บทที่ 112 คุณชายแปลกหน้า

หมอผีแม่ลูกติด

บทที่ 112

คุณชายแปลกหน้า

ไทเฮาก็ได้มองไปที่สีหน้าที่หวาดกลัวของฮ่องเต้เจียงแล้ว ก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างไม่มีเหตุผล

เมื่อมองย้อนกลับไป นางที่สามารถไต่เต้าขึ้นมาจากการเป็นสาวใช้จนได้มาอยู่ในตำแหน่งปัจจุบัน แต่นางกลับให้กำเนิดเจ้าคนไร้ความสามารถและไร้ประโยชน์ที่อยู่ตรงหน้านางออกมา

ในขณะที่ฮ่องเต้เจียงกำลังเหงื่อตกอยู่นั้น เสียงของไทเฮาก็ดังขึ้นมา “ถ้าหากรัฐเจียงไม่สามารถสูญเสียเทพสงครามได้ ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ปลุกปั้นคนใหม่ขึ้นมาแทนเจียงหวายเย่สิ”

ดวงตาของฮ่องเต้เจียงก็ได้สว่างขึ้นมา แล้วจากนั้นเขาก็ได้จากไปด้วยความมั่นใจ

หลังจากนั้นทุกๆตระกูลก็ได้รับราชโองการ ซึ่งเนื้อหาของราชโองการคือการรับเลือกขุนศึกใหม่เข้ามาป้องกันเมืองหลวง ซึ่งผู้ที่ได้รับเลือกนี้จะมีอนาคตที่สดใสแน่นอน

ดังนั้นเหล่านายน้อยทั้งหลายต่างก็กระตือรือร้นที่อยากจะเข้าร่วม แม้แต่หลินเฉิงอวี้นายน้อยจวนมหาเสนาบดีก็ยังอยากเข้าร่วม

เมื่อเขาเจียงหวายเย่ได้รับทราบข่าวนี้ เจียงหวายเย่ก็ได้หัวเราะออกมา “ข้าพอจะเข้าใจแล้วว่าฮ่องเต้กับไทเฮากำลังวางแผนอะไรอยู่”

ณ วัดต้าเปย ฮูหยินสี่นั้นพร้อมที่จะเดินทางกลับมายังเมืองหลวงแล้ว แต่หลินซีเหยียนนั้นกลัวว่าอาจจะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีก นางจึงได้เลื่อนเวลาออกไปจนกระทั่งอันซานกับอันซื่อกลับมาจึงได้พร้อมจะออกเดินทาง

ระหว่างทางนั้นท้องฟ้าปลอดโปร่งอย่างคาดไม่ถึง จนหลินซีเหยียนก็คิดว่าฮูหยินอวี้คงจะล้มเลิกแผนการไปแล้ว

แต่สุดท้ายความเป็นจริงก็ได้บ่งบอกพวกเขาว่าฮูหยินอวี้นั้นต้องการที่จะฆ่าฮูหยินสี่ให้ตายมากเพียงใด ดังนั้นนางจึงได้ส่งนักฆ่ามาอีกจนได้

ในคราวนี้ต่างไปจากคราวที่แล้ว ในคราวนี้นักฆ่าได้ปลอมตัวมาด้วย ซึ่งคนคนนี้ได้ปล่อยตัวเป็นหญิงสาวท้องโตที่อยากจะขอโดยสารรถม้า เดิมทีหลินซีเหยียนนั้นก็ไม่อยากที่จะให้ขึ้นเพราะเห็นพิรุธอะไรบางอย่าง

แต่นางก็ต้านทานต่อพลังความรักของคนเป็นแม่ของ ฮูหยินสี่ไม่ไหว สุดท้ายหลินซีเหยียนจึงได้ยอมพาหญิงสาวคนนั้นขึ้นรถม้า ในระหว่างที่นั่งรถม้าโยกไปโยกมาอยู่นั้น ฮูหยินสี่ก็เริ่มง่วงขึ้นมา

ในเวลานี้นักฆ่าก็พบเห็นว่าโอกาสมาถึงแล้ว นางจึงได้ดึงมีดคมๆออกมาจากระหว่างนิ้วมือ แล้วโจมตีที่คอของฮูหยินสี่ แต่กลับถูกหยุดเอาไว้โดยหลินซีเหยียนเสียก่อน

“ใครเป็นคนส่งเจ้ามา?” หลินซีเหยียนก็ได้ถามอย่างเย็นชา

ฮูหยินสี่ที่ได้ยินเสียงดุของหลินซีเหยียนก็ได้ตื่นขึ้นมาทันที แล้วจากนั้นนางก็ได้มองไปที่มีดคมๆที่อยู่ตรงหน้านางด้วยความหวาดกลัว

นักฆ่าก็ได้มองไปที่หลินซีเหยียนอย่างประหลาดใจ และพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งและเบาๆ “ข้าว่าข้าปล่อยกลิ่นหลับใหลออกมาแล้วนะ ทำไมถึงไม่ได้ผลกับเจ้า”

เพราะอะไรน่ะเหรอ? มันแน่อยู่แล้วก็เพราะว่า หลินซีเหยียนคือหมอผีผู้ยิ่งใหญ่ยังไงล่ะ ถ้าเรื่องแค่นี้นางยังไม่รู้สึกตัวล่ะก็ ชื่อเสียงของนางคงได้ป่นปี้พอดี

แน่นอนว่าหลินซีเหยียนนั้นไม่คิดที่จะบอกเรื่องนี้อยู่แล้ว นางจึงได้ยิ้มแปลกๆให้กับนักฆ่า “ก็เดาดูสิ”

นักฆ่าก็ได้มีสีหน้าโกรธขึ้นมา ราวกับว่าเขาถูก หลินซีเหยียนดูถูกอยู่ จึงได้จ้องไปที่หลินซีเหยียนแล้วกล่าว “จะฆ่าข้าก็เชิญ แต่อย่าหวังจะได้ข้อมูลอะไรจากข้าไป”

หลินซีเหยียนก็ได้ยักคิ้วขึ้นมา “ข้าไม่เคยมีคำว่า “เป็นไปไม่ได้” อยู่ในสมองของข้า”

หลังจากที่กล่าวจบ หลินซีเหยียนก็ได้ยื่นมือของนางอกมาแล้วกดลงไปที่ข้อต่อของนักฆ่า นักฆ่าคนนั้นก็ได้รู้สึกเจ็บปวดถึงสุดขั้วหัวใจ แต่ก่อนที่หลินซีเหยียนจะได้ถามอะไรไปมากกว่า นักฆ่าคนนั้นก็ได้เริ่มกระอักเลือดออกมา

ในเวลานั้นเองหลินซีเหยียนจึงได้รู้ว่านักฆ่าคนนี้กำลังจะฆ่าตัวตาย และมีพิษอยู่ในฟันของนาง หลินซีเหยียนจึงที่คิดจะรักษานางแต่ก็สายไปเสียแล้ว พิษนั้นรุนแรงมากและทำให้นักฆ่าคนนั้นตายทันที

“คุณหนูรอง นาง….นางตายแล้วเหรอเจ้าคะ?” ฮูหยินสี่ที่พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่กรีดร้องออกมา แต่นางก็ยังรู้สึกกลัวมากอยู่ดี และในเวลานี้นางก็ทำได้แต่สวดมนต์ และความกลัวของนางก็ได้ลงไปถึงครรภ์ของนาง จนเจ็บแปร๊บขึ้นมา

“คุณหนูรอง ท้องของข้า….” ฮูหยินสี่ก็ได้สลบไปก่อนที่นางจะได้พูดจบ และเลือดสีแดงก็ได้ไหลออกมาจากหว่างขาของนาง

หลินซีเหยียนพบว่าลูกตาของนางนั้นหดเล็กลง และรีบหยิบเอาเข็มเงินออกมาเพื่อห้ามเลือด แล้วจากนั้นนางก็ได้จับชีพจรของฮูหยินสี่แล้วพบว่าชีพจรนั้นไม่ปกติ ซึ่งเป็นผลทำให้นางนั้นคลอดก่อนกำหนด

“อันซานรีบหน่อย” หลินซีเหยียนก็ได้ออกคำสั่งอย่างใจเย็น หลังจากนั้นนางก็ได้ส่งร่างของนักฆ่าคนนั้นไปให้อันซื่อจัดการ

ตอนนี้หลินซีเหยียนได้ลองกดลงไปที่บริเวณมดลูกของ ฮูหยินสี่ไปสองหน แล้วพบว่าถึงแม้สีหน้าของฮูหยินสี่นั้นจะไม่สู้ดี แต่นางกับทารกในครรภ์ของนางนั้นยังอยู่ในภาวะปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม นางนั้นจำเป็นต้องใช้ยาต้านการหดตัวของมดลูกโดยเร็วที่สุดเพื่อลดความเสียหายที่จะส่งผลกับทารกในครรภ์

ระหว่างทางฮูหยินสี่ก็ได้ฟื้นคืนสติขึ้นมา ทันทีที่นางลืมตาตื่นขึ้นมานางก็ได้จับไปที่ท้องของนางแล้วจับมือหลินซีเหยียนแล้วถาม “คุณหนูรอง ลูกของข้าล่ะ?”

หลินซีเหยียนก็ได้รีบปลอบนาง “มีข้าอยู่ลูกของเจ้าไม่เป็นอะไรแน่นอน ตอนนี้เจ้าพักผ่อนก่อนเถอะ!”

หลังจากที่พูดจบฮูหยินสี่ก็ได้รู้สึกโล่งอก แล้วนางก็ได้หลับไป

หลินซีเหยียนมองดูสีหน้าที่ซีดของฮูหยินสี่แล้ว ทำให้นางนึกถึงตอนที่นางฟื้นขึ้นมาเมื่อ 5 ปีก่อนขึ้นมาได้ นางนั้นเพิ่งจะเข้าสิงร่างของหลินซีเหยียนได้ไม่ทันไร นางก็รู้สึกเจ็บปวดที่บริเวณท้องน้อยของนางขึ้นมา ถ้าไม่ใช่เพราะจิตใจที่เข้มแข็งของนางก็คงได้ตายไปอีกรอบแล้ว

ในตอนนั้นนางนึกถึงประสบการณ์ที่ต้องถูกทิ้งให้อยู่ในวัดร้างและคลอดลูกอยู่เพียงลำพังและโดดเดี่ยว นางนั้นเกลียดฮูหยินอวี้และพวกของนางมากขึ้นเรื่อยๆในใจของนาง

“องค์หญิงขอรับ อีกไม่นานเราจะถึงเมืองหลวงแล้วขอรับ” แล้วเสียงที่นิ่งมากก็ดังออกมาจากด้านนอกของรถม้า

หลินซีเหยียนจึงได้หรี่สายตาของนางลงแล้วจากนั้นก็กล่าว “ไปที่โรงหมอหุยชุนก่อน”

นางนั้นยังไม่คิดที่จะกลับไปที่จวนมหาเสนาบดีทันที เพราะจากนิสัยของฮูหยินอวี้แล้ว นางจะต้องจัดการฮูหยินสี่ให้เรียบร้อยเสียก่อนที่มหาเสนาบดีหลินจะรู้แน่

ณ ตำหนักซู่เฟิง อาการบาดเจ็บของจงซู่เฟิงก็ได้เกือบจะหายดีเพราะการช่วยเหลืออย่างลับๆของเจียงหวายเย่ และพบว่าวันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส เขาจึงได้อยากที่จะออกไปข้างนอกตำหนักบ้าง

เพื่อที่จะไม่ให้มีปัญหาที่ไม่เป็นเรื่องเกิดขึ้นมาอีก ช่างช่านก็ได้ถูกให้เปลี่ยนเป็นชุดผู้ชาย แล้วทั้งสามคนนายบ่าวก็ได้ออกไปข้างนอกร่วมกัน

แต่ออกไปได้ไม่ไกล จงซู่เฟิงก็ได้ตัวปลิวเพราะรถม้าที่ควบมาอย่างเร็ว

องค์ชายซู่เฟิงที่ถูกประคองโดยเหลยถิงและช่างช่านก็ได้ลุกขึ้นมาแล้วจากนั้นช่างช่านก็ได้มองไปที่รถม้าคันนั้นที่ค่อยๆจอดด้วยความโมโห

แล้วก็มีคนคนหนึ่งลงมาจากรถม้า ถึงแม้ว่าหญิงสาวคนนี้จะแต่งตัวธรรมดา แต่ก็สามารถทำให้คนทั่วทั้งเมืองตกหลุมรักได้ และคนคนนั้นก็คือหลินซีเหยียนนั่นเอง

หลินซีเหยียนก็ได้เดินไปหานายบ่าวทั้งสามคนที่กำลังทำสีหน้าทึ่งๆ แล้วหลินซีเหยียนก็ได้กล่าวขอโทษ “มีคนท้องอยู่ในรถม้าคันนั้นซึ่งมีสิทธิ์ที่จะแท้งลูก นี่เป็นเรื่องด่วนจริงๆข้าไม่ได้อยากทำให้คุณชายต้องบาดเจ็บ ข้าขออภัยจริงๆ”

จงซู่เฟิงก็ได้มองไปที่ใบหน้าที่สะสวยของหลินซีเหยียนแล้ว ทำให้เขาไม่สามารถตั้งสติกลับมาได้ไปชั่วขณะ แต่พอมือของหลินซีเหยียนมาจับเขาแล้ว เขาก็ได้สติคืนกลับมา

เดิมทีเขานั้นอยากที่จะชักมือที่ถูกจับโดยหลินซีเหยียนกลับมา แต่พอเขามองไปที่ดวงตาที่เป็นห่วงของหลินซีเหยียนแล้วเขาก็ได้หยุดทำอย่างนั้น

“คุณชาย โรงหมอที่ชื่อหุยชุนนั้นเป็นโรงหมอของข้าเอง ทำไมท่านไม่มาหาข้าที่นั่นเพื่อที่ข้าจะได้รักษาแผลให้คุณชาย” หลินซีเหยียนกล่าวอย่างจริงใจ

หูของจงซู่เฟิงนั้นแดงและรีบผงกหัวอย่างเขินๆ “ถ้าเช่นนั้นก็รบกวนแม่นางด้วย”

“ไม่มีปัญหา มันเป็นความผิดของข้าอยู่แล้ว” หลินซีเหยียนก็ได้ยิ้มอย่างอบอุ่นด้วยริมฝีปากของนาง

เมื่อสาวงามแสดงสีหน้าเช่นนั้นออกมา ถึงตายก็ไม่เสียดายแล้ว