ตอนที่ 139 ถ้าได้พิสูจน์ก็จะรู้เอง / ตอนที่ 140 ถอนตัว

ลืมรักเลือนใจ

ตอนที่ 139 ถ้าได้พิสูจน์ก็จะรู้เอง

 

 

เจี่ยงซือเฟยทำท่าทางเหมือนตนเป็นพี่สาวผู้เฉลียวฉลาดของเว่ยสวีเฟิง “สวีเฟิง อย่าโมโหไปเลยน่า เรื่องแค่นี้เอง เราอย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือจะดีกว่า”

 

 

“ใช่ค่ะพี่เฟิง! พี่ซูหย่าคงจะเสียใจแย่ถ้าพี่เป็นอะไรไป!” เฮ่อซานซานพูดเสริมอย่างรวดเร็วพลางหาโอกาสแนะนำตัว “อ้อใช่ พี่เฟิงคะ…ฉันชื่อเฮ่อซานซาน เป็นญาติของพี่ซูหย่าค่ะ!”

 

 

เว่ยสวีเฟิงจ้องเจี่ยงซือเฟยและเฮ่อซานซานก่อนละสายตาอย่างรวดเร็ว เขาไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ทุกคนจึงเดาได้ว่าเขาต้องอารมณ์เสียอยู่อย่างแน่นอน

 

 

สีหน้าของเฮ่อซานซานเปลี่ยนเป็นผิดหวัง แต่เธอก็สามารถกลับมาเป็นคนเดิมได้อีกครั้งในเวลาไม่นาน ถึงยังไงซะ เธอก็จะได้แสดงหนังกับเว่ยสวีเฟิงอยู่แล้ว!

 

 

ส่วนเจี่ยงซือเฟยไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะเธอไม่ได้สังเกตอยู่แล้วว่าเว่ยสวีเฟิงอยู่ในอารมณ์ไหน

 

 

เจี่ยงซือเฟยหันหลังกลับก่อนจ้องมองเฝิงอันหวาแล้วกล่าวกับเขาด้วยน้ำเสียงดุดัน “โปรดิวเซอร์เฝิงคะ คุณก็เห็นแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ตอนแรกกองถ่ายนี้ก็ดูดีตั้งแต่ผู้กำกับไปจนถึงนักแสดงอยู่หรอกค่ะ แต่ตอนนี้เราดันมีสวะชิ้นหนึ่งอยู่ในกลุ่มนักแสดงด้วย น่าอับอายที่สุด!

 

 

เพราะอย่างนี้เว่ยสวีเฟิงถึงได้โกรธจัดไงคะ คุณต้องมีคำอธิบายที่ฟังขึ้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ แฟนๆ นิยายและแฟนๆ ของพวกเราเองก็อยากจะรู้เหมือนกัน!”

 

 

เฮ่อซานซานรีบขัดจังหวะ เธอดูเสียใจและโกรธแค้น “ฉันเองก็เข้าออดิชันในบทหลินเพียนรั่ว ทุกคนบอกว่าฉันแสดงได้ดี แต่ผู้กำกับไม่เลือกฉัน!

 

 

จริงๆ เรื่องนั้นก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะเพราะฉันเชื่อในความเป็นมืออาชีพของผู้กำกับ ฉันแค่ต้องโทษตัวเองที่มีความสามารถไม่ถึง แต่สุดท้ายหลินเยียนกลับฉกบทนี้ไปเฉยเลย มันหมายความว่าไงคะ คุณจะบอกว่าฉันสู้หลินเยียนไม่ได้เหรอ ฉันเรียนจบจากโรงเรียนการละคร และฉันเป็นนักเรียนเอกการแสดงนะคะ!”

 

 

ต้องขอขอบคุณเว่ยสวีเฟิงที่ทำให้เฮ่อซานซานได้บทตัวประกอบมาครอง

 

 

ถึงกระนั้น แม้ว่าบทตัวประกอบนี้จะได้เข้าฉากอยู่มากพอสมควร แต่ก็ยังเทียบกับบทของหลินเยียนไม่ได้อยู่ดี

 

 

ตัวละครที่หลินเยียนรับบทนั้นมีแฟนๆ ผู้คลั่งไคล้อยู่มากมาย และเธอจะได้แสดงคู่กับเว่ยสวีเฟิงอีกด้วย

 

 

ดาราหญิงหลายคนต่างฝันที่จะได้เล่นเป็นคู่รักของเว่ยสวีเฟิงกันทั้งนั้น

 

 

เฮ่อซานซานได้ยินมาจากพี่ซูหย่าว่าเว่ยสวีเฟิงจะรับบทสมทบในภาพยนตร์เรื่องนี้

 

 

ด้วยเหตุนี้ เธอจึงหมายตาบทหลินเพียนรั่วเอาไว้ และคาดหวังว่าจะได้โด่งดังด้วยบทนี้

 

 

ใครจะไปคาดคิดว่าบทนี้จะตกอยู่ในมือหลินเยียนได้ เฮ่อซานซานรับไม่ได้เด็ดขาด

 

 

ถึงแม้ว่าเฮ่อซานซานจะไม่กล้าพอที่จะคัดค้านผู้กำกับ และยังเกิดเหตุการณ์ลึกลับที่ฉีกหน้ากากของโจวเฟิงจนเขาโดนไล่ออก

 

 

แต่ตอนนี้ สถานการณ์ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปจนหมดแล้ว

 

 

เว่ยสวีเฟิงและเจี่ยงซือเฟยเป็นผู้หนุนหลังให้เธอได้อย่างดี ดังนั้น เธอจะเป็นคนเติมเชื้อไฟให้โหมกระหน่ำแล้วเตะหลินเยียนออกไปให้พ้นๆ กองถ่ายนี้ด้วยตัวเอง

 

 

เมื่อไม่มีหลินเยียนแล้ว เธอก็จะได้กลับมารับบทที่เหมาะสมอีกครั้ง

 

 

เจียงอีหมิงตอบโต้เมื่อได้ยินเฮ่อซานซานเอ่ยชมตัวเองอย่างไม่สะทกสะท้าน เขามองเว่ยสวีเฟิงก่อนเอ่ยว่า “ผมตัดสินผู้เข้าร่วมออดิชันด้วยตัวเอง และคุณเฮ่อซานซานไม่เหมาะสมกับบทหลินเพียนรั่วอย่างแน่นอน ถ้าคุณอยู่ที่นั่นด้วย คุณก็น่าจะรู้สึกแบบเดียวกันกับผม”

 

 

เว่ยสวีเฟิงขัดจังหวะก่อนที่เฮ่อซานซานจะได้พูดอะไร “อ้อ ถ้างั้นคุณคิดว่าผมพอใจแล้วงั้นเหรอ”

 

 

เจียงอีหมิงกระแอมเบาๆ “เดี๋ยวคุณเห็นฝีมือการแสดงของหลินเยียน คุณก็รู้เอง”

 

 

เว่ยสวีเฟิงตะคอกกลับ “ผู้กำกับ นี่คุณจะบอกว่ายัยขยะนั่นมีดี แล้วจะให้ผมเป็นคนพิสูจน์หรือไง”

 

 

เจียงอีหมิงเงียบกริบ

 

 

 

 

ตอนที่ 140 ถอนตัว

 

 

เว่ยสวีเฟิงหัวเราะร่วนอีกครั้ง “โทษทีนะ แต่ผมไม่อยากจะทำแบบนั้น คุณไปหาคนอื่นที่เหมาะสมกว่าผมดีกว่ามั้ง”

 

 

เฝิงอันหวาและเจียงอีหมิงรู้สึกกระวนกระวายทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น

 

 

นอกจากเว่ยสวีเฟิงจะเหมาะสมกับบทฟังชั่นหยางอย่างมากแล้ว พวกเขายังแอบหวังว่าจะขอให้ชายหนุ่มช่วยร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ด้วย

 

 

หากขัดใจเว่ยสวีเฟิงในตอนนี้ พวกเขาอาจไม่ได้ทำอย่างที่หวังไว้ก็ได้

 

 

การจะขอให้เว่ยสวีเฟิงช่วยร้องเพลงนั้นเป็นเรื่องยากถึงขนาดที่หลายๆ คนต้องช่วยกันระดมสมองหาวิธีเลยทีเดียว

 

 

เฮ่อซานซานเหลือบมองเว่ยสวีเฟิงจนหน้าแดงตั้งแต่แก้มลงไปถึงคอ

 

 

หล่อจังเลย!

 

 

เว่ยสวีเฟิงกำลังโกรธแทนเธออยู่หรือเปล่านะ

 

 

เขาต้องกำลังอยากให้เธอแสดงเป็นหลินเพียนรั่วมากกว่าแน่ๆ…

 

 

เฮ่อซานซานที่รู้สึกมั่นอกมั่นใจในตัวเองมากขึ้นโพล่งออกมาว่า “ไม่ใช่แค่พี่เฟิงนะคะ เราเองก็ไม่เห็นด้วยเหมือนกัน! จะให้เราแสดงหนังกับคนพรรค์นั้นได้ไง ยัยนั่นมันระดับต่ำกว่ามาตรฐานด้วยซ้ำ! ตามท้องเรื่องแล้ว หลินเพียนรั่วเป็นตัวละครที่มีการศึกษาสูงและหัวแข็ง หนำซ้ำยังเป็นคนสวยกว่าตัวละครทุกคนในเรื่องยกเว้นนางเอก นี่คุณกำลังดูถูกพวกเราด้วยการให้บทนี้กับผู้หญิงแบบนั้นจริงๆ เหรอคะ”

 

 

แม้ว่าหลินเยียนจะเคยดึงดูดผู้คนได้มากมายด้วยหน้าตาสะสวยเมื่อครั้งที่เธอเดบิวต์ แต่ความสวยนั้นก็ค่อยๆ ลดลงไปตามกาลเวลา

 

 

เจียงอีหมิงสนใจแค่ออร่าและทักษะการแสดงของเธอเท่านั้น เขามองข้ามหน้าตาของหลินเยียนไปเสียสนิท เมื่อได้ยินที่เฮ่อซานซานพูด เขาก็ตัวฟีบลงเหมือนลูกโป่งที่ถูกปล่อยอากาศออก

 

 

ผู้กำกับเริ่มสงสัยว่าหลินเยียนจะสามารถทำให้ตัวละครนี้มีชีวิตราวหลุดออกมาจากนิยายได้หรือไม่

 

 

แต่แน่นอนว่าเรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้นอกเหนือจากปัญหาเกี่ยวกับหน้าตาและฝีมือการแสดงของหลินเยียน…คือถ้านักแสดงที่เหลือทั้งหมดต่างรวมตัวกันคัดค้านจะต้องส่งผลให้เกิดเรื่องใหญ่อย่างแน่นอน

 

 

เจี่ยงซือเฟยเป็นนางเอก ส่วนเฮ่อซานซานมีเว่ยสวีเฟิงคอยหนุนหลัง และทั้งคู่อาจเกิดโมโหขึ้นมาได้ทุกเวลา

 

 

เฝิงอันหวาแตะบ่าของเจียงอีหมิงเบาๆ แล้วพูดพึมพำว่า “ผู้กำกับ เลิกลังเลได้แล้วครับ เราเหลือทางเดียวคือขอให้หลินเยียนถอนตัว”

 

 

เจียงอีหมิงหน้าบูดเมื่อเขาแหวกลับ “เราควรจะให้เธอลองแสดงฝีมือดูก่อนสักครั้ง…”

 

 

เฝิงอันหวามองผู้กำกับอย่างเหนื่อยใจ “ผู้กำกับเจียง ผมรู้ว่าคุณอยากจะให้โอกาสหลินเยียน แต่คุณต้องให้คุณชายเว่ยตกลงก่อนนะ แล้วดูเว่ยสวีเฟิงตอนนี้สิ เขาเกลียดหลินเยียนเข้าไส้ คิดว่าเขาจะยอมตอบตกลงแสดงหนังกับเธอหรือไงครับ ถ้าเราบังคับเขาตอนนี้ เราจะไม่ได้คนมาร้องเพลงปิดให้ด้วยนะ ถึงจะเป็นแค่บทสมทบแต่เราก็ไม่ควรเสียเขาไปนะครับ!”

 

 

ในตอนแรก โปรดิวเซอร์ตั้งใจจะใช้หลินเยียนโปรโมตหนังให้โด่งดัง แต่ใครจะไปรู้ว่าเว่ยสวีเฟิงที่เป็นผู้ทรงอิทธิพลจะเกลียดขี้หน้าเธอปานนี้

 

 

ตอนนี้ เขาเลิกล้มความคิดที่จะใช้หลินเยียนไปเรียบร้อยแล้ว

 

 

เจียงอีหมิงลองเสี่ยงดวงดูอีกครั้ง เขามองเว่ยสวีเฟิงแล้วถามว่า “คุณชายเว่ย…คือ…คุณหมายความว่า…”

 

 

เฮ่อซานซานพูดแทรกอย่างหมดความอดทนอดกลั้น “พี่เฟิงก็พูดไปอย่างชัดเจนแล้วไงคะ! คุณต้องเปลี่ยนนักแสดง!”

 

 

เจียงอีหมิงบ่นพึมพำอย่างไม่พอใจ “เราเริ่มกองถ่ายกันไปแล้ว ถ้าจะให้หาคนใหม่ภายในเวลาแค่สิบเอ็ดชั่วโมง…”

 

 

เจี่ยงซือเฟยรีบขัดจังหวะเพื่อเอาอกเอาใจเว่ยสวีเฟิง “เราก็มีอยู่แล้วไงคะ ให้ซานซานเล่นแทนหลินเยียนสิคะ ฉันเชื่อว่าสวีเฟิงต้องพอใจแน่นอน!”

 

 

เฮ่อซานซานสังเกตเห็นแล้วว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยความราบรื่นจนเธอไม่ต้องออกแรงเองเลยแม้แต่น้อย ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยความยินดี ส่วนปากของเธอก็ยื่นคำขาดออกไปว่า “ผู้กำกับคะ ฉันไม่ยอมรับถ้าคุณยังยืนกรานที่จะให้หลินเยียนรับบทหลินเพียนรั่ว ฉันจะขอถอนตัวจากการถ่ายทำเองค่ะ! ทีนี้คุณก็ทำตามใจชอบได้เลย!”