เล่ม 1 ตอนที่ 98 นายน้อยปกป้องเจ้าเอง!

ราชินีพลิกสวรรค์

เด็กหนุ่มผู้นี้สง่างามยิ่งนัก ชุดฝึกฝนสีขาวที่สวมใส่ พออยู่ภายใต้แสงไฟ ราวกับต้นสาลี่หยกที่แกะสลัก เพียงแต่ในสายตาคู่นั้นของเขา กลับมีความเจ้าเล่ห์ มิหนำซ้ำยังดื้อดึง ทำลายความงามของร่างกายที่ดูไม่คลุกคลีกับราคีของโลกนี้ไปเสีย

 

 

“สาวน้อยเจ้าพูดกับใครอยู่หรือ” เขามองมาที่เจียงหลี ริมฝีปากที่เหมือนไฟค่อยๆ ยกขึ้น

 

 

สาวน้อย!

 

 

เจียงหลียกคิ้วขึ้น หึ น้ำเสียงนี้แฝงไปด้วยความกวนประสาท! “หลีกทางด้วย” นางกล่าวเตือนอีกครั้ง

 

 

“จะรีบออกไปทำไมเล่า ยืนชมการแสดงที่นี่สักครู่ไม่ดีกว่าหรือ” เด็กหนุ่มที่เหมือนกับต้นสาลี่หยกนี้ยังไม่หลีกทางให้ แต่กลัยเปิดเผยข้อมูลอะไรบางอย่างออกมา

 

 

ชมการแสดงงั้นหรือ เจียงหลีใจเต้น ก้าวเดินไปข้างหน้าต่อ เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็อยู่ตรงหน้าเด็กหนุ่ม

 

 

เมื่อเข้าใกล้ นางมองเห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มได้ชัดเจนขึ้น หลังจากที่นางมองเห็นอย่างชัดเจนแล้ว ในใจนางถึงจะมีความรู้สึกแปลกประหลาดบางอย่างขึ้นมา นางรู้สึกราวกับว่าเคยรู้จักเด็กหนุ่มผู้นี้

 

 

“สาวน้อย เจ้าชื่ออะไร” ในขณะที่เจียงหลีสำรวจตัวเขา เด็กหนุ่มก็ได้มองเจียงหลีอย่างชัดเจน เห็นลักษณะของนางอย่างชัดเจน หว่างคิ้วที่ดูลักษณะไม่ธรรมดา ใบหน้าถูกอกถูกใจ ทำให้เขาสนใจในตัวนางมากยิ่งขึ้น

 

 

เจียงหลีไม่อยากสนใจเขา กวาดตามองไปนอกถ้ำ ถึงเข้าใจว่าชมการแสดงที่เขากล่าวหมายถึงอะไร

 

 

ที่แท้ ไม่ไกลจากปากถ้ำนัก กำลังมีคนต่อสู้กันอยู่ เจียงหลีไม่รู้จักคนที่ต่อสู้ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร

 

 

“นี่ ข้าคุยกับสาวน้อยอย่างเจ้าอยู่นะ ทำไมถึงไม่สนใจข้าบ้างเล่า” เจียงหลีไม่สนเขา แต่นี่กลับทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกสนใจนางมากยิ่งขึ้น

 

 

“สาวน้อย เจ้าอายุน้อยเช่นนี้ ทำไมถึงทำใบหน้าเย็นชาแบบนี้เล่านี่ ข้าพูดกับเจ้าอยู่ เจ้าไม่ตอบเป็นสิ่งที่เสียมารยาทมากนะ เจ้ารู้หรือไม่”

 

 

“สาวน้อย! สาวน้อย!”

 

 

“สาวน้อยเจ้าเป็นใบ้หรือ”

 

 

“สาวน้อย เจ้าดูว่าคุณชายคนนี้ดูหล่อเหลาหรือไม่ ชายหนุ่มรูปงามเช่นนี้มาพูดกับเจ้า เจ้าจะกล้าไม่สนใจได้งั้นหรือ”

 

 

“สาวน้อย……”

 

 

“หุบปาก!” เจียงหลีถูกเขากวนใจจนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ หันหน้าไป จ้องมองตาเขาด้วยสายตาที่ดุเดือด

 

 

“……” เด็กหนุ่มตกใจจากสิ่งที่นางทำอย่างกะทันหัน จึงปิดปากเงียบสนิท

 

 

แน่นอน นี่ก็ไม่ได้เป็นการทำให้เด็กหนุ่มถอยง่ายๆ สายตาที่สนใจของเขากลับดูหนักแน่นขึ้น เขาปิดปากเงียบ ไม่ได้ส่งเสียงรบกวนเจียงหลีที่กำลังดูการต่อสู้อย่างตั้งใจ

 

 

แต่ว่า เขาก็ยังไม่หยุดเท่านี้ ค่อยๆ ยื่นมืออกไป จับแขนเสื้อของเจียงหลี

 

 

“ปล่อย” เจียงหลีถูกเขารบกวนอีกครั้ง นางต่อต้านการกระทำของเขา กัดฟันเตือน “ถ้าเจ้ายังไม่หยุดตอแย เช่นนี้เราออกไปประลองกันหน่อยดีกว่า”

 

 

ใครจะรู้ แววตาของเด็กหนุ่มเป็นประกาย แล้วเริ่มกล่าวว่า “เช่นนั้นก็ได้!”

 

 

นางไม่ได้มีเวลามากพอที่จะมาเล่นกับเด็กเหลือขอคนนี้ จะสู้กับเขา สู้ไปหาคู่ต่อสู้ข้างนอกจะดีเสียกว่า “ไปเถอะ พวกเราลองไปประลองดูกันสักตั้ง แต่ว่าบอกไว้ก่อน ถ้าข้าชนะเจ้า เจ้าต้องบอกชื่อของเจ้าแก่

 

 

ข้า ตกลงหรือไม่ แม่สาวน้อย”

 

 

เหอะ เหอะ

 

 

เจียงหลีกระตุกมุมปาก นางถูกเขาดึงแขนเสื้อแล้วเดินไปยังปากถ้ำ ยืนอยู่ในบริเวณของหุบเขาโยวโยว

 

 

การปรากฎตัวของทั้งสอง สร้างความตกใจให้กับทั้งสองฝ่ายที่กำลังประลองกันอยู่ทางนั้น

 

 

พอเห็นพวกเขาหันมาทางนี้ สายตาที่เย็นชาของเจียงหลียังไม่ทันได้สาดไป ก็ได้ยินเสียงของเด็กหนุ่มคนนั้นกล่าวว่า “พวกเจ้าสู้ของพวกเจ้า พวกข้าสู้ของพวกข้า อย่ามารบกวนกันและกัน!”

 

 

จากนั้น ทั้งสองคนฝ่ายนั้นเก็บสายตา แล้วพวกเขาก็ต่อสู้กันต่อ โดยต่อสู้ไปด้วยและเดินไปไกลขึ้น ราวกับว่ากลัวพวกเขาสองคนจะเข้ามารบกวน

 

 

“มาเถอะ เรามาเริ่มกันเถอะ” เด็กหนุ่มยืนอยู่ตรงข้ามเจียงหลี พับแขนเสื้อขึ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

 

 

“……” เจียงหลีมองเขาเงียบๆ รู้สึกว่าตัวเองไม่น่าพลาดพูดประโยคเมื่อครู่กับเขาเลย

 

 

ต้องต่อสู้กับเด็กเหลือขอคนนี้อย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเช่นนั้นหรือ นางไม่มีอารมณ์!

 

 

เจียงหลีกลับตัวตั้งใจจะจากไป ไม่อยากจะพัวพันกับเขา แต่ทว่า เด็กหนุ่มไม่พอใจ อ้อมกลับมาขวางทางนางไว้ “นี่ สาวน้อย ไม่ใช่ว่าจะประลองกันสักตั้งหรือ แล้วจะหนีทำไมเล่า” เจียงหลีขมวดคิ้ว กล่าวเยาะเย้ย “เปิดปาก็เรียกสาวน้อยๆ เจ้าเองก็เป็นแค่เด็กน้อยที่ผมยังขึ้นไม่ครบไม่ใช่หรือไร”

 

 

เด็กหนุ่มปีนี้อายุยังไม่ถึงสิบหก แท้จริงก็ยังไม่ได้เป็นผู้ใหญ่

 

 

แต่ทว่า ถูกสาวน้อยที่อายุน้อยกว่าดูถูกว่าเป็นเด็กน้อย ก็โกรธในทันใด สายตาคู่นั้นของเขา สะท้อนแสงสองอันที่แหลมคมออกมา ยกมือชี้ทางเจียงหลี ยังไม่ลืมที่จะเถียงเพื่อหาข้อแก้ต่างให้ตัวเอง “ข้าแค่ถามชื่อของเจ้า แต่เจ้าเองก็ไม่บอกมา มิหนำซ้ำ ยังเป็นเจ้าเองที่มาท้าดวลกับข้า!”

 

 

กำปั้นของเขาดุเดือดมาก แฝงไปด้วยพลังอันมากมาย

 

 

ตอนที่โจมตีมาที่เจียงหลี ก็ไม่ได้คิดออมมือ เพียงเพราะเจียงหลีเป็นผู้หญิง

 

 

เมื่อเข้าใกล้ กระโจนหมัดเข้าแก้มของเจียงหลี ก็ทำให้นางรู้สึกว่าเจ็บปวดผิวหนัง นางใช้เท้าเตะที่พื้น เพื่อหลบจากหมัดของเขา

 

 

เด็กหนุ่มก็ขยับตัวอย่างคล่องแคล่ว กระโจนหมัดไปที่เจียงหลีอีกครั้ง

 

 

เจียงหลีตึงหน้าผาก และต่อยไปอีกหมัด

 

 

หมัดของทั้งสอง ปะทะกันบนอากาศ เป็นหมัดที่รุนแรงเหมือนกันมากระทบกัน พลังอันแข็งแกร่งที่ซ้อนทับกันนั้น เกือบทำให้นิ้วของทั้งสองฉีกขาด

 

 

“หมัดพิฆาตขั้นหก”

 

 

“หมัดพิฆาตขั้นหก”

 

 

แน่นอน หลังจากที่ปล่อยพลังแล้ว หมัดที่ซ้อนทับเป็นชั้นๆ นั้น ทำให้ทั้งสองตกใจอย่างพร้อมเพรียงกัน

 

 

“เจ้าเป็นใคร เหตุใดถึงได้ใช้หมัดพิฆาตขั้นหกของตระกูลลู่ของข้าได้” เด็กหนุ่มเก็บกำปั้น เปลี่ยนวิธีการต่อสู้ และโจมตีมาที่เจียงหลีอีกครั้ง

 

 

ขณะนั้น แววตาที่สนุกสนานของเขาจางหายไป แทนที่ด้วยความตั้งใจและจริงจัง

 

 

เหมือนกับว่าเขาทำเหมือนเจียงหลีเป็นคนที่ขโมยทักษะการต่อสู้ของตระกูลลู่ไป

 

 

แต่ว่า หลังจากที่เจียงหลีเห็นเด็กหนุ่มใช้หมัดพิฆาตขั้นหกแล้ว ก็รู้ถึงตัวตนของเขาทันที หลังจากที่ได้ใช้พลังฝ่ามือพันคลื่นและกระบวนท่ามี๋เตี๋ยปู้กับเด็กหนุ่มแล้ว เจียงหลีก็กระโดดออกมาจากสนามประลอง กล่าวถาม “เจ้าก็คือลู่เสวียน!” ขณะเดียวกัน นางก็รู้สึกประหลาดใจ ไม่แปลกที่เมื่อครู่รู้สึกว่าเด็กหนุ่มรูปงามนี้ดูคุ้นๆ ที่แท้ก็เป็นน้องชายของนายน้อยลู่รูปงาม พอดูอย่างละเอียด ระหว่างคิ้วของเขาก็มีลักษณะที่คล้ายกับนายน้อยลู่รูปงามนัก

 

 

“เจ้าเป็นใคร” ลู่เสวียนเองก็หยุดลง และถามด้วยความหนักแน่น

 

 

คิดไม่ถึงว่าเพิ่งมาถึงก็ได้เจอกับเป้าหมายในภารกิจ เจียงหลียิ้มในใจ พูดออกมาในทันที “ข้าคือเจียงหลี”

 

 

“อะไรกัน! ที่แท้เจ้าก็คือเจียงหลีสาวน้อยที่อุ่นเตียงคนนั้นของพี่ชายข้างั้นหรือ”

 

 

เจียงหลียิ้มมุมปากอย่างแข็งๆ

 

 

สาว น้อย อุ่น เตียง!

 

 

ยุบหนอ! พองหนอ! นั่นเป็นเพียงเรื่องที่ทำให้ผู้คนสับสนเท่านั้น! เจียงหลีสูดลมหายใจเข้า กะพริบตาปริบๆ ยิ้มยกมุมปากขึ้น แล้วค่อยๆ พยักหน้าข

 

 

“ฮ่าๆๆ…” ลู่เสวียนหัวเราะเสียงดังขึ้น เขาเก็บความดุร้ายไปจนหมด และกลับเข้าสู่สภาวะปกติ “ที่แท้ก็สาวน้อยเจียงหลีนี่เอง คิดไม่ถึงว่าพี่ข้าก็ส่งเจ้ามาที่สถาบันไป๋หยวนด้วยเช่นกัน เอาล่ะ! ต่อจากนี้นายน้อยจะปกป้องเจ้าเอง มาอยู่กับคุณชายน้อยเถิด รับรองว่าไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าแน่นอน!”

 

 

เจียงหลียังคงยิ้มแย้ม เสมือนกับตุ๊กตาที่ไม่มีพิษภัย

 

 

แต่ทว่า ในสายตายิ้มแย้มของนาง กลับเปล่งปลั่ง ดูท่าแล้ว ลู่เจี้ยไม่บอกเรื่องภารกิจปกป้องลู่เสวียนแก่เขา ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องที่ข้าเข้ามาที่สถาบันไป๋หยวน ก็ปกปิดไว้ด้วย นี่เป็นเพราะอยากให้เขาพบเจอกันโดยบังเอิญ และทำความรู้จักกันอย่างเป็นธรรมชาติงั้นหรือ