ไม่มีเสียงระเบิดให้ตกใจ ไม่มีพายุร้ายใดๆ ทั้งสิ้น
ภายใต้อุ้งเท้าของเจ้าดำ ร่างขมุกขมัวของเจ้าอเวจีแตกสลายกลายเป็นเสี่ยงๆ แล้วค่อยๆ จางหายไป
ในอึดใจที่เจ้าดำโจมตีนั้น จิตของผู้ฝึกตนทั้งหกคนที่ควบคุมวงแหวนปราณก็แทบดับสิ้นด้วยความกลัว พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะต้านพลังกดดันที่น่าขนพองสยองเกล้านั้นกลับ
สุนัขที่ดูไม่มีพิษภัยกลายเป็นปีศาจร้ายจอมทำลายล้างภายในชั่วพริบตา นี่ทำให้ผู้ฝึกตนขั้นราชันยุทธการทั้งหกคนสติแทบหลุด
เสียงของแตกดังไปทั่วบริเวณ รอยปริร้าวปรากฏขึ้นบนวงแหวนปราณ ก่อนวงแหวนขนาดยักษ์จะระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ผู้ฝึกตนขั้นราชันยุทธการทั้งหกคนกระอักเลือดออกมาและคุกเข่าลงกับพื้น พวกเขาอยากหนี แต่ร่างกายกลับไม่ยอมทำตาม
กร็อบ!
ทันทีที่อุ้งเท้าของเจ้าดำฟาดถึงพื้น เสียงกระดูกโดนบดขยี้ก็ดังไปทั่ว พื้นดินสั่นสะเทือนเล็กน้อยชั่วขณะ
หุนเชียนอวิ่นที่อยู่ไกลออกไปหวาดกลัวเสียจนวิญญาณแทบพุ่งออกจากร่าง “สวรรค์ช่วย… สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในร้านนั้นไม่ใช่ไอ้หุ่นเชิดตาสีม่วงที่ต่อกรกับข้าอยู่ แต่เป็นสุนัขสีดำตัวใหญ่ที่นอนอยู่หน้าประตูรึ!”
“ร้านบ้านี่มันมาจากไหนกัน แค่อุ้งเท้าเดียวของสุนัขก็ทำลายวงแหวนปราณเจ้าอเวจีกระชากวิญญาณให้แหลกเป็นเสี่ยงๆ ได้ แถมยังฆ่าเหล่าขั้นราชันยุทธการหกคนตายหมดอีก… สุนัขสีดำตัวนั้นมันมีปราณระดับใดกัน หรือจะเป็นอสูรเวทระดับเก้าในตำนานจริงๆ”
“อสูรเวทระดับเก้าในตำนาน… เฝ้าประตูร้านอยู่เช่นนั้นรึ ล้อเล่นหรือเปล่า”
หุนเชียนอวิ่นหดหู่เสียจนอยากกระอักเลือดให้หมดตัว ชายชราอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ตนเองเลือก เขาคงหัวฟาดพื้นจนสติฟั่นเฟือนไปแน่ๆ ถึงคิดจะลองท้าทายอำนาจของร้านนี้ดู อันที่จริงภารกิจที่ได้รับมอบหมายก็เสร็จไปตั้งนานแล้ว… แต่เขายังอุตส่าห์รนหาที่นำความพินาศมาถึงตัวจนได้
เรียกได้ว่าแกว่งเท้าหาเสี้ยนโดยแท้ จนทำให้เสียผู้ฝึกตนขั้นราชันยุทธการไปถึงหกคน นอกจากนี้… ยังเป็นไปได้อีกด้วยที่ตัวเองจะโดนฆ่าตาย
อุ้งเท้าของเจ้าดำค่อยๆ หดกลับเป็นปกติ มันสะบัดอุ้งเท้าตนเองด้วยท่าทางรังเกียจ ก่อนหันไปมองหุนเชียนอวิ่นแล้วกลอกตา จากนั้นก็เดินกลับไปที่ประจำด้วยท่าทางเหมือนแมว นอนลงกับพื้น แล้วหลับไปอีกครั้ง
ปู้ฟางรู้อยู่แล้วว่าเจ้าดำมีนิสัยอย่างไร นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าสุนัขขี้เกียจกลับไปนอนทันทีหลังจากแสดงแสนยานุภาพของตนเองเรียบร้อยแล้ว
โอวหยางเสี่ยวอี้ที่ยืนอยู่ในร้านยกมือเกาะขอบประตูเอาไว้ ดวงตากลมโตของนางเป็นประกายขณะมองไปที่เจ้าดำด้วยความรักใคร่
“เจ้าดำนี่… เยี่ยมยอดจริงๆ! ข้าอยากรู้เหลือเกินว่ามันเป็นสุนัขพันธุ์อะไรกันแน่”
ดวงตาของเจ้าดำที่ปิดอยู่เผยอขึ้นเล็กน้อย เมื่อมันเห็นเด็กหญิงที่กำลังจ้องมันด้วยดวงตาเป็นประกาย เจ้าสุนัขก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างเย้ยหยันแล้วหันหน้ากลับมา
“หยุดมองท่านสุนัขผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้ได้แล้ว ท่านสุนัขผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้ไม่สนใจมนุษย์เด็กหรอกนะ… บ๊อก”
ปู้ฟางเดินไปที่หลุมยักษ์รูปอุ้งเท้าสุนัขที่เจ้าดำฝากเอาไว้ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ พลังปราณสีดำจางๆ ลอยออกมาจากหลุมนั้น
ภายในหลุมมีศพของผู้ฝึกตนระดับหกขั้นราชันยุทธหกศพที่โดนบดขยี้กลายเป็นเศษเนื้อเละเทะ เรียกได้ว่าตายตั้งแต่ยังไม่ทันสู้…
หุนเชียนอวิ่นที่อยู่ไกลออกไปแรงตกทันทีเมื่อเสียพลังเสริมจากวงแหวนปราณเจ้าอเวจีกระชากวิญญาณ เมื่อพลังปราณของเขาไม่ได้อยู่ที่ระดับเจ็ดอีกต่อไป ชายชราก็เทียบชั้นเจ้าขาวตาสีม่วงไม่ได้อีก หลังจากที่โดนอัดเข้าไปหนึ่งหมัด ร่างของเขาก็ปลิวไปกระแทกกำแพงตรอก แล้วถูกฝังอยู่ภายใต้ซากปรักหักพัง
ดวงตาของเจ้าขาวกะพริบแสงสีม่วง เต็มไปด้วยรังสีสังหารขณะเดินเข้าหาหุนเชียนอวิ่น
ทันใดนั้นเปลวไฟวิญญาณก็พวยพุ่งออกจากกองซากปรักหักพัง เปลวไฟล้อมร่างหนึ่งที่พุ่งหนีออกไปในระยะไกลไว้ ก่อนจะพาร่างนั้นโจนทะยานหายลับไป
เมื่อหุนเชียนอวิ่นรู้ตัวว่าสถานการณ์ยากลำบากเกินแก้ไข เขาจึงใช้วิชาลับของสำนักวิญญาณในการหนีออกจากที่เกิดเหตุ วิชาลับนี้ต้องใช้พลังงานมาก เขาจึงใช้ได้เพียงครั้งเดียวในยามที่ไม่มีทางเลือกจริงๆ มิเช่นนั้นคงถูกเจ้าขาวตาสีม่วงซ้อมจนตาย
เมื่อเป้าหมายหายไป เจ้าขาวจึงยืนงงอยู่ครู่ใหญ่ มันยกแขนกลขึ้นเกาศีรษะโล้นล้าน ไฟสีม่วงในดวงตาค่อยๆ สลายเปลี่ยนกลับไปเป็นสีแดงอีกครั้งหนึ่ง
ปู้ฟางเม้มปากขณะมองตรอกที่อยู่ในสภาพเละเทะ ดูเหมือนว่าเขาจะต้องขอให้องค์ชายรัชทายาทซ่อมให้เสียแล้วตอนที่อีกฝ่ายมาเยี่ยม มิเช่นนั้นคงเปิดกิจการต่อไม่ได้
ศพของซูฉีแห้งกรังลงเรียบร้อย วิญญาณถูกเผาไหม้กลายเป็นจุณ ผิวหนังย่นเหี่ยว
ปู้ฟางถอนหายใจเบาๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยให้องค์ชายรัชทายาทมาจัดการเอง
เมื่อลูกค้าที่ซ่อนตัวอยู่ในร้านเห็นว่าเหตุการณ์สงบลงแล้ว ทุกคนก็บอกลาปู้ฟางแล้วรีบออกจากร้านไป จนสุดท้ายในร้านจึงเหลือเพียงตัวเขาและโอวหยางเสี่ยวอี้เท่านั้น
ไม่นานนักบรรดาทหารยามก็เดินทางมาถึงทีละหน่วย เซียวเหมิงมีสีหน้าเคร่งขรึมเมื่อเห็นตรอกที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง
“ดูเหมือนการต่อสู้จะดุเดือดมาก” เซียวเหมิงคิดขณะมองลงมาจากท้องฟ้า เมื่อเขาเห็นหลุมใหญ่รูปอุ้งเท้าสุนัข รูม่านตาก็พลันหดแคบทันที เขาเหลือบไปมองเจ้าดำที่นอนหลับอยู่ที่ทางเข้าร้าน
เมื่อเห็นสภาพศพของซูฉีเขาก็ชะงักแล้วถอนใจออกมาอย่างทำอะไรไม่ถูก
แม่ทัพใหญ่ส่งคนไปแจ้งข่าวให้องค์ชายรัชทายาทรู้ จากนั้นจึงเริ่มเก็บกวาดสนามรบ
“อุ้งเท้าสุนัขตัวนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ ถึงกับขยี้ผู้ฝึกตนขั้นราชันยุทธการจนเละเป็นซากไปถึงหกคน… เละเสียจนบอกไม่ได้เลยว่าใครเป็นใคร” เซียวเหมิงไม่รู้จะแสดงปฏิกริยาจากตรงไหนก่อนดี
เมื่อเขาเห็นน้ำแกงสมุนไพรไก่ปักษาเพลิงที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นก็เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้ ดวงตาของแม่ทัพใหญ่พลันเย็นชาลง
“ดูจากวิธีการที่ซูฉีโดนฆ่า บอกได้ว่าเป็นวิชาลับของสำนักวิญญาณ มีพวกสำนักมายุ่งเกี่ยวกับการแย่งชิงอำนาจระหว่างองค์ชายรัชทายาทและอวี่อ๋องด้วยรึ เห็นท่าจะไม่ดีแล้ว” เซียวเหมิงพึมพำเสียงแผ่ว
ไม่นานนักองค์ชายรัชทายาทก็มาถึงที่เกิดเหตุพร้อมบริวาร เมื่อเขาเห็นน้ำแกงไก่ที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นและศพแห้งกรังของซูฉี ใบหน้าของชายหนุ่มก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้า เขากัดฟันแน่น กล้ามเนื้อบนใบหน้าสั่นไหว
เขารับศพของซูฉีกลับไปเงียบๆ และสัญญากับปู้ฟางว่าจะซ่อมพื้นตรอกที่ได้รับความเสียหายให้ จากนั้นผู้มาเยือนก็ค่อยๆ จากไปทีละคนสองคน
ตรอกเล็กกลับมาปกติสุขอีกครั้ง
แน่นอนว่าต้องมองข้ามซากปรักหักพังและแอ่งใหญ่รูปอุ้งเท้าสุนัขไป…
หลังจากที่โอวหยางเสี่ยวอี้ออกจากร้านเพื่อกลับจวนโอวหยาง ปู้ฟางก็ปิดร้านสำหรับวันนี้
เสียงขรึมของระบบดังขึ้นในใจขณะที่เขาปิดร้านเสร็จพอดี
“ขอแสดงความยินดีกับนายท่านที่ทำกำไรได้มากกว่าสี่พันผลึก นายท่านจะได้รับรางวัลจากระบบในฐานะที่ทำภารกิจระยะสั้นสำเร็จ ระบบกำลังออกรางวัล…”
ปู้ฟางสะดุ้ง จากนั้นมุมปากก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบนใบหน้าตายด้าน ในที่สุดเขาก็ได้เลื่อนระดับเสียที…
ชายหนุ่มใช้เวลานานพอควรกว่าจะได้เงินมาสี่พันผลึก แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่เขาก็ทนทำมันสำเร็จจนได้
การทำภารกิจระยะสั้นสำเร็จทำให้ชายหนุ่มได้เลื่อนระดับและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น แม้ความสามารถในการต่อสู้จะยังจัดว่าอ่อนแอ แต่พลังปราณที่เพิ่มมากขึ้นก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา
“ชายหนุ่มที่ใฝ่ฝันอยากเป็นพ่อครัวเทพ ขอแสดงความยินดีด้วยที่ทำภารกิจสำเร็จ ท่านได้ก้าวเข้าใกล้การเป็นพ่อครัวเทพอีกขั้นหนึ่งแล้ว รางวัลที่ได้รับคือ สูตรการทำเนื้อตุ๋นตำรับจีน ทักษะการแกะสลักกลุ่มดาวกระบวยใหญ่ และเสี้ยวหนึ่งของชุดอุปกรณ์พ่อครัวเทพ”
“ยินดีด้วยที่นายท่านรวบรวมชิ้นส่วนชุดอุปกรณ์พ่อครัวเทพได้ครบสี่ชิ้น ระบบจะสุ่มเลือกชุดอุปกรณ์พ่อครัวเทพให้ท่านหนึ่งชิ้น”
“กำลังเริ่มกระบวนการสุ่ม กำลังสุ่ม…”
“การสุ่มสำเร็จแล้ว ยินดีด้วยกับนายท่านที่ได้รับมีดทำครัวกระดูกมังกรทอง (ชุดอุปกรณ์พ่อครัวเทพ)”
เสียงของระบบที่ดังไม่หยุดทำให้ปู้ฟางเริ่มปวดศีรษะ แต่เขาก็สงบจิตสงบใจลงแล้วค่อยๆ คิดตามจนทัน
“สูตรอาหารที่ได้คราวนี้คือเนื้อตุ๋นตำรับจีนรึ” เมื่อปู้ฟางได้ยินเสียงประกาศของระบบ เขาก็อดไม่ได้ที่จะเลียริมฝีปาก ใจนึกไปถึงภาพเนื้อสีชมพูสวยควันฉุยในหม้อดินเผา มันจากไขมันที่ระยิบระยับเป็นประกายทำให้ชายหนุ่มรู้สึกหิวขึ้นมา เนื้อตุ๋นตำรับจีน… เป็นหนึ่งในอาหารจานโปรดของเขา
ทักษะการแกะสลักที่ปรากฏขึ้นในคราวนี้ทำให้ปู้ฟางประหลาดใจเช่นกัน การแกะสลักเป็นทักษะที่เขาอ่อนมาตลอด นี่เป็นโอกาสดีที่เขาจะตีตื้นขึ้นมา
แต่สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือชุดอุปกรณ์พ่อครัวเทพที่เขาเฝ้ารอมานานแสนนาน…
“มีดทำครัวกระดูกมังกรทอง… เป็นมีดทำครัวที่ทำมาจากกระดูกมังกรรึ ชื่อดูไร้เทียมทานจริงๆ”
…………………….