ภาคที่ 1 การรุกกลับของศิษย์พี่ บทที่ 54 เสมอก็ถือว่าแพ้!

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เยี่ยนจ้าวเกอมองจ้าวหยวนที่กำลังเดินไปที่เตากลั่นโอสถ แล้วจึงมองจ้าวฮ่าวในภายหลัง ก่อนจะลูบคางของตนเอง ‘หากวันนี้ข้าไม่ได้อยู่ที่แห่งนี้ สองพี่น้องจ้าวหยวนและจ้าวเฉิงจะต้องถูกตบหน้าอย่างแน่นอน’

‘อีกทั้งพอตบหน้าด้านขวาแล้ว ก็ตบหน้าด้านซ้ายอีก’

‘แล้วหลังจากนั้นไม่แน่ว่าด้วยเหตุผลแปลกประหลาดอีกนานัปการ พวกเขาอาจจะค่อยๆ กลายเป็นหินรองเท้าให้กับจ้าวฮ่าวทีละก้าว’

จากนั้นเขาพลันเบะปาก ‘วิชากลั่นโอสถจำเป็นต้องมีพรสวรรค์ และจำเป็นต้องสั่งสมประสบการณ์ ซึ่งต่อให้เป็นข้า ก็ไม่มีวิธีที่จะทำให้คนทำสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว’

‘ยิ่งไปกว่านั้นข้าไม่มีทางออกโรง ลดตัวลงไปแข่งกับจ้าวฮ่าวแน่นอน’

‘หากทำเช่นนั้น ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ก็ล้วนแต่จะทำให้จ้าวฮ่าวผู้นี้ได้หน้าไป’

‘แต่คิดว่าเป็นเช่นนี้แล้วข้าจะไม่มีวิธีเลยหรืออย่างไร?’

จ้าวหยวนทำตามการชี้แนะของเยี่ยนจ้าวเกอ เขาไม่ได้หยิบเตาโอสถของตนออกมา และไม่ได้เดินไปยังเตาโอสถของจ้าวฮ่าว ทว่ากลับเดินไปตรงหน้าของท่านผู้เฒ่าหวังแทน

“ท่านผู้เฒ่าหวัง ไม่ทราบว่าจะขอโอสถรักษาบาดแผลของน้องสิบหกให้แก่ข้าได้หรือไม่”

ท่านผู้เฒ่าหวังขมวดคิ้วเล็กน้อย และเผยสีหน้าไม่พอใจ “องค์ชายใหญ่ไม่เชื่อข้า คิดว่าข้าเข้าข้างองค์ชายสิบหกอย่างนั้นหรือ?”

องค์ชายใหญ่ยิ้มเล็กน้อยพลางส่ายหน้า ทั้งยังพูดว่า “แน่นอนว่าไม่ใช่ ท่านผู้เฒ่าหวังอย่าเพิ่งเข้าใจผิดไป ข้าเพียงแต่อยากดูโอสถที่น้องสิบหกกลั่นก็เท่านั้นเอง”

ท่านผู้เฒ่าหวังมองดูเยี่ยนจ้าวเกอและจ้าวซื่อเลี่ย ท้ายที่สุดก็ส่งโอสถรักษาบาดแผลให้กับจ้าวหยวน

เขาถอนหายใจครั้งหนึ่ง “ใช้เวลาน้อยนิด ประสิทธิภาพโอสถไม่ต้องพูดถึง ท่านดูก้นเตาโอสถของเขาเสียก่อน กากโอสถแม้เพียงเล็กน้อยก็ไม่มี วัตถุดิบโอสถถูกนำไปใช้อย่างสมบูรณ์ ไม่มีการสิ้นเปลืองสักนิด”

คำพูดที่พูดออกมานี้ ทำให้ทุกคนล้วนตกตะลึง

จ้าวฮ่าวทำได้สมบูรณ์แบบทั้งสามด้าน ต่อให้ระดับความสามารถของจ้าวหยวนจะพุ่งสูงขึ้น ก็ทำได้มากสุดแค่เสมอ นอกเสียจากว่าประสิทธิภาพของโอสถที่เขากลั่นออกมาจะดีกว่าจ้าวฮ่าว

ทว่านั่นจะยังเป็นโอสถรักษาบาดแผลอยู่หรือ?

สีหน้าของจ้าวหยวนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ในมือกำโอสถรักษาแผลเอาไว้เพื่อชั่งดูปริมาณ แล้วหันหน้ากลับไปมองจ้าวฮ่าว “วิชากลั่นโอสถของน้องสิบหก ช่างเก่งกาจจริงๆ”

จ้าวฮ่าวพูดนิ่งๆ ว่า “เสด็จพี่ใหญ่อยากจะพูดอะไรหรือ”

จ้าวหยวนพูดอย่างใจเย็นว่า “วิชากลั่นโอสถของน้องสิบหกนั้นเลิศล้ำ กระทั่งสามารถทำให้เกิดภาพลวงตาจากไอควันเตาโอสถได้ พี่ใหญ่เช่นข้าต้องขอบอกว่าน่านับถือยิ่งนัก”

“แต่เส้นทางการกลั่นยาลึกล้ำกว้างไกล แต่ละศาสตร์มากมายก่ายกอง…”

ทันใดนั้นจ้าวฮ่าวพูดตัดบทเขา “วิธีกลั่นโอสถนั้นมากมายก็จริง แต่ที่ท่านรู้ ข้าเองก็รู้ ส่วนที่ท่านไม่รู้ ข้าล้วนรู้ทั้งสิ้น”

“เช่นนั้นท่านไม่จำเป็นต้องกล่าวให้มากความ เข้าประเด็นเลยดีกว่า”

เมื่อถูกน้องชายตัดบท จ้าวหยวนไม่ได้โกรธ และยังคงพูดอย่างช้าๆ ว่า “น้องสิบหกกล้าหาญยิ่งนัก ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว พี่ใหญ่เช่นข้าก็จะแสดงความสามารถเสียหน่อยล่ะ”

“ข้าบังเอิญได้เรียนวิชากลั่นโอสถมหัศจรรย์แขนงหนึ่งมาเล็กน้อย วันนี้จะขอลองวิชาสักหน่อยก็แล้วกัน”

“ส่วนน้องสิบหก ไม่จำเป็นต้องแกร่งกว่าข้า เพียงแค่ทำให้ได้เหมือนอย่างพี่ใหญ่ วันนี้พี่ใหญ่ก็ขอศิโรราบยอมแพ้”

“ไม่รู้ว่าน้องสิบหกจะคิดว่าอย่างไร”

จ้าวฮ่าวมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย้ยหยัยทันทีที่ได้ยินดังนั้น จากนั้นเขาก็มองไปยังเยี่ยนจ้าวเกอ

‘วิชามหัศจรรย์หรือ? น่าขันนัก ตอนนั้นข้าใช้เวลากว่าครึ่งชีวิตเก็บซากวัตถุที่หลงเหลือจากวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ หรือวิชาของสำนักโอสถแขนงใหญ่หลังจากวิกฤตการณ์จากทั่วทั้งโลกแปดพิภพทั้งหมดมาแล้ว’

‘นอกจากเคล็ดวิชาและวิธีปรุงยาเฉพาะของแต่ละดินแดนศักดิ์สิทธิ์ สิ่งที่เกี่ยวกับการกลั่นโอสถทั่วหล้านี้ ไม่สิ่งใดที่ข้าไม่รู้’

‘วิชากลั่นโอสถของเขากว่างเฉิงของเยี่ยนจ้าวเกอก็มีเอกลักษณ์เฉพาะอยู่บ้าง แต่ไม่มีสักแบบที่ความสามารถของจ้าวหยวนจะเรียนรู้จนชำนาญได้’

‘หรือจะเป็นวิชานอกสำนักที่ได้มาโดยบังเอิญ เหอะ ล้วนเป็นของที่เหลือจากที่ข้าเคยเล่นในอดีตทั้งนั้นแหละ’

จ้าวฮ่าวพลันยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ พลางกล่าวว่า “ต่อให้เสมอกัน ก็ขอถือว่าข้าแพ้!”

จ้าวหยวนยิ้มพร้อมพยักหน้า แล้วหยิบเข็มทองเล่มหนึ่งออกมาทันที จากนั้นก็แทงเข้าไปในโอสถรักษาบาดแผลนั้น

ผู้คนที่เห็นดังนั้นต่างก็ตะลึงงั้น ไม่เข้าใจว่าจ้าวหยวนกำลังทำสิ่งใดอยู่กันแน่

มีเพียงแค่จ้าวฮ่าวและท่านผู้เฒ่าหวังเท่านั้น ที่มีความตื่นตาตื่นใจฉายชัดอยู่ในดวงตา

ทั้งสองคนมองจ้าวหยวนที่ขับเคลื่อนเข็มประหนึ่งปักษากำลังโบยบิน เขาแทงเข็มเข้าไปในโอสถรักษาแผลต่อเนื่องเก้าครั้ง จากนั้นภายในตัวโอสถรักษาบาดแผลก็เริ่มมีหมอกควันจางๆ พรั่งพรูออกมาจากรูเข็ม

ทุกคนที่มองต่างตกอยู่ในภวังค์ พวกเขารู้ว่าหมอกที่พรั่งพรูออกมาเหล่านี้เป็นเพราะการกระทำของจ้าวหยวน ทว่าโอสถไม่ใช่ถุงลมเสียหน่อย จะมีอากาศออกมาจากข้างในได้อย่างไร

เมื่อทำทุกอย่างเสร็จสิ้น จ้าวหยวนก็นำโอสถคืนให้กับมือท่านผู้เฒ่าหวัง “เชิญท่านผู้เฒ่าหวังตรวจสอบใหม่อีกครั้ง”

ท่านผู้เฒ่าหวังสูดหายใจเข้าลึก หลังจากตรวจสอบแล้ว ชายชราก็ตกอยู่ในความเงียบงัน ราวกับกำลังคิดทบทวนอยู่ในใจ

เขาไม่พูดแม้แต่คำเดียวแล้ว เพียงแต่ส่งโอสถเม็ดนั้นให้กับจ้าวซื่อเลี่ยที่อยู่ด้านข้าง หลังจากที่ฝ่ายหลังมองดูแล้ว คิ้วก็พลันกระตุกขึ้นทันที

“ไอควันของเตาไฟที่หลงเหลืออยู่ในโอสถหายไปหมดแล้ว ประสิทธิภาพของโอสถดีขึ้นมากกว่าเดิมอีก จนมีประสิทธิภาพดีสูงสุดตามตำราทฤษฎียารักษาแผลอย่างนั้นหรือ?!”

“แต่ว่าทำได้อย่างไรกัน?!”

ท่านผู้เฒ่าหวังถอนหายใจหนัก ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อยอย่างคาดไม่ถึง จากนั้นเขาก็มองไปยังจ้าวหยวน “ขอประทานอภัยที่ข้าตาฝ้าฟางไป เคล็ดวิชาที่องค์ชายใหญ่ใช้ ใช่วิชาเข็มทองผ่านโอสถหรือไม่”

จ้าวหยวนยิ้มเล็กน้อย พยักหน้าพลางกล่าวว่า “ท่านผู้เฒ่าหวังสายตาหลักแหลม เป็นเข็มทองผ่านโอสถจริงๆ”

ร่างกายท่านผู้เฒ่าหวังหยุดสั่นแล้ว เขาเงยหน้าขึ้นแล้วถอนหายใจยาว รู้สึกพึงพอใจอย่างถึงที่สุด “คิดไม่ถึงเลยว่าชั่วชีวิตข้าจะได้เห็นเคล็ดวิชามหัศจรรย์ในยุคก่อนเกิดวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ชั่วชีวิตนี้ไม่เสียเปล่าจริงๆ!”

จ้าวซื่อเลี่ย จ้าวเฉิง และคนอื่นๆ ล้วนตกตะลึงกับสิ่งนี้ “ท่านผู้เฒ่าหวัง…”

หลังจากที่ท่านผู้อาวุโสหวังสงบสติอารมณ์ลงได้แล้วจึงกล่าวว่า “วิชาเข็มทองผ่านโอสถ สามารถสลายไอควันจากเตาไฟที่หลงเหลืออยู่ในโอสถให้หมดได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิผลและคุณภาพของโอสถที่กลั่นสำเร็จแล้วได้อย่างมาก”

“ก่อนเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ นี่ถือเป็นหนึ่งในเคล็ดวิชากลั่นโอสถชั้นสูง ทว่าภายหลังเกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ก็ขาดการสืบทอดต่อ ปัจจุบันเหลือเพียงคำบอกเล่าและตัวอักษรที่ถูกบันทึกไว้คร่าวๆ เท่านั้น ประหนึ่งกับกลายเป็นตำนานไปแล้ว”

จ้าวหยวนมองไปยังจ้าวฮ่าว แล้วจึงกล่าวอย่างไม่ช้าไม่เร็วว่า “ข้าก็รู้เพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น ทำให้ทุกคนหัวเราะเยาะแล้ว”

ดวงตาทั้งสองของจ้าวฮ่าวเต็มไปด้วยความตกตะลึง ทว่ากลับไม่ได้มองไปที่จ้าวหยวน แต่จ้องเยี่ยนจ้าวเกอตาไม่กะพริบ

เยี่ยนจ้าวเกอก็มองจ้าวฮ่าว สีหน้าของเขาคล้ายกับนิ่งเฉย ทว่าแท้จริงแล้วกลับยิ้มอย่างไม่เป็นมิตรเลย ‘อุปนิสัยตัดสินโชคชะตา ข้าชอบรับมือกับเด็กหนุ่มที่เหมือนกันกับข้าจริงๆ’

สายตาของจ้าวเฉิงก็มองไปที่เยี่ยนจ้าวเกอเช่นกัน แล้วจึงออกคำสั่งกับองครักษ์ข้างกายอย่างลับๆ จากนั้นเขาถึงหยิบโอสถรักษาบาดแผลออกมาเม็ดหนึ่ง และหาเข็มทองเล่มหนึ่งมาด้วย

เขาสังเกตโอสถรักษาบาดแผลนั้นของจ้าวหยวน จากนั้นก็คลำหาตำแหน่ง แล้วจึงแทงเข็มลงไปเก้าครั้งเช่นเดียวกัน ทว่าโอสถรักษาบาดแผลที่อยู่ในมือของตน กลับไม่มีปฏิกิริยาเลยแม้แต่นิดเดียว

“เป็นเคล็ดวิชาพิเศษจริงๆ ด้วย ไม่ใช่ความบังเอิญแต่อย่างใด!” จ้าวเฉิงถอนหายใจออกยาวๆ ด้วยความผิดหวัง

จ้าวหยวนมองจ้าวเฉิงพลางยิ้ม แล้วหยิบโอสถรักษาบาดแผลใหม่ออกมาอีกเม็ดหนึ่ง จากนั้นทำตามขั้นตอนเดิม

ไอหมอกลอยออกมาอีกครั้ง

สายตาของจ้าวซื่อเลี่ยมองสลับไปมาระหว่างเยี่ยนจ้าวเกอและจ้าวหยวน แล้วพลันกล่าวขึ้นมาว่า “โอสถรักษาบาดแผลใช้ได้ แล้วโอสถหมอกควันสลายเล่า?”

องครักษ์ที่อยู่ด้านหลังของเขาก็รีบนำผงโอสถถุงหนึ่งออกมา เป็นโอสถหมอกควันสลายที่อยู่ในรูปของผงละเอียด

จ้าวหยวนที่เห็นเช่นนั้น สายตาก็นิ่งแข็งไปเล็กน้อย

‘ไม่เป็นไร ใช้ปราณจิตราของตัวเองรวมเข้ากับสิ่งนั้น แล้วหลอมรวมให้เป็นเม็ดก็ได้ จากนั้นทำตามคำชี้แนะของข้า แทงเข็มเข้าไปเก้าครั้ง’ เยี่ยนจ้าวเกอส่งกระแสจิตบอกกล่าวจ้าวหยวนอย่างสบายใจ อีกฝ่ายได้ยินดังนั้นก็พลันผ่อนคลายลงเช่นกัน

เขานำโอสถหมอกควันสลายออกมา แล้วใช้ปราณจิตรารวมเข้ากับโอสถผง ทันใดนั้นยาผงก็ถูกหลอมเป็นรูปร่าง

จ้าวซื่อเลี่ยจ้องมองอย่างไม่ละสายตา แม้ว่าโอสถผงในขณะนี้จะมีรูปร่างเป็นโอสถเม็ด ทว่าแท้จริงแล้วก็ยังคงเป็นผงละเอียดอยู่ ไม่เหมือนโอสถรักษาบาดแผลที่เป็นโอสถเม็ดโดยสิ้นเชิง

หลังจากนั้นจ้าวหยวนก็แทงเข็มลงไปอีกเก้าครั้ง ก่อนจะมีไอหมอกพรั่งพรูออกมาจากข้างใน

ไอหมอกแบ่งออกจากหนึ่งกลายเป็นสอง กลุ่มหนึ่งสีดำ กลุ่มหนึ่งสีขาว กลุ่มสีดำนั้นสลายหายไปในอากาศ ส่วนกลุ่มสีขาวกลับเข้าไปหลอมรวมกับผงควันเมฆาที่หลอมเป็นเม็ดแล้ว

เมื่อตรวจสอบประสิทธิผลของโอสถแล้ว ท่านผู้เฒ่าหวังก็กล่าวชมไม่ขาดปาก ส่วนจ้าวซื่อเลี่ยไม่มีคำพูดใดๆ ออกมาจากปาก อีกทั้งยังหันกลับไปมองจ้าวฮ่าว

ในที่สุดในแววตาของจ้าวฮ่าวก็ไร้ซึ่งความหยิ่งยโสทะนงตนหลงเหลืออยู่ กลับกลายเป็นความหนักแน่นและตั้งใจ

เขาไม่พูดอะไรมาก เพียงนำผงโอสถหมอกควันสลายออกมาถุงหนึ่ง หลอมรวมผงเป็นโอสถเม็ด แล้วจึงขอเข็มทองจากจ้าวหยวน

จ้าวฮ่าวไม่ยอมแทงเข็มอยู่นาน ทว่าขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่

หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ ในที่สุดจ้าวฮ่าาวก็แทงเข็มลงไป

เข็มที่หนึ่ง ไม่มีอะไร…

เข็มที่สอง ก็ไม่มีอะไร…

เข็มที่สาม…

เข็มที่สี่…

เข็มที่ห้า…

“ปัง!”

โอสถเม็ดที่หลอมรวมจากผงโอสถหมอกควันสลาย ระเบิดกระจายออกมาทั้งหมด กลายเป็นฝุ่นละอองเต็มท้องฟ้า

………..