บทที่ 179 เจ้ามีอะไรจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ + บทที่ 180 เจ้าจะยอมสละอะไรเพื่อข้าได้เล่า

ภรรยาแม่ทัพเป็นสาวชาวบ้าน

บทที่ 179 เจ้ามีอะไรจะพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่

ทุกคนต่างใช้เวลาทั้งคืนในลานบ้านแห่งนี้ รวมทั้งทิ้งกาเปล่ากองไว้เต็มพื้น โชคดีที่เซียวฉีเทียนนั้นเมาจนหลับไปแล้ว มิเช่นนั้น หัวใจของเขาคงจะปวดร้าวน่าดู หากได้เห็นกองกาสุราบนพื้นเหล่านี้

หนิงเมิ่งเหยาช่วยพาเฉียวเทียนช่างเข้านอน เมื่อเห็นใบหน้าของชายหนุ่มแดงก่ำ นางก็รู้ว่าเขาเองก็เมาไม่น้อย เขาอาจจะอารมณ์ดีที่ได้พบเจอกับผองพี่น้องของตนเอง ทำให้ใบหน้าเย็นชาของเขามีรอยยิ้มและดูอบอุ่นขึ้น

หญิงสาวเช็ดหน้าให้ชายหนุ่มด้วยผ้าไหมตรงอ่างล้างหน้า และช่วยเขาถอดเสื้อผ้าออก ก่อนจะห่มผ้าให้กับเขา

หลังจากนั้น หนิงเมิ่งเหยาก็จากไปเงียบๆ เฉียวเทียนช่างที่ผล็อยหลับไปในตอนแรกนั้น ลืมตาขึ้นมองประตูที่ปิดลงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะหลับตาลงอย่างสงบ

“ชิงเซวียน เจ้าค่อยเก็บกวาดพรุ่งนี้ก็ได้ ตอนนี้มันดึกมากแล้ว ไปพักผ่อนกันเถิด” หนิงเมิ่งเหยาเอ่ยขึ้น หลังจากออกมาจากห้องและพบว่าท่านยายฉินและคนอื่นๆ กำลังทำความสะอาดกันอยู่

“คุณหนู ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะ พวกเราทำความสะอาดกันได้เร็วนัก ท่านไปพักผ่อนก่อนเถิดเจ้าค่ะ แล้วพวกเราจะเข้านอนหลังจากที่เก็บกวาดเสร็จแล้ว” ท่านยายฉินพูดโดยไม่เงยหน้าขึ้น เพราะกำลังจัดเก็บข้าวของอยู่

เมื่อเห็นว่าทุกคนเอ่ยเป็นเสียงเดียวกัน หนิงเมิ่งเหยาก็ตามใจ จากนั้นจึงยืนอยู่ตรงหน้าประตู ก่อนจะมองดวงดาราบนท้องฟ้า

‘แม้ว่าชีวิตจะมิได้สวยงามตามที่คิดฝันไว้ การมีเรื่องเข้ามารบกวนบ้างเป็นครั้งคราวก็ทำให้นางมีความสุขอย่างมาก บางทีนี่อาจจะเป็นความหมายของการมีชีวิตอยู่ก็ได้’

เฉียวเทียนช่างและพี่น้องของเขาดื่มกินกันไปหนักมาก แต่พวกเขากลับตื่นมาเช้าตรู่โดยไม่มีอาการเมาค้างแต่อย่างใด ทั้งยังมาฝึกฝนพลังหมัดของพวกเขากันตรงลานบ้านอีกด้วย หนิงเมิ่งเหยามองดูความกระฉับกระเฉงของพวกเขา ก่อนจะเดินกลับเข้าบ้าน

หญิงสาวยังคงเพลียและเหนื่อยล้า จึงต้องการพักผ่อนต่อ

ณ เมืองหลวงอันห่างไกล หลิงหลัวได้ยินข่าวมาจากผู้ใต้บังคับบัญชาว่าหนิงเมิ่งเหยากำลังจะแต่งงาน ใบหน้าของเขาก็เศร้าโศกไปครู่หนึ่ง

เขาคิดว่าหนิงเมิ่งเหยานั้นยังเป็นของตนเองอยู่ แต่ตอนนี้นางกำลังจะแต่งงาน นี่เป็นเรื่องที่ไม่อาจทำใจได้ง่ายนัก

เซียวจื่อเซวียนที่ตั้งครรภ์มาช่วงหนึ่งก็รับรู้ข่าวนั้นเช่นกัน รูปร่างของนางตอนนี้ราวกับท้องได้ประมาณเจ็ดถึงแปดเดือนแล้ว และดูมีเนื้อมีหนังมากขึ้น

เมื่อนางทราบว่าหลิงหลัวออกจากจวนที่พักหลังจากรู้ข่าวนั่น เซียวจื่อเซวียนผู้อารมณ์ดีมาตลอดสองสามเดือนนั้นก็หงุดหงิดใจในทันที ‘เพียงเพราะนังหนิงเมิ่งเหยาตัวดีนั่นกำลังจะแต่งงาน คงจะหลอกล่อหลิงหลัวให้ไปหาน่ะสิ นางคิดจะลองดีกันใช่หรือไม่’

เซียวจื่อเซวียนลูบท้องของตนเอง พลางคิดว่าจะไม่ปล่อยให้หญิงสาวคนนั้นเข้ามาแย่งชิงสามีของตนไป ไม่ต้องพูดถึงว่าหญิงผู้นั้นจะเป็นคนที่หลิงหลัวหลงรักเลย

หากหนิงเมิ่งเหยาแต่งงานเข้ามาในตระกูลของนางแล้ว เซียวจื่อเซวียนจะยังคงรักษาตำแหน่งของตนเองไว้ได้เช่นไรกันเล่า

หลังจากที่คิดเช่นนั้น นางจึงเชื่อมั่นว่า ต่อให้หนิงเมิ่งเหยาจะแต่งงานจริงหรือไม่ก็ตาม นางก็จะฆ่าหญิงสาวคนนั้นให้ได้

เมื่อหลิงหลัวมาถึงบ้าน อารมณ์ของเขาก็ปั่นป่วนขึ้นเล็กน้อย สถานที่แห่งนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ข้างๆ นั้นมีบ้านขึ้นมาอีกหนึ่งหลัง และดูเหมือนว่ามันจะเชื่อมต่อกับบ้านหลังเดิมนั้นด้วย ซึ่งนั่นเป็นความตั้งใจของเฉียวเทียนช่างว่าหลังจากแต่งงานกันแล้ว เขาอยากจะทลายผนังตรงกลางออก เพื่อทำให้บ้านทั้งสองหลังนี้กลายเป็นหลังเดียวกัน

หลิงหลัวเดินไปยังบ้านของหนิงเมิ่งเหยา ก่อนจะเคาะประตูซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผู้คนที่กำลังทานอาหารอยู่ในขณะนั้นต่างหันหน้าไปมองตรงประตู

เจี่ยงเฉวียนเปิดประตูและเห็นคนแปลกหน้าคนหนึ่งยืนอยู่ด้านนอก นั่นก็คือหลิงหลัว เจี่ยงเฉวียนจึงเอ่ยถาม “ท่านมาหาใครหรือขอรับ”

“ข้ามาหาหนิงเมิ่งเหยา นางอยู่ไหนรึ”

“คุณหนู มีคนมาหาขอรับ” เจี่ยงเฉวียนหันศีรษะไปบอกหนิงเมิ่งเหยาตรงลานบ้าน

เมื่อหญิงสาวได้ยินดังนั้น จึงรู้ทันทีว่าเป็นใคร นางเหลือบมองเฉียวเทียนช่างซึ่งลุกขึ้นยืนและเดินไปตรงประตูด้วยกันกับนาง

“เจ้าต้องการอะไรรึ” หนิงเมิ่งเหยาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเฉยชาและไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่นางกับหลิงหลัวจะกลับมาอยู่ด้วยกันได้

หลิงหลัวอยากจะถามคำถามหญิงสาว แต่เมื่อเขาเห็นเฉียวเทียนช่างยืนอยู่ข้างๆ เขาจึงเอ่ยว่า “เจ้าจะแต่งงานกับเขาจริงหรือ”

หนิงเมิ่งเหยามองหลิงหลัวอย่างขบขัน ราวกับว่าเขาจับได้ว่าภรรยาของตนเองกำลังนอกใจอย่างไรอย่างนั้น นางหัวเราะลั่นอย่างอดไม่ได้ “ใช่แล้ว ข้ากำลังจะแต่งงานกับเขา เจ้ามีปัญหาอะไรรึ”

บทที่ 180 เจ้าจะยอมสละอะไรเพื่อข้าได้เล่า

หนิงเมิ่งเหยาเคยคิดว่าหลิงหลัวเป็นดั่งโลกทั้งใบของตนเอง แต่ตอนนั้น นางยังไม่พบกับเฉียวเทียนช่าง หลังจากรู้จักกับชายหนุ่มผู้นี้ สิ่งดีๆ ที่หลิงหลัวเคยทำให้กลับดูไร้ค่าและช่างเป็นสิ่งที่เล็กน้อยมากนัก เขาไม่ยอมแม้แต่จะสละตำแหน่งอำนาจสูงส่งของตน เพื่อจะได้มาอยู่ในหมู่บ้านหลังภูเขากับนางด้วยซ้ำ

“เจ้า…หนิงเมิ่งเหยา ทำไมเจ้าถึงทำตัวไร้ค่าเช่นนี้”

ดวงตาของหนิงเมิ่งเหยาเย็นชาในทันที เฉียวเทียนช่างกำลังจะต่อยหน้าเขา แต่หญิงสาวกลับตบหน้าอีกฝ่ายเสียก่อน “เรื่องของข้ากับเจ้ามันจบลงแล้ว อย่าพูดราวกับว่าข้าติดค้างอะไรกับเจ้าอีก หลิงหลัว ไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องการใครสักคนเพื่อมีชีวิตอยู่หรอกนะ”

เฉียวเทียนช่างจ้องมองหนิงเมิ่งเหยาอย่างไม่พอใจนัก “อย่าพูดจาไร้สาระสิ ข้าอยู่ไม่ได้หากขาดเจ้านะ”

หนิงเมิ่งเหยาอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้น “โถ่ ท่านพี่ ข้าพูดผิดไปแล้ว”

หลิงหลัวไม่คาดคิดว่าหญิงสาวจะกลายเป็นคนเช่นนี้

“ในอดีตเจ้ามิใช่คนเช่นนี้นี่ ข้าผิดหวังในตัวเจ้านัก” หลิงหลัวจับหน้าของตนเอง และไม่อาจเชื่อว่านี่คือหนิงเมิ่งเหยาตัวจริง นางไม่มีทางเป็นคนแบบนี้ได้ สภาพแวดล้อมรอบตัวของนางคงจะไม่ดีเป็นแน่

อย่างไรก็ตาม หนิงเมิ่งเหยายังคงหัวเราะใส่หน้าเขา “ตัวตนของข้าไม่เคยเปลี่ยนไปหรอก แต่เจ้าต่างหาก ที่ไม่เคยเข้าใจข้าเลยจริงๆ เจ้ามีชีวิตของเจ้าแล้ว หลิงหลัว ข้าเองก็เช่นกัน ไม่ใช่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะหมุนรอบตัวเจ้าหรอกนะ”

หลังจากที่เขาบอกว่าจะให้นางมาเป็นอนุภรรยาของเขา และเมื่อนางเผาบ้านของตนเอง ก่อนจะหนีออกจากเมืองหลวงมา พวกเขาก็ไม่เคยติดต่อกันอีกเลย นางอยู่ตัวคนเดียว โดยมิได้พึ่งพาใครๆ นอกจากนี้พวกเขายังไม่มีพันธะการแต่งงาน หรือเป็นสามีภรรยากัน เขามีภรรยาสามคนและอนุภรรยาสี่คน นางก็ไม่ว่าอะไร แล้วเขาเป็นใครกันที่จะมาห้ามมิให้นางแต่งงานกับคนที่นางรักได้

“เจ้า…” หลิงหลัวตะลึงจนพูดไม่ออก เพราะหนิงเมิ่งเหยานั้นพูดถูก ไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องการมีใครสักคน

หลิงหลัวสูดลมหายใจเข้าลึก และมองดูหญิงสาว “กลับมาอยู่กับข้าเถิด ข้าจะให้ทุกสิ่งที่เจ้าปรารถนา”

เฉียวเทียนช่างถมึงทึงขึ้นทันที ‘ชายผู้นี้กำลังจะแย่งชิงคนรักของข้าไปต่อหน้าต่อตา หากหนิงเมิ่งเหยาไม่หยุดเขา เขาก็จะเตะอัดคนๆ นี้ให้กระเด็นไปไกลๆ เสีย’

หนิงเมิ่งเหยาจับมือของเฉียวเทียนช่างเอาไว้ พลางมองหน้าหลิงหลัว “เจ้าบอกว่าเจ้าทำตามคำขอของข้าได้ทุกอย่างใช่หรือไม่ ถ้าเช่นนั้นเจ้ายอมสละตำแหน่งซื่อจื่อแล้วมาอาศัยอยู่กับข้าในหมู่บ้านเล็กๆ บนภูเขาแห่งนี้ได้ไหมเล่า เจ้าจะยอมทิ้งสิทธิต่างๆ ของตนเอง เพื่อมาใช้ชีวิตธรรมดาๆ กับข้าได้หรือไม่”

คำขอร้องมีเพียงสองข้อ และไม่ได้เป็นคำขอที่มากเกินไปเลย แต่ทว่าสีหน้าของหลิงหลัวกลับกระอักกระอ่วน เขาพูดพลางขบฟันแน่น “อย่าพูดจาเหลวไหลน่า”

“ฮ่าๆ อย่าพูดจาเหลวไหลรึ หลิงหลัว ข้าพูดจาเหลวไหลหรือไม่นั้น เจ้ารู้ดีอยู่แก่ใจ หากคำพูดที่เจ้าบอกว่าทำให้ข้าได้ทุกอย่างนั้น หมายถึงเพชรพลอยหรือเงินทอง ข้าก็ต้องขอโทษด้วย เพราะข้าเองก็มีเงินใช้ไม่ขาดมือ อีกอย่าง หากข้าต้องการเงิน เทียนช่างเองก็สามารถหามาให้ข้าได้ เขายอมทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อจะอยู่เคียงข้างกับข้า แล้วเจ้าทำได้หรือไม่เล่า” หนิงเมิ่งเหยามองหลิงหลัวอย่างเย้ยหยัน

ใครๆ ก็ต่างพูดจาดูดีได้ เขาเองก็พูดได้หมดนั่นแหละ แต่ใครบ้างเล่าที่จะสามารถทำได้อย่างที่พูดจริงๆ

เฉียวเทียนช่างเป็นถึงแม่ทัพ เขาสามารถกลับไปยังเมืองหลวงเพื่อรับตำแหน่งสูงๆ ได้ทุกเมื่อ หากเขาต้องการ แต่เขากลับปฏิเสธที่จะกลับไป ก่อนหน้านี้เขาเคยพูดเอาไว้ว่าหากเขากลับไป ก็คงไม่ได้เจอนาง แต่เมื่อพบนางแล้ว เขาก็ไม่เคยมีความคิดที่จะกลับไปอีกเลย เขาบอกพี่น้องของตนว่าจะไม่กลับไป เว้นเสียแต่ว่าจะเกิดสงครามทำให้ความปลอดภัยของเมืองเซียวและชีวิตของผองพี่น้องของเขานั้นอยู่ในอันตรายเท่านั้น

มิเช่นนั้น เขาก็จะอาศัยอยู่ในหมู่บ้านบนภูเขาเล็กๆ แห่งนี้กับหญิงสาวคนนี้ตลอดไป

ก่อนหน้านี้ เซียวฉีเทียนและหลินจือโยวต่างมองว่าเฉียวเทียนช่างนั้นเป็นชายผู้แกร่งกล้า แต่สำหรับหญิงสาวผู้นี้แล้ว เขายอมล้างจานซักผ้า และเตรียมอาหารในครัวให้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ชายส่วนใหญ่ปฏิเสธที่จะทำ แล้วหลิงหลัวหรือจะสามารถทำได้ ไม่หรอก เขาทำไม่ได้แน่ๆ

หากนางไม่ลองเปรียบเทียบชายทั้งสอง ก็คงไม่รู้ว่าใครดีที่สุด นางมิใช่คนโง่เง่าที่จะยอมเสียคนดีๆ เพื่อกลับไปอยู่กับคนเห็นแก่ตัวหรอก

“หลิงหลัว อย่าสัญญาอะไรที่ตนเองทำไม่ได้เลย ข้ารักเทียนช่าง ข้าอยากใช้ชีวิตกับเขา ข้าชอบมองเขาทำอาหารให้ข้ากิน และชอบที่เขาเรียนรู้วิธีทำขนมให้กับข้า ข้าชอบเห็นเขาตามหาสิ่งที่ข้าต้องการ ความต้องการของข้ามิได้มากเกินไปเลย ข้าเพียงต้องการใครสักคนที่ปฏิบัติกับข้าอย่างหมดหัวใจจริงๆ ก็เท่านั้น และเขาผู้นี้ ก็คือคนๆ นั้น” หนิงเมิ่งเหยาเมินเฉยต่อท่าทางถมึงทึงของหลิงหลัว ก่อนจะหันมองเฉียวเทียนช่างอย่างสุขใจ

เดิมทีนั้นเฉียวเทียนช่างยังคงไม่พอใจ แต่เมื่อได้ยินคำพูดจากหนิงเมิ่งเหยา ความขุ่นเคืองของเขาก็พลันหายไปในทันที นางบอกว่านางชอบเขา และอยากอยู่กับเขา