ตอนที่ 728 ถังหนิง มีอะไรก็จัดมาเลย

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

ที่จริงแล้วภายนอกซ่งซินแค่ดูเป็นคนแข็งแกร่ง เพราะลึกลงไป เธอตระหนักเป็นอย่างดีว่าทุกครั้งที่ไห่รุ่ยออกมาเคลื่อนไหว พวกเขาจะต้องมั่นใจในสิ่งที่ทำจริงๆ แต่เพราะเธอไม่รู้จริงๆ ว่าสิ่งวิธีที่เธอจัดการกับเรื่องต่างๆ ของเธอนั้นมีจุดด่างพร้อยตรงไหน

 

 

ความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวที่เธอจะนึกออกคือไห่รุ่ยสร้างหลักฐานปลอมขึ้นมา!

 

 

และอ้างอิงจากความไร้ปรานีของถังหนิง นี่จึงเป็นไปได้อย่างยิ่ง ดังนั้นสิ่งที่เธอทำได้ในตอนนี้มีเพียงรอให้อีกฝ่ายเคลื่อนไหวและเล่นไปตามน้ำ

 

 

ถังหนิง มีอะไรก็จัดมาได้เลย…

 

 

ตอนนี้คนแพ้คนชนะยังไม่ถูกกำหนด…

 

 

โชคไม่ดีที่เธอไม่รู้เลยว่าไห่รุ่ยไม่ได้จะต้อนเธอให้จนมุมด้วยเหตุการณ์ที่เธอคิดอยู่ในใจ…

 

 

 

 

หลังเหตุการณ์อุบัติเหตุทางรถยนต์ การถูกสุนัขกัดของฮั่วจิงจิง การเกือบแท้งลูกของถังหนิงและข่าวฉาวเกี่ยวกับการลอกผลงานของผู้อาวุโสอู๋ ผู้คนต่างพากันจับจ้องไปที่ซ่งซินอย่างใกล้ชิด ทุกคนค่อนข้างมั่นใจว่าเธอคือตัวต้นเหตุทั้งหมด แต่พวกเขากังวลว่าไห่รุ่ยจะสามารถแสดงหลักฐานอะไรออกมาได้หรือไม่

 

 

เดิมทีนี่เป็นเรื่องที่ตำรวจต้องจัดการ แต่เพราะเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นในวงการบันเทิง เรื่องเหล่านี้จึงต้องได้รับการแก้ไขโดยไว้วิธีการของวงการบันเทิง

 

 

แน่นอนว่าซ่งซินไม่สนใจเสียงคาดคะเนต่างๆ เธอเพียงแค่เชื่อว่าหากไห่รุ่ยไม่สามารถแสดงหลักฐานอะไรออกมาได้ เธอก็จะไม่เป็นอะไร แต่…วงล้อแห่งการเปลี่ยนแปลงได้เริ่มเคลื่อนที่แล้ว ยกตัวอย่างเช่นในไม่ช้าวงการบันเทิงกำลังจะไม่มีที่สำหรับเธออีกต่อไป

 

 

เช้าวันต่อมาในเวลาแปดโมงเช้าพอดีตามที่ไห่รุ่ยได้เคยให้คำมั่นไว้ ไห่รุ่ยได้เริ่มต้นการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ

 

 

การแถลงข่าวดำเนินโดยหัวหน้าคนใหม่ของฝ่ายประชาสัมพันธ์เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับฮั่วจิงจิงและพวกเขากังวลว่าฟังอวี้อาจจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ไว้ได้

 

 

ท่ามกลางเสียงรัวชัตเตอร์จากกล้องของบรรดาสื่อ หัวหน้าคนใหม่ของฝ่ายประชาสัมพันธ์ได้ก้าวขึ้นไปยืนที่โพเดี้ยมและประกาศต่อบรรดาผู้สื่อข่าว “เนื่องจากชื่อเสียงของไห่รุ่ยได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องและศิลปินจำนวนมากที่อยู่ภายใต้การดูแลของเราได้รับผลกระทบ ไห่รุ่ยจะขอโต้ตอบข้อกล่าวหาของคุณซ่งซินในวันนี้ ผมหวังว่าทุกคนจากวงการข่าวจะสามารถรายงานข้อเท็จจริงทั้งหมดได้!”

 

 

“แน่นอน!”

 

 

“เราจะไม่ปรานีเพียงเพราะปู่ของเธอแน่!”

 

 

“ซ่งซินไม่ลงรอยกับไห่รุ่ยมาระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้นในวันนี้ไห่รุ่ยจะขอชี้แจงข้อกล่าวหาต่างๆ ที่เธอกล่าวหาเราที่ละข้อ ประการแรก ซ่งซินอ้างว่าไห่รุ่ยกดดันศิลปินของค่ายเพื่อให้ถังหนิงได้อยู่ในตำแหน่งสูงสุด เห็นได้ชัดว่าเมื่อเธอพูดเช่นนี้ เธอต้องการจะหมายถึงตัวเธอเอง แต่อย่างที่ทุกท่านทราบดี ถังหนิงเป็นนักแสดงและซ่งซินประกอบอาชีพสายดนตรี จุดยืนของทั้งสองจึงไม่ได้แข็งขันกัน ยิ่งไปกว่านั้น คุณถังหนิงได้ประกาศวางมือจากวงการบันเทิงไปแล้ว ดังนั้นเธอจะแข่งขันกับซ่งซินเพื่ออะไร ข้อกล่าวหาประการแรกนี้จึงเป็นการใส่ร้ายจากซ่งซินทั้งสิ้น

 

 

“ประการที่สอง กรณีลอกเลียนผลงานกับผู้อาวุโสอู๋ กรณีนี้เป็นเหตุให้ผู้อาวุโส่อู๋ได้รับบาดเจ็บทางสมอง ภาพยนตร์ของถังหนิงต้องถูกยกเลิกออกจากโรงภาพยนตร์และถังหนิงถูกแบนออกจากวงการอย่างลับๆ ผู้เขียนของ ‘นักแกะรอย’ ได้ออกมาชี้ตัวผู้ยุยงและโลกอินเทอร์เน็ตต่างออกความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้นับตั้งแต่นั้น ผมดูว่าไห่รุ่ยไม่เคยออกมาให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับกรณีนี้ แต่บัดนี้ผมจะให้คำตอบในเรื่องนี้และเผยความจริงทั้งหมดในอีกไม่ช้า

 

 

“ประการที่สาม เกี่ยวกับอดีตผู้จัดการของซ่งซินซึ่งมีชื่อว่าต้วนจิ่งหง ภาพลักษณ์ของเธอเสียหายอย่างมากหลังจากที่เธอถูกจับได้ว่าเป็นขโมยเมื่อไม่นานมานี้ แต่ไม่นานหลังจากนั้น ไห่รุ่ยกลับช่วยเธอให้ได้เดบิวต์ ซึ่งมีเหตุผลในการกระทำครั้งนี้ ข้อแรก ต้วนจิ่งหงได้อธิบายกับไห่รุ่ยว่าเธอเข้าไปในห้องทำงานของท่านประธานโม่เพื่อซ่งซิน ซึ่งเป็นศิลปินของเธอ เธอต้องการช่วยซ่งซินเอาสำเนาเอกสารรายงานการประเมินของเธอและนั่นทำให้เธอทำผิดพลาดอย่างมหันต์ ข้อสอง ต้วนจิ่งหงเปิดเผยเรื่องโหดร้ายทั้งหมดที่ซ่งซินเคยทำใหนอดีตและขอร้องให้ไห่รุ่ยช่วย เนื่องจากต้วนจิ่งหงรู้ความลับต่างๆ ของซ่งซิน และซ่งซินได้ทำความผิดไว้มากมาย ไห่รุ่ยจึงตัดสินใจช่วยเพื่อความปลอดภัยของต้วนจิ่งหง

 

 

“หากต้วนจิ่งหงแค่อยากจะโด่งดัง เธอคงเริ่มเส้นทางใหม่สู่การเป็นดาราดังด้วยตัวตนใหม่ของเธอไปแล้ว เธอก้าวออกมาใส่ร้ายซ่งซินทำไมกัน

 

 

“ทุกท่านต้องสงสัยแน่ว่าทำไมคนที่ซื่อสัตย์ต่อซ่งซินมากขนาดนี้ถึงได้เปลี่ยนข้างและหักหลังเธออย่างกะทันหันเช่นนี้ นั่นเป็นเพราะต้วนจิ่งหงถูกตราหน้าว่าเป็นขโมยเพื่อประโยชน์ของซ่งซิน แต่ซ่งซินกลับทอดทิ้งเธอ ด้วยเหตุนี้ผลลัพธ์จึงออกมาอย่างที่เราเห็นกันในวันนี้ ขณะที่ต้วนจิ่งหงตัดสินใจซื่อสัตย์กับตัวของเธอเอง ใครบางคนกลับยังคงปฏิเสธที่จะยอมรับในความผิดที่ตัวเองได้ทำเอาไว้

 

 

ตอนนี้เราจะไม่ถูดถึงเรื่องที่เราไม่มีหลักฐาน และไม่ไม่พูดถึงเหตุการณ์อุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เพิ่งเกิดขึ้นด้วย กลับกัน ไห่รุ่ยจะเปิดโปงอาชญากรรมอื่นที่ซ่งซินได้เคยทำไว้ในอดีตแทน! ผมหวังว่าสหายจากสื่อต่างๆ จะได้ตาสว่างกับสิ่งที่เรามีในมือตอนนี้!”

 

 

หลังจากหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์พูดจบ หญิงสาวคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นบนพรมแดงพร้อมไม้เท้าคำยันและคนช่วยพยุงอีกหนึ่งคน

 

 

บรรดานักข่าวหลีกทางให้ทั้งสองแต่พวกเขาไม่เข้าใจว่าไห่รุ่ยกำลังทำอะไรอยู่

 

 

ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน

 

 

“สุภาพสตรีสาวท่านนี้คือซ่งเซียวเซียว เธอเพิ่งจะอายุยี่สิบกว่าเท่าๆ กับซ่งซิน และเธอยังเรียนโรงเรียนเดียวกันกับซ่งซินอีกด้วย

 

 

“ผมแน่ใจว่าทุกคนคงสังเกตว่าขาซ้ายของเธอถูกตัดออกไป มันเกิดขึ้นได้อย่างไรงั้นเหรอครับ ทั้งหมดเป็นเพราะซ่งซิน!

 

 

“พวกเธออายุได้สิบเก้าปีตอนที่ทุกอย่างเกิดขึ้น เพียงเพราะเซียวเซียวสามารถเอาชนะซ่งซินและได้รางวัลที่หนึ่งในขณะนั้น ซ่งซินได้ตัดสินใจอย่างบ้าบิ่นด้วยการผลักเซียวเซียวจนตกบันได และเนื่องจากอาการบาดเจ็บทำให้เธอไม่อาจเข้าร่วมงานพิธีมอบรางวัลได้

 

 

“แต่สิ่งที่ซ่งซินไม่ได้คาดคิดคือซ่งเซียวเซียวเห็นคนที่ผลักเธอ ดังนั้นซ่งซินจึงทำสิ่งที่โหดเ**้ยมมากกว่าเดิม เธอใช้เส้นสายของปู่ตัวเองในการข่มขู่ซ่งเซียวเซียวและครอบครัวของเธอ!

 

 

“ตลอดหลายปี ซ่งเซียวเซียวต้องใช้ชีวิตอยู่กับความเจ็บปวด เธอได้แต่เฝ้าดูซ่งซินไต่เต้าสู่ความโด่งดังในขณะที่เธอกลายเป็นคนไร้ค่า ไม่มีตัวตน

 

 

“ในอดีต เธอกลัวว่าเธอจะทำให้ครอบครัวต้องตกอยู่ในอันตราย เธอจึงไม่พูดอะไร แต่บัดนี้เธอเพียงแค่ต้องการให้ทุกคนได้รับรู้ความจริงว่าซ่งซินเป็นปีศาจที่ไร้ความเมตตา!

 

 

“และในครั้งนี้ คุณไม่ต้องพยายามปฏิเสธความจริงเหล่านี้หรอกนะซ่งซิน เรามีพยานและหลักฐานที่คุณข่มขู่คนในครอบครัวซ่ง เราจะส่งข้อมูลพวกนี้ไปให้ตำรวจโดยเร็ว”

 

 

เมื่อได้เห็นหญิงสาวผู้พิการอยู่ต่อหน้า บรรดานักข่าวพากดกล้องถ่ายรูปของตนเองอย่างบ้าคลั่ง

 

 

พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าจะมีการเปิดโปงเรื่องอื่นอีก!

 

 

ดังนั้นหลังจากเรื่องทุกอย่างที่พวกเขาได้รับรู้ เห็นได้ชัดว่าซ่งซินเป็นปีศาจโดยแท้!

 

 

ได้เห็นปฏิกิริยาของบรรดานักข่าว หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ส่งไมโครโฟนให้กับซ่งเซียวเซียว และถึงแม้ซ่งเซียวเซียวจะพิการแต่เพื่อการแก้แค้น เธอจึงอาจหาญกว่าที่เคยเป็นมาก

 

 

เสียงอันแหบพร่าของเธอดังก้องไปทั่วฮอลล์ “ซ่งซินเป็นคนอำมหิตอย่างที่สุด อาจเป็นเรื่องยากเกินกว่าที่ทุกคนจะจินตนาการได้…” ซ่งเซียวเซียวชี้ไปที่พื้นที่ว่างซึ่งเคยเป็นที่ที่ขาซ้ายของเธอเคยอยู่และพูดต่อด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา “ตอนฉันอายุสิบเก้า ฉันตกจากชั้นสี่ ถ้าไม่เป็นเพราะฉันโชคดี ฉันอาจจะเสียโอกาสที่จะได้พูดต่อหน้าทุกท่านในวันนี้และได้ทวงคืนความยุติธรรม

 

 

“ดังนั้นทันทีที่แนได้ยินข่าวลือร้ายๆ ที่ซ่งซินเป็นคนปลุกปั่น ฉันจึงเป็นคนแรกที่เชื่อ เพราะเธอเป็นคนแบบนั้นจริงๆ!

 

 

“เมื่อวานนี้หลังจากที่อุบัติเหตุรถชนปรากฏขึ้น ซ่งซินถูกตำรวจควบคุมตัวเพื่อทำการสอบปากคำ แต่เธอก็ยังใช้วิธีจนได้ประกันตัวออกมาและไม่ได้รับการลงโทษ ดังนั้นความตั้งใจของฉันในการมายืนที่นี่วันนี้คือเพื่อส่งผู้หญิงคนนั้นกลับเข้าไป…

 

 

“ฉันไม่ต้องการเป็นผู้หญิงคนนี้เดินไปมาอย่างอิสระด้วยขาที่ไม่ได้ปราศจากบาดแผลใดๆ อีกแล้ว มันน่าขยะแขยง!”