ตอนที่ 732 ผู้หญิงของผม!

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์

“โอเค” อันจื่อเฮ่าพยักหน้า

 

 

เฉินซิงเยียนได้ยินคำตอบของอันจื่อเฮ่าแล้ว ก็หันหลังกลับไปยังห้องนอนก่อนจะตรงเข้านอนหลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอเข้าใจว่าหากเธอทำตามคำสั่งของอันจื่อเฮ่า เขาจะไม่มีวันทิ้งเธอไป

 

 

แต่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าการกระทำของเธอเป็นสัญญาณสะท้อนถึงความประมาทของตัวเอง เธอรู้เพียงแค่ว่าเธอรู้สึกไม่สบายใจอยู่ภายในแต่ไม่รู้จะพูดออกมาได้อย่างไร

 

 

อันจื่อเฮ่ารู้ดีว่าเขาได้ทำร้ายอีกฝ่าย ดังนั้นเขาจึงวางงานในมือลงและเดินเข้าไปในห้องนอน ภายใต้ความมืด เขาเอื้อมมือออกไปโอบกอดเฉินซิงเยียนเอาไว้ “ขอโทษที่ไม่ได้ปกป้องหัวใจของเธอนะ”

 

 

เฉินซิงเยียนไม่พูดอะไร เธอเพียงแต่กัดลงไปบนแขนของอันจื่อเฮ่าและทิ้งรอยเขี้ยวลึกเอาไว้

 

 

“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันจะไม่มีวันยอมแพ้หรือทอดทิ้งเธอ แต่ฉันหวังว่าเธอจะไม่ยอมแพ้ในตัวฉันเช่นกัน”

 

 

เฉินซิงเยียนยังเด็ก นิสัยเธอจึงยังไม่คงที่และจิตใจของเธอก็ยังไม่เป็นผู้ใหญ่ ดังนั้นอันจื่อเฮ่าจึงไม่เคยคาดหวังว่าเขาจะอดทนมาได้ไกลขนาดนี้ตั้งแต่ต้น

 

 

เพราะถึงอย่างไร ก็เป็นเรื่องแน่นอนที่การรบกวนจากพ่อแม่ของอวิ๋นซินจะไม่มีทางจบลงง่ายๆ แต่กระนั้นเขาก็จะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อหาทางแก้ไข

 

 

“โอเค” เฉินซิงเยียนเองก็ไม่รู้ว่าเธอจะทนต่อไปได้นานแค่ไหนเช่นกัน

 

 

เธอไม่ชอบถูกใครบังคับมาตั้งแต่เด็กๆ ในขณะเดียวกันเธอก็ไม่ชอบบังคับตัวเองเพื่อคนอื่นเช่นกัน

 

 

แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมีความรู้สึกพิเศษให้กับใครสักคน ดังนั้นเธอจึงหวังว่าความทุ่มเทของเธอจะไม่สูญเปล่าเพราะผู้ชายที่ไม่มีค่าพอ

 

 

 

 

หลังจากถังหนิงคลอดลูก ไห่รุ่ยปิดข่าวเรื่องนี้ไว้อย่างแน่นหนา แต่สื่อก็ยังสามารถถ่ายรูปซย่าอวี้หลิงกำลังอุ้มเด็กสองคนเอาไว้ได้ ส่งผลให้การตั้งท้องของถังหนิงกลับมาอยู่ในความสนใจของสื่ออีกครั้ง

 

 

โม่ถิงยังคงไม่ให้คำตอบกับสื่อในขณะที่เขาน้อมรับความคาดเดาต่างๆ ของสาธารณะ กระนั้นบริษัทต่างๆ เองก็ได้ยินข่าวนี้และเริ่มส่งสัญญามากมายมาถึงโม่ถิงผ่านทางลู่เช่อ

 

 

เพราะถึงอย่างไร โม่ถิงก็ยังคงเป็นผู้จัดการของถังหนิง!

 

 

“ท่านประธานครับ ร่างสัญญาพวกนี้เกี่ยวของกับเด็กทั้งหมด…”

 

 

พูดง่ายๆ คือโลกภายนอกกำลังบอกว่าถังหนิงควรจะเปลี่ยนสไตล์ได้แล้ว

 

 

เธอไม่ได้อยู่ในวัยสาวอีกต่อไป หลังการเป็นแม่ เธอต้องผ่านการเปลี่ยนแปลงมากมายแน่

 

 

โม่ถิงไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองขณะที่เขาปัดสัญญาเหล่านั้นลงไปกองกับพื้น “จากนี้ไปอย่าเอาของแบบนี้มาวางบนโต๊ะฉันอีก”

 

 

“รับทราบครับ” ลู่เช่อเดาไว้แล้วว่าจะต้องเป็นเช่นนี้ เพราะเป็นเรื่องปกติที่โม่ถิงจะโกรธ ใครกันกล้ามาพูดว่าถังหนิงสามารถเป็นตัวแทนคนเป็นแม่ได้เพียงอย่างเดียว และใครกันที่กล้าพูดว่าภรรยาของเขาแก่

 

 

เขาจะทำให้ถังหนิงของเขาใช้ชีวิตอย่างอ่อนเยาว์ยิ่งกว่าเดิมอีก

 

 

“เราควรทำยังไงกับข่าวลือเกี่ยวกับการคลอดลูกของคุณผู้หญิงดีครับ”

 

 

“ฉันจะหาโอกาสอธิบายเรื่องนี้เอง” โม่ถิงกล่าวก่อนกลับไปง่วนอยู่กับเอกสารในมือ

 

 

ขณะเดียวกัน ถังหนิงได้ยินเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นผ่านทางช่องทางข่าวสารเล็กๆ น้อยๆ มากมายของหลงเจี่ย ว่ามีโอกาสและสัญญามากมายแค่ไหนมาเสนอให้เธอจากบรรดาบริษัทเกี่ยวกับเด็ก กระนั้นปฏิกิริยาของเธอไม่ได้แตกต่างไปจากของโม่ถิง

 

 

“คนพวกนั้นต้องตาบอดแน่ๆ ดูหุ่นกับผิวตึงๆ ของคุณสิ เหมือนแต่ก่อนเปี๊ยบเลยนะ” หลงเจี่ยพูดไปด้วยกินไปด้วย “ทำไมเราไม่ขอให้นายใหญ่จัดการเปิดตัวเธอบนรันเวย์ไปเลยล่ะคะ”

 

 

การคงความสาวและสดใสไว้ได้ตลอดกาล เป็นเส้นแบ่งที่ชัดเจนมากสำหรับศิลปินคนหนึ่ง

 

 

ถังหนิงไม่พูดอะไรเลย เธอเพียงแค่มองไปที่สัญญาของ ‘ชายาหนิง’ และทำเป็นไม่สะทกสะท้าน

 

 

“ว่าแต่ตอนนี้ทุกคนกำลังเดาเพศของลูกคุณไปต่างๆ นานา แถมยังพูดกันด้วยว่าลูกคุณเกิดมาพิการหรือเปล่า ฉันคิดว่าถึงเวลาที่คุณจะออกมาพูดได้แล้วนะคะ แน่นอน ไม่ใช่การทำเพื่อพวกสอดรู้สอดเห็นพวกนั้น แต่ทำเพื่อแฟนๆ ของคุณต่างหาก คุณซื่อสัตย์ต่อคนพวกนั้นมาตลอดนี่นะ”

 

 

ถังหนิงพยักหน้าพลางนำคำพูดเหล่านั้นมาไว้พิจารณา กระนั้นขณะที่เธอมองวิธีที่หลงเจี่ยสวาปามอาหารตรงหน้า เธอก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ “เธอไม่คิดว่าตัวเองกินเยอะดื่มเยอะไปหน่อยเหรอ”

 

 

“ฉันไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมค่ะ แต่หมู่นี้ฉันชอบกินนู้นกินนี่เป็นพิเศษ” หลงเจี่ยบ่นงึมงำ

 

 

“เธอได้ตรวจบ้างหรือไง เธอท้องหรือเปล่า”

 

 

ท้อง?

 

 

หลงเจี่ยตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอไม่เคยคิดถึงความเป็นไปได้นี่มาก่อน หลังจากไป๋ลี่หวาบอกให้เธอเปลี่ยนบรรยากาศเมื่อครั้งก่อน ความกังวลของเธอก็หมดไปและเธอแค่ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ ถ้าถังหนิงไม่ได้เตือนเธอถึงความเป็นไปได้นี้ เธอคงคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติกับกระเพาะของเธอแน่

 

 

“ฉันจะตรงไปตรวจที่โรงพยาบาล”

 

 

“ไปสิ” ถังหนิงพยักหน้า “โทรหาลู่เช่อด้วยล่ะ เธอต้องมีใครสักคนไปเป็นเพื่อนนะ”

 

 

“ได้ค่ะ” หลงเจี่ยกล่าวก่อนจะหายไปจากสายตาของถังหนิงอย่างรวดเร็ว

 

 

หลังจากนั้น ถังหนิงตกอยู่ในห้วงความคิด

 

 

เธอไม่อาจยอมรับสิ่งที่โลกจำกัดความตัวเธอหลังจากการคลอดลูกได้ ส่งผลให้เธอฝึกฝนร่างกายของตัวเองหนักขึ้นกว่าเดิม

 

 

คืนนั้น โม่ถิงกับมาถึงบ้านก็พบว่าถังหนิงยังคงอยู่ในห้องออกกำลังกาย ชายหนุ่มจึงเดินไปให้นมลูกๆ กระนั้นถังหนิงได้เห็นว่าเขากลับมาแล้ว ขณะที่โม่ถิงกำลังอุ้มลูกชายคนหนึ่งขึ้นมา ถังหนิงได้ถ่ายรูปช่วงเวลาแห่งความรักนั้นเอาไว้ได้

 

 

เมื่อโม่ถิงเงยหน้าขึ้นมาและพบว่าถังหนิงกำลังถ่ายรูปอยู่นั้น เขาพูดขึ้น “มาใช้รูปที่คุณถ่ายในการแถลงข่าวกับสื่อกันเถอะ”

 

 

ถังหนิงพยักหน้าและเข้าใจเจตนาของโม่ถิงเป็นอย่างดี ทั้งสองต้องการจัดการกับข่าวลือ โดยเฉพาะเรื่องที่เกิดจากคำใส่ร้ายของฮว่าเหวินเฟิ่งก่อนหน้านี้

 

 

ดังนั้นถังหนิงจึงล็อกอินเข้าไปในโซเชียลมีเดียของโม่ถิงและโพสต์รูปของคู่พ่อลูกลงไปพร้อมกับคำบรรยายสั้นๆ ว่า [ปะป๊าถิง]

 

 

หลังสาธารณชนได้เห็นรูปดังกล่าว ทุกคนต่างพากันตื่นเต้น

 

 

[ถังหนิงคลอดโม่ถิงน้อยออกมาแล้ว!]

 

 

[เป็นลูกชาย! ถังหนิงนี่รู้วิธีฉีกหน้าคนได้ดีจริงๆ!]

 

 

[ทุกคนต่างพากันคิดไปต่างๆ นานาว่าลูกของเธอเข้าโรงพยาบาล ในที่สุดพวกเราก็ได้สบายใจเสียที ดูรูปน่ารักพวกนั้นสิ…]

 

 

[ปะป๊าถิงกำลังอิ่มรัก…]

 

 

[ฉันไม่ชอบโพสต์นี้เลย ไม่เป็นมีถังหนิงเลยอ่ะ]

 

 

[หุ่นของถังหนิงต้องอ้วนเผละไปแล้วแน่ๆ]

 

 

โม่ถิงบอกถังหนิงให้โพสต์เช่นนี้เพราะเขาต้องการให้เธอยังคงเป็นปริศนาและป้องกันไม่ให้สื่อต่างๆ ตัดสินใจว่าเป็นแค่แม่ธรรมดาคนหนึ่ง

 

 

ในขณะที่ทำเช่นนั้น ถังหนิงไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะว่าเธอได้ให้กำหนดลูกหนึ่งหรือสองคนเช่นกัน!

 

 

“ก่อนการกลับเข้าสู่วงการแสดง ผมได้รับงานโฆษณาไว้ให้คุณตัวหนึ่งครับ” โม่ถิงกล่าวขณะที่เขาอยู่ในห้องอาบน้ำกับถังหนิงหลังจากส่งเด็กๆ เข้านอนแล้ว “เป็นแบรนด์เครื่องสำอางราคาแพงที่มีชื่อเสียงโด่งดังของต่างประเทศ”

 

 

นี่เป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับถังหนิง พูดตามหลักแล้วหลังจากการถอนตัวออกจากวงการมาเนิ่นนาน ชื่อเสียงของเธอควรจะซ่าลงแต่กลับกัน เธอไม่ได้รับผลกระทบเลยแม้แต่น้อย ทั้งหมดนี่ต้องขอบคุณหนังทั้งสามเรื่องของเธอ เนื่องจากการฉายในต่างประเทศมักจะล่าช้ากว่าการฉายภายในประเทศเสมอ ทำให้ ‘คนรักที่สาบสูญ’ เพิ่งจะเริ่มฉายในต่างประเทศ

 

 

ขณะที่ชื่อเสียงของเธอกระจายไปในต่างประเทศ จึงเป็นเรื่องง่ายที่เธอจะคว้าตำแหน่งตัวแทนแบรนด์ระดับโลกไว้ได้

 

 

“ทำไมคุณถึงเลือกทำแบบนี้คะ”

 

 

“เพราะผมต้องการพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าผู้หญิงของผมยังคงงดงามอย่างน่าทึ่งเหมือนเดิมไงล่ะ!”

 

 

ถังหนิงพยักหน้า

 

 

ขณะที่เธอฝึกซ่อมร่วมกับโม่ถิงนั้น โปรเจกต์ตัวแทนแบรนด์ก็ได้เริ่มมีความคืบหน้า

 

 

แน่นอนว่าวิสัยทัศน์ของดม่ถิงยังคงเฉียบแหลมเฉกเช่นทุกครั้ง เหตุผลที่เขาช่วยให้ถังหนิงได้งานโฆษณาครั้งเพราะตัวโฆษณาขะช่วยสร้างภาพลักษณ์ของผู้หญิงตะวันตกที่ดูโฉบเฉียวและยังสามารถช่วยถังหนิงได้เฉิดฉายความพลังที่อยู่ภายในตัวเธอ

 

 

เมื่อเวลานั้นมาถึง เขาจะบอกบริษัทผลิตภัณฑ์เด็กทุกเจ้าว่านี่คือผู้หญิงของเขาและเธอไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากแต่ก่อนเลยแม้แต่น้อย!