ตอนที่ 703-704

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 703 + 704 โดย Ink Stone_Romance

บทที่ 703 ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาล้อเล่น!

เรื่องที่เขาพูดต่อให้เป็นหลงซือเย่ก็ไม่สามารถโต้แย้งได้อย่างสมบูรณ์

หากว่าทั้งหมดที่ตี้ฝูอีกล่าวเป็นความจริงเล่า?!

เขาไม่อาจนำชีวิตของซีจิ่วมาเสี่ยงได้!

แต่ปล่อยไว้เช่นนี้หรือ? ต้อปล่อยให้เธอกลายเป็นสวะไร้ค่าอย่างสิ้นเชิงหรือ?

อย่าว่าแต่เธอที่ไม่ยอมรับเลย เขาก็ไม่ยอมรับเหมือนกัน!

เขาไม่สนใจว่าเธอจะเป็นสวะไร้ค่าหรือไม่ ไม่สนใจตำหนิเล็กๆ น้อยๆ บนหน้าเธอ ทว่าไม่สนใจชีวิตเธอที่จะไม่ยืนยาวไม่ได้…

หากชั่วชีวิตนี้เธอกลายเป็นสวะไร้ค่าอย่างสมบูรณ์ เช่นนั้นก็ไม่อาจฝึกฝนพลังวิญญาณได้อีก เมื่อไม่มีพลังวิญญาณก็ฝึกฝนวิชายืดอายุขัยไม่ได้ เช่นนั้นเธอก็เหมือนคนธรรมดาทั่วไปที่มีชีวิตได้มากสุดหนึ่งร้อยแปดสิบปี จากนั้นก็จะกลายเป็นหญิงชราแล้วตายจากไป…

เขาไม่อาจยอมรับเรื่องนี้ได้!

เขากำมือแน่น เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขารู้สึกว่าวิชาแพทย์ของตนยังไม่เก่งกาจพอ ยามนี้คนรักที่อยู่เบื้องหน้าเป็นเช่นนี้ ทว่าเขากลับช่วยอะไรไม่ได้…

“หลงซือเย่ ข้าอยากได้คำยืนยันอีกครั้ง ตอนนี้เจ้าไม่มีวิธีถอนกระบี่นี้ออกภายในครึ่งชั่วยามใช่หรือไม่?” ตี้ฝูอีเอ่ยขัดเขาที่กำลังเสียใจและแค้นใจตนเองอยู่

หลงซือเย่ส่ายศีรษะ “ไม่…ไม่มี”

ตี้ฝูอีมองกู้ซีจิ่วอีกครั้ง “เจ้าไม่อยากกลายเป็นสวะไร้ค่าอีกครั้งใช่ไหม?”

พูดจาไร้สาระ!

กู้ซีจิ่วเม้มปากนิดๆ ไม่เอ่ยตอบ

“ข้ามีวิธีช่วยนาง!” ตี้ฝูอีสูดหายใจเบาๆ ปาระเบิดลูกหนึ่งออกมา

สองคนที่อยู่บนเตียงเงยหน้ามองเขาพร้อมกัน

“วิธีใด?” หลงซือเย่รีบถาม

ตี้ฝูอีมองคนทั้งสองที่ประคับประคองกัน ก้นบึ้งดวงตาคล้ายมีกระแสความมืดมิดพาดผ่าน “ไม่สำคัญว่าข้าจะใช้วิธีใด สรุปคือข้าสามารถทำให้นางฟื้นฟูกลับมาเป็นปกติได้ เพียงแต่ ถ้าต้องการให้ข้าลงมือข้าก็มีเงื่อนไขเช่นกัน ถ้าพวกเจ้าตกลงข้าจะลงมือทันที หากไม่ตกลงข้าก็จะจากไปทันที ไม่ยื่นมือเข้าช่วยเหลืออีก!”

เห็นได้ชัดว่าสองคนนั้นนึกไม่ถึงว่าเขาจะยื่นเงื่อนไขในยามนี้ กู้ซีจิ่วตัวแข็งทื่อทันที

หลงซือเย่สุดหายใจเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า “ตี้ฝูอี หนนี้ที่นางได้รับบาดเจ็บเช่นนี้เดิมทีก็มีสาเหตุมาจากเจ้า! หากมิใช่เจ้ากล่าวบนเวทีว่าสองฝ่ายต้องสู้โดยมีชีวิตเป็นเดิมพัน บาดเจ็บตกตายไม่มีโทษ อวิ๋นชิงหลัวจะกล้าใช้กระบี่เช่นนี้ทำร้ายคนได้อย่างไร?! ตอนนี้เจ้ามีวิธีช่วยเหลือซีจิ่วยังจะคิดยื่นเงื่อนไขอีกหรือ?”

ตี้ฝูอีเงียบไปครู่หนึ่ง ยกยิ้มมุมปากแวบหนึ่ง “เจ้าสามารถพูดจาไร้สาระกับข้าต่อได้ เจ้ากับข้าโอ้เอ้ต่อไปได้ แต่กู้ซีจิ่ว…นางโอ้เอ้ต่อได้หรือ? ยามนี้นาวได้รับบาดเจ็บมาครึ่งเค่อแล้ว…”

หลงซือเย่พูดไม่ออก

ตอนนี้ในใจของกู้ซีจิ่วก็บอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร เธอรู้ว่าตี้ฝูอีผู้นี้น่าชิงชัง ไร้ขีดกำจัดล่าง เพียงแต่นึกไม่ว่าจะไร้ยางอายและเลือดเย็นได้ถึงเพียงนี้…

ในใจเธอบอกไม่ถูกว่าผิดหวังหรือว่าอะไร พูดจาเข้าประเด็นทันที “เงื่อนไขอะไร?”

ตี้ฝูอีมองนาง ย่อมสัมผัสได้ถึงความดูหมิ่นชิงชังในก้นบึ้งดวงตาของนาง ในใจดั่งถูกเข็มแหลมทิ่มแทง ทว่ารอยยิ้มตรงมุมปากกลับไม่แปรเปลี่ยน “เจ้าต้องแต่งกับข้า!”

กู้ซีจิ่วตกตะลึง

คนผู้นี้ป่วยเป็นโรคประสาทหรือ?! บ้าไปแล้วกระมัง?! มาบังคับให้แต่งงานในยามนี้!

กู้ซีจิ่วถลึงตามองด้วยสายตาที่ใช้มองคนบ้า กล่าวออกมาเพียงสามคำ “ฝันไปเถอะ!”

หากว่าเขาวิ่งมาขอเธอแต่งงานก่อนหน้าเทศกาลความรักเมื่อคืนนี้ เธออาจจะนึกว่าเขาชอบเธอด้วยใจจริง ดังนั้นถึงได้ทำทุกทางเพื่อบังคับให้แต่งงาน

แต่หลังจากผ่านคืนนั้นไป เขาขอเธอแต่งงานอีกครั้งเธอกลับมีแค่ความรู้สึกรังเกียจ!

คนผู้นี้เมื่อคืนยังอี๋อ๋อกับอวิ๋นชิงหลัวอยู่เลย วันนี้อวิ๋นชิงหลัวถูกซัดจนไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย เขาไม่เพียงแต่ไม่ไปดูสักแวบเท่านั้น กลับมาข่มขู่ให้ตัวเธอกู้ซีจิ่วตอบรับคำขอแต่งงานของเขางั้นหรือ?

วงจรสมองเขาสวนกระแสกับคนทั่วไปหรือ? สรุปแล้วเขาชอบใครกันแน่?

————————————————————————————-

บทที่ 704 สิ้นชีพใต้โบตั๋นบานสะพรั่ง มอดม้วยเป็นผีก็สุขสำราญ

หรือว่าเขาจะต้องการทั้งกุหลาบขาวและกุหลาบแดง? เมื่อคืนจัดการกับอวิ๋นชิงหลัว วันนี้เลยคิดจะมาจัดการตัวเธอกู้ซีจิ่วสินะ? จากนั้นก็โอบกอดโฉมงามทั้งสองไว้ใช่หรือไม่?

ขยะ! เดนมนุษย์!

ตอนนี้กู้ซีจิ่วเจ็บจนไม่มีแรงแล้ว หากว่าเธอยังมีเรี่ยวแรงอยู่บ้างคงอยากยื่นเท้าไปถีบคนผู้นี้ให้กระเด็น ทำให้เขาไสหัวไปไกลๆ ซะ!

คิ้วคมของหลงซือเย่ขมวดแน่น “ตี้ฝูอี ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาล้อเล่น!”

รอยยิ้มตรงมุมปากตี้ฝูอีเลือนหายไป กล่าวอย่างเยือกเย็น “ข้าก็ไม่ได้ล้อเจ้าเล่นเหมือนกัน!”

“เหตุใดต้องเป็นนาง? ตี้ฝูอี ด้วยเงื่อนไขของเจ้าสตรีแบบไหนเล่าที่จะต้องการ? เหตุใดต้องบังคับนางในยามนี้? เจ้าก็รู้อยู่ชัดเจนว่านางไม่ได้รักเจ้า และเจ้าก็ไม่ได้รักนาง เหตุใดต้องฝืนใจผู้อื่น?” หลงซือเย่กำหมัด

“เจ้าสำนักหลง ข้ารักนางหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า! ส่วนที่ว่าทำไมต้องเป็นนาง…” สายตาตี้ฝูอีหยุดอยู่ที่ใบหน้ากู้ซีจิ่ว ยิ้มบางๆ “บางทีอาจเป็นเพราะข้าชอบนางกระมัง?”

บางที?

กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าโทสะพวยพุ่งขึ้นศีรษะ เธอสูดลมหายใจเข้าไปเฮือกหนึ่ง ไม่สนใจความเจ็บปวดที่กระบี่เล่มนั้นเชือดเฉือนทรวงอก กล่าวออกไปทีละคำ “ตี้ฝูอี ข้า จะ ไม่ แต่ง ให้ เจ้า เด็ด ขาด! ข้า ยอม กลาย เป็น สวะ ไร้! ค่า! ขอ เป้น คน ธรรมดา ไป ชั่ว ชีวิต!”

รอยยิ้มตรงมุมปากตี้ฝูอีคล้ายจะแข็งทื่อไป “ชังข้าถึงเพียงนี้เชียวหรือ?”

“ใช่!” เธอตอบอย่างไม่ลังเล

ชั่วชีวิตนี้ตี้ฝูอีตามหาผู้ที่จะมาสร้างสีสันให้ชีวิตที่น่าเบื่อของตนมาตลอด ทว่าความโหดร้ายเช่นนี้เพิ่งได้พบเป็นครั้งแรก

รอยยิ้มที่มุมปากของเขาคลี่แย้มอีกครั้ง ยื่นมือไปเชยคางกู้ซีจิ่ว “ปณิธานช่างเด็ดเดี่ยวนัก…ทำอย่างไรดี? ดูเหมือนข้าจะต้องการเจ้ายิ่งกว่าเดิมแล้ว”

กู้ซีจิ่วรวยรวมกำลังยกมือขึ้นปัดอุ้งเท้าหมาป่าของเขาออกไป “ต้องการข้า? ตี้ฝูอี เจ้าไม่เกรงกลัวว่าวันหน้าข้าจะสังหารเจ้าข้างหมอนหรือ?”

“สิ้นชีพใต้โบตั๋นบานสะพรั่ง มอดม้วยเป็นผีก็สุขสำราญ มิใช่หรือ? นับประสาอะไรกับเจ้าที่ตอนนี้ยังไม่มีฝีมือถึงเพียงนั้น” ตี้ฝูอีคล้ายว่าจะไม่ใส่ใจ ดวงตาคู่นั้นจับจ้องวงหน้าเฉิดฉันของเธอ “กู้ซีจิ่ว ตอนนี้เจ้าไม่มีทางเลือกแล้ว!”

กู้ซีจิ่วโกรธจัด หน้าเธอซีดเผือด กระอักโลหิตออกมาเสียงดังอั่ก…

หลงซือเย่ตื่นตระหนก “ซีจิ่ว!”

กู้ซีจิ่วกระอักครั้งนี้สะเทือนไปถึงบาดแผล เจ็บปวดเจียนตายขึ้นมาในทันใด ร่างกายที่อยู่ในอ้อมแขนหลงซือเย่สั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้

ตี้ฝูอีปราดเข้ามา มือไม้ว่องไวปานสายฟ้า กดลงบนร่างกู้ซีจิ่วอย่างต่อเนื่อง กดจุดบนร่างเธอเจ็ดแปดจุดในชั่วพริบตา

ความเร็วของเขาว่องไวนัก หลงซือเย่ไม่มีทางขวางไว้ทัน จึงขึงตามองเขาอย่างขุ่นเคือง “เจ้าทำอะไร?!”

ตี้ฝูอีถอยหลังไปเล็กน้อย น้ำเสียงเยียบเย็นนิดๆ “นางกระอักคำนี้ออกมาก็ดีขึ้นมาแล้ว ก่อนหน้านี้นางสะกดกลั้นไว้ตลอด ถึงทำให้บาดแผลเจ็บปวดเช่นนี้”

หลงซือเย่ถามอย่างไม่แน่ใจ “…เจ้าพูดจริงหรือหลอก?”

ตี้ฝูอีคร้านจะสนใจเขา สายตาทอดมองใบหน้ากู้ซีจิ่ว “ตอนนี้เจ้ารู้สึกอย่างไร?” น้ำเสียงจริงจังขึ้นมาอย่างที่พบเห็นได้ยาก

กู้ซีจิ่วทึ่มทื่ออยุ่หลายวินาที สำรวจร่างกายตามสัญชาตญาณ ดูเหมือนความเจ็บตรงทวงอกนั้นจะทุเลาลงบ้างแล้วจริงๆ การหายใจก็ราบรื่นขึ้นไม่น้อย

หลงซือเย่มองท่าทีของกู้ซีจิ่ว ก็ทราบเช่นกันว่าเธอดีขึ้นมา จึงถอนหายใจอย่างโล่งอก “เมื่อครู่เจ้าพูดจาน่ารังเกียจเช่นนั้นเพื่อกระตุ้นให้นางกระอักโลหิตหรือ?”

ตี้ฝูอีตอบด้วยน้ำเสียงเฉยชา “ถ้านางไม่กระอักโลหิตคำนี้ออกมาคาดว่าเทพเซียนก็ช่วยเหลือนางไม่ได้แล้ว”

ที่แท้คำพูดบัดซบพวกนั้นที่เขากล่าวออกมาเมื่อครู่ก็เพื่อกระตุ้นให้เธอกระอักเลือด กู้ซีจิ่วก็ไม่รู้ว่ารู้สึกโล่งใจหรือว่ารู้สึกอย่างไร เธอสูดลมหายใจเข้าไปนิดๆ มองเขาพลางกล่าว “เช่นนั้นขั้นต่อไปต้องทำอย่างไร?”

ตี้ฝูอีเลิกคิ้ว ราวกับนางเอ่ยคำถามโง่ๆ ออกมา “ขั้นต่อไปย่อมต้องตอบรับเงื่อนไขของข้า จากนั้นข้าถึงจะช่วยเจ้า”