ภาคที่ 2 บทที่ 96 งานเลี้ยงรวมญาติ

มู่หนานจือ

เจียงเซี่ยนยิ้มตาหยีและพยักหน้า

 

ชาติก่อนนางร่างกายอ่อนแอ ในฤดูหนาวแทบจะไม่ออกไปข้างนอก ครั้งแรกที่ออกไปข้างนอกคือตอนนางอายุเก้าขวบ เจียงลวี่ใช้หนังเสือผืนหนึ่งห่อตัวนางไว้ และอุ้มนางไปนั่งรถลากเลื่อนที่ทะเลสาบสือช่าด้วยกัน

 

นางจดจำความรู้สึกที่ลมหนาวปะทะหน้าตอนรถลากเลื่อนแล่นไปบนพื้นน้ำแข็งได้ตลอด

 

หลังจากนั้นนางไม่เป็นอะไรเลย แต่เจียงลวี่กลับถูกท่านลุงใหญ่ของนางตีอย่างแรง และยังให้ไปขอโทษไทฮองไทเฮาที่วังฉือหนิงด้วย

 

นางรู้ว่าเจียงลวี่สงสารที่นางไม่เคยเห็นและไม่เคยเล่นอะไรเลย

 

ถึงแม้ตอนนี้จะไม่ได้เป็นเด็กแล้ว ทว่านางก็ยังอยากทำให้ท่านพี่มีความสุข

 

เจียงลวี่มองนางด้วยสายตาอ่อนโยนลง และยิ้มพลางลูบศีรษะนาง

 

เจียงเซี่ยนยืนอยู่ตรงนั้นและปล่อยให้เขาลูบอย่างว่าง่าย

 

หลี่เชียนเบิกตาโต

 

เขาสังเกตว่าเจียงเซี่ยนอยู่ต่อหน้าใครก็ว่านอนสอนง่าย แต่อยู่ต่อหน้าเขาจะโอหังและอวดดีเป็นพิเศษ เห็นเขาขัดหูขัดตาไปหมด

 

ทว่าเจียงเซี่ยนที่ไม่น่ารักแบบนี้กลับทำให้เขารู้สึกว่าน่าสนใจมากและน่าค้นหา

 

เขาอดที่จะเลิกคิ้วให้เจียงเซี่ยนไม่ได้ และยิ้มอย่างล้อเลียน พลางกระซิบข้างหูนางตอนที่เจียงลวี่จากไป “หากท่านไปได้ล่ะก็ ข้าจะสอนท่านเดินบนน้ำแข็ง”

 

ใครอยากให้เขาสอนกัน

 

เจียงเซี่ยนมุ่งหน้ากลับห้อง

 

หลี่เชียนแสยะปากยิ้ม และตามเจียงลวี่ไปอย่างรวดเร็ว

 

ตอนบ่ายยามโหย่ว พ่อลูกสกุลหลี่กลับไปแล้ว เจียงเจิ้นหยวนรับประทานอาหารเย็นเป็นเพื่อนเจียงเซี่ยนที่เรือนของสตรี

 

เจียงเซี่ยนถามท่านลุง “หลี่ฉางชิงเป็นคนอย่างไรเจ้าคะ?”

 

เจียงเจิ้นหยวนครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ และเอ่ยว่า “เป็นคนฉลาดมาก อดทน แล้วก็วิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ได้ดีเช่นกัน ดูเหมือนกล้าได้กล้าเสีย ความจริงแล้วละเอียดรอบคอบ คาดเดาเจตนาของคนอื่นเก่ง ไม่ธรรมดามากทีเดียว!”

 

หากลุงของนางพูดแบบนี้ แสดงว่าหลี่ฉางชิงก็เป็นคนที่มีความสามารถโดดเด่นคนหนึ่ง

 

เจียงเซี่ยนแปลกใจมาก

 

ชาติก่อนหลี่ฉางชิงกลับถอนตัวออกจากตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวตอนอายุสามสิบสี่สิบปี และหลังจากนั้นก็ไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนเลย เป็นเพราะอะไรกัน?

 

เจียงเซี่ยนอยากรู้นัก

 

วันรุ่งขึ้นครอบครัวของเจียงจ้งมาถึงก่อน เจียงจ้งกับบิดาอยู่คุยเป็นเพื่อนเจียงเจิ้นหยวนที่โถงบุปผา ส่วนอาสะใภ้สิบหกมาคารวะฮูหยินเจียงสกุลฝางกับเจียงเซี่ยน

 

เมื่อก่อนเจียงเซี่ยนกลับจวนไม่บ่อย ก็ยิ่งได้เจออาสะใภ้สิบหกน้อย จึงจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่านางหน้าตาอย่างไร

 

นางคารวะตอบด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม พลางสังเกตแม่ของเจียงจ้ง และเอ่ยว่า “ข้ากลับบ้านมา ก็เป็นผู้หญิงของตระกูลเจียง ท่านอาสะใภ้สิบหกไม่จำเป็นต้องมากพิธี ทำแบบนี้กลับจะทำให้ข้าไม่สบายใจ”

 

แม่ของเจียงจ้งดูสาวมาก ท่าทางอายุเพียงยี่สิบห้ายี่สิบหกปี รูปร่างปานกลาง ใบหน้ากลม ผิวขาวผ่อง ดวงตาสีดำสนิท รอยยิ้มอ่อนโยน ดูเป็นคนนิสัยดีตั้งแต่แรกเห็น

 

บางทีอาจจะเพราะติดต่อกันน้อยเกินไป พออยู่ต่อหน้าเจียงเซี่ยนนางจึงแลดูระมัดระวังเป็นอย่างมาก นางพยักหน้าให้เจียงเซี่ยนอย่างประหม่า แล้วก็นั่งปอกส้มให้เจียงเซี่ยนอยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆ

 

ฮูหยินเจียงที่กำลังสั่งแม่บ้านว่าอีกเดี๋ยวอาหารทั้งหมดต้องใส่เกลือและน้ำมันให้น้อยหน่อยเห็นแล้วก็รีบเอ่ยว่า “อาสะใภ้สิบหก เป่าหนิงกินสิ่งนี้ไม่ได้”

 

แม่ของเจียงจ้งหน้าแดงขึ้นมาทันที และพึมพำอย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี

 

เจียงเซี่ยนรีบอธิบายว่า “ท่านอาสะใภ้สิบหก หน้าหนาวข้ากินของเย็นไม่ได้ แล้วก็กลัวจะเป็นร้อนในด้วย ไม่งั้นท่านชงขนมฝูให้ข้ากินดีกว่า? ข้าชอบกินอันนั้น ส่วนอันนี้ท่านก็กินเถอะ”

 

แม่ของเจียงจ้งมองนางอย่างซาบซึ้ง แล้วหันไปชงขนมฝูให้นาง

 

เจียงเซี่ยนค่อยๆ ดื่มน้ำขนมฝูที่มีรสหวานเล็กน้อย

 

มีเด็กน้อยเลิกม่านขึ้นและวิ่งเข้ามา

 

นางสวมเสื้อผ้าสวยหรูสีแดงเข้ม คอเสื้อกับชายแขนเสื้อต่างขลิบด้วยขนอ่อนนุ่มสีขาว หน้าอ้วนกลมและขาวมาก ดูเหมือนเด็กที่วาดอยู่ในภาพวาดที่ติดตอนช่วงปีใหม่ น่ารักมากทีเดียว

 

สัญชาตญาณของเจียงเซี่ยนทำให้นางคิดว่านี่น่าจะเจียงอวิ้นน้องสาวของเจียงหาน

 

ไม่งั้นก็ไม่มีใครกล้าวิ่งเข้ามาแบบนี้แล้ว

 

นางไม่เคยเจอเจียงอวิ้นตอนเด็ก

 

ตอนที่เจียงอวิ้นเข้าวังไปคารวะนางก็อายุสิบสาม และเป็นหญิงงามที่รูปร่างผอมบาง หน้าตางดงาม และทุกคนในวังชื่นชมแล้ว

 

พอเจียงอวิ้นเห็นว่าจู่ๆ เจียงเซี่ยนก็อยู่ในห้องด้วย ก็รีบหยุดเท้าและยืนตัวตรงอยู่ตรงนั้น พลางถามแม่ของเจียงจ้งเสียงเบา “ท่านป้าสะใภ้ใหญ่ ท่านอาสะใภ้สิบหก อาอวิ้นมาคารวะพวกท่านแล้วเจ้าค่ะ!” แล้วก็กะพริบตาพลางถามเจียงเซี่ยน “ท่านคือท่านพี่ท่านหญิงของข้าหรือ?”

 

เจียงเซี่ยนอดที่จะยิ้มไม่ได้ และเอ่ยว่า “ข้าชื่อเจียหนาน”

 

เจียงอวิ้นยิ้มอย่างเขินอายเล็กน้อย และเข้ามาคารวะนางอย่างเรียบร้อยเหมือนผู้ใหญ่

 

เจียงเซี่ยนมองสิ่งที่ตนเองสวมอยู่ ก็ไม่มีอะไรเหมาะจะเป็นรางวัล จึงสั่งไป่เจี๋ยที่รับใช้อยู่ข้างกาย “ไปเอาไข่มุกเหอผู่มาให้คุณหนู”

 

ไป่เจี๋ยยิ้มพลางขานรับและจากไป

 

แม่ของเจียงจ้งตกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน

 

เจียงอวิ้นรู้เพียงว่าตนเองได้รางวัลจากท่านหญิง จึงขอบคุณเจียงเซี่ยนอย่างดีใจ ตอนที่แม่ของนางเข้ามา นางก็ตะโกนเสียงดังแล้ว โดยไม่รอให้แม่ของนางคารวะพวกฮูหยินเจียงว่า “ท่านแม่ ท่านแม่ ท่านพี่ท่านหญิงมอบไข่มุกเห่อผู่ให้ข้า”

 

แม่ของเจียงจวิ้นดูอ่อนวัยกว่า รูปร่างผอมเพรียว หน้าตาสะสวย เหมือนเด็กสาวอายุสิบแปดสิบเก้า พอได้ยินก็ตกใจมากจนหน้าถอดสี รีบเข้ามาขอบคุณเจียงเซี่ยนและปฏิเสธทางอ้อม

 

เจียงเซี่ยนยิ้มและเอ่ยว่า “นี่ก็ไม่เท่าไร ของนั้นข้ามีเยอะมาก ข้าเห็นว่าอาอวิ้นอายุยังน้อย ได้ให้นางเอากลับไปร้อยที่คาดผมและเครื่องประดับผมรูปดอกไม้สวมหลายๆ อันพอดี”

 

แม่ของเจียงอวิ้นยังอยากปฏิเสธ ฮูหยินเจียงก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “นี่เป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ จากคนเป็นพี่สาวอย่างนางที่มอบให้อาอวิ้น ให้เจ้ารับไว้ เจ้าก็รับไว้เถอะ!”

 

แม่ของเจียงอวิ้นถึงรับไว้

 

เจียงเซี่ยนเดาว่านางคงมาจากตระกูลที่ฐานะไม่ค่อยสูงนักหรือไม่ตระกูลก็ตกต่ำไปนานแล้ว

 

บุรุษกับสตรีกินโจ๊กล่าปากันคนละโต๊ะ

 

ขันทีในวังนำโจ๊กมาให้แล้ว

 

เจียงเจิ้นหยวนกับฮูหยินเจียงไปรับโจ๊กแล้ว ยังมีถ้วยหนึ่งที่นำมาให้เจียงเซี่ยนโดยเฉพาะ เจียงเซี่ยนขี้เกียจไปขอบคุณฮ่องเต้ จึงให้ฉิงเค่อไปบอกขันทีคนนั้นว่าอากาศหนาว กลัวจะเป็นหวัด และนางขอบคุณฮ่องเต้

 

ฉิงเค่อออกไปถ่ายทอดคำพูด

 

อาสะใภ้สิบหกแม่ของเจียงจ้งกับอาสะใภ้เจ็ดแม่เลี้ยงของเจียงหานต่างมองนางอย่างตกใจจนปิดไม่มิด

 

เจียงเซี่ยนกลัวว่าจะทำให้พวกนางตกใจ จึงจำเป็นต้องเอ่ยว่า “เรื่องนี้เสด็จยายทรงอนุญาตเป็นพิเศษเจ้าค่ะ”

 

ทั้งสองคนต่างไม่เคยเข้าวัง ก็ไม่รู้กฎระเบียบของในวังเช่นกัน ยังเข้าใจว่าเป็นสิทธิพิเศษที่ไทฮองไทเฮาให้เจียงเซี่ยนจริงๆ จึงต่างพากันโล่งอก

 

เจียงเซี่ยนเตรียมตัวกลับวังแล้ว

 

เจียงเจิ้นหยวนเรียกเจียงเซี่ยนออกไปพบเจียงจ้งกับเจียงหาน

 

ถึงแม้พวกเขาสองคนจะอายุยังน้อย ทว่าก็ยังมีเค้าโครงตอนโต เจียงจ้งสูงและผอมมาก หน้าตาหล่อเหลา ท่าทางสุภาพมีมารยาท ส่วนเจียงหานหน้าตาหล่อเหลา

 

ทั้งสองคนคารวะตอบเจียงเซี่ยนอย่างนอบน้อม

 

เจียงเจิ้นหยวนก็เอ่ยว่า “แม้เจียงเซี่ยนจะเป็นท่านหญิง แต่ก็เป็นน้องสาวของพวกเจ้าเช่นกัน ต่อไปพวกเจ้าต้องดูแลนางให้มากหน่อย รู้หรือไม่?”

 

ทั้งสองคนรับปากเป็นเสียงเดียวกัน

 

เจียงเจิ้นหยวนยิ้มอย่างพอใจ และให้เจียงลวี่ส่งเจียงเซี่ยนออกไปข้างนอก

 

ทว่าเจียงลวี่ส่งเจียงเซี่ยนถึงหน้าประตูใหญ่แล้วยังกำชับนางว่า “อย่าลืมล่ะ หากหน้าหนาวปีนี้เจ้าสบายดี ข้าจะพาเจ้าไปดูการละเล่นบนน้ำแข็งที่ทะเลสาบสือช่า”

 

เจียงเซี่ยนพยักหน้าติดกันหลายครั้ง และยิ้มอย่างอ่อนหวานพลางตอบว่า “ได้” ขึ้นรถม้าแล้วก็ยังหันไปเลิกม่านรถขึ้นมองออกไปข้างนอก จนกระทั่งมองไม่เห็นจวนเจิ้นกั๋วกงแล้วถึงจะนั่งให้ดีใหม่

 

รถม้ามุ่งหน้าไปทางเหนืออย่างเร็วมาก เลี้ยวครั้งเดียวก็ถึงประตูเสินอู่แล้ว

 

รถม้าของไป๋ซู่รออยู่ที่นั่นก่อนแล้ว

 

นางลงจากรถม้าของตนเองมาขึ้นรถม้าของเจียงเซี่ยน และยัดเตาอุ่นมือให้เจียงเซี่ยนอันหนึ่ง พลางถามนาง “หนาวไหม?”

 

เจียงเซี่ยนก็ดึงเตาอุ่นมืออันหนึ่งออกมาจากใต้ฟูกข้างๆ และยัดให้ไป๋ซู่ พลางเอ่ยว่า “ที่ข้ามีหลายอันเลย!”

 

ไป๋ซู่เห็นแล้วก็ผิดหวัง และอดที่จะอิจฉาไม่ได้

 

ทุกครั้งที่เจียงเซี่ยนกลับวังก็จะเอาของอร่อยและของเล่นมาด้วยมากมาย ยังมีแม้กระทั่งของรางวัล เหล่านางในและขันทีน้อยต่างเฝ้ารอให้เจียงเซี่ยนกลับมาจากจวนเจิ้นกั๋วกง

 

——————