ตอนที่ 217 ความตกใจของหลิ่วอวี้เฉิน (3)/ตอนที่ 218 ถานซวงซวงริษยา (1)

เฟิงหรูชิง องค์หญิงหมอเทวดา

ตอนที่ 217 ความตกใจของหลิ่วอวี้เฉิน (3)

“งั้นข้าขอถามเจ้าสักเรื่อง เจ้าเคยเห็นข้าตะโกนเรียกเจ้าก่อนหรือไม่ มีครั้งไหนบ้างที่ไม่ใช่พวกเจ้าทำตัวราวกับสุนัขคลุ้มคลั่ง แว้งกัดข้าไม่ปล่อยกัน” รอยยิ้มในดวงตานางหายไป ประกายเย็นเยือกเข้ามาแทนที่

“ในหนังสือประกาศข้าเขียนอย่างชัดเจนแล้ว เป็นเพราะเฟิงหรูซวงสรรเสริญเยินยอเจ้าต่อหน้าข้า ทำให้ข้าเกิดความรู้สึกดีๆ ให้กับเจ้า ต่อมาข้าพบว่าเจ้าไม่ใช่คนดีของข้า กระทั่งเจ้ามีหญิงในดวงใจแล้ว ทำไมข้าต้องจับเจ้าไว้ไม่ปล่อยอีก ล้วนเป็นพวกเจ้าที่จับข้าไม่ปล่อย! ราวีไม่เลิกรา! ข้าเฟิงหรูชิงหาใช่คนใจดีมีเมตตาอะไร คนมาเหยียบถึงหัวข้า ไฉนข้าจำต้องทนด้วยเล่า”

หลิ่วอวี้เฉินตัวแข็งทื่อ

เหมือนว่า…จะเป็นเช่นนี้จริงๆ

นับตั้งแต่เฟิงหรูชิงฟื้นขึ้นมาครั้งนั้น เมื่อเจอกันข้างนอก นางไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตาเลย ทั้งไม่เคยเรียกรั้งเขาไว้ด้วย

เขาหลงคิดว่าเฟิงหรูชิงจงใจแกล้งปล่อยเพื่อจับ จนกระทั่งภายหลัง…สายตาที่นางมองกั๋วซือ กับสายตาที่มองเขาต่างออกไปโดยสิ้นเชิง

ความจริงในเสี้ยวขณะนั้น หลิ่วอวี้เฉินก็เข้าใจแล้ว เฟิงหรูชิงไม่ได้ชอบเขาจริงๆ !

ทุกครั้งที่ขัดแย้ง ล้วนเป็นเพราะเขาเรียกรั้งนางไว้ก่อน ถึงได้เกิดเรื่องในภายหลัง

กระทั่งเรื่องที่ร้านขายยาวิเศษคราวก่อน หลังท่านแม่กลับไปก็เล่าเรื่องนี้ให้เขาฟังตั้งแต่ต้นจนจบ ครั้งนั้นท่านแม่เป็นฝ่ายเห็นเฟิงหรูชิงก่อนถึงได้อดไม่ไหวเอ่ยปากออกไป

ตั้งแต่เริ่มต้นจนสุดท้ายนางไม่ได้เป็นฝ่ายเข้าหาเขาก่อนเลย!

หลิ่วอวี้เฉินสับสนอยู่ในใจเป็นอย่างยิ่ง เขาไม่ต้องการให้เฟิงหรูชิงตามราวีเขามาตลอด แต่พอเอาเข้าจริงๆ แล้วนางจะไม่วุ่นวายกับเขาอีก ในใจเขาปวดหนึบขึ้นมาน้อยๆ

ก็เหมือนกับว่า…สิ่งที่คอยล้อมหน้าล้อมหลังตัวเขาอยู่ตลอด สิ่งของที่เดิมเป็นของของเขา กลับหายลับไปไม่เห็นแล้ว!

ถานซวงซวงมองหลิ่วอวี้เฉินที่จมอยู่ในความคิด ในใจก็สั่นไหว มือที่จับอีกฝ่ายไว้ออกแรงหนักขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้หลิ่วอวี้เฉินหลุดออกจากภวังค์ความคิด

“หลิ่วอวี้เฉิน” เฟิงหรูชิงปรายตามองถานซวงซวง จากนั้นกวาดตามองหลิ่วอวี้เฉิน ยิ้มจางๆ เอ่ยว่า “ข้าไม่เข้าใจเลย ทุกคำพูดข้าก็เอ่ยอย่างชัดเจนแล้ว ทำไมสุดท้ายเจ้ายังคิดว่าข้าชอบเจ้าอีก ทำไมคิดว่าข้าลงโทษถานซวงซวง เพียงเพราะเจ้าชอบนางหรือ”

สีหน้าของหลิ่วอวี้เฉินฉายแววขบคิด

ที่เขาคิดว่านางยังชอบเขาเหมือนเดิม…

นั่นก็เพราะว่าถานซวงซวงเอาแต่พร่ำบอกกับเขาว่า ที่เฟิงหรูชิงแค้นนางขนาดนี้ก็เพราะเขารักนาง!

และก็เพราะเหตุนี้เอง หลิ่วอวี้เฉินมักคิดว่าตัวเองพลอยทำให้ถานซวงซวงลำบากไปด้วย ยิ่งรู้สึกผิดต่อนาง ถึงได้ยิ่งรังเกียจเฟิงหรูชิง

ตอนนี้เฟิงหรูชิงไม่รักเขาอีกแล้ว เขาถึงได้รู้สึกไขว้เขวเล็กน้อย

ที่ผ่านมาล้วนเป็นซวงเอ๋อร์ที่ชี้นำหลอกล่อเขาตลอดหรือ

ไม่มีทาง!

แต่ไรมาซวงเอ๋อร์ไร้เดียงสามีเมตตา ไม่มีทางทำเรื่องพรรค์นี้แน่!

“องค์หญิง” แววตาถานซวงซวงหวาดหวั่น กำมือแน่น สีหน้าซีดเซียวยกยิ้ม “ที่แท้ท่านทอดทิ้งอวี้เฉินมาตั้งแต่แรกแล้ว…ข้าหลงคิดว่ามาตลอดว่า ความรู้สึกที่ท่านมีต่อเขาจะไม่ยอมทิ้งไปง่ายๆ อย่างไรเสียเมื่อก่อนท่านก็ทำเพื่อเขา…มากมายนัก กระทั่ง ทำเรื่องไร้เหตุผลอย่างยิ่ง มาถึงวันนี้ข้าเข้าใจเสียทีว่า เป็นข้าที่เข้าใจท่านผิดไปเอง”

คำพูดนี้เผยความคิดออกมา เฟิงหรูชิงรักหลิ่วอวี้เฉินมากจนเกินไป ดังนั้น นางถึงเกิดความคิดเช่นนี้ หาใช่จงใจไม่

ความหนักใจของหลิ่วอวี้เฉิน ค่อยคลายลง

ซวงเอ๋อร์ของเขาใสซื่อเสียขนาดนี้ นางย่อมไม่มีเจตนาแน่ เป็นเพราะการกระทำของเฟิงหรูชิงในอดีตเกินเหตุไป จู่ๆ ก็ยอมปล่อยเขา ยากไม่ให้คนคิดมาก

ซวงเอ๋อร์นาง…มิใช่มีเจตนา

……………………….

ตอนที่ 218 ถานซวงซวงริษยา (1)

“ดูท่าเจ้าไม่ใช่แค่สมองไม่ดี หูก็ไม่ดีเช่นกัน” เฟิงหรูชิงดูแคลนถานซวงซวง สีหน้านางทรงอำนาจ ปรายตามองอีกฝ่าย “ข้าอยากให้เจ้าเป็นภรรยาของหลิ่วอวี้เฉินแทบจะแย่ ไยข้าต้องหาเรื่องเจ้าด้วย”

ถานซวงซวงหน้าซีดราวกับไร้เลือด แววตาเบิกกว้างมองเฟิงหรูชิงด้วยความตะลึงงัน

“ความจริงหลิ่วอวี้เฉินไม่ได้ดีขนาดนั้น หน้าตาก็ธรรมดา รูปร่างก็ดาษดื่น นิสัยเลวร้าย อ่อนแอ กระทั่งสติปัญญายังเป็นศูนย์ ตอนนั้นสายตาของข้าเลวร้ายนักที่จะเป็นฮูหยินตระกูลหลิ่ว”

เมื่อเทียบกันแล้ว กั๋วซือรูปโฉมงาม รูปร่าง…ปราดมองแวบเดียวก็เป็นประเภท นิสัยอ่อนโยน เป็นมิตรกับผู้อื่น ความสามารถก็….ต่อให้ไม่อาจคำนวนแน่ชัด แต่ก็น่าจะเข้มแข็ง

นางตาบอดหรือไร ถึงได้ไปติดพันกับหลิ่วอวี้เฉินไม่เลิกรา

คนทั้งหลายที่มุงอยู่ต่างก็ส่งเสียงเซ็งแซ่

ปีนั้น…เฟิงหรูชิงผู้นี้มิใช่ว่าชอบรูปโฉมของหลิ่วอวี้เฉิน จะเป็นจะตายก็ต้องแต่งกับเขาให้ได้ไม่ใช่หรือ คิดไม่ถึงว่าเมื่อตายแล้วคืนชีพกลับมาอีกครั้ง กลับดูแคลนเขา

คนทั้งหลายเห็นเฟิงหรูชิงหน้าเปลี่ยนจากเขียวคล้ำเป็นซีดขาว เดี๋ยวก็เปลี่ยนจากซีดขาวเป็นเขียวคล้ำ ราวกับเปิดโรงย้อมสี สีหน้าแปรเปลี่ยนสลับไปเรื่อย

แต่ในสายตาเขา ตั้งแต่ต้นจนจบหาไม่เคลื่อนออกจากตัวเฟิงหรูชิงเลย

ก็ถูก เมื่อก่อนเฟิงหรูชิงเป็นเสมือนภูเขายักษ์ ปราดตามอง นอกจากก้อนไขมันสั่นกระเพื่อมแล้ว ก็คือไขมัน ย่อมชวนให้คนหมดความอยากอาหาร ยามนี้นางเปลี่ยนแปลงไปมาก ส่วนหลิ่วอวี้เฉินก็เป็นพวกชมชอบหญิงงาม…

ภรรยาน้อยในเรือนหลังเขาต่างก็เป็นหญิงงามราวบุปผา ก็ไม่มีใครเทียบกับเฟิงหรูชิงได้เลย

เขาย่อมเสียใจอยู่แล้ว!

“นอกจากนั้น ในฐานะขุนนาง พบข้าแล้วกลับไม่คุกเข่าไม่คารวะ ใครสอนมารยาทเจ้ากัน”

น้ำเสียงของสาวน้อยทรงอำนาจเอาเรื่อง กลับทำให้ร่างกายของหลิ่วอวี้เฉินแข็งทื่อไป เขาตกอยู่ในห้วงความตื่นตกใจ เรื่องคารวะจึงไม่ได้อยู่ในสมอง ตอนนี้ได้ฟังคำของเฟิงหรูชิง ถึงได้คุกเข่าอย่างไม่เต็มใจ

“อวี้ฉินถวายพระพรองค์หญิง”

ชิงหลิงมองเฟิงหรูชิง

องค์หญิง ท่านปล่อยให้เขายืนพูดอยู่ตั้งนาน ตอนนี้ค่อยชี้จุดนี้มิใช่ทำเกินไปหรือไม่

ความจริงก็ไม่ได้ไม่อาจโทษเฟิงหรูชิง นางมาจากดินแดนหัวเซี่ย ไม่ได้ให้ความสำคัญกับกฎเกณฑ์มารยาทมากนัก ไม่อย่างนั้นสาวใช้สองนางก็ไม่อาจกำเริบเสิบสานอยู่ในจวนองค์หญิง

แต่ว่า…

เมื่อเผชิญหน้ากับคนชวนขัดตาอย่างหลิ่วอวี้เฉิน ต้องสั่งสอนมารยาทเขาสักหน่อย!

เฟิงหรูชิงเงยหน้ามองถานซวงซวง คร้านจะคุยกับนางให้มากความ สองมือกดที่บ่าอีกฝ่ายอย่างแรง ทั้งไม่รู้ว่าจงใจหรือไม่ กดลงบริเวณบาดแผลอีกฝ่ายพอดี ทำเอาถานซวงซวงเจ็บจนร้องอย่างน่าเวทนา

จากนั้น…ด้วยแรงของเฟิงหรูชิง ถานซวงซวงสองเข่าคุกลงที่พื้น ดวงตาหลุบลง แววตาคือความโกรธขึ้งไม่ยินยอม

เฟิงหรูชิงก็แค่อาศัยอำนาจของฝ่าบาทถึงได้กล้าใช้อำนาจบารมี

หากเฟิงหรูชิงไม่ใช่องค์หญิงก็คงดี

หากตำแหน่งนี้เป็นของนาง นางจะเป็นให้ดีกว่าเฟิงหรูชิง! นางยังสามารถ…ทำให้ใต้หล้านี้เป็นแคว้นหลิวอวิ๋นได้

ส่วนเฟิงหรูชิง…ต่อให้รูปโฉมเปลี่ยนมากโข แต่ก็ยังเป็นพวกไร้ประโยชน์ นอกจากใช้อำนาจข่มเหงคนอื่นแล้ว ยังทำอะไรได้อีกบ้าง…

“ชิงหลิง หลิวลี่ หากภายหน้ายังมีคนกล้าใส่ร้ายว่าข้าตามติดหลิ่วอวี้เฉินไม่เลิก ก็ปล่อยหมาป่าสีขาวไปกัดเขาซะ”

ชิงหลิงนิ่งไปสักพัก “แต่ว่า…แต่ว่าหมาป่าสีขาวถูกท่านส่งออกไปแล้วมิใช่หรือ”

สมองของเฟิงหรูชิงขบคิดเล็กน้อย เหมือนจะมีเรื่องนี้จริงๆ

ครั้งนี้มันไปสิบกว่าวันแล้วยังไม่กลับมาเลย

“อย่างนั้นก็ให้เจ้าหมีชกมันให้ตายซะ ชื่อเสียงของข้า จะให้พวกสารเลวมาลบหลู่ได้ยังไง”

…………………