บทที่ 87 ความเดือดดาล![รีไรท์]

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

บทที่ 87 ความเดือดดาล![รีไรท์]

ดวงตาของเฉินฮั่นหลงปูดโปนราวกับจะถลนออกมา เขาอยากจะดื่มเลือดของไอ้เฒ่านั่นและกินเนื้อของมันดับความโกรธ เขาสาบานว่าในชีวิตนี้ เขาไม่เคยต้องการฆ่าคนอย่างแรงกล้าเช่นนี้มาก่อน

“พี่หลง ออกไปสู้กับพวกมันเถอะ อย่างมากก็ตาย ยังไงนายท่านต้องล้างแค้นให้แน่” ซุนหยิงเองก็โกรธจัด ชกหมัดบนผนังจนเห็นเลือดตรงง่ามนิ้วมือของเขา

ไป๋จิ้งมองไปที่เฉินฮั่นหลงอย่างเงียบๆ น้ำตาของเธอไหลออกมา เธอยิ้ม และหัวเราะอย่างเศร้าๆ ส่วนดวงตาของเฉินฮั่นหลงก็หม่นหมอง

“ไม่…!” เสียงคำรามบ้าคลั่งของเฉินฮั่นหลงทำให้เลือดกระอักภายในปาก

จอมยุทธ์ไร้นามสังเกตเห็นร่างกายของไป๋จิ้งสั่นเทา สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขายกมือขึ้นแล้วฉีกเทปออกจากปากของเธอ

เลือดพรั่งพรูออกมา ดวงตาของไป๋จิ้งเริ่มพร่ามัว จ้องมองที่เฉินฮั่นหลงอยู่เนิ่นนานและในที่สุดดวงตาก็ไร้เงาแห่งการมีชีวิต เธอฆ่าตัวตายด้วยการกัดลิ้น

หนูกับไอ้อ้วนหันหลังกลับไป ไม่สามารถทนดูได้อีก แต่ลีโอ และพวกที่เหลือนั้นรู้สึกชื่นชมในความใจเด็ดของไป๋จิ้ง

“โชคไม่ดีเอาซะเลย!” จอมยุทธ์ไร้นามทำท่าทางขยะแขยงและเตะร่างของไป๋จิ้งไปทางด้านข้าง

“พี่หลง…” ซุนหยิงอุทานออกมา ส่วนเฉินฮั่นหลงก็หมดสติไป

“ยังไม่ออกมาอีกเหรอ?” เขาถามและมองลงไปที่พวกเขา

“แกจะต้องตายอย่างน่าสมเพช!” โม่ซิงเหอกัดฟัน

จอมยุทธ์ไร้นามดูหมิ่นและเย้ยหยัน “แกห่วงตัวเองดีกว่า”

“โม่ซิงเหอ ส่งป้ายหยกมาให้ผม ผมจะออกไปฆ่าพวกคนชั่ว!”  ไท้ถาน ชายวัยกลางคนสูง 2 เมตร คำรามด้วยดวงตาสีแดงก่ำ

“ใจเย็น ๆ อย่าหุนหันพลันแล่น” เสียงของโม่ซิงเหอนั้นต่ำและเต็มไปด้วยความเกลียดชังปนอยู่

ดวงตาของจอมยุทธ์ไร้นามจับจ้องไปที่พ่อกับลูกชายของเจิ้งก่วงอี้ ดวงตามีแววหยอกล้อไปที่พ่อกับลูกชายของตระกูลเจิ้ง ทำให้ทั้งคู่เหงื่อเต็มแผ่นหลังจนรู้สึกอึดอัด

“พวกมันมีชีวิตบัดซบแค่หนึ่งชีวิต ไม่มีเรื่องอะไรติดค้าง แล้วพวกคุณทุกคนล่ะ?” ใบหน้าของพ่อลูกสกุลเจิ้งเปลี่ยนไป

“ไอ้เดรัจฉาน แกต้องการจะทำอะไรกันแน่?” ใบหน้าของเจิ้งก่วงอี้นั้นเย็นชา แต่ภายในใจรู้สึกเป็นห่วงตระกูลของตน จอมยุทธ์ไร้นามอ้าปากและหมายจะพูด แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเรียกเข้าจากมือถือเครื่องหนึ่ง

เมื่อจอมยุทธ์ไร้นามรับโทรศัพท์ก็เห็นได้ว่าใบหน้าของเขาค่อย ๆ ซึมลง ในช่วงเวลานั้นเขามองดูหนูที่อยู่ข้าง ๆ อย่างเยือกเย็น แล้วโอกาสก็หลุดลอยไป

“ไม่ต้องกังวลหัวหน้ากลุ่ม ผมเข้าใจแล้ว สัญญาว่าจะไม่เกิดอะไรเช่นนี้ขึ้นอีก” จอมยุทธ์ไร้นามวางสาย และพูดกับหนูอย่างเย็นชา “แกเป็นคนฟ้องสินะ?”

“ถูกต้องแล้ว สิ่งที่แกทำมันยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน ขัดต่อกฎสวรรค์ ฉันล่ะละอายใจที่มีพรรคพวกอย่างแก”

ดวงตาของหนูโตเท่าเมล็ดถั่วเขียวใหญ่มองด้วยความรังเกียจ ใบหน้าของจอมยุทธ์ไร้นามนั้นเย็นชาและพูดว่า “แกอยากตายสินะ”

ปีศาจหนูเผยท่าทางดูถูกเหยียดหยาม “แกกล้าฆ่าฉันไหมล่ะ?”

มีกฎข้อหนึ่งที่เป็นอันรู้กันดีในองค์กรความมั่นคงของรัฐว่า คนที่ฆ่าพวกเดียวกันอย่างไม่มีเหตุผลคือการทรยศ นอกจากนี้ยังมีหัวหน้ากลุ่มที่อยู่เบื้องหลังปีศาจหนู เป็นถึงขั้นปรมาจารย์ ซึ่งมันไม่มีทางสู้ได้เลย

“ดีมาก ดีมาก” จอมยุทธ์ไร้นามฉีกยิ้มอย่างดุเดือด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยไอสังหาร เขาจะสังหารหนูทิ้งซะ

“ท่านจอมยุทธ์ไร้นาม อย่า” ลีโอยกมือห้าม ถ้าหากฆ่าปีศาจหนูไป พวกเขาเองก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย

“ครั้งนี้ฉันจะปล่อยแกไป แต่ถ้ายังปากมากอีก อย่าหาว่าฉันไม่เตือน” จอมยุทธ์ไร้นามเอ่ยเตือน

ปีศาจหนูส่งเสียงฮึมฮัมและไม่พูดอะไรต่อ เขารู้ว่ามันไร้ประโยชน์ที่จะต่อต้านจอมยุทธ์ไร้นาม และตัวเขาเองที่ต้องทนทุกข์ทรมาน

“เจิ้งก่วงอี้ ฉันได้ยินมาว่าแกชอบอยู่กับเฉินฮั่นหลงบ่อย ๆ รู้หรือเปล่าว่าสูตรน้ำยาเทวะอยู่ไหน? ขอแค่แกเอามาให้ฉัน ฉันจะถือว่าแกทำงานใหญ่สำเร็จ ไม่อย่างงั้น อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”

เฉินฮั่นหลงหมดสติไป เขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่เจิ้งก่วงอี้ ดวงตาของเจิ้งก่วงอี้มีแสงริบหรี่ ภายในใจกัดฟัน แต่ยังคงนิ่งเงียบ

“ไพซ์ซิสไปจับตัวตระกูลของมันมา” จอมยุทธ์ไร้นามสั่ง

“ไอ้พวกบัดซบ! แกยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า!?” ดวงตาของซุนหยิงแดงก่ำ จอมยุทธ์ไร้นามแค่นจมูกอย่างเฉยเมยไม่สนใจ เขาต้องการบรรลุเป้าหมายเพียงเท่านั้น

ไพซ์ซิส หยิบเอาโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรออก

“ตู้ม!”

ทันใดนั้น โทรศัพท์ในมือของไพซ์ซิสก็ระเบิดขึ้น เขากรีดร้อง นิ้วทั้งห้าถูกแรงระเบิดหายไป หูของเขาก็เช่นกัน ใบหน้าโชกเลือดนั้นช่างน่าสังเวช

ทุกคนประหลาดใจ!

ลีโอรีบออกไปอย่างรวดเร็ว

“ฉันไม่แนะนำให้แกขยับตัวน่ะ มิฉะนั้นแกจะเป็นรายต่อไป” น้ำเสียงหยอกล้อดังขึ้น ทุกคนหันไปพบกับชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยอันตราย ค่อย ๆ ก้าวเข้ามา

นอกจากนี้ เขายังมีรูปร่างปราดเปรียว หล่อเหลา ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความคลุมเครือ เขามาเดินอย่างช้าๆ พวกเขาคือฉู่ชวิ๋นและซูฟาน

“นายท่าน!”

ซุนหยิงและคนอื่น ๆ ตื่นเต้น

จอมยุทธ์ไร้นามจ้องมองไปที่ฉู่ชวิ๋น ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินคำว่า ‘นายท่าน’ สุภาพบุรุษคนนี้ดูไม่มีราศี และไม่มีพลังยุทธ์ด้วย แต่ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มีพลังยุทธ์เพียงระดับเล็กน้อย น่าจะเป็นขั้นนักสู้พลังชีพจรระดับ 7 ช่างน่าสงสาร

“เกิดอะไรขึ้นกับพี่เฉิน?” ซูฟานเห็นเฉินฮั่นหลงหมดสติก็ตกใจ!

“นายท่าน…” ซุนหยิงตาแดงก่ำ เล่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบ

หลังจากที่ฉู่ชวิ๋นได้ยิน เขาก็ไม่ได้แสดงอารมณ์ออกบนใบหน้า แต่ดวงตาของเขาเยียบเย็นลงทันที ไป๋จิ้งตายแล้ว แถมไม่ได้สวมเสื้อผ้า และดวงตาของเธอยังคงเปิดออก ฉู่ชวิ๋นหยิบเสื้อที่ถูกฉีกขาดโดยจอมยุทธ์ไร้นามขึ้นมา และนำไปปกปิดร่างที่เปลือยเปล่าของไป๋จิ้ง

“พวกแกมันไม่ต่างอะไรกับสัตว์เดรัจฉาน ต่อให้ฆ่าทั้งเป็นก็ไม่สาแก่ใจ ทำไมประเทศนี้ถึงเลี้ยงขยะอย่างพวกแกไว้น่ะ?”

ดวงตาของซูฟานร้อนผ่าว เขาต้องการที่จะรีบสังหารจอมยุทธ์ไร้นามมาก จอมยุทธ์ไร้นามมองไปที่ซูฟาน เขาใจแคบยิ่งกว่าเข็ม ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่เขาก็จะเอาคืน ตอนนี้แววตาของเขาเต็มไปด้วยไอสังหาร

ซูฟานสบสายตากลับอย่างไม่มีความเกรงกลัวใดๆ ผู้ชายในตระกูลซูทุกคนเป็นวีรบุรุษ แม้ว่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ แต่จะไม่หัวหดแน่ ฉู่ชวิ๋นเดินไปและวาดมือของเขาเบาๆ

เมื่อเห็นว่าค่ายกลหายไปในพริบตา จอมยุทธ์ไร้นามและลีโอตกตะลึง ดวงตาของพวกเขาหดเกร็ง

“ค่ายกลนี้แกเป็นคนสร้างเหรอ?” จอมยุทธ์ไร้นามจ้องที่ ฉู่ชวิ๋นและเอ่ยถาม

น่าเสียดายที่ฉู่ชวิ๋นไม่สนใจเขา เขาเดินลงบันไดหินมาที่ด้านข้างของเฉินฮั่นหลง

“ซิงเหอทำให้นายท่านต้องผิดหวัง!” โม่ซิงเหอเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด

“ไม่ใช่ความผิดของคุณ” น้ำเสียงของฉู่ชวิ๋นสงบนิ่ง

นิ้วชี้ยื่นออกไปส่งพลังปราณเข้าไปในร่างของเฉินฮั่นหลง เฉินฮั่นหลงที่อยู่ในอาการไม่ได้สติตื่นขึ้นมาพร้อมกับตัวสั่นสะท้านเมื่อเห็นฉู่ชวิ๋น เขารู้สึกเศร้าและสุข เขาไม่อาจลืมการตายของไป๋จิ้งได้ เขาลุกขึ้นและก้มลงคุกเข่าอ้อนวอน

“นายท่านได้โปรดฆ่ามัน! ฆ่าคนชั่วพวกนี้!” น้ำตาของลูกผู้ชายไหลรินออกมาในสถานการณ์ที่น่าเศร้าใจ

เฉินฮั่นหลงร้องไห้ เขาเศร้ามาก

“ไปดูเธอหน่อยเถอะ!” ฉู่ชวิ๋นถอนหายใจ เฉินฮั่นหลงตะเกียกตะกายไปหาไป๋จิ้ง กอดเธอไว้ในอ้อมแขน น้ำตาร่วงหล่นกระทบหัวใจของคนที่ได้เห็น

ไอ้อ้วนมองที่ฉู่ชวิ๋นอย่างสงสัย

ฉู่ชวิ๋นหันกลับมามองเขา เขารีบหดหัวกลับไป ตัวของเขาเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น สายตาของฉู่ชวิ๋นน่ากลัวมาก สายตาช่างเย็นชาจนเหมือนจะแช่แข็งเขา

ค่ายกลที่มีลูกธนูปักอยู่ร่วงลงกับพื้น ฉู่ชวิ๋นหยิบมันขึ้นมาและสะบัดมือของเขา

พรึบ! ลูกศรเป็นเหมือนกระแสไฟฟ้าพร้อมกับระเบิดอย่างแรง

“อ๊ากก…!”

เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้น ไพซ์ซิสถูกลูกธนูเจาะไหล่และตรึงไว้กับกำแพง

ใบหน้าของจอมยุทธ์ไร้นามเปลี่ยนไปเล็กน้อย และดวงตาของเขาก็ประหลาดใจ วิธีการที่จะขู่คนอื่น ๆ มันไร้ประโยชน์สำหรับฉู่ชวิ๋น

เขาเป็นปรมาจารย์ การหยิบใบไม้และดอกไม้ที่ปลิวไสวอยู่ก็สามารถทำร้ายผู้คนได้แล้ว เขาประหลาดใจที่ในร่างกายของฉู่ชวิ๋นไม่มีลมปราณ แต่เขากลับมีข้อมือที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร?

ใบหน้าของลีโอและซาจิทแทเรียสเปลี่ยนไป ลีโอถอยไปยืนข้าง ๆ ซาจิทแทเรียส

“แกอยากตายแบบไหน?”

ฉู่ชวิ๋นมองจอมยุทธ์ไร้นามและถามขึ้นอย่างใจเย็น มันง่ายเหมือนการถามว่าจะกินอะไรตอนเที่ยง หลังจากได้ยิน จอมยุทธ์ไร้นามก็หัวเราะแล้วพูดออกมาว่า “แกจะฆ่าฉัน? งั้นก็ต้องดูว่าแกมีปัญญาไหม”

ตู้ม!

ทันใดนั้นร่างของฉู่ชวิ๋นก็เต็มไปด้วยไอสังหารที่น่าหวาดกลัว ราวกับปลุกราชาปีศาจขึ้นมา

“ตายยย!”

ฉู่ชวิ๋นคำรามออกมาเหมือนสายฟ้าฟาด ทันใดนั้นใบหน้าของจอมยุทธ์ไร้นามก็เปลี่ยนไป ดวงตาเต็มไปด้วยแววตาสังหาร แล้วสะบัดมือออกไป

ฟรึบ! ฟรึบ!

คลื่นพลังที่เล็กราวขนวัวสีขาว พัดผ่านสายลมไปอย่างรุนแรง กำปั้นของฉู่ชวิ๋นนั้นถูกห่อหุ้มด้วยพลังเซียน ไอสีขาวพลุ่งพล่านขึ้นและกำปั้นก็ระเบิดออก

คนที่ยืนอยู่บริเวณนั้นกระจัดกระจายออกไป การเคลื่อนไหวใต้ฝ่าเท้าของเขารวดเร็วในระยะ 10 เมตร เขาพุ่งเข้าหาจอมยุทธ์ไร้นาม ยกกำปั้นขึ้นแล้วเหวี่ยงมันออกไป

กำปั้นของเขาดุจดั่งสายฟ้าฟาด

ดวงตาของจอมยุทธ์ไร้นามเย็นชา ฝุ่นละอองที่ลอยอยู่กลายเป็นเหมือนเข็มเล็กๆ เขาปะทะกำปั้นของฉู่ชวิ๋นอย่างดุเดือด ใบหน้าของฉู่ชวิ๋นไม่สะทกสะท้าน กำปั้นของเขาดังสนั่นและเขาก็ร่วงลงพร้อมเสียงคำรามดังลั่น

ตู้ม!

เสียงดังอึกทึกดังขึ้น เข็มเหล็กคล้ายลวดถูกทุบด้วยกำปั้น แตกกระจายไปคนละทิศคนละทาง

ทันใดนั้นใบหน้าของจอมยุทธ์ไร้นามก็เปลี่ยนไป เขานอนคว่ำลงแล้วพุ่งตัวออกไปราว 10 เมตร แต่มันเร็วเท่ากับสายฟ้าผ่าดังเปรี้ยง ฉู่ชวิ๋นกำลังรอเวลาแห่งการไล่ล่า ในเวลานั้นซาจิทแทเรียสได้ขึ้นสายธนูและยิงมันออกไป

ฟิ้ว!

ฉู่ชวิ๋นหันมาคว้าลูกธนูไว้ได้ ลูกศรที่ทำจากเหล็กแหลกละเอียดอย่างง่ายดาย

“โฮกกก!”

ลีโอเริ่มลงมือ การเปิดปากของเขาคือการโจมตีด้วยคลื่นเสียง นี่คือเสียงคำรามของสิงโตแห่งวัดเส้าหลิน เมื่อสิ้นเสียงคำราม คฤหาสน์ก็สั่นสะเทือน ผู้คนที่ไม่ได้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ต่างงงงวย

หลังจากพลังคลื่นเสียงของลีโอ ร่างใหญ่โตของเขากลับกลายเป็นคนธรรมดา เขาใช้กำปั้นผสานพลัง แล้วเหวี่ยงออกไปที่ศีรษะของฉู่ชวิ๋น

ใบหน้าของฉู่ชวิ๋นสงบนิ่งมาก คลื่นเสียงไม่ได้ส่งผลกระทบใด ๆ เลย ดังนั้นเขาจึงปล่อยระเบิดพลังออกมา

ตู้ม!

เมื่อทั้งสองปะทะกัน เหมือนลมจะสลายตัวอย่างกะทันหัน ลีโอปลิวออกไปพร้อมกับกรีดร้อง แขนของเขาถูกทุบด้วยกำปั้นของฉู่ชวิ๋น

ฟรึบ!

เสียงตัดลมดังขึ้น ซาจิทแทเรียสใช้โอกาสนี้ยิงธนูอีกครั้ง ฉู่ชวิ๋นยื่นมือออกมาแล้วกำลูกธนู เมื่อเขาจับลูกธนูได้ก็เหวี่ยงมันกลับไปเร็วขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ซาจิแทเรียสกรีดร้อง ลูกศรพุ่งแทงไหล่ของเขาจนลอยไปตรึงร่างติดกับผนังด้านข้างไพซ์ซิส ลีโอกระอักเลือด เขาคำรามและเริ่มโจมตีอีกครั้ง

“ตาย!!” เกิดการระเบิดขึ้น กำปั้นพุ่งเร็วราวสายฟ้า

“อ๊าก…!”

“กร๊อบ…!”

แขนซ้ายของลีโอหักด้วยกำปั้นของฉู่ชวิ๋น ซึ่งบริเวณหน้าอกของเขาบังเกิดแอ่งเลือดขนาดเท่ากำปั้น

ปัง!

ร่างของลีโอล้มลงกับพื้นแล้วถูกกลบด้วยฝุ่น

ความกลัวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจอมยุทธ์ไร้นาม มันแย่มากที่ลีโอที่เป็นขั้นนักสู้พลังชีพจรระดับ 9 ถูกสังหารได้ภายในไม่กี่วินาที

ตอนแรกเขาคิดว่าฉู่ชวิ๋นไม่สามารถฆ่าผู้ที่เป็นขั้นนักสู้พลังชีพจรระดับ 9 เขาไม่ได้คาดหวังว่าพลังการต่อสู้ของฉู่ชวิ๋นจะเหนือกว่า จิตใจของเขาเริ่มถดถอย

สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือฉู่ชวิ๋นแค่ระบายความโกรธออกมา มิฉะนั้นถ้าเขาใช้พลังเซียนละก็พวกมันจะต้องหายไปในพริบตา!