ตอนที่ 76 ถ้าพวกเราไม่ได้หย่ากัน… / ตอนที่ 77 หวังเจียเหยาคุกเข่าขอโทษ

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

ตอนที่ 76 ถ้าพวกเราไม่ได้หย่ากัน…

เย่เฉินแค่นเสียงแล้วเอาแต่ดื่มแชมเปญของตนเอง เสสายตามองไปทางขวา ไม่แยแสหล่อนแม้แต่น้อย

ผู้หญิงแสนยโสโอหัง มานั่งรถฉันแล้วยังมีหน้าใช้ฉันรินแชมเปญให้อีก? คิดเหลวไหลสุดๆ!

หวังเจียเหยาถูกมองข้าม ใบหน้ากระดากขณะถือแก้วแชมเปญ

เป็นเพราะที่นั่งด้านหน้ามองไม่เห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้านหลัง ดังนั้นซ่งหงเย่จึงไม่ได้เห็นความประดักประเดิดในตอนนี้ของหวังเจียเหยา

เวลาผ่านไปไม่ถึงสองนาที รถก็จอดลง

คนขับกุลีกุจอลงมาเปิดประตูให้เย่เฉิน จากนั้นเย่เฉินก็พาทั้งสองคนเข้าไปในวิลล่า

เพิ่งจะเข้าไปในชั้นหนึ่งของวิลล่า ทั้งสองคนก็ตื่นตะลึงไปกับความหรูหราของข้าวของเครื่องใช้และการประดับตกแต่งที่หรููหราภายในวิลล่า

ทั้งสองคนล้วนเป็นลูกคุณหนูเคยไปมาแล้วทุกที่ แต่ระดับความหรูหราและประณีตของวิลล่าเย่เฉินนั้นอยู่เกินเลยไปกว่าสิ่งที่พวกหล่อนเคยเห็นมาก!

วิลล่าหรูทั่วไปทันทีที่ก้าวเข้าไปก็แค่อลังการเวอร์วังเท่านั้น

แชนเดอเลียระย้าที่หรูหรา บันไดทรงประหลาด แถมในห้องโถงจะวางปะติมากรรมและของโบราณที่มูลค่าสูงเกินประเมิน

แต่ในวิลล่าของเย่เฉินนั้น ไม่มีของเวอร์ๆ พวกนี้แต่กลับแสดงให้เห็นความหรูหราอย่างที่สุด

ไม่มีทีวิติดผนังขนาดใหญ่ ไม่มีโคมไฟคริสตัล ไม่มีโคมไฟแชนเดอเลียและริ้วบัวบนเพดานที่ทับกันเป็นชั้นๆ

แต่ในวิลล่าของเย่เฉินกลับมีโซฟาขนาดใหญ่ที่เรียงเข้าหากัน เตาผิงและพรมผืนนุ่มรวมไปถึงโคมไฟขนาดใหญ่ที่ทันสมัย

ซ่งหงเย่และหวังเจียเหยาต่างก็เป็นพวกเห่อแฟชั่น ไม่ว่าจะแบรนด์เนมใดๆ ก็ไม่อาจเล็ดลอดสายตาพวกหล่อนไปได้

“สวรรค์ โคมโฟอันนี้เป็นแบรนด์ Flos กับ Arco ที่เป็นแบรนด์อิตาลีเหรอ? ทำไมฉันถึงไม่เคยเห็นเลยล่ะ?”

“ฉันเองก็ชอบเก้าอี้เอนตัวนี้จังเหมือนจะเป็นของ Eames”

ซ่งหงเย่สำรวจตรวจตราของชิ้นเล็กชิ้นน้อยในวิลล่าไม่หยุด ส่วนเย่เฉินเดินไปที่ตู้เย็นแล้วถามสาวๆ “พวกคุณจะดื่มอะไร?”

ซ่งหงเย่กล่าว “ฉันขอโค้กแล้วกัน”

หวังเจียเหยาก็กล่าวบ้าง “ฉันอยากได้น้ำผสมน้ำผึ้ง”

เย่เฉินนิ่งไป เขามองหวังเจียเหยาแล้วกล่าว “ที่นี่ไม่มีน้ำผสมน้ำผึ้งหรอกนะ มีแค่น้ำแร่”

ซ่งหงเย่หยิกหวังเจียเหยาเบาๆ แล้วกล่าวกับเพื่อนเสียงต่ำ “เธอนี่มันแอ๊บจริงๆ ยังจะให้เขาทำน้ำผสมน้ำผึ้งให้อีก!”

หวังเจียเหยาทำปากยื่น สามปีที่ผ่านมาหล่อนคุ้นเคยกับการที่เย่เฉินคอยให้บริการรับใช้หล่อน ถึงได้อยากจะลองสัมผัสมันอีกครั้ง

ทั้งสองคนรับน้ำดื่มที่เย่เฉินโยนมาให้ ซ่งหงเย่เปิดออกแล้วจิบก่อนจะกล่าว

“เย่เฉินฉันชอบสไตล์และสีของเฟอร์นิเจอร์ของบ้านนายจัง สีขาว สีฟ้า สีคราม ทำให้ฉันนึกถึงโรงแรมที่ภูเก็ตที่ฉันกับหวังเจียเหยาชอบที่สุด ฮ่าๆ”

เย่เฉินกล่าวเสียงเรียบ “อ้อ ที่นี่มีของหลายอย่างที่ส่งมาจากวิลล่าของผมที่ภูเก็ต เพราะมีของลิมิเต็ดเยอะเลย ทั้งโลกมีแค่ชิ้นเดียว จะทำใหม่อีกชิ้นก็ต้องใช้เวลาผมก็เลยไม่ได้ซื้อใหม่อีก”

“อะไรนะ? วิลล่าที่ภูเก็ตของคุณ? ตั้งอยู่ที่ไหน?”

ซ่งหงเย่และหวังเจียเหยาตกใจจนตัวค้างแข็ง เพราะทั้งสองคนชอบภูเก็ตมาก พวกหล่อนไปที่นั่นแทบทุกปี

หวังเจียเหยาเคยพูดนับครั้งไม่ถ้วนว่าต่อไปถ้ามีเงินจะต้องซื้อวิลล่าที่นั่นให้ได้

เย่เฉินครุ่นคิดแล้วกล่าวว่า “ที่แหลมพันวา มีพื้นที่ 2,300 กว่าตารางเมตร”

ซ่งหงเย่และหวังเจียเหยาอ้าปากค้าง

เซ่งหงเย่เกือบจะสำลักโค้ก “อกอีแป้นจะแตก! ฉันกับหวังเจียเหยาเคยอยู่วิลล่าที่นั่น! คืนละหกหมื่นกว่าหยวนเลย! ทุกครั้งที่เช่าที่นั่นหลายๆ คืนทำเอาฉันปวดใจอยู่นาน คิด…คิดไม่ถึงว่านายจะซื้อเลย!”

หวังเจียเหยาเองก็ตื่นเต้นอย่างยิ่ง หล่อนเคยไปที่นั่นมาตั้งหลายครั้ง ดวงตาหล่อนเองเหมือนจะมองเห็นวิลล่าของเย่เฉินที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ของทะเลอันดามันได้ 360 องศา!

“วิลล่าที่ภูเก็ต! ที่นั่นเป็นบ้านในฝันของฉันเลย! ไม่สนอะไรแล้วที่นั่นจะต้องเป็นของฉัน เย่เฉินต้องเป็นของฉัน! ฉันจะไม่คิดหน้าคิดหลังแล้ว!”

หวังเจียเหยาตื่นเต้นกระวนกระวาย

ซ่งหงเย่เห็นหวังเจียเหยาเพิ่งจะเข้ามาที่นี่ จึงไม่อาจสงบจิตใจเอาไว้ รีบร้อนกล่าว “เอ่อ พวกเราขึ้นไปดูด้านบนกันเถอะ”

เย่เฉินจึงถามพวกหล่อน “จะขึ้นบันได้หรือลิฟต์ล่ะ?”

ซ่งหงเย่กล่าว “เดินขึ้นบันได้ก็ได้”

เพิ่งจะเหยียบย่างไปบนขั้นบันไดสีขาวบริสุทธิ์ ซ่งหงเย่ก็สงสัยจนถามอีกฝ่าย “ทำไมฉันถึงได้รู้สึกว่าการออกแบบของบันไดบ้านนายเนี่ยมันคุ้นตาจริงๆ!”

เย่เฉินอดยิ้มไม่ได้ “พี่หงเย่นี่ตาไวดีจริง ไม่ว่าจะการออกแบบหรือแบรนด์สิ่งของต่างๆ ในบ้านผมเนี่ยก็ไม่รอดพ้นสายตาคุณเลยสินะ”

วิลล่าหลังนี้ของเย่เฉินจะว่าหรูหราก็หรูหรา แต่หากว่าคนที่ดูไม่เป็นมาก็จะมองมูลค่าของมันไม่ออก

สมแล้วที่ซ่งหงเย่เป็นไฮโซถึงได้มีความรู้ในเรื่องพวกนี้ เย่เฉินกล่าวว่า “ผมออกแบบตามบันไดในบ้านของโทนี่ สตาร์คจากภาพยนตร์เรื่อง ‘ไอรอนแมน’ ของมาเวลไง”

ซ่งหงเย่รีบกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฮ่าๆ ฉันก็ว่าทำไมมันคุ้นตาจังเลย นายยกวิลล่าหรูราคาหลายพันล้านในโลกมาร์เวลออกมาในโลกความจริงนี่เอง! เจ๋งสุดๆ!”

หวังเจียเหยาเองก็ชอบภาพยนตร์มาร์เวล และชอบโทนี่ สตาร์ค พอได้ยินเช่นนี้เจ้าหล่อนก็ดีใจจนเนื้อเต้น

“ถ้าฉันกับเย่เฉินยังไม่ได้หย่ากันล่ะก็ วิลล่าแห่งนี้คงตกเป็นของฉันแล้ว”

……………..

ตอนที่ 77 หวังเจียเหยาคุกเข่าขอโทษ!

หวังเจียเหยามองบ้านหรูตรงหน้าแล้วรู้สึกเสียดายสุดๆ

หวังเจียเหยาที่อยู่ด้านหลังดึงชายเสื้อซ่งหงเย่ไม่หยุดแล้วออดอ้อนเสียงหวาน

“ฉันเองก็ชอบไอรอนแมน ฉันก็ชอบบันไดนี้เหมือนกัน!”

ซ่งหงเย่ส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่าย “ดูสภาพเธอเข้าสิ”

ก่อนที่ทั้งสองคนจะมา ซ่งหงเย่เพิ่งกำชับกับหวังเจียเหยาไปว่า ให้อีกฝ่ายสงบจิตใจ หล่อนจะช่วยสร้างโอกาสให้ทั้งสองคนได้อยู่ด้วยกันตามลำพังเอง

แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ทำเรื่องสำคัญเลย หวังเจียเหยาก็ทนไม่ไหวเสียแล้ว

เย่เฉินจึงพาทั้งสองคนเดินที่ชั้นสองอีกครู่หนึ่งแต่ก็ยังคงทำให้หญิงสาวทั้งสองคนบ้าคลั่งไปกับความหรูหราของวิลล่าแห่งนี้

ซ่งหงเย่กล่าวถาม “เย่เฉิน ห้องนอนใหญ่ของนายอยู่ที่ไหน? เราอยากเห็นห้องนอนนายจัง”

“อยู่ชั้นสาม ตามผมมาสิ”

เย่เฉินเดินไปนำหน้าพาทั้งสองคนไปยังห้องนอนของตนเอง

บริเวณหน้าห้องสะอาดหมดจด หลังจากเปิดประตูแล้วทั้งสามคนก็สัมผัสได้ถึงความเย็นสดชื่น

พอไฟอัตโนมัติเปิดออก ซ่งหงเย่และหวังเจียเหยาก็เห็นห้องที่เย่เฉินนอน

ภายในห้องสะอาดหมดจด ไม่มีสิ่งของวางระเกะระกะ

เตียงนอนสีขาว โคมไฟสีขาวทำให้ดูค่อนข้างสะอาดตา

ภายในห้องนอนแทบไม่ได้ประดับตกแต่ง ด้านบนกำแพงสีอ่อนมีเพียงกลอนบทหนึ่งแขวนเอาไว้

ซ่งหงเย่เดินเข้าไปดูอย่างอดไม่ได้แล้วท่องกลอน

“ที่จริงที่ข้าหวัง ก็เพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียว”

“ฉันไม่เคยร้องขอให้คุณมอบ”

“ชีวิตของคุณให้”

“ณ หุบเขาที่บุปผาเบ่งบาน”

“หากเราสองได้พานพบ”

“หากได้รักกันอย่างลึกซึ้งสักครั้งแล้วลาจาก”

“เช่นนั้นแล้วตลอดช่วงชีวิตที่ยาวนาน”

“มันก็เป็นแค่ เป็นแค่”

“วินาทีที่พานพบ”

“วินาทีที่แสนสั้นนั้นเอง”

ซ่งหงเย่อ่านกลอนจบโดยไร้ซึ่งอารมณ์ใด แต่จู่ๆ หวังเจียเหยาก็โพล่งออกมาว่า “ การรอคอย[1]ของซีมู่หรง[2]นี่นา”

นี่เป็นกลอนยุคใหม่ เป็นกลอนของนักแต่งกลอนชื่อดังซีมู่หรง ซึ่งเป็นหนึ่งในบทกลอนที่เย่เฉินชื่นชอบที่สุด

หวังเจียเหยาเองก็ชอบกลอนบทนี้มาก หล่อนมองตัวอักษรที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณแล้วอดยื่นมือไปแตะภาพวาดที่ประณีตไม่ได้

ทว่าทันทีที่มือไปแตะกับกระดาษ จู่ๆ ในห้องก็มีเสียงดนตรีดังขึ้น

“ตึง ตึง ตึง……”

“เพลงคุ้นจังเลย นี่มันเพลงประกอบของ ‘The Story of a Noble Family’ [3]นี่!”

หวังเจียเหยาตกใจ ในปีแรกที่หล่อนแต่งงานกับเย่เฉินพวกเขาดูละครเรื่อง ‘The Story of a Noble Family’ นี้ด้วยกัน

ซ่งหงเย่เองก็แปลกใจเช่นกันทำไมพอแตะกระดาษแผ่นนี้แล้วถึงได้มีเสียงเพลงดังขึ้น?

“เป็นเพลงจากกล่องเพลงเหรอ?” ซ่งหงเย่ถาม

เจ้าหล่อนเองก็รู้สึกประหลาดใจ ทำไมแค่พอแตะภาพวาดกลอนก็มีเสียงเพลงดังออกมาได้นะ?

“เป็นดนตรีจากกล่องเพลงเหรอ?” ซ่งหงเย่กล่าวถาม

เย่เฉินตอบพร้อมยิ้ม “เป็น Timbre ประเภทหนึ่งใน NEXUS น่ะ ”

“NEXUS คืออะไรกัน?”

ซ่งหงเย่งุนงง ในที่สุดก็มีของบางอย่างที่หล่อนไม่เคยได้ยินมาก่อน

ถ้าเป็นในด้านดนตรีหวังเจียเหยาถือได้ว่ามีความรู้มากกว่าอีกฝ่าย จึงกล่าวอธิบาย “เป็นเครื่องมิกซ์เพลงของพวกดนตรีอิเลกโทรนิคส์น่ะ”

จากนั้นหวังเจียเหยาก็มองเย่เฉินแล้วกล่าว “ฉันชอบโทนเสียงนี้จังเลย พอจะส่งมาให้ฉันได้ไหม?”

เย่เฉินก็ยังไม่มองหวังเจียเหยา ไม่ได้มีท่าทีจะแยแสหล่อนเลย

ในเวลานี้เองจู่ๆ ซ่งหงเย่ก็กล่าวว่า “เอ่อ ฉันว่าฉันลงไปโทรหาสามีฉันหน่อยดีกว่า พวกเธอสองคนคุยกันต่อเถอะ”

พูดจบหล่อนก็ออกจากห้อง แล้วไม่ลืมปิดประตูเพื่อให้พวกเขาได้อยู่กันตามลำพังในห้อง

ซึ่งนี่ก็คือเป้าหมายในการมาครั้งนี้

ก็เพื่อให้หวังเจียเหยาได้อยู่กับเย่เฉินสองต่อสอง จากนั้นจะได้…

ขอโทษ?

“เย่เฉิน ฉันขอโทษ!”

หวังเจียเหยา สาวงามลำดับหนึ่งแห่งอวิ๋นโจว ที่แต่ไหนแต่ไรมาทำตัวเย่อหยิ่งไม่สนใจใครและมีแต่ชายหนุ่มรุมล้อมพะเน้าพะนอเอาใจ

ทรุดตัวคุกเข่าลงบนพื้นต่อหน้าเย่เฉินเพื่อขอโทษเขา!

…………………..

[1] 盼望 แต่งโดยซีมู่หรง

[2] 席慕容 (xí mù róng) เป็นนักวาด นักเขียน ขาวจีน ชาติพันธ์มองโกล เกิดปี 1943

[3] เป็นละครของช่อง CCTV8 ในปี 2003 นำแสดงโดยเฉินคุน ต่งเจี๋ยและหลิวอี้เฟย