บทที่ 104 เหล่าเฉินมีเรื่องแล้ว!

เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ

“เหล่าเฉินหมดสติไปตอนกำลังผ่าตัด!”

ตอนที่ข่าวนี้แพร่มาถึงหูเฉินชาง ดูเหมือนเฉินชางจะไม่มีปฏิกิริยาใด เพียงวิ่งไปที่ห้องผ่าตัดโดยตรง!

การผ่าตัดของเหล่าเฉินเป็นเคสแรก และหัวหน้าอันก็กำลังผ่าตัดอยู่ห้องถัดไป ในช่วงเช้าห้องผ่าตัดหมายเลขแปดถูกจัดสรรให้มีการผ่าตัดทั้งหมดสามเคส เฉินชางมาช่วยหัวหน้าอันเย็บแผล

เมื่อทราบข่าวว่าเหล่าเฉินหมดสติ หัวหน้าอันก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร เย็บนิ้วของผู้ป่วยต่อไป ส่วนเฉินชางมีสีหน้าเปลี่ยนไป รีบหมุนตัววิ่งออกไปด้านนอกทันที

เฉินชางเป็นผู้ช่วยจะไปก็ไปได้ แต่อันเยี่ยนจวินเป็นศัลยแพทย์หลัก ต่อให้ตอนนี้ด้านนอกเกิดเรื่องขึ้น เขาก็ต้องผ่าตัดให้เสร็จโดยปราศจากความคิดฟุ้งซ่าน!

เฉินชางมีสีหน้ากระวนกระวาย ในสมองเต็มไปด้วยความร้อนรน จนกระทั่งไปถึงห้องข้างๆ ก็เห็นเหล่าเฉินนอนอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าขาวซีด แม้แต่ลมหายใจก็ดูอ่อนแรง!

เขารีบย่อตัวลงตรวจอาการทันที!

ขณะนั้นเอง [คำชี้แนะจากอาจารย์ผู้มีชื่อเสียง] ก็เริ่มสแกนสภาพของเหล่าเฉินทุกส่วน

[การตรวจสอบเสร็จสิ้น วิเคราะห์พบว่าสาเหตุที่ผู้ป่วยหมดสติเป็นเพราะหัวใจขาดเลือด ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยล้าสะสมเป็นเวลานานทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่พอจนเกิดอาการขาดเลือด

ข้อเสนอแนะ: ปรับปรุงการไหลเวียน เพิ่มปริมาณเลือด ให้ออกซิเจน ให้ยาฟลูนาริซีน[1]…]

เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบ เฉินชางก็ผ่อนคลายลงได้ในที่สุด! ยังดีที่ไม่เป็นอะไรมาก!

ตอนนี้เอง พยาบาลช่วยผ่าตัดฉุกเฉินกลับมีท่าทีกระวนกระวาย จะอย่างไรแผนกฉุกเฉินก็เพิ่งได้รับห้องผ่าตัดมาไม่กี่วัน พยาบาลเหล่านี้เคยเจอเรื่องแบบนี้ที่ไหนกัน ไม่ทันไรก็ทำอะไรไม่ถูกแล้ว!

เฉินชางลุกขึ้นยืน เริ่มจัดสรรหน้าที่ เรียกพยาบาลที่อยู่ว่างๆ ด้านนอกเข้ามาพยุงเหล่าเฉินขึ้นเตียง

ตอนนี้เหล่าเฉินนอนตัวอ่อนปวกเปียกอยู่บนพื้นคล้ายไม่มีเรี่ยวแรง พยาบาลก็มีท่าทีกระสับกระส่าย เตียงรถเข็นคันหนึ่งถูกเข็นเข้ามา เฉินชางเป็นคนแรกที่รู้สึกเป็นห่วงและตื่นตระหนกอยู่ในใจ “เหล่าเฉิน! เหล่าเฉิน! คุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”

เหล่าเฉินลืมตาอย่างอ่อนแรง เมื่อมองไปก็พบว่าเป็นเฉินชาง พลันนั้นจึงจับแขนเฉินชางไว้พลางกล่าว “รีบไปผ่าตัดก่อน ดูเหมือนตอนผมหมดสติไปจะเกิดปัญหาเล็กน้อย คุณรีบไปดูเร็วเข้า!”

เสียงของเหล่าเฉินฟังดูไร้เรี่ยวแรง แม้แต่พยาบาลก็ไม่รู้ว่าเกิดปัญหาตรงไหน มีเพียงเฉินชางที่ได้ยินชัดเจน

เฉินชางรีบโทรไปหาหวังหย่งที่แผนกฉุกเฉินทันที “หวังหย่ง อาจารย์เฉินหมดสติไปแล้ว คุณรีบมาเร็วเข้า อาจเป็นเพราะเลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่พอทำให้เกิดอาการสมองขาดเลือดเฉียบพลัน…”

หลังจากโทรศัพท์เสร็จก็หันไปมองภาพที่ปรากฏบนหน้าจอ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปโดยพลัน รีบยืดตัวขึ้นเดินไปทันที “พยาบาลช่วยผ่าตัดเมื่อครู่นี้อย่าเพิ่งไปนะครับ รอให้หวังหย่งมาก่อนค่อยส่งไปห้องกู้ชีพ พวกคุณมาช่วยผมผ่าตัดต่อ!”

เมื่อได้ยินเฉินชางพูดเช่นนั้นทุกคนจึงพากันพยักหน้ารับด้วยความรู้สึกเบาใจ เหล่าเฉินถูกหามขึ้นไปนอนบนเตียง จากนั้นจึงนำออกซิเจนในห้องผ่าตัดไปสวมให้เหล่าเฉิน

ส่วนการผ่าตัดจะต้องรีบดำเนินต่อไป มิฉะนั้นอาจเกิดปัญหากับผู้ป่วยได้!

เสื้อผ้าและถุงมือก็ต้องเปลี่ยนให้หมด!

คนกลุ่มหนึ่งรีบเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าตัวใหม่อย่างกระวนกระวายก่อนจะเริ่มลงมือผ่าตัดต่อไป!

หวังหย่งสวมรองเท้าวิ่งเข้ามาในห้องผ่าตัดด้วยอาการหอบหายใจ หัวหน้าพยาบาลในห้องผ่าตัดยืนหอบอยู่ด้านหลัง กล่าวขึ้นว่า “หมอแผนกไหนกัน ใครใช้ให้คุณใส่รองเท้าเข้ามา!”

หวังหย่งไม่สนใจอย่างอื่น เมื่อเข้ามาในห้องผ่าตัดก็เห็นเหล่าเฉินนอนอยู่บนเตียงรถเข็นแล้ว!

เฉินชางเห็นดังนั้นจึงหันไปบอกว่า “คุณรีบไปส่งเหล่าเฉินที่ห้องกู้ชีพ ใช้โทเซรูติน[2]และตรวจเลือดฉุกเฉิน ให้ฟลูนาริซีนทางปาก…”

หวังหย่งพยักหน้าแล้วรีบเข็นเตียงของเหล่าเฉินออกไป ส่วนเฉินชางกำลังเผชิญหน้ากับส่วนที่ยากที่สุด! นั่นก็คือปัญหาที่เหล่าเฉินทิ้งไว้ให้เขา!

ตอนนี้ข่าวเรื่องเหล่าเฉินหมดสติแพร่ไปยังห้องผ่าตัดทุกห้องแล้ว ทุกคนเดินออกมาดูความครึกครื้น ยิ่งไปกว่านั้น หมอของแผนกอื่นก็ทำท่าจะเข้าไปดูในห้องผ่าตัดด้วย

เฉินชางเห็นดังนั้นจึงหันไปพูดกับพยาบาลว่า “ปิดประตู ห้ามให้ใครเข้ามาเด็ดขาด!”

พยาบาลชะงักไปเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของเฉินชางจึงพยักหน้ารับ!

คนด้านนอกเห็นดังนั้นก็หรี่ตาขึ้นมาทันที

คนของแผนกศัลยกรรมทั่วไปก็อยู่ด้านนอกเช่นกัน ต้วนปัวเพิ่งจะผ่าตัดเสร็จ จู่ๆ ก็ได้ข่าวว่าเหล่าเฉินหมดสติ หลังจากเดินออกมาก็พบว่าห้องผ่าตัดที่อยู่ตรงข้ามปิดประตูไปแล้ว

“เปิดประตู!”

“รีบเปิดประตูเร็วเข้า!”

หัวหน้าแผนกลำไส้ใหญ่และทวารหนักรวมไปถึงต้วนปัวแห่งแผนกศัลยกรรมทั่วไปตะโกนใส่พยาบาล ทว่าเฉินชางไม่สนใจแม้แต่น้อย ทำการผ่าตัดต่อไปอย่างสงบ!

เพราะตอนที่เหล่าเฉินเพิ่งจะหมดสติไปเกือบทำให้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว หากเรื่องนี้ถูกคนอื่นรู้เข้า เหล่าเฉินคงหมดอนาคตแน่ เฉินชางจะต้องผ่าตัดให้ดี ไม่ปล่อยให้คนอื่นรู้เรื่องนี้เด็ดขาด

เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วน! หากรู้ไปถึงหูคนอื่นจะกลายเป็นจุดอ่อน

เหล่าเฉินเพิ่งจะอายุสี่สิบ ยังถือว่าอายุน้อย อนาคตอีกยาวไกล หากคนอื่นจับจุดอ่อนเขาได้ อนาคตคงจบสิ้นจริงๆ

เฉินชางพูดกับพยาบาลว่า “บอกไปว่าเหล่าเฉินมอบหมายงานให้ผมไว้แล้ว พวกเขาไม่ต้องกังวล!”

พยาบาลพยักหน้า จากนั้นจึงหันไปพูดกับทุกคนว่า “หมอเฉินปิ่งเซิงมอบหมายงานให้หมอเฉินชางไว้แล้วค่ะ ทุกคนอย่าเข้าไปรบกวนการผ่าตัดเลยค่ะ!”

เมื่อเห็นสภาพภายในช่องท้องของผู้ป่วย เฉินชางก็ต้องสูดหายใจลึก! จากนั้นจึงหยิบกล้องผ่าตัดออกมา พูดกับพยาบาลว่า “ส่งมีดให้ผม เปลี่ยนเป็นผ่าตัดเปิดช่องท้อง!”

ผู้ป่วยมีอาการถุงน้ำดีอักเสบและกระเพาะอักเสบเรื้อรัง ทำให้แยกอวัยวะบริเวณสามเหลี่ยมถุงน้ำดีได้ไม่ชัดเจน แยกระบบท่อน้ำเหลืองและท่อน้ำดีไม่ออก หากเกิดสถานการณ์ต่างๆ เช่นท่อน้ำเหลืองปิดทับบริเวณขวามือของท่อตับ ท่อน้ำเหลืองปิดทับซ้ายมือของท่อน้ำดี ท่อตับทางซ้ายและขวามาชนกัน หรือท่อน้ำเหลืองตีบตันและเกิดอาการอักเสบรุนแรง จะทำให้ดูท่อตับและท่อน้ำดีผิดได้

ก่อนที่เหล่าเฉินจะสลบไป แม้เขาจะพยายามเต็มที่แล้ว แต่ตะขอไฟฟ้าก็ยังไปทำลายท่อน้ำดีโดยไม่ทันระวัง! ตอนนี้จึงต้องเปลี่ยนไปใช้การผ่าตัดแบบเปิดช่องท้องแทน!

หลังจากผ่าเปิดท้อง เฉินชางก็กรีดบริเวณท่อน้ำดีส่วนบนและส่วนล่างของส่วนที่เสียหายออก จากนั้นจะต้องเย็บเชื่อมอวัยวะส่วนปลายให้ติดกันเพื่อสร้างท่อน้ำดีขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

เฉินชางพูดเสียงต่ำว่า “ขอไหม PDS เบอร์ห้า”

พยาบาลรีบส่งไปให้ทันที!

เฉินชางเย็บอย่างระมัดระวัง เขาจำเป็นต้องทำให้แน่ใจว่าผู้ป่วยจะไม่มีอะไรเสียหาย ไม่ใช่เพียงเพราะเป็นความรับผิดชอบต่อผู้ป่วยเท่านั้น แต่เป็นความรับผิดชอบต่อเหล่าเฉินด้วย หลังจากเย็บเสร็จจึงเริ่มผ่าตัดต่อไป

ในห้องผ่าตัด บรรยากาศกดดันมาก ทุกคนไม่ผ่อนคลายและทำตัวสบายอกสบายใจเหมือนยามปกติ ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่น่ากลัวที่สุด

ห้องผ่าตัดเป็นสถานที่ที่เคร่งเครียด แต่เมื่อทุกคนเงียบจนไม่ยอมพูดอะไร นั่นเป็นการแสดงให้เห็นว่าการผ่าตัดยากจนทุกคนไม่มั่นใจ ด้วยเหตุนี้จึงควรทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลงสักหน่อย

เสียงอุปกรณ์ดังขึ้น ในที่สุดเฉินชางก็ผ่าตัดสำเร็จ! ทำให้ผ่อนคลายลงได้ในที่สุด

พยาบาลฉุยหรงหรงอดถามไม่ได้ว่า “หมอ…เฉิน ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?”

เฉินชางชะงักไป “หือ? อะไรหรือครับ?”

ฉุยหรงหรงถามต่อ “การผ่าตัด…เมื่อกี้นี้ ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?”

เฉินชางยิ้มออกมาโดยพลัน “ไม่มีอะไรหรอกครับ เหล่าเฉินผ่าตัดส่วนใหญ่เสร็จไปแล้ว ผมแค่ทำส่วนท้ายให้เสร็จเท่านั้น”

พยาบาลทั้งหลายไม่เข้าใจขั้นตอนการผ่าตัด อีกทั้งเฉินชางไม่อยากให้คนอื่นรู้มากเกินไปจึงพูดโกหกไปเช่นนั้น

[1] ฟลูนาริซีน (Flunarizine) คือยาในกลุ่มต้านการทำงานของสารฮีสตามีน (Antihistamine) และยาที่ควบคุมการทำงานของแคลเซียม ทำให้หลอดเลือดขยายตัว (Calcium Channel Blocker) ใช้รักษาและป้องกันโรคศีรษะไมเกรน โรคเกี่ยวกับหลอดเลือดสมอง อาการวิงเวียนศีรษะ และโรคที่เกี่ยวข้องกับการทรงตัว เช่น บ้านหมุน ฟลูนาริซีนเป็นยาที่มีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการง่วงซึม ไม่ควรรับประทานเกินวันละ 10 มิลลิกรัม

[2] โทเซรูติน (Troxerutin) คือยาที่ใช้กับโรคเกี่ยวกับความผิดปกติของการไหลเวียนโลหิตเนื่องจากความเสียหายของหลอดเลือด เลือดอุดตันในเส้นเลือด มักมาพร้อมกับอาการบวมอักเสบและการเกิดเม็ดเลือดแดง เป็นยาผลิตขึ้นในรูปแบบเจลที่ใช้งานสะดวก ไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง และซึมเข้าไปในผิวหนังได้อย่างรวดเร็ว