ส่วนที่ 4 เทพแห่งเกมออนไลน์รักฉัน ตอนที่ 25-2 เทพแห่งเกมออนไลน์รักฉัน (ปัจฉิมบท)

ภารกิจขโมยใจ ผจญภัยต่างโลก

และต้นตอของความคับข้องใจทั้งหมดนี้ เอาเข้าจริงแล้วก็อยู่ที่ตัวอวี๋เซี่ยวเซี่ยวทั้งนั้น

 

 

เธอรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตี้ซื่อเทียนและซูเฉิงหว่านเย่ว์ตั้งแต่แรก แต่เธอยังไม่ชัดเจนกับเยี่ยเทียน และตามไล่จีบอยู่ตลอด…

 

 

แบบนี้เรียกว่าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ เหรอ

 

 

เป็นผู้หญิงร้ายได้แบบนี้ ก็ถือว่าหาได้ยากจริงๆ

 

 

“ใช่แล้ว เกือบลืมเอาอันนี้ให้เธอ”

 

 

ซูหว่านหยิบแท็บเล็ตออกมาจากกระเป๋าของเธอ และเปิดวิดีโอที่เชื่อมต่อเสร็จตั้งนานแล้วพูดว่า “นี่ ดูสิ วีดีโอการถ่ายทอดสดงานเฉลิมฉลองพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชาย มันยิ่งใหญ่มากเลยใช่ไหม”

 

 

ในเวลานี้งานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่กำลังเล่นอยู่บนหน้าจอแท็บเล็ต และใบหน้าหน้าของเจ้าบ่าวก็มีโครงหน้าคมคาย ดวงตาสีฟ้า และผมสีดำบริสุทธิ์ นี่คือเจ้าชายชาลส์ภารกิจ คนรักคนปัจจุบันของอวี๋เซี่ยวเซี่ยว

 

 

“นี่…นี่คืออะไร ซูหว่าน นี่ต้องเป็นคนที่เธอหามาจัดฉากแน่ นี่ไม่ใช่เรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องจริง!”

 

 

อวี๋เซี่ยวเซี่ยวส่ายหัวอย่างสุดชีวิต ดวงตาของเธอแดงก่ำ กัดริมฝีปากและพูดว่า “ซูหว่าน เธอต้องการทำอะไรกันแน่ ทำไมเธอถึงไม่ยอมปล่อยฉันไป”

 

 

ซูหว่านส่ายหัวพูดว่า “เป็นเธอต่างหากที่ไม่ปล่อยตัวเอง ถ้าเธออยู่กับเยี่ยเทียนอย่างสงบๆ ดีๆ จะมีเรื่องในวันนี้เหรอ อวี๋เซี่ยวเซี่ยวเรื่องทุกอย่าง เธอทำตัวเธอเองทั้งหมด อย่าใช้รักแท้ของเยี่ยเทียนมาเอ่ยปากเพื่อเป็นข้ออ้างในการเสียสละของเยี่ยเทียน หากเธอรักเยี่ยเทียนจริงๆ และไม่รู้สึกอะไรกับชาลส์ แล้วเธอจะมาตกใจอะไรกับการที่ได้เห็นเจ้าชายชาลส์แต่งงาน เธอเสียใจอะไร เธอเห็นตัวเธอเองเป็นอะไร รักแท้ของเจ้าชายงั้นเหรอ เธออ่านนิยายมากเกินไปหรือเปล่า เธอก็แค่หนึ่งในคนรักมากมายของเขาเจ้าชายชาลส์ ที่มาสนใจเธอแค่ช่วงหนึ่งเท่านั้น และที่เขาตอบตกลงว่าจะช่วยเธอนั้นก็เพราะเขาเห็นพรสวรรค์ของเยี่ยเทียนเท่านั้น!”

 

 

ขณะพูด ซูหว่านผลักแท็บเล็ตไปที่หน้าอวี๋เซี่ยวเซี่ยว “เธอลืมตาและมองดีๆ กลุ่มเพื่อนเจ้าบ่าวคือใคร”

 

 

คือ…

 

 

เยี่ยเทียน

 

 

เยี่ยเทียนในวันนี้ไม่ได้หมดสภาพหรือจิตตกเหมือนเมื่อตอนที่ตระกูลเยี่ยล้มละลาย เขาสวมชุดพิธีการสีดำ และก็ดูมีชีวิตชีวามาก

 

 

“ไม่ ไม่จริง มันไม่จริง” ร่างกายของอวี๋เซี่ยวเซี่ยวราวกับถูกดูดเรี่ยวแรงออกไปจนหมด เธอโผตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ จากนั้นก็วิ่งออกจากร้านกาแฟเหมือนคนบ้า ซูหว่านมองร่างที่อยู่บนพื้นหิมะ เธอมองดูอวี๋เซี่ยวเซี่ยวที่วิ่งไปด้วยโทรศัพท์ไปด้วยอย่างนิ่งเงียบ จากนั้นรถที่ขับมาด้วยความเร็วก็พุ่งชนตัวเธออย่างจัง…

 

 

เลือดสีแดงสดอาบย้อมบนหิมะสีขาวเงิน

 

 

ซูหว่านปิดแท็บเล็ตอย่างเงียบๆ และโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

 

“ทำได้เยี่ยมมาก”

 

 

ซูหว่านรับโทรศัพท์ และฝั่งนั้นก็มีเสียงไพเราะของผู้หญิงดังออกมาพูดด้วยน้ำเสียงต่ำเป็นภาษาต่างประเทศว่า “คนพวกนี้ทำให้ราชวงศ์เสื่อมเสีย ถูกกำจัดยิ่งเร็วยิ่งดี และแน่นอนว่าต้องขอบคุณสำหรับความเอื้อเฟื้อช่วยเหลือของเธอนะซู ไม่ว่าจะด้านการเงินหรือด้านข้อมูล ฉันรู้สึกขอบคุณอย่างจริงใจ! คุณวางใจได้ รอให้เจ้าชายของฉันเอาชนะชาลส์ในการขึ้นครองบัลลังก์ได้สำเร็จ จะไม่มีวันลืมคำสัญญา…ตระกูลเย่จะไม่มีวันได้กลับมาเสนอหน้าอีก”

 

 

“ถ้างั้นซูหว่านก็ต้องขอบคุณสมเด็จพระราชินีด้วยเพคะ”

 

 

หลังจากวางสาย ซูหว่านก็เก็บของและจ่ายเงิน เดินออกจากร้านกาแฟคนเดียว เธออยู่ในโลกใบนี้มานานขนาดนี้แล้ว และยังเอาหุ้นทั้งหมดแลกเงินสดมาอย่างประเมินค่าไม่ได้ แล้วเอาไปใช้เพื่อสนับสนุนราชินีเนีย และนี่คือวันที่เธอรอ

 

 

เวลานี้สถานที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ก็ถูกล้อมรอบด้วยผู้คนจำนวนมาก และเลือดยังคงกระจายอยู่บนหิมะ ซูหว่านไม่ได้หันไปมองมันอีก

 

 

“คุณจะไปแล้วเหรอ”

 

 

ทันใดนั้นก็มีเสียงต่ำของผู้ชายดังขึ้นจากข้างหลัง

 

 

ซูหว่านชะงักเท้า แต่ก็ไม่ได้หันกลับไปมอง “ขอโทษ คราวนี้ฉันแย่งคะแนนของคุณไป คุณควรรู้ว่าชีวิตนี้ฉันเกลียดคนประเภทสำส่อน แล้วยังเอาคนอื่นมาป้องกันตัวเองที่สุด”

 

 

“อือ”

 

 

ซูรุ่ยที่อยู่ด้านหลังก้าวขึ้นหน้าหนึ่งก้าว คล้ายกับว่าเขาต้องการจะจับไหล่ซูหว่าน แต่ว่าทันใดนั้นซูหว่านก็ก้าวไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าวใหญ่

 

 

ท่ามกลางหิมะสีขาว ครั้งที่แล้ว เขาแบกเธอไว้บนหลังแล้วเดินไปข้างหน้า

 

 

คราวนี้ เธอกลับหันหลังให้เขา รักษาระยะห่างที่ใกล้ที่สุดเอาไว้ แต่ก็เป็นระยะห่างที่ไกลที่สุดเช่นกัน…

 

 

“ซูรุ่ย ถ้ามีครั้งหน้า ฉันก็จะทำแบบนี้อีก ดังนั้น คุณอย่าตามฉันอีก”

 

 

น้ำเสียงของซูหว่านจริงจังมาก ท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายลงมานั้นแสดงให้เห็นถึงความเหงา “ฉันจำไม่ได้ว่าฉันทำร้ายคนไปกี่คนแล้ว และฉันก็จะทำแบบนี้ต่อไป”

 

 

“อือ”

 

 

ซูรุ่ยตอบรับเสียงหนึ่ง น้ำเสียงของเขาดูไม่ใส่ใจ แต่อันที่จริงแล้วจริงจัง “ซูหว่าน ผมฆ่าคนมากกว่าคุณ ผมโหดร้ายกว่าคุณด้วยซ้ำ แต่…ซูหว่าน คุณรู้ไหม ผมมาที่ห้วงกาลอวกาศที่สาบสูญ กลายเป็นเจ้าหน้าที่ เพื่อมาหาคุณ ถึงแม้ผมจะไม่ได้รับคะแนนก็ไม่เป็นไร ขอเพียงอยู่ในโลกใบเดียวกับคุณ ผมก็รู้สึกพอใจมากแล้ว”

 

 

“งั้นเหรอ”

 

 

น้ำเสียงของซูหว่านดูลังเลและสับสนเล็กน้อย

 

 

ในตอนนี้เธอเริ่มติดต่อสำนักงานใหญ่แล้ว และยืนยันการออกจากภารกิจ…

 

 

ซูรุ่ย…

 

 

ฉันอยากจะเชื่อ แต่ก็ไม่กล้าเชื่อคุณ

 

 

ได้โปรดยกโทษให้กับความขี้ขลาดและเห็นแก่ตัวของฉันด้วย ความเห็นแก่ตัวที่ต้องการความเชื่อมั่นมากกว่านี้ มากยิ่งกว่านี้ ถึงจะกล้ามอบความจริงใจของฉันให้กับคุณ…

 

 

หิมะตกหนักบดบังการมองเห็นของซูรุ่ย ซูหว่านยิ่งเดินยิ่งจากไปไกล เวลานี้ในหัวของซูรุ่ยได้ยินเสียงแจ้งเตือนว่าภารกิจล้มเหลวแล้ว…

 

 

อวี๋เซี่ยวเซี่ยวเสียชีวิตแล้ว และภารกิจถูกตัดสินว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

 

 

“ภารกิจล้มเหลวแล้วล่ะค่ะ!”

 

 

ซูเสี่ยวซูไม่รู้ว่าออกมาจากที่ใด สวมเสื้อแจ็คเก็ตขนนุ่มสีแดง เมื่อเห็นซูรุ่ยไม่ได้พูดอะไร ซูเสี่ยวซูก็กลอกตาไปมาและพูดกับตัวเองว่า “หลังจากภารกิจล้มเหลวแล้ว ก็ต้องออกจากโลกนี้ภายในเวลาที่กำหนดใช่ไหมคะ ปะป๊ารีบคัดลอกข้อมูลในชิปของหนูเร็ว! หนูคัดลอกระบบทั้งหมดของหลิงเสินมาหมดแล้ว ข้อมูลเหล่านี้จะถูกใช้ในภายหลังแน่นอน!”

 

 

คำพูดของซูเสี่ยวซูทำให้ซูรุ่ยกลับมามีสติอีกครั้ง

 

 

อันที่จริงตอนเห็นซูเสี่ยวซูครั้งแรกในเกม ซูรุ่ยเกิดความรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาในใจเป็นพิเศษ และหลังจากเกมออฟไลน์ในวันนั้น ซูเสี่ยวซูก็ปรากฏตัวในห้องนอนของซูรุ่ย นี่ทำให้ซูรุ่ยแน่ใจว่าเขาจะต้องมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับซูเสี่ยวซู

 

 

และเมื่อซูเสี่ยวซูเล่าเรื่องราวออกมา ซูรุ่ยถึงรู้ว่าเธอเป็นสุดยอดปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงที่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ได้ ซูเสี่ยวซูคือผลิตภัณฑ์รุ่นทดลองที่ผลิตขึ้นโดยซูรุ่ยจากโลกอนาคตสักใบที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

 

 

“ปะป๊า ที่จริงหนูเป็นแค่สำเนาข้อมูลเท่านั้น ตอนนี้หนูไม่สามารถออกจากโลกของ ‘หลิงเสิน’ ได้ แต่ว่ารอให้ถึงเวลาในห้วงภารกิจหนึ่งก่อน เมื่อในอนาคตหนูถูกคิดค้นออกมา พวกเราสามคนก็จะรวมตัวกันได้แล้ว”

 

 

นี่คือคำพูดเดิมของซูเสี่ยวซูที่บอกกับซูรุ่ยในเวลานั้น ในคำอธิบายของซูเสี่ยวซู รวมถึงซูหว่าน ทั้งสามคนเป็นครอบครัวที่มีความสุขมาก หรือบางทีอาจเป็นเพราะคำพูดของซูเสี่ยวซูนั้นเป็นสิ่งที่ใฝ่ฝัน หรือบางทีเพราะตัวเองรู้สึกว่ามีความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกับเธอมาก ดังนั้นซูรุ่ยจึงเชื่อคำพูดของซูเสี่ยวซู…

 

 

สำเนาของซูเสี่ยวซูถูกคนในโลกอนาคตมานำวางไว้ในโลกใบนี้ เธอไม่ได้เป็นเพียงตัวน่ารักที่มีชีวิตเท่านั้น!

 

 

ความจริงแล้วเธอมีภารกิจ นั่นคือการคัดลอกระบบข้อมูลของ ‘หลิงเสิน’

 

 

หลังจากที่ซูเสี่ยวซูถ่ายโอนข้อมูลทั้งหมดของ ‘หลิงเสิน’ ไปยังสมองของซูรุ่ยแล้ว เธอจึงกลายเป็นชุดข้อมูลและกลับไปที่โลกของเกม ‘หลิงเสิน’ อีกครั้งอย่างอาลัยอาวรณ์ หลังจากนี้เธอจะอยู่ได้แค่ในโลกนี้เท่านั้น…

 

 

“ซูเสี่ยวซู พวกเราจะเจอกันอีกแน่นอน!”

 

 

ซูรุ่ยทิ้งคำพูดเหล่านี้ไว้อย่างเงียบๆ หลังจากนั้นซูรุ่ยก็เริ่มทำตามขั้นตอนก่อนหน้านี้ เพื่อออกจากโลกภารกิจตามแนวทางปฏิบัติ…

 

 

ในโลกของ ‘หลิงเสิน’ เพื่อที่จะเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส โลกทั้งใบต่างปกคลุมไปด้วยสีเงินและหิมะที่กำลังโปรยปราย

 

 

ซูเสี่ยวซูเดินอยู่บนแผนที่ซึ่งไร้ผู้คนตามลำพังอย่างเงียบๆ และหิมะก็ปกคลุมบนไหล่เล็กๆ ของเธอ

 

 

“ปะป๋า หม่าม๊า”

 

 

จู่ๆ ซูเสี่ยวซูก็อยากจะร้องไห้ออกมา แต่…ดูเหมือนว่าปะป๊าของเธอจะลืมติดตั้งท่อน้ำตาให้เธอ

 

 

ตอนนั้นเธอถูกสร้างขึ้นด้วยความรู้สึกของมนุษย์ แต่เธอไม่ได้รับสิทธิ์ในการร้องไห้ ซูเสี่ยวซูดูเหมือนจะนึกถึงเสียงทุ้มต่ำของซูรุ่ยในอีกโลกหนึ่งขึ้นมา…

 

 

จากนี้ไปเธอจะชื่อว่าซูเสี่ยวซู เป็นลูกสาวของฉันและซูหว่าน

 

 

โลกของเธอไม่จำเป็นต้องมีน้ำตา เพราะพวกเราจะไม่ทำให้เธอร้องไห้

 

 

คนที่อยู่ในโลกนั้นมาตลอดจะต้องมีความสุขมากๆ เป็นพิเศษเลยใช่ไหม

 

 

จู่ๆ ซูเสี่ยวซูก็รู้สึกอิจฉาเล็กน้อย และอิจฉาร่างกายของตัวเอง

 

 

ในตอนนี้ ซูเสี่ยวซูคิดว่าเธอจะต้องติดอยู่ในโลกของ ‘หลิงเสิน’ ตลอดไป แต่เธอกลับไม่รู้ว่าเธอจะได้พบกับซูรุ่ยและซูหว่านอีกครั้งสักวันหนึ่งในอนาคต…