“จริงสิ เตาหลอมยาของข้ามีความแตกต่างจากคนอื่น ข้ามีเงื่อนไขเล็กน้อย” อวิ๋นเจี่ยวไม่ได้สังเกตถึง 

 

 

เหวินชิงที่ทัศนคติทั้งสามพังทลาย นางยังคงพูดต่อ “ต้องรบกวนอาจารย์อาเหวินระวังตอนหลอม” 

 

 

“เงื่อนไข?” เหวินชิงผงะ ก่อนจะได้สติกลับมา เขาถามต่อ “เงื่อนไขอะไร” เตาหลอมยาไม่ใช่แค่หลอมยาได้ก็พอหรือ 

 

 

อวิ๋นเจี่ยวครุ่นคิด ก่อนจะอธิบาย “ก็ไม่ได้มีเงื่อนไขมากมาย เพียงแต่ถ้าจะให้ดี ภายในเตาหลอมยานี้ต้องมีที่ควบคุมไฟ สามารถปรับระดับของไฟได้อย่างอิสระ ที่สำคัญต้องสามารถรวมพลัง จำนวนของพลังต้องสามารถปรับได้ ด้านในควรจะมีการระบุระดับ สามารถวัดค่าของสรรพคุณยา แล้วก็ด้านบนของเตาควรจะเป็นแบบโปร่งแสง เช่นนี้ถึงจะสามารถดูสถานการณ์การหลอมด้านในได้ และหากว่าเป็นไปได้ ควรจะมีการตั้งเวลาแจ้งเตือน หรือก็คือมีการเตือนให้เปิดเตาหลังจากหลอมยาเสร็จ เงื่อนไขก็ประมาณนี้ หากมีอย่างอื่นค่อยว่ากันในภายหลัง…” 

 

 

เหวินชิง “…” 

 

 

นี่เรียกว่าไม่มาก เจ้าทำไมไม่บอกให้ข้าช่วยหลอมยาเสียเลย! 

 

 

การหลอมยา นอกจากระดับไฟ พลัง และเวลา ยังมีเรื่องอื่นอีกหรือ ทุกอย่างยกให้เตาหลอมยาทำ แล้วนักหลอมยาจะทำอะไร 

 

 

(╯°Д°)╯︵┻━┻ 

 

 

เหวินชิงหน้าดำทะมึน ปากกระตุกเล็กน้อย แต่ก็ยังต้องพูดด้วยความใจเย็น “คือ…เตาหลอมยาเช่นนี้คงจะมีความยาก!” คนที่ติดหนี้ไม่มีความมั่นใจ 

 

 

“ยากเหรอ ไม่นะ!” อวิ๋นเจี่ยวผงะ นางพูดตามฟังก์ชันพื้นฐานของหม้อหุงข้าวเลยนะ 

 

 

“ศิษย์…” เหวินชิงถอนหายใจ นึกว่านางไม่เข้าใจในวิชาการหลอมยา จึงอธิบายว่า “วิถีแห่งการหลอมยา ปกติแล้วก็คือการใช้ไฟในเตาหลอมเพื่อหลอมยาออกมา จากนั้นใช้พลังลมปราณทำให้ยานั้นมีความบริสุทธิ์มากขึ้น เมื่อหลอมเสร็จถึงจะเปิดเตาและนำออกมา ทุกขั้นตอนล้วนส่งผลกระทบต่อความสำเร็จในการหลอมยา ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์ที่สะสมมาของนักหลอมยา เตาหลอมยาเป็นเพียงอุปกรณ์เท่านั้น ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีเตาหลอมยาอันไหนที่ทำได้มากเท่านี้” 

 

 

อวิ๋นเจี่ยวก็ไม่ได้ใส่ใจ แต่กลับแนะนำขึ้น “หากแกะสลักข่ายพลังภายในเตาหลอมยาละ” 

 

 

“แกะสลักข่ายพลังแน่นอนว่าสามารถทำได้” เหวินชิงครุ่นคิด ก่อนจะขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น “แต่ว่าไม่ใช่แค่ข่ายพลังอันสองอันก็สามารถทำได้ อย่างน้อยต้องสี่ห้าอัน อีกทั้งยังจำเป็นต้องเป็นข่ายพลังทับซ้อนกันหลายชั้น ถึงแม้ว่าข้าจะสามารถรวมมันเข้าไปใน เตาหลอมยา แต่เพียงข่ายพลังนี้ก็…” วางออกมาไม่ได้ 

 

 

“งั้นก็พอแล้ว!” ไม่รอให้เขาพูดจบ อวิ๋นเจี่ยวก็พูดขัดเขาในทันที “ข่ายพลังข้าเตรียมไว้แล้ว ท่านแค่หลอมมันออกมาให้ได้ก็พอ” พูดจบก็หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งมาจากชั้นวางตำราส่งไปให้ 

 

 

เหวินชิงรับมาดู พบว่าในมือเป็นภาพข่ายพลังที่ซับซ้อนอย่างยิ่ง เพียงแวบแรกก็สามารถมองเห็นข่ายพลังที่ทับซ้อนกันหลายสิบชั้น มีทั้งข่ายพลังเปลวเพลิง ข่ายพลังรวมพลัง ข่ายพลังนกร้อง…สิ่งที่ควรมีล้วนมีหมดทั้งสิ้น อีกทั้งยังมีข่ายพลังบางอันที่แม้แต่เขายังไม่รู้จัก ถึงแม้เขาจะไม่ได้ชำนาญทางข่ายพลังมาก แต่เขาก็มองออกว่า หากนำข่ายพลังนี้รวมเข้าไปในเตาหลอมยาได้ ก็จะสามารถหลอม…เตาหลอมยาที่นางบอกได้ 

 

 

“นี่…นี่…” เหวินชิงมองภาพข่ายพลังในมือ จากนั้นมองไปยังอวิ๋นเจี่ยว สีหน้าเหลือเชื่อ 

 

 

“ยังมีปัญหาอีกเหรอ” 

 

 

“…” ไม่มีปัญหา! แต่แค่รู้สึกว่าหากเตาหลอมยานี้หลอมออกมาแล้ว นักหลอมยาทั่วยุทธภพคงต้องร้องไห้ เขาตั้งสติ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามข่มความตื่นเต้นภายในใจ “ข่ายพลังที่ประณีตเช่นนี้ ท่านอาจารย์เป็นคนวาดใช่หรือไม่” 

 

 

“ไม่ใช่!” อวิ๋นเจี่ยวตอบ 

 

 

“ไม่ใช่ ?!” เหวินชิงตะลึง ข่ายพลังทับซ้อนที่ลึกล้ำเช่นนี้ นอกจากอาจารย์แล้วยังมีใครสามารถวาดออกมาได้อีก “งั้น…หรือจะเป็นท่านเทพที่ละจากทางโลกท่านไหนวาด” 

 

 

“ไม่ใช่เหมือนกัน” 

 

 

“งั้น…” เขาคิดจะเดาต่อไป 

 

 

อวิ๋นเจี่ยวกลับพูดขึ้น “เมื่อคืนข้าว่างเลยวาดเล่น!” 

 

 

“…” อะไรนะ 

 

 

เจ้ากำลังล้อข้าเล่น! 

 

 

Σ(°△°|||)︴ 

 

 

“เจ้า…เจ้าไม่ได้บอกว่าเป็นหมอรักษาพลังลมปราณหรือ” ทำไมถึงวาดข่ายพลังได้ 

 

 

“ดังนั้นถึงได้บอกว่าวาดเล่นๆ ไง!” นางพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย 

 

 

“…” 

 

 

เหวินชิงสะอึก วาดเล่นๆ …วาดเล่นๆ …เล่นๆ …เล่นๆ …เล่น 

 

 

w(゚Д゚)w 

 

 

ข่ายพลังที่ซับซ้อนเช่นนี้ วาดเล่นๆ ก็สามารถวาดออกมาได้?!! 

 

 

นี่เป็นข่ายพลังที่ทับซ้อนกันหลายสิบชั้น ไม่! มีความเป็นไปได้ว่าจะมากกว่านั้น อย่าว่าแต่โลกมนุษย์เลย แม้แต่บนสวรรค์ นอกจากอาจารย์แล้ว จะมีใครวาดออกมาได้อีก เจ้านอกจากจะทำให้นักหลอมยาร้องไห้แล้ว ยังจะทำให้นักข่ายพลังหมดสิ้นหนทางหรืออย่างไร 

 

 

“อืม ข่ายพลังนี้วาดง่ายไปหน่อย” อวิ๋นเจี่ยวครุ่นคิดก่อนจะพูดเสริมขึ้นมา “เพราะว่าเพียงแค่ซ้อนทับกันแค่ยี่สิบสามข่ายพลัง น้อยไปหน่อยเสียจริง หรือไม่ข้านำกลับไปแก้ไข เพิ่มเติมอีกสักหลายชั้นก่อน?” 

 

 

“…” 

 

 

“ท่านคิดว่าเพิ่มพวกกำจัดฝุ่น คราบสกปรก และการทำความสะอาดเองเป็นอย่างไร การบำรุงรักษาอุปกรณ์ก็เป็นเรื่องสำคัญ” 

 

 

“…” 

 

 

สักพัก 

 

 

“สหายอวิ๋น เจ้าบอกข้ามาตามตรง” 

 

 

“อืม?” 

 

 

“ที่จริงแล้วเจ้าไม่ใช่ศิษย์ของข้า แต่เป็นอาจารย์อาข้าหรือเปล่า” 

 

 

“…” 

 

 

… 

 

 

เหวินชิงสมกับที่เป็นปรมาจารย์การหลอมอาวุธ เขาใช้เวลาเพียงคืนเดียวในการสงสัยชีวิตของตน เพียงคืนที่สองก็หลอมเตาหลอมยาออกมาได้แล้ว ไม่เพียงแต่ควบคุมเปลวเพลิงได้ ยังสามารถควบคุมพลังลมปราณ มีระบบการแจ้งเตือนอัตโนมัติ และสามารถควบคุมเวลาการหลอมได้ อีกทั้งยังสามารถปรับขนาดเล็กใหญ่ได้ ช่างเป็นเตาหลอมยาที่สามารถใช้ได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน สอดคล้องกับคุณสมบัติของหม้อหุงข้าว… เอ้ย! เตาหลอมยาเสียจริง 

 

 

อวิ๋นเจี่ยวลองหลอมยาขั้นพื้นฐาน ปรากฏว่าผลออกมาไม่เลว ถึงแม้จะเป็นเพียงระดับกลาง แต่แค่เพียงปรับรายละเอียด และควบคุมเวลาให้ดี ยาระดับสูงก็หลอมออกมาได้ไม่ยาก หากพวกนางมีวัตุดิบละก็นะ 

 

 

ไป๋อวี้ก็ตกตะลึงเช่นกัน เจ้าหนูฝึกหลอมยาครั้งแรกไม่ใช่หรือ แต่นางกลับทำสำเร็จภายในครั้งเดียว ช่าง..เป็นเรื่องธรรมดาเสียจริง! 

 

 

╮(╯▽╰)╭ 

 

 

รู้สึกว่าแค่มีเจ้าหนูอยู่ หลอมอะไรออกมาได้ก็ไม่น่าประหลาดแล้ว! 

 

 

กลับเป็นเหวินชิงที่อยู่ด้านข้างกำลังมองไปยังเตาหลอมยาที่ตนเองหลอมด้วยสีหน้าซับซ้อน เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าเตาหลอมยาสามารถทำแบบนี้ได้ อีกทั้งข่ายพลังในเตานั้นยังมาจากศิษย์ที่เพิ่งเข้าสำนักไม่ถึงสองปี 

 

 

รู้สึกการฝึกฝนของตนเองตลอดเวลามานี้ล้วนเสียเปล่า เทพเจ้าอะไรกัน ไม่อยากเป็นแล้ว 

 

 

┭┮﹏┭┮ 

 

 

“ให้!” อวิ๋นเจี่ยวส่งยาให้ชายแก่ “ท่านใช้ไปก่อน อย่าสิ้นเปลือง” อย่างน้อยใช้ยาไปกว่าครึ่งเตา 

 

 

“อ่อ” เมื่อนึกถึงเจ้าหนูไม่มีเส้นชีพจรเสวียน ยารวมพลังไม่มีประโยชน์ต่อนาง ชายแก่จึงรับยามาโดยไม่ปฏิเสธ “มียารวมพลังขวดนี้ ดูท่าทางข้าจะสามารถบรรลุขั้นที่สี่ของคาถาเสวียนซินได้แล้ว” 

 

 

“อืม” อวิ๋นเจี่ยวพยักหน้า ก่อนจะพูดเสริม “เช่นนั้นท่านก็สามารถฝึก ‘ตำราเก่าเสียง’ ได้แล้ว ตำราข้าวางไว้ในชั้นตำราของท่านแล้ว อย่าลืมว่าต้องอ่านให้จบภายในครึ่งเดือน” 

 

 

“…” เจ้าเป็นปีศาจหรืออย่างไร 

 

 

o(≧口≦)o 

 

 

ชายแก่ทำหน้าอยากจะร้องไห้ กลับเป็นเหวินชิงที่ภายในใจมีความซับซ้อน คิดไปถึงเวลาที่ศิษย์พี่เจ็ดใช้ในการบรรลุคาถาเสวียนซินขั้นที่สี่ ตอนนั้นท่านใช้เวลาเจ็ดปีหรือสิบปี? แต่ไป๋อวี้เพิ่งฝึกฝนได้ปีกว่าเอง… 

 

 

รู้สึกว่าพวกเขาล้วนเป็นศิษย์ปลอมของอาจารย์! 

 

 

เหวินชิงถอนหายใจทีหนึ่ง กำลังจะพูดเรื่องเข้าร่วมการฟังการสอนกับทั้งสองคน แต่ยันต์ส่งสารข้างตัวของอวิ๋นเจี่ยวก็สว่างขึ้นอย่างกะทันหัน นางหยิบขึ้นมาดู ก่อนที่จะมีเสียงหนึ่งที่คุ้นเคยส่งออกมา 

 

 

“สหายอวิ๋นแย่แล้ว…เชิญท่านรีบมาที่สำนักเทียนซือ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!” 

 

 

“…”