ตอนที่ 205 ยกระดับพลัง (1)/ตอนที่ 206 ยกระดับพลัง (2)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 205 ยกระดับพลัง (1)

ดวงอาทิตย์ตกพอดี

ถังจือที่อยู่ในค่ายกำลังฝึกสมาชิกในมือ ตอนที่นางเงยหน้าขึ้นก็เห็นเฟิงหรูชิงเดินเข้ามาจากด้านนอกค่ายพอดี ชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะรีบไปต้อนรับ

“นายหญิง เหตุใดท่านจึงมาที่นี่ได้?”

“ข้ามาเยี่ยมชมพวกเจ้า ก็เลยจะมาหารือเรื่องการพัฒนาในภายภาคหน้าของทัพเลือดเหล็กด้วย”

เดิมเฟิงหรูชิงอยากจะยกเอาไหเหล้าวิเศษมาด้วยสักไหแต่นางคิดขึ้นได้ในฉับพลัน เหล้าวิเศษไหนั้นลืมไว้ที่ป่าไผ่ทิศใต้เสียแล้ว จู่ๆ ก็ยิ้มขึ้นมาด้วยความเก้อเขิน

“ครั้งนี้ลืมเอาเหล้าวิเศษมาให้พวกเจ้า…”

“นายหญิง” ริมฝีปากถังจือแฝงด้วยรอยยิ้ม “เหล้าที่ท่านนำมาครั้งก่อนนับว่ามีประโยชน์มากจริงๆแม้ว่าจะไม่สามารถทำให้คนในทัพเลือดเหล็กสำเร็จอีกขั้นได้ แต่พลังวิเศษของทุกคนล้วนเพิ่มมากขึ้น”

“เช่นนั้นก็ดี” สีหน้าเฟิงหรูชิงเข้มขึ้นเล็กน้อย “ถังจือ เจ้าอย่ามองว่าในแคว้นหลิวอวิ๋นแห่งนี้สงบราบรื่น นี่เป็นเพียงความสงบแค่เปลือกนอกเท่านั้น ในความเป็นจริงแล้ว แคว้นหลิวอวิ๋นในตอนนี้วุ่นวายทั้งภายนอกและภายใน พวกเจ้าจะเป็นเหมือนที่ผ่านมามิได้ อยู่ในวังหลวงเพียงส่วนหนึ่ง”

รอยยิ้มบนใบหน้าถังจือเลือนหายไปช้าๆ สีหน้านางเคร่งขรึมขึ้นมา

“ที่นายท่านกล่าวมาข้าก็เคยคิด ฉะนั้นหลายปีมานี้ข้าจึงได้ส่งบางคนในกองทัพออกไปฝึกประสบการณ์”

หากไม่มีการต่อสู้ ต่อให้ตบะแข็งกล้าเพียงใดพลังของพวกนางก็สามารถลดลงได้

“ไม่” เฟิงหรูชิงส่ายหน้า “ครั้งนี้ที่ข้าพูด ไม่ใช่ให้ส่งคนออกไปหาประสบการณ์ แต่เป็นให้คนในทัพเลือดเหล็กทุกคนออกไป!”

ถังจือเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ จ้องมองไปยังใบหน้าที่คุ้นเคยตรงหน้า

“นายหญิง แม้ท่านแม่ทัพเฒ่ากับท่านผู้เฒ่าตระกูลฉินจะสำเร็จหลิงอู่ แต่ข้าก็ยังมิกล้าจากไปเช่นเดิม ดังที่นายหญิงกล่าว ตอนนี้แคว้นหลิวอวิ๋นไม่ใช่เพียงวุ่นวายจากภายนอก ยังมีปัญหาภายในด้วย ข้าไม่สามารถออกจากที่นี่ไปได้แม้แต่ครึ่งก้าว”

นางรับปากน่าหลานฮองเฮาแล้ว ชีวิตนี้นางจะต้องใช้ชีวิตปกป้องฝ่าบาทกับองค์หญิง

ในสถานการณ์เช่นนี้นางยิ่งมิกล้าออกไปโดยไม่ได้รับอนุญาต

“ถังจือ แคว้นหลิวอวิ๋นมีท่านตากับผู้นำตระกูลฉินก็เพียงพอแล้ว เจ้าต้องออกไป รอเจ้าสำเร็จหลิงอู่แล้วค่อยกลับมา!” เฟิงหรูชิงขมวดคิ้วน้อยๆ น้ำเสียงเข้ม “อย่างไรเสีย ด้วยความสามารถของเจ้าในตอนนี้หากมีผู้แข็งแกร่งมารุกราน เจ้าไม่เพียงแต่จะปกป้องข้ากับเสด็จพ่อไม่ได้ แม้แต่ตัวเจ้าเองเจ้าก็ไม่สามารถปกป้องได้”

ถังจือนิ่งเงียบไปชั่วขณะก่อนจะเงยหน้าขึ้นเอ่ยต่อ “หม่อมฉันเข้าใจแล้ว”

เป็นเรื่องจริง นางอยู่ที่นี่ทำให้การพัฒนาของนางถูกจำกัด หากออกจากวังหลวง ไม่ช้าก็เร็วนางต้องสำเร็จหลิงอู่แน่นอน

“ถังจือ กองทัพเลือดเหล็กเป็นส่วนหนึ่งของกำลังข้า มีเพียงพวกเจ้าจะต้องแข็งแกร่งขึ้นข้าจึงจะแข็งแกร่งขึ้นด้วย” เฟิงหรูชิงยกมือขึ้นตบบ่าถังจือ “ดังนั้น ครั้งนี้เจ้าจะต้องพาหมาป่าสีขาวไปที่ป่าสัตว์วิเศษ เจ้าจงจำไว้ว่าพวกเจ้าจะต้องอยู่แต่ภายนอกห้ามเข้าไปข้างใน”

ประโยคนั้นที่บอกว่า กองทัพเลือดเหล็กเป็นส่วนหนึ่งของกำลังข้า ทำถังจือดีใจลืมสิ้นทุกความโกรธเคือง ริมฝีปากนางยกยิ้มขึ้นแววตาทอประกาย

“นายหญิง ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง”

เฟิงหรูชิงพยักหน้าน้อยๆ “นอกจากหมาป่าสีขาวแล้ว พวกเจ้าจะต้องรอให้สำเร็จหลิงอู่แล้วจึงจะสามารถกลับมาได้! ข้าจะเตรียมเหล้าวิเศษจำนวนมากไว้ให้พวกเจ้า ถึงตอนนั้น จะช่วยให้พวกเจ้าสำเร็จได้รวดเร็วยิ่งขึ้น”

เหล้าวิเศษ…จำนวนมาก?

ถังจือนิ่งตะลึง นัยน์ตาฉายแววแปลกประหลาด

เหล้าที่นายหญิงให้พวกนางก่อนหน้านี้ยังมีอีกเยอะงั้นหรือ?

แต่ทว่าถังจือไม่ได้เอ่ยถามอะไร ดวงตานางเปล่งประกายสดใสราวกับมีดวงดาวส่องสว่าง

“นายหญิง ท่านวางใจได้ พวกเรากองทัพเลือดเหล็กจะไม่ทำให้นายหญิงผิดหวัง!” นางทำความเคารพหนักแน่น เสียงดังกึกก้องทั่วทั้งลานอยู่นานสองนาน…

………………………..

ตอนที่ 206 ยกระดับพลัง (2)

หลังจากสั่งการทั้งหมดออกไปเสร็จ เฟิงหรูชิงก็ออกจากวังหลวง

รอจนนางกลับมาถึงจวนองค์หญิง หมาป่าสีขาวราวกับเป็นก้อนหิมะกลมกระโจมมาหา มันส่ายหางหมาป่าของมัน ทั้งตัวแนบติดอยู่บนตัวเฟิงหรูชิง

เฟิงหรูชิงหน้ามืดลงทันที ยกเท้าขึ้นแตะหมาป่าสีขาวออกไปไกลหลายเมตรอย่างไม่เกรงใจ

หมาป่าสีขาวลุกขึ้นมาในทันที สะบัดเศษฝุ่นบนตัวออก ร้องเอ๋าว์เอ๋าว์นัยน์ตาเต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ

นายท่านชอบหมา มันก็แค่เมื่อครู่เดินผ่านหน้าบ้านหลังหนึ่ง เห็นหมาเฝ้าบ้านตัวนั้นมันต้อนรับเจ้านายมันเช่นนี้ก็เลยเรียนแบบเอามา เหตุใดจึงได้รับการปฏิบัติแตกต่างกันเล่า

ไม่ยุติธรรม!

“เจ้ามาพอดี ข้ามีงานจะให้เจ้า” เฟิงหรูชิงหรี่ตาลงมองหมาป่าสีขาวที่กำลังน้อยใจด้วยรอยยิ้มกว้าง “พรุ่งนี้คนของกองทัพเลือดเหล็กจะไปฝึกที่ป่าสัตว์วิเศษ เจ้าก็ตามไปด้วย”

ราวกับฟ้าผ่าลงมาอย่างจัง หมาป่าสีขาวนิ่งตะลึงงัน

นี่นายท่านทอดทิ้งมันแล้วหรือ?

จะทิ้งมันหรือ?

“เอ๋าว์วู!” หมาป่าสีขาวร้องคำรามด้วยความเจ็บปวด กระโจนไปที่เท้าเฟิงหรูชิงอีกครั้ง อุ้งเท้าสองข้างกอดนางไว้แน่น นัยน์ตาขอร้องอ้อนวอน

นายท่าน ต่อไปข้าจะกินให้น้อยลงหน่อยทำงานให้มากขึ้น ได้โปรดอย่าทิ้งข้าเลย ข้าไม่อยากกลายเป็นหมาป่าน้อยเร่ร่อน

“เจ้าหมาป่า ออกไป!” เฟิงหรูชิงโมโหยกเท้าขึ้นแตะมันออกไปด้านข้างอีกครั้ง

“เอ๋าว์วู!” หมาป่าสีขาวร้องโอดครวญขึ้นอีก ท่าทางของมันน่าสงสารยิ่งกว่าเดิม น้ำตาจะไหลลงมาอยู่รอมร่อ

“เจ้ากินเทียนหลิงกั่วของข้าไปตั้งมาก แล้วยังจะคิดอู้ไม่ทำงานอีก?” เฟิงหรูชิงเห็นท่าทีไม่ยินยอมของหมาป่าสีขาวหน้านางก็ถมึงทึง “เจ้ายังอยากจะล้างแค้นที่ถูกย่ำยีอยู่หรือไม่”

ถูกย่ำยี? นายท่านคงจะหมายถึง…แย่งกระมัง?

แม้ตาแก่ชั่วนั่นจะทำไม่สำเร็จ แต่เขาก็มีความคิดที่จะแย่งชิงเทียนหลิงกั่วไปจากมัน นั่นก็เป็นความผิดของเขาแล้ว!

ดังนั้นในสายตาเฟิงหรูชิง หมาป่าสีขาวพยักหน้ารับน้อยๆ

อยาก มันอยากแก้แค้นมาก!

“ในเมื่อเจ้าอยากแก้แค้นเช่นนั้นก็พาพวกเขาไปฝึก เจ้าเคยไปป่าสัตว์วิเศษมาก่อนค่อนข้างจะชำนาญพื้นที่ ห้ามให้พวกนางเข้าไปเขตสัตว์วิเศษระดับสี่เด็ดขาด!” เฟิงหรูชิงหรี่ตาลงสองข้าง

“แล้วก็ หากเจ้าเจอสัตว์วิเศษระดับสาม…อือ เจ้าเข้าใจนะ ข้าขาดคนทำงาน กวดต้อนพวกมันมาให้หมด อย่าให้ถังจือตีสัตว์วิเศษระดับสามเหล่านั้นตายล่ะ”

หมาป่าสีขาวดีใจ นายท่านไม่ได้จะทิ้งมันแล้ว แค่ต้องการให้มันทำงาน?

“จริงสิ เจ้าต้องกลับมาทุกห้าวัน ข้าจะให้ยาวิเศษกับเจ้า เจ้าทำหน้าที่นำยาวิเศษไปให้พวกนางแล้วก็ช่วยพวกนางดูเอาไว้ให้ดี ป่าสัตว์วิเศษอันตรายเช่นนั้นหากไม่มียาวิเศษข้าก็ไม่วางใจ…”

เฟิงหรูชิงเอ่ยต่อ

แววตาหมาป่าสีขาวทอประกาย มันกลืนน้ำลายลงคออย่างไม่รู้ตัว

“ยาวิเศษเหล่านั้นเจ้าก็กินได้ ทุกวันห้ามเจ้ากินเกินสามอัน” เฟิงหรูชิงมองเตือนหมาป่าสีขาว     เอ่ยตักเตือนอย่างระมัดระวัง

ที่จริงหากต้องการให้คนในกองทัพเลือดเหล็กก้าวหน้าง่ายมาก

ขอเพียงเฟิงหรูชิงก้าวถึงระดับเจินอู่ก็จะสามารถเริ่มปลูกยาวิเศษระดับสามได้ ใช้ยาวิเศษระดับสามหมักเหล้าวิเศษหรือทำอาหารบำรุง ก็เพียงพอให้คนที่อยู่ระดับเจินอู่สามารถพัฒนาก้าวข้ามได้

แต่ก่อนหน้าที่นางยังไม่สามารถปลูกยาวิเศษระดับสามได้ ถึงหมีปฐพีกับหมาป่าสีขาวล้วนเป็นสัตว์วิเศษระดับสามก็ไม่สามารถปลูกได้! ยาวิเศษที่ปลูกโดยสัตว์วิเศษมันมีข้อจำกัด!

“ดูเหมือนว่า ช่วงเวลาต่อจากนี้ข้าจะต้องใส่ใจกับการฝึกตบะ” เฟิงหรูชิงมองไปบนท้องฟ้าเอ่ยรำพึงกับตัวเอง

…………………