หลังจากผู้เล่นเข้าไปในห้อง พวกเขาจะได้ยินเสียงพากย์คอยให้คำแนะนำ
หลังจากเลือกตัวเลือกได้แล้วเดินผ่านไปตามระเบียง เสียงพากย์ก็จะเริ่มเย้ยหยันตัวเลือกที่ผู้เล่นเลือก
ตัวอย่างเช่น ถ้าผู้เล่นกำลังชั่งใจระหว่างตัวเลือก ‘ตั้งกำแพงเพดานค่าใช้จ่ายสูง’ กับ ‘ตั้งกำแพงเพดานค่าใช้จ่ายต่ำ’ ก็จะได้ยินเสียงพากย์ดังขึ้นว่า
…
ดีมาก เมื่อกี้คุณเลือก ‘ขายของเพิ่มในเกม’ แทน ‘ขายตัวเกม’ เป็นช่องทางหากำไรหลัก
คุณเลือกตามคำแนะนำของฉัน
บอกเลยว่าตัดสินใจถูกแล้ว ขายของเพิ่มในเกมเป็นวิธีที่ดีในการหาเงิน ใครกันจะไม่เลือกข้อนี้
ทีนี้เจอปัญหาใหม่
ระหว่าง ‘ตั้งกำแพงเพดานค่าใช้จ่ายสูง’ กับ ‘ตั้งกำแพงเพดานค่าใช้จ่ายต่ำ’ จะเลือกอะไรดี
การตั้งกำแพงเพดานค่าใช้จ่ายสูงคือการขายไอเทมในเกมแพงๆ เหมือน…ปืนกิเลนเพลิงราคาแปดร้อยแปดสิบแปดหยวน
ส่วนการตั้งกำแพงเพดานค่าใช้จ่ายต่ำคือการตั้งราคาไอเทมในเกมไว้ต่ำๆ เช่น ไอเทมที่แพงที่สุดในเกมจะราคาประมาณสิบหยวน
ฉันขอแนะว่า… คุณควรเลือกตั้งกำแพงเพดานค่าใช้จ่ายสูง
ไม่มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษ แต่ถ้าเลือกข้อนี้จะได้กำไรมากกว่าใช่ไหมล่ะ
ถ้าคุณอยากตั้งกำแพงเพดานค่าใช้จ่ายต่ำเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของเกม ทำไมไม่เลือก ‘ขายตัวเกม’ ไปตั้งแต่ต้นล่ะ
เพราะฉะนั้นคุณควรเลือก ‘ตั้งกำแพงเพดานค่าใช้จ่ายสูง’ นี่คือตัวเลือกที่ถูกต้องที่สุด
…
หลังจากผู้เล่นเลือกตัวเลือกแล้วเดินเข้าประตูตามตัวเลือกไป เสียงพากย์ก็จะดังขึ้นต่อตรงระเบียง แต่เสียงจะแตกต่างไปตามประตูที่เลือก
…
‘ตั้งกำแพงเพดานค่าใช้จ่ายสูง’…
โอ้ๆๆ กะแล้วว่าคุณต้องเลือกข้อนี้
คุณเลือกเงินแทนความฝันใช่ไหม
ตอนเป็นผู้เล่น คุณเอาแต่ก่นด่าสาปแช่งพวกนักออกแบบเกมที่หิวกระหายเงินเกินควร แต่พอมาลองทำเกมเอง สิ่งเดียวที่คุณกลัวกลับกลายเป็นว่าราคาของในเกมจะถูกเกินไป
ไม่เป็นไรๆ ไม่ต้องอธิบายอะไรหรอก ธรรมชาติมนุษย์ก็แบบนี้แหละ
ที่คุณทำก็เป็นเรื่องปกติในวงการเกมแหละ ไม่ต้องมองเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร
แต่คุณคิดบ้างหรือเปล่าว่าเกมอาจจะทำเงินไม่ได้ แถมยังได้กระแสด้านลบอีก
ฮ่าๆ ล้อเล่นน่า
พร้อมเป็นนักธุรกิจหน้าเลือดแล้วหรือยัง อย่าลืมเตรียมใจโดนด่าระหว่างนั่งนับเงินไว้ด้วยนะ
…
‘ตั้งกำแพงเพดานค่าใช้จ่ายต่ำ’…
เลือกได้โง่มาก
ทำไมไม่ฟังฉัน
กะไว้แล้วว่าคุณต้องพยายามรักษาภาพลักษณ์ แต่รู้ไหมว่าต้องแลกกับกำไรที่จะทำได้ไปมากเท่าไหร่
ยอดขาดทุนของคุณไม่คงที่ ยิ่งเกมดังแค่ไหน ก็เท่ากับว่าคุณขาดทุนมากเท่านั้น!
ลองคิดดูสิ คุณต้องเสียเงินหลายล้านเพราะการตัดสินใจโง่ๆ ครั้งเดียว…
เสียดายไหมล่ะ
เสียใจด้วยนะ แต่คุณเลือกไปแล้ว ถอยไม่ได้แล้วละ
ว่าไงนะ ไม่เสียดายเหรอ
โอเค เชิญหัวรั้นเชื่ออย่างนั้นต่อไปเถอะ ฉันมั่นใจว่าพอเห็นยอดเงินแล้ว คุณจะอยู่ไม่เป็นสุขแน่
ยังไงฉันก็ยังคิดว่าคุณเลือกได้โง่มากๆ
แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก ครั้งต่อไปฉันจะแนะนำทางที่ถูกให้คุณเอง
ยังมีเวลาแก้ไขสถานการณ์อยู่ถ้าคุณเชื่อฟังที่ฉันบอก
…
ตามการออกแบบของเผยเชียน เสียงพากย์มีหน้าที่สองอย่าง
หน้าที่แรกคือเป็นเสียงพากย์สุดเข้มงวดที่ทำให้ผู้เล่นไม่มีอารมณ์ร่วมไปกับเกม เสียงพากย์จะคอยย้ำเตือนอยู่ตลอดว่านี่เป็นแค่เกมเพื่อกันไม่ให้ผู้เล่นรู้สึกเข้าถึงตัวเกม
อีกหน้าที่คือคอยยั่วยุกวนบาทาผู้เล่น!
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เยี่ยมไปเลย!
นอกจากนี้เสียงพากย์ยังคอยหลอกล่อให้ผู้เล่นเลือกทางที่ผิด
ถ้าเลือกตามที่เสียงพากย์บอก ผู้เล่นจะได้พบฉากจบที่แย่ที่สุดของเกม จากนั้นก็จะโดนเสียงพากย์เยาะเย้ยต่อ!
เสียงพากย์จะคอยเย้ยหยันว่าผู้เล่นเป็นบอสที่เชื่อคนง่าย โลเล ไม่มีจิตสำนึกและใจรักในการสร้างเกม…
คำเย้ยหยันทั้งหมดแสนรุนแรงต่อจิตใจ!
มีใครเคยเห็นเกมที่ด่าผู้เล่นแบบนี้มากก่อนหรือเปล่า
เกมแบบนี้ต้องขาดทุนย่อยยับแน่!
เผยเชียนตรวจดูแบบร่างทั้งหมดอย่างละเอียดกับลู่หมิงเหลียง เขาคิดว่าน่าจะกำจัดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นไปได้หมดแล้ว
“โอเค เราจะทำตามแบบร่างนี้
“ผมอยากให้ทุกอย่างใช้ของที่คุณภาพดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นงานภาพ เพลง เสียงเอฟเฟ็กต์ นักพากย์ ใช้งบกับทุกจุดให้เต็มที่ เข้าใจไหม” เผยเชียนสั่ง
ลู่หมิงเหลียงพยักหน้ารัวพร้อมตอบกลับ “ไม่ต้องห่วงครับบอสเผย ผมจะทำตามที่บอสบอกทุกอย่าง!”
ลู่หมิงเหลียงเดินกลับออกไป
เผยเชียนยกภูเขาออกจากอกได้ เขานั่งจิบชาต่อ ไม่นานเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีก
“พี่เชียน คนที่ผมจะจ้างเพิ่งมาถึงออฟฟิศ พี่อยากเจอเขามั้ย” หม่าหยางถามอย่างตื่นเต้น
“โอ้ โอเค เดี๋ยวฉันไปทักทาย!”
เผยเชียนลุกยืน เขาให้ความสำคัญกับงานของหม่าหยางมาก
ผู้ช่วยที่หม่าหยางหามาจะใช้ได้หรือเปล่า เขาต้องไปเช็กด้วยตัวเอง
ถ้าผู้ช่วยที่หามาฉลาดเกินไป เขาก็จะต้องหาข้ออ้างปฏิเสธไม่จ้างอีกฝ่าย!
…
จางหยวนยืนกังวลอยู่หน้าทางเข้าบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี
ทุกอย่างดูแปลกๆ ชอบกล
ปกติแล้วเขาเป็นนักร้องประจำที่บาร์และทำงานพาร์ตไทม์เป็นบาร์เทนเดอร์ แต่เพราะมีใจรักเรื่องการประกอบคอมพิวเตอร์ เขาจึงสิงอยู่ในห้องการ์ดจอเสียเป็นส่วนใหญ่จนได้ยศผู้จัดการห้องมา
สองวันก่อน จู่ๆ ก็มีคนบนเว็บไป่ตู้ทักมาชวนไปทำงานตำแหน่งผู้จัดการ
ความคิดแรกที่ผุดขึ้นในหัวคือไอ้คนนี้ต้องเป็นพวกมิจฉาชีพแน่!
บนโลกออนไลน์มีพวกเกรียนเยอะมาก ด้วยตำแหน่งผู้จัดการห้อง เขามีสิทธิ์ในการบล็อกคนเหล่านั้นออกไปได้
ทำให้เป็นเรื่องปกติที่จะมีคนอยากกลั่นแกล้งเขาเป็นการแก้แค้น
เพราะอย่างนั้นจางหยวนเลยไม่ได้สนใจอะไรมาก
แต่วันต่อมา อีกฝ่ายก็ดูร้อนรนมากขึ้น บอกว่าเป็นงานเร่งด่วน อยากให้ไปหาถึงเมืองจิงโจว นอกจากนี้ยังบอกว่าจะช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่าที่พัก และค่าอาหาร มีเสริมด้วยว่าจะให้ค่าตอบแทนอีกสามพันหยวน
ถึงจางหยวนจะยังไม่ค่อยเชื่อใจคนคนนี้เท่าไหร่ แต่ค่าตอบแทนสามพันหยวนก็ช่างยั่วยวนเสียเหลือเกิน
เขานึกสงสัยอยู่ไม่น้อยว่าคอมพิวเตอร์แบบไหนกันที่อีกฝ่ายอยากประกอบจนถึงกับยอมจ่ายค่าแรงให้สามพันหยวน
ด้วยเหตุนี้จางหยวนจึงยอมอนุมัติคำขอเป็นเพื่อน จากนั้นอีกฝ่ายก็ส่งอั่งเปาให้สองร้อยหยวนเพื่อแสดงความจริงใจ
จางหยวนตระหนักทันทีว่าเขาบังเอิญพบพวกมีเงินเข้าให้แล้ว
ถ้าเป็นมิจฉาชีพก็ไม่น่าจะส่งอั่งเปามาให้ก่อนแบบนี้
จากนั้นอีกฝ่ายก็ส่งที่อยู่ตึกสำนักงานแห่งหนึ่งในเมืองจิงโจวมาให้พร้อมค่าเดินทางไปกลับ
นี่คือเหตุผลว่าทำไมวันนี้เขาจึงมาอยู่ที่เมืองจิงโจวได้
พอมาถึงก็มีคนที่เหมือนจะเป็นนักศึกษาออกมาต้อนรับ เขาชื่อหม่าหยาง
หม่าหยางดูอ่อนต่อโลก ไม่คิดอะไรมาก และดูจะหัวช้าอยู่หน่อยๆ
จางหยวนคิดว่าเจ้าเด็กนี่ไม่น่าจะเป็นคนจ่ายค่าตอบแทนสามพันหยวนให้เขาแน่
แล้วก็เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ นักศึกษาที่ชื่อหม่าหยางเดินนำเขาเข้าบริษัทแล้วบอกเขาว่าเจ้าของบริษัทที่ชื่อบอสเผยอยากพบปะพูดคุยกับเขา
จางหยวนรู้สึกได้เปิดโลกมากขึ้นหลังจากเดินเข้ามาในบริษัท
มองปราดแค่รอบเดียวก็รู้ได้ว่าบริษัทนี้ร่ำรวย มีเงินทุนใช้ไม่ขัดสน!
พอมองไปตรงประตูก็เห็นป้ายบริษัทเถิงต๋าเน็ตเวิร์กเทคโนโลยี!
เขาเอาชื่อบริษัทไปค้นในเว็บเชียนตู้ดูก็พบว่าบริษัทนี้เป็นบริษัทที่สร้างเกมแม่ทัพผีกับเกมฐานทัพกลางทะเล
บริษัทเกม ดูท่าจะรวย ไม่น่าจะมีอะไรไม่ชอบมาพากลหรอก!
จางหยวนรู้สึกกังวลเล็กน้อย
ไม่นานผู้ช่วยสาวสวยหุ่นผอมเพรียวก็นำทางเขาไปยังห้องรับแขกและได้พบเจ้าของบริษัทที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
จางหยวนยิ่งกังวลเข้าไปใหญ่
หม่าหยางไม่ได้บอกจุดประสงค์ที่แท้จริงให้เขารู้ เพราะเผยเชียนเป็นคนตัดสินใจว่าจะจ้างหรือไม่จ้าง
ถ้าเผยเชียนคิดว่าชายคนนี้เหมาะกับงาน หม่าหยางก็จะไปคุยรายละเอียดกับจางหยวนต่อ
ด้วยเหตุนี้จางหยวนจึงรู้สึกสับสนไปหมด
เขาไม่รู้ว่าบอสใหญ่เห็นอะไรในตัวเขาและไม่รู้ว่าจะอยากจ้างให้ไปทำอะไร จางหยวนเป็นแค่นักร้องประจำที่บาร์กับทำพาร์ตไทม์เป็นบาร์เทนเดอร์
อยากให้มาร้องเพลงให้ฟังเหรอ
หรืออยากให้โชว์ฝีมือชงเครื่องดื่ม
หรือจะให้ชงเครื่องดื่มกับร้องเพลงไปพร้อมๆ กัน
อืม… ไม่น่าจะใช่สักอย่าง
หรือว่า…
บอสใหญ่จะอยากให้ช่วยประกอบคอมพิวเตอร์ให้
ใช่ น่าจะมีแค่เหตุผลนี้แหละ เพราะเขาก็คิดหาเหตุผลอื่นไม่ได้อีกแล้ว
………………