาแน่นอน อย่างไรก็ตาม ลูกพี่ก็คือลูกพี่ ทำไมคำพูดที่กล่าวออกมาถึงได้ความหมายขนาดนี้…อืมๆ เด็กที่ไม่รู้ความจริงเลื่อมใสในเสน่ห์ของคำโบราณอีกคนแล้ว และเคารพนับถือหลิงหลานมากขึ้นไปอีกนิดหน่อยโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

ลั่วล่างต่อสู้อย่างจริงจังและระมัดระวังมาก นี่ทำให้คู่ต่อสู้ของเขาไม่มีโอกาสตั้งแต่ต้นจน ลั่วล่างคว้าช่องโหว่เล็กๆ ที่ฝ่ายตรงข้ามเผยออกมาโดยไม่ทันระวังตัวได้อย่างเฉียบขาดในตอนที่คู่ต่อสู้ใกล้จะหมดเรี่ยวแรง และโจมตีอีกฝ่ายจนออกไปจากสนามประลอง เลื่อนสู่อันดับที่ 13 ได้สำเร็จ

นักเรียนที่เดิมทีอยู่อันดับเก้าของห้องเอก็เลื่อนอันดับได้สำเร็จตามความคาดหมาย ส่วนอันดับสิบกลับพ่ายแพ้ให้กับเพื่อนร่วมชั้นที่เดิมทีอยู่อันดับที่สิบสี่และถูกคัดออกไป เมื่อรวมหลิงหลาน ฉีหลง ลั่วล่างสามคนแล้ว นักเรียนที่อยู่ 13 อันดับแรกก็ถูกประกาศออกมาอย่างเป็นทางการสดๆ ร้อนๆ แล้ว

จากนั้นทำการแข่งจัดอันดับที่ 14 ถึง 25 การต่อสู้ของหานจี้จวินยอดเยี่ยมมาก เขาเอาชนะไปได้สองคน ชนะผ่านหนึ่งรอบ สุดท้ายตอนที่ประลองกับนักเรียนที่เดิมทีอยู่อันดับที่ 10 เขาก็ได้รับชัยชนะ ทำให้คว้าอันดับที่ 14 ของห้องเอมาได้ เขาเลื่อนขั้นมาไม่น้อยเมื่อเทียบกับอันดับที่ 21 แต่เดิมของเขา

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาถึงผลการสอบของเขาที่ถูกแฮคเกอร์ของหน่วยรบเบลดสเปเชียลจงใจกดไว้แล้ว ตอนนี้ก็นับว่าเขากลับมาสู่ตำแหน่งที่แท้จริงของเขา แน่นอนว่าถ้าไม่ใช่เพราะเขาเจอฉีหลงในตอนที่เข้าสู่รอบ 13 คนโดยไม่ได้คาดหมาย บางทีเขาอาจจะยังสามารถขึ้นไปอีกหลายอันดับก็ได้

ด้วยเหตุนี้เอง การแข่งจัดอันดับของวันนี้ก็ผ่านไป แน่นอนว่าหลิงหลานยังคงอยู่ในประเภทที่เลื่อนอันดับได้อย่างสบายๆ ฉีหลงก็นับว่าใช่เช่นกัน ถึงยังไงเขาก็ไม่ได้ลงมือในรอบที่สอง เนื่องจากหานจี้จวินขอยอมแพ้เอง ทำให้เขาเลื่อนอันดับได้อย่างง่ายดาย ส่วนลั่วล่างก็เป็นคนที่เหนื่อยที่สุด เมื่อเขากลับมาถึงบ้านพักก็ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น เขาตรงเข้าไปนอนในแคปซูลฟื้นฟูในห้องเพื่อฝึกฝนร่างกายให้ดี

ตอนนี้ไม่สามารถเสียเวลาได้แล้ว เขาจำเป็นต้องใช้เวลาทุกวินาทีเพื่อฟื้นฟูพลังกายกลับมา พรุ่งนี้เช้าก็มีการแข่งสำคัญสองรอบ เป็นการแข่งเข้าสู่ 7 อันดับแรก และการแข่งจาก 7 อันดับแรกเข้าสู่ 4 อันดับแรก ถ้าหากทำได้ เขายังอยากเข้าร่วมการประลองรอบรองสุดท้ายและรอบตัดสิน ถ้าเขาอยากจะบรรลุความปรารถนา ก็ไม่สามารถสะเพร่าได้สักนิดเดียว

—————————–

[1] หมายถึง ควบคุมไม่ดีจนเกิดปัญหา