“นี่พวกนายกล้าดียังไงถึงได้มาหาเรื่องคนอื่นเขาตอนกลางวันแสก ๆ แบบนี้ ถ้าพวกนายทำอะไรพวกฉันจริง ๆ ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!” หลี่หรง ตะโกนขึ้นด้วยสีหน้ากังวล

ถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่าพี่เขยของเธอเก่งสุด ๆ แต่วันนี้เป็นวันดีที่พวกเขาพา ถวนถวนออกมาเที่ยวเล่น ฉะนั้นถ้าให้เลือกได้เธอก็อยากลองใช้คำพูดขู่คนพวกนี้ออกไปก่อนโดยที่จะได้ไม่ต้องลงไม้ลงมือกันให้รุนแรงเละเทะต่อหน้า ถวนถวน

ในทางกลับกันพวกนักเลงระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นทันทีเมื่อได้ยินคำขู่ของ หลี่หรง

“ฮ่าฮ่าฮ่า สาวน้อยถ้าเธออยากโทรแจ้งตำรวจล่ะก็ เอาเลย! โทรเลย! แต่ฉันมั่นใจว่าก่อนที่ตำรวจจะมาถึง ไอ้ผู้ชายของเธอมันคงพิการไปก่อนแล้วแน่นอน!”

อู่ปิง เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเยาะเย้ยพร้อมกับส่งสัญญาณให้คนของเขาบุกเข้าไปยำ อวี้ฮ่าวหราน ทันที

“เฮ้อ…ฉันก็นึกว่าวันนี้จะไม่มีเรื่องอะไรอีกแล้วแท้ๆ…” หลี่หรง ถอนหายใจพร้อมกับส่ายหัว เธอไม่ได้แสดงสีหน้าหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อยถึงแม้ว่าจะถูกล้อมรอบโดยนักเลงสิบกว่าคน

ถึงแม้ว่า หลี่หรง จะยินดีเป็นอย่างมากที่เดี๋ยวนี้พี่เขยของเธอกลายเป็นคนเก่งกาจ แต่เธอก็รู้สึกละอาใจในเวลาเดียวกันเพราะมันเหมือนว่าความเก่งกาจที่พี่เขยของเธอมีเพิ่มขึ้นมานั้นมันเป็นคำสาปกลาย ๆ ทำให้เขากลายเป็นเหมือนแม่เหล็กดูดปัญหาได้อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

“เหอะ! พวกมดแมลงนี่มันน่ารำคาญจริง ๆ”

ในเวลาเดียวกัน อวี้ฮ่าวหราน ก็เริ่มรู้สึกรำคาญเขายื่น ถวนถวน ให้ หลี่หรง อุ้มก่อนที่จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยจากจุดที่เขายืนอยู่!

บรรดาพวกนักเลงที่กำลังวิ่งเข้าไปหา อวี้ฮ่าวหราน หยุดชะงักทันทีเมื่อจู่ ๆ ก็เห็นว่าเป้าหมายของตัวเองหายไป!

มันหายไปไหน?

“กร๊อบ!!”

“อ๊าก!!”

แต่แล้วในขณะที่ทุกคนกำลังงุนงง เสียงกระดูกหักและเสียงร้องโหยหวนก็ดังลั่นขึ้นไม่ไกลจากพวกเขา

มันคือหนึ่งในพวกเขาเองที่ในตอนนี้นอนลงไปดิ้นกับพื้นในสภาพที่แขนขวาถูกหักจนแทบจะเป็นเลขแปด และที่น่าตกใจไปกว่านั้นก็คือ อวี้ฮ่าวหราน กำลังยืนจ้องพวกเขาด้วยสายตาอำมหิตราวกับเสือกำลังมองลูกแกะเหนือร่างของสหายพวกเขาที่กำลังนอนดิ้นอยู่

สายตาเช่นนี้ของ อวี้ฮ่าวหราน ทำให้บรรดาพวกนักเลงจนลุกไปทั่วทั้งตัว

“ก…แก..แกไปโผล่ตรงนั้นได้ยังไง!”

“ตาฝาด เมื่อกี้ฉันต้องตาฝาดไปแน่ ๆ จริงๆแล้วแกยืนอยู่ตรงนั้นนานแล้วใช่ไหม!?”

บรรดานักเลงต่างไม่อยากจะเชื่อตัวเองที่จู่ ๆ เห็นว่า อวี้ฮ่าวหราน ไปโผล่อีกที่หนึ่งได้ราวกับมีเวทมนตร์หายตัว

สิ่งนี้มันเกินความเข้าใจของพวกเขามากเกินไปจนพวกเขาคิดว่าตัวเองเห็นภาพหลอน

แต่แล้วภาพหลอนนั้นก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง!

“กร๊อบ!!”

“อ๊าก!”

อวี้ฮ่าวหราน หายตัวไปปรากฏที่ข้างหลังนักเลงอีกคนหนึ่งภายในพริบตาเหมือนเดิมและหักแขนฝั่งตรงข้างจนบิดเบี้ยวพร้อมกับเหวี่ยงร่างให้กระเด็นออกไปราวกับโยนขยะชิ้นหนึ่ง

เมื่อเห็นเช่นนี้พวกนังเลงทุกคนเข้าใจแล้วว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดแน่นอนเมื่อครู่ ทุกอย่างเป็นเรื่องจริง!

ชายที่พวกเขาเผชิญอยู่มันไม่ใช่คนแล้ว!

มันต้องเป็นปีศาจจากนรกแน่นอน ไม่งั้นมันคงไม่โหดเหี้ยมแบบนี้!

แบบนี้พวกเขาสู้ไม่ได้แน่นอน!

ต้องหนี!

ใช่ต้องหนี!

“พ..พวกเรา..ถ..ถอยก่อน!!”

หนึ่งในพวกนักเลงตะโกนดังลั่นทันทีพร้อมกับหันหลังหนีอย่างไม่คิดชีวิต!

ถึงแม้ว่าเขาจะถูกจ้างมาในราคาแพง แต่เขาถูกจ้างมาให้สู้กับมนุษย์ด้วยกันไม่ใช่ปีศาจแบบนี้!

อวี้ฮ่าวหราน เมื่อเห็นความแตกตื่นของบรรดานักเลง เขาหัวเราะด้วยความขบขันเบา ๆ แต่เขาตัดสินใจแล้วว่าจะต้องสั่งสอนไอ้คนพวกนี้ที่มาทำลายความสุขในวันสบาย ๆ ของเขาสักหน่อย!

เมื่อคิดได้เช่นนี้ อวี้ฮ่าวหราน พุ่งตัวไล่ตามนักเลงทุกคนที่ยังคงวิ่งหนีไปได้ไม่ไกลทันที

“พลั่ก พลั่ก พลั่ก!!”

“อั่ก!!”

“โครม!!”

“อ๊าก!!”

“กร๊อบ!!”

ร่างของ อวี้ฮ่าวหราน รวดเร็วดุจดั่งสายฟ้า ทุกครั้งที่ร่างของเขาหยุดมันจะต้องมีเสียงหักของกระดูกและเสียงร้องโหยหวนในทุก ๆ ครั้ง

สิ่งนี้มันเรียกได้ว่าการสังหารหมู่อยู่ฝั่งเดียว!

ในเวลาไม่เกิน1นาที นักเลงสิบกว่าคนที่เคยยืนล้อมรอบ อวี้ฮ่าวหราน เมื่อครู่ก็นอนร้องโอดโอยโดยที่ทุกคนถูกหักแขนไปคนละข้างและโดนอัดไปบ้างตามอาการขัดขืนที่พวกเขาแสดงออก

อู่ปิง ซึ่งยังไม่ถูก อวี้ฮ่าวหราน แตะต้องมองภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

นี่พี่เซี่ยให้เขามาจัดการกับตัวบ้าอะไรกันเนี่ย?

อย่างไรก็ตาม ด้วยประสบการณ์ที่อยู่ในวงการนักเลงมาช้านานและผ่านความตายมาหลายรอบ เขาจึงดึงสติคืนได้อย่างรวดเร็วและชักมีดออกมากำไว้เตรียมพร้อมรอรับการโจมตี โดยที่เขาไม่มั่นใจเลยสักนิดว่าตัวเองจะไหวรึเปล่า

แต่แล้ววินาทีต่อมามันก็เป็นไปตามที่เขาคาดเอาไว้ อวี้ฮ่าวหราน พุ่งเข้ามาปรากฏตรงหน้าของเขาจริงๆ!

ในทันทีที่ อวี้ฮ่าวหราน ปรากฏตัวขึ้น อู่ปิง ตวัดมีดของเขาทันทีด้วยความเร็วและแรงที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้

อวี้ฮ่าวหราน ยักไหล่เล็กน้อยกับการกระทำของ อู่ปิง

เขากางมือออกไปกำมีดของ อู่ปิง แบบง่าย ๆ ด้วยความเร็วที่เหนือมนุษย์และบีบใบมีดจนบิดผิดรูป ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีดเล่มนี้เป็นของราคาแพงพอสมควรเพราะมันยืดหยุ่นเป็นอย่างมากจน อวี้ฮ่าวหราน ไม่สามารถบีบมันให้แตกคามือได้เหมือนมีดทั่ว ๆ ไป

ทางด้านของ อู่ปิง กว่าจะมองทันก็มาเห็นอีกทีว่าตอนนี้มีดของตัวเองถูกฝั่งตรงข้ามใช้มือเปล่าบีบใบมีดจนบิดงอหมดสภาพไปแล้ว

สิ่งนี้ทำให้เขาแหงนหน้ามอง อวี้ฮ่าวหราน ด้วยสายตาทั้งหวาดกลัวทั้งสิ้นหวังทั้งตกตะลึง

มีดเล่มนี้เขาสั่งช่างตีมีดอันดับต้น ๆ ของเมืองทำให้เขาโดยเฉพาะซึ่งมันแพงมาก แต่ผู้ชายคนนี้กลับใช้มือเปล่าบีบใบมีดจนงอผิดรูปได้ง่าย ๆ ราวกับขยี้ดินน้ำมันซะงั้น?

เขาจะเอาอะไรไปสู้กับคนที่แข็งแกร่งเหนือมนุษย์แบบนี้ได้?

เขากล้าดียังไงถึงได้มาหาเรื่องตัวตนที่เหนือจินตนาการแบบนี้?

วันนี้เขาคงจะต้องตายที่นี่ใช่ไหม?

อู่ปิง ค่อย ๆ ปล่อยมือออกจากมีดด้วยสีหน้ายอมรับชะตากรรม

ขัดขืนต่อไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ฝั่งตรงข้ามมันคงไม่ใช่มนุษย์แน่นอน ดังนั้นมันจะไปมีประโยชน์อะไรหากเขายังขัดขืนต่อไป?

อวี้ฮ่าวหราน ส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยัน เมื่อเห้นว่าฝั่งตรงข้ามปล่อยมีดด้วยท่าทีหมดอาลัยตายอยาก เขาโยนมีดทิ้งไปและเตะไปที่ชายโครงของ อู่ปิง อย่างรวดเร็ว

ลุกเตะนี้ของ อวี้ฮ่าวหราน ส่งร่าง อู่ปิง กระเด็นไปไกลเกือบ10เมตรและทำให้กระดูกซี่โครงหักไปอย่างน้อย4ซี่

“อั่ก!”

อู่ปิง กระอักเลือดออกมาคำโตในขณะที่พยายามยันกายขึ้นมานั่ง ตอนนี้เขาและคนของเขาไม่หลงเหลือท่าทีหยิ่งผยองแบบในตอนแรกอีกต่อไปแล้ว

เขามองไปที่ อวี้ฮ่าวหราน เพื่อดูว่านับจากนี้เทพมรณะผู้นี้จะทรมานเขายังไงต่ออีก