ชินจังถูกคนรับใช้พาเดินไปทางด้านหน้า
แต่ไม่รู้ทำไม? เขามักจะรู้สึกว่าทางด้านหลังมีสายตาคู่หนึ่งที่กำลังจ้องมองเขา และสายตานี้ ก็ทำให้เขานึกถึงตอนที่อยู่บนเรือครั้งนั้นขึ้นมาในทันใด
ในตอนนั้น ก็เป็นสายตาแบบนี้เช่นกัน เธอถูกขังอยู่ในห้องโดยสาร อ้อนวอนขอร้องให้เขาไปให้เธอเห็นด้วยความเจ็บปวด
“ป้าส่งมันมาสิ!”
จู่ๆเขาก็หันกลับมา แล้วมองไปทางผู้หญิงคนนี้
ทันใดนั้นเอง เส้นหมี่ที่กำลังเสียใจอยู่นั้นก็ดีใจขึ้นมา เธอเหมือนกับมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง รีบกอดเอากล่องขนมเปี๊ยะถั่วเขียววิ่งมาทันที
“ชินชิน….ป้ารู้อยู่แล้วว่าหนูจะไม่รังเกียจ หนูวางใจได้เลย ป้าทำสะอาดมากจริงๆ อร่อยมากด้วย หนูลองกลับไปชิมดูนะลูก”
เธอนั่งยองๆตรงหน้าเขา หางตายังคงแดงและชื้นอยู่ แต่ตอนที่พูดประโยคนี้ออกมา เธอข่มความดีใจที่อยู่ในใจเอาไว้ไม่ได้เลย ทั้งร้องไห้ทั้งยิ้ม เหมือนกับเจ้าเด็กตัวแสบในการ์ตูน
ชินจังตอบรับอืมอย่างเย็นชา
จากนั้นเขาก็ถือเอาขนมกล่องนี้ขึ้นไปด้านบน
เขาไม่เคยกินสิ่งนี้เลยจริงๆ
เขาเป็นเจ้าชายน้อยของตระกูลหิรัญชา เสื้อผ้าอาหารการกินที่อยู่ก็ล้วนแต่เป็นระดับสูงที่สุด อาหารธรรมดาๆแบบนี้ ไม่ต้องพูดถึงว่าจะได้กินเลย แม้แต่เห็นนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เคยเห็นเสียด้วยซ้ำ
ชินจังเหลือบมองของสิ่งนี้แวบหนึ่ง
หอม เหมือนกับมีกลิ่นของน้ำผึ้ง นั่นเป็นสิ่งที่เขาชอบ….
สุดท้ายแล้วเส้นหมี่ก็กลับออกไปด้วยความพอใจ
แต่พอเมื่อเธอออกไปแล้วนั้น คนรับใช้คนที่ขวางเธอเอาไว้ก่อนหน้านี้ในห้องโถง ก็รีบแอบเข้ามาในห้องนอนทันที และเริ่มคุยโทรศัพท์ขึ้นมา
“คุณแป้งร่ำ ผู้หญิงคนนั้นที่คุณบอก วันนี้เธอมาจริงๆด้วยค่ะ”
“เธอว่าอะไรนะ? มาจริงๆเหรอ?”
ผู้หญิงอยู่ที่อยู่ในสายได้ยินแล้ว ก็ทั้งตกใจทั้งโมโหขึ้นมาทันทีและแม้แต่เสียงก็เปลี่ยนไปด้วย
คนรับใช้พยักหน้าลง : “ใช่ค่ะ เธอบอกว่าเธอมารักษาอาการป่วยของคุณผู้ชาย หลังจากนั้นฉันก็เห็นเธอฝังเข็ม แล้วคุณผู้ชายก็หลับไปแล้วจริงๆค่ะ จากนั้น เธอก็เอาขนมที่เธอบอกว่าเธอทำเองให้กับคุณชายเล็กกล่องหนึ่ง และที่ไม่น่าเชื่อก็คือ คุณชายเล็กก็รับไปด้วยค่ะ คุณแป้งร่ำ ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่? ทำไมคุณผู้ชายและคุณชายเล็กถึงไม่ปฏิเสธเธอคะ?”
หญิงสาว : “……”
ไม่มีเสียงใดๆ เวลานี้ ในสายนอกจากเสียงกระเพื่อมขึ้นลงตรงหน้าอกที่ดังส่งมาแล้ว ที่เหลือนั้นก็เป็นความโมโหที่รับรู้ได้ผ่านทางสายโทรศัพท์ทางไกลนี้
คุณแป้งร่ำ ไม่ผิด ผู้หญิงคนนี้คือแป้งร่ำ!
เส้นหมี่ ดูแล้วฉันจะประเมินค่าเธอต่ำเกินไปแล้วจริงๆ เธอก็ยังมีวิธีจริงๆ หลังจากกลับมาแล้ว ไม่เพียงแค่เข้าไปที่เรืองรองเพียงเท่านั้น แม้แต่อดีตสามีของเธอ ลูกชายของเธอ ตอนนี้ก็เริ่มยอมรับเธอแล้วเหมือนกัน
ทำไม?
เธอจะกลับมาอยู่ในตำแหน่งคุณนายน้อยใหม่อย่างนั้นหรือ? เธอฝันไปเถอะ!
แป้งร่ำที่ยืนอยู่ในความมืด ดวงตาปรากฏความอาฆาตแค้นที่รุนแรงออกมา!
“คุณแป้งร่ำ?”
“อ่อ ไม่มีอะไร เธอก็คือหมอที่คุณผู้ชายของพวกเธอพากลับมาจากต่างประเทศ ป้าญาไม่ต้องตื่นเต้นนะ เธอเพียงแค่ต้องดูแลคุณผู้ชายให้ดี แล้วก็ระวังคุณชายเล็กด้วย อย่าให้เขาไม่สบาย”
น้ำเสียงของแป้งร่ำกลับเป็นปกติ เสียงเบาและนุ่มนวล เวลานี้ ไม่เพียงแค่ไม่ได้ยินความโมโหของเธอเพียงเท่านั้น แต่เธอกลับยังปลอบใจคนรับใช้คนนี้ด้วย ฟังดูเป็นเรื่องจริงมาก
คนรับใช้ได้ยินแล้ว ก็เข้าข้างทางฝั่งเธอแล้วในตอนนั้น
“ไม่รู้จริงๆนะคะว่าคุณผู้ชายคิดยังไง คุณแป้งร่ำดีขนาดนี้ ทำไมเขาไม่ให้คุณมาที่เรืองรองอีก? คุณอยู่ที่นี่ ก็ดูแลในบ้านอย่างเป็นระเบียบ คุณผู้ชายกลับมาก็มีอาหารร้อนให้ทาน คุณชายเล็กก็มีการจัดการใช้ชีวิตเป็นอย่างดี ทำไมเขาถึงได้สับสนแบบนี้คะ?”
“เอาล่ะ ป้าญา เป็นเรื่องที่ฉันทำผิด ไม่ต้องโทษคุณผู้ชายของพวกเธอหรอกนะ”
“อะไรที่เรียกว่าทำผิดคะ? คุณชายเล็กดื้อรั้นไม่ฟังขนาดนั้น อบรมสั่งสอนบ้างเป็นบางครั้งบางคราวไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องปกติหรือคะ? คุณแป้งร่ำ คุณวางใจได้เลย มีโอกาสฉันจะต้องเกลี้ยกล่อมคุณผู้ชายอย่างแน่นอนค่ะ”
คนรับใช้คนนี้ ทิ้งคำพูดแบบนี้เอาไว้ในสายให้กับแป้งร่ำในตอนท้าย
สิ้นเสียงแล้ว แป้งร่ำก็หัวเราะออกมา ในสถานที่ที่ใครก็มองไม่เห็น รอยยิ้มของเธอเหมือนกับงูพิษ เยือกเย็นอาฆาตแค้น เห็นแล้วทำให้รู้สึกสั่นสะท้าน
——
ตอนที่เส้นหมี่กลับมายังบ้านหลังที่เช่าเอาไว้นั้น ป้าติ้วก็ไปแล้ว บนโต๊ะมีอาหารที่เก็บเอาไว้ให้เธอวางอยู่ เด็กทั้งสองคนไปในห้องนอนเรียบร้อยแล้ว
ลูกๆ แม่รู้สึกผิดกับพวกหนูมากจริงๆ
เส้นหมี่เห็นแล้ว ในใจก็เกิดความละอายใจ รีบเปลี่ยนรองเท้าแล้วไปที่ห้องของลูกทันที
“ลูกๆ หลับกันหรือยังคะ?”
ตอนที่เส้นหมี่ผลักประตูเข้ามา ก็เรียกเด็กๆขึ้นเบาๆ
“หม่ามี๊ ในที่สุดหม่ามี๊ก็กลับมาแล้ว?”
เป็นคิวคิวนั่นเอง ไม่คิดว่าเขาจะยังไม่นอน
เส้นหมี่รู้สึกผิดขึ้นมาทันที แล้วกอดลูกชายอยู่ในอ้อมกอดแน่น : “คิวคิว ขอโทษนะครับ หม่ามี๊ไม่ดีเอง หม่ามี๊รับปากหนูว่ารอให้หม่ามี๊เสร็จเรื่องทางนี้ก่อน แล้วหม่ามี๊จะพาหนูกับน้องกลับเมืองMให้เร็วหน่อยดีไหมครับ?”
คิวคิวพยักหน้าลงอย่างว่าง่าย : “ครับ หม่ามี๊ไม่ต้องกังวลนะครับ ผมจะดูแลน้องเอง”
เส้นหมี่ : “……….”
ในใจก็ยิ่งรู้สึกแย่ เธอกอดคนตัวนุ่มนี้เอาไว้ เป็นการรับประกันกับเขา แล้วเหมือนกับเป็นการเตือนตัวเองด้วย ว่าเธอจะไม่สามารถมองข้ามพวกเขาแบบนี้ต่อไปได้อีกแล้ว พวกเขาก็เป็นลูกของเธอเหมือนกัน
สุดท้ายแล้วหมี่ก็กล่อมลูกจนหลับไป แล้วออกมาจากด้านใน
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเธอที่เพิ่งจะปิดประตูลงมานั้น เด็กน้อยที่อยู่ข้างในก็ลืมตาที่เป็นประกายคู่นั้นขึ้นมาท่ามกลางความมืด
“หม่ามี๊จะต้องถูกคนไม่ดีรังแกมาอีกแน่ๆเลย ไม่อย่างนั้น หม่ามี๊คงจะไม่พูดแบบนี้ออกมาอย่างไม่มีเหตุมีผลแบบนี้ คนไม่ดี ทำไมจะต้องมารังแกหม่ามี๊ด้วย? ต่อให้จะเป็นแด๊ดดี๊ของเขาก็ตาม แต่ก็จะมารังแกหม่ามี๊แบบนี้ไม่ได้เหมือนกัน!”
ในความมืดนี้คิวคิวกำหมัดเล็กๆของเขาเอาไว้แน่น