บทที่ 63 ฉันจะโกรธแล้ว

บัญชามังกรเดือด



เกิดอะไรขึ้น?

ประธานของสำนักงานใหญ่เทียนฟู่แคปปิตอลได้คอลวิดีโอจากต่างประเทศเป็นการส่วนตัวเพื่อเลือกซูซู?

ไม่เพียงแค่เงินหนึ่งพันล้านถูกโอนเข้าบัญชีทันที แถมยังส่งผู้หญิงที่แข็งแกร่งและสูงส่งอย่างหลิวชิงมายังหลงเจียงอีกด้วย เพื่อให้ช่วยซูซูจัดการและบริหารครีมซูยู่?

คนที่อยู่ภายในงาน ต่างก็นิ่งงันไร้ปฏิกิริยาตอบโต้อยู่เป็นเวลานาน

อาการช็อกเช่นนี้ กระตุ้นความรู้สึกพวกเขาได้มากเลยทีเดียว!

ซูเหวินเฉิงตื่นตระหนก เขาเอ่ยด้วยดวงตาแดงก่ำ “ซูซู คาดไม่ถึงเลยว่า แม้แต่ประธานของเทียนฟู่ แคปปิตอลยังถูกเธอล่อลวง!”

“แกมันเป็นภัยร้ายต่อผู้อื่นเสียจริง!”

“หลิวชิง ประธานของคุณแค่หลงในความงามของซูซูเท่านั้น คุณไม่ต้องไปฟังเขา!”

“คุณสัญญาว่าจะร่วมมือกับเรา เงินหนึ่งพันล้านก็ควรเป็นของเรา!”

“หลิวชิง คุณรีบโทรไปประท้วงเลย!”

สีหน้าของหลิวชิงน่าเกลียดเป็นอย่างมาก เมื่อได้ฟังคำพูดของซูเหวินเฉิง เธอเองก็พลอยสงสัย หัวหน้าสำนักงานใหญ่ ชมชอบในความงามของซูซูจริงๆ

ผู้หญิงคนนี้ ไม่ควรเรียกว่าซูซู ควรเรียกเธอว่าซูต๋าจี่

เมื่อมองไปยังซูซู นัยต์ตาของเธอก็เต็มไปด้วยความโกรธที่ไม่ยินยอม

ด้วยภายใต้แรงกระตุ้น เธอคิดอยากจะลาออก ไม่เสียดายแม้จะแตกหักกับบริษัท เธอทนต่อความอัปยศอดสูนี้ไม่ได้เช่นกัน!

ซูซูเองก็ตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจ เหตุใดประธานเทียนฟู่แคปปิตอลถึงได้สนใจในตัวเธอ

“ฉินเทียน ควรทำอย่างไรดี?” เธอถามอย่างช่วยไม่ได้

ฉินเทียนต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เป็นข้อความฉบับหนึ่ง

ข้อความนั้นถูกส่งมาโดยเหลยเป้าหัวหน้าใหญ่ ข้อความนั้นสั้นๆง่ายๆ : เจอตัวแล้ว เดี๋ยวพาตัวไป

เขาเก็บโทรศัพท์มือถือพลางยิ้มและเอ่ย “ไม่ต้องรีบร้อน เดี๋ยวก็ได้เข้าใจแล้ว”

มองหลิวชิง เขายิ้มเย็นพลางเอ่ย “ฉันรู้ว่าคุณไม่พอใจ ฉันจะให้คำตอบแก่คุณภายในสิบนาที”

สิบนาที?

ผู้ชายคนนี้กำลังทำบ้าอะไรอยู่?

“ตกลง”

“ฉันจะรอคุณเพียงแค่สิบนาที!”

“หากคุณไม่สามารถให้คำอธิบายที่ดีแก่ฉันได้ ฉันหลิวชิงยินดีที่จะแตกร้าวกับบริษัท ไม่มีทางยอมรับความอัปยศอดสูนี้ได้!”

ในไม่ช้า หัวหน้ารปภ.ก็รีบเร่งเข้ามารายงานเถียหลินเฟิง

“เจ้าสมาคม มีเฮลิคอปเตอร์ที่ไม่รู้จักบินมาหนึ่งลำครับและต้องการจะลงจอดบนดาดฟ้า!”

“ได้โปรดช่วยชี้แนะ ให้ขับไล่ออกไปไหมครับ?”

เฮลิคอปเตอร์?

เถียหลินเฟิงชะงักไปชั่วขณะและมองไปทางฉินเทียน เมื่อเห็นว่าฉินเทียนค่อยๆพยักหน้า เขาก็เอ่ยตะโกนเสียงดัง “เร็ว ให้พวกเขาเข้ามา!”

เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ทุกคนต่างงุนงงและจ้องมองไปยังทางเข้าประตูจัดงาน

เห็นชายชุดดำมากกว่าสิบสองคนที่มีดวงตาเปล่งประกายและทักษะความสามารถที่แข็งแกร่ง พวกเขาเดินเข้ามาพร้อมกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ดูผ่านโลกมาอย่างโชกโชน

เมื่อเห็นผู้หญิงคนนี้ ซูเหวินเฉิงตื่นตระหนกทันที

“กงลี่?”

“นั่นเธอใช่ไหมกงลี่? เธอมาได้อย่างไร?”

สีหน้าของซูซูดูงุนงง ผู้หญิงที่สามารถมองออกถึงความโชกโชนที่เธอผ่านมานั้นไม่ตรงกับอายุของเธอ กลับกลายเป็นเพื่อนสนิทในมหาวิทยาลัย

“ซูซู ฉันต้องขอโทษเธอ!”

“ฉัน….มาสารภาพกับเธอ!”

กงลี่เดินไปยังด้านหน้าซูซูและคุกเข่าลง

ซูซูคิดอยากจะเข้ามาประคองกงลี่ เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของเธอ กลับอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง

“ใบสั่งยาในปีนั้น เป็นฉันเองที่ขโมยไป”

“ในตอนนั้นฉันก็แค่อยากจะแกล้งเธอเล่นก็เท่านั้น อยากเห็นท่าทีร้อนรนของเธอ”

“หลังจากนั้นฉันเห็นว่าเธอแจ้งตำรวจ ฉันเลยรู้มูลค่าของใบสั่งยานั้น เป็นเพราะว่าฉันกลัว ฉันเลยไม่กล้าที่จะบอกกับเธอ”

“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉันรู้สึกผิดมาตลอด”

“ซูซู ฉันขอโทษ!”

ในที่สุดซูซูก็เข้าใจแล้ว เธอยิ้มและเอ่ยอย่างขื่นขม “กงลี่ เธอรีบลุกขึ้นเถอะ”

“ฉันไม่ได้กล่าวโทษเธอแล้ว”

“ในตอนนั้นฉันยังเป็นวัยรุ่น เล่นอะไรไม่รู้เรื่องราว อันที่จริงใบสั่งยานั้นไม่มีค่าอะไรเลย ทำไมฉันต้องโทรหาตำรวจด้วย”

“เธอบอกว่าไม่มีค่าเลย?” กงลี่ไม่เข้าใจ

ซูซูพยักหน้าและเอ่ย “ฉันรู้สึกว่าตลอดว่าสูตรนั้นมีปัญหา กระทั่งตอนนี้ ฉันค้นพบวิธีการแก้ปัญหาแล้วและได้พัฒนาสูตรที่แท้จริงแล้วล่ะ”

“ถ้าหากว่าได้ผลิตออกมาตามกำหนดการของปีนั้นก็คงไม่รู้ว่าจะต้องมีคนที่ได้รับบาดเจ็บมากมายเท่าไร”

เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ ซูซูก็นึกบางสิ่งขึ้นมาได้และเอ่ย “แล้วใบสั่งยาอันนั้นล่ะ?”

“เธอมอบมันให้กับคนอื่นแล้วงั้นเหรอ?”

กงลี่พยักหน้า กล่าวอย่างรู้สึกผิด “ลูกชายของฉันป่วย อาการป่วยนั้นรุนแรงมาก ฉันต้องการเงินจำนวนมาก”

“เงินเก็บทั้งหมดของฉันก็ใช้ไปจนหมด สามีของฉันก็หนีไป”

“แต่ฉันไม่ต้องการที่จะยอมแพ้ ตราบใดที่ฉันมีลมหายใจ ฉันจะอยู่กับลูกของฉัน”

“เมื่อไม่กี่วันก่อน มีคนมาพบฉัน ถามฉันเกี่ยวกับใบสั่งยานั่น ฉันเผลอไผลไปชั่วขณะและซื้อขายมันไปในราคาห้าล้าน”

เธอมองไปที่ซูเหวินเฉิงบนเวทีและพูดอย่างจริงใจว่า “คุณซู ขอโทษด้วย”

“ฉันไม่ควรขายผลงานของซูซู”

“และตอนนี้ ซูซูเองก็ได้พูดแล้วว่าใบสั่งยานั้นยังไม่สมบูรณ์ หากว่าผลิตไปก็คงจะเป็นอันตรายต่อผู้คน”

“ฉันยินดีนำเงินห้าล้านมาคืนคุณ ใบสั่งยานั่นคุณคืนให้แก่ซูซูเถอะนะคะ”

……………….

ความจริงถูกเปิดเผย ทุกคนต่างตกอยู่ในความโกลาหล

โดยเฉพาะหลิวชิง เธอถึงกับตกใจจนพูดไม่ออก

หลังจากผ่านไปนาน เธอพูดอย่างโกรธเคือง “ดังนั้นพูดได้ว่า ทั้งซูเหวินเฉิง ทั้งหลิวชิงยู่ทั้งเรื่องราวความรักที่งดงามอะไรเหล่านั้น ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องโกหกใช่ไหม?”

“เยี่ยมไปเลย!”

“ฉันไม่เคยเห็นคนที่โกหกเก่งอย่างคุณมาก่อนเลย!”

“เป็นการโกหกที่แนบเนียนไร้ที่ติ!”

เธอทั้งรู้สึกเกลียดชังและทั้งรู้สึกผิด

เมื่อครู่นี้ เธอตำหนิผู้คนที่สำนักงานใหญ่ว่าตาบอดและออกคำสั่งอย่างไร้ระเบียบ ตอนนี้ เธอนั้นชื่นชมอย่างเลื่อมใส!

ที่แท้สำนักงานใหญ่ก็ได้ตรวจสอบอย่างชัดเจนแล้ว!

การที่ส่งเธอมาที่นี่ เพียงเพื่อเก็บเกี่ยวความสำเร็จก็เท่านั้นและให้นับเป็นผลงานของเธอเอง สำหรับเธอแล้ว นี่คือรางวัลประเภทหนึ่งจริงๆ

คาดไม่ถึงเลยว่าเธอกลับทำให้เรื่องกลายเป็นเช่นนี้

ทำไมถึงได้หลงเชื่อเรื่องราวความรักอะไรนั่นได้อย่างง่ายดายถึงเพียงนี้?

ท้ายที่สุดเธอตระหนักได้ว่าสติปัญญาและความอวดดีของเธอจะทำร้ายตัวเธอเอง ในขณะนี้ เธอแทบรอไม่ไหวที่จะแทรกแผ่นดินหนี

“คุณซู คุณฉิน!”

“ขอโทษด้วยค่ะ!”

“ฉัน…ต้องขอโทษพวกคุณด้วยนะคะ!” หันหน้าไปทางด้านซูซูและฉินเทียน เธอก้มศีรษะที่อวดดีของตน

“ประธานหลิว อย่าทำอย่างนี้เลยค่ะ!”

“อันที่จริงคุณเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิด” ซูซูรีบเอ่ย

หลิวชิงทอดถอนหายใจและกล่าว “ได้โปรดอย่าเรียกฉันว่าประธานหลิวเลย ฉันรับคำสั่งจากสำนักงานใหญ่ ตั้งแต่วันนี้ไป ฉันจะคอยช่วยเหลือประธานซูบริหารงานครีมซูยู่”

“ประธานซู เรียกฉันว่าหลิวชิงก็พอแล้วค่ะ”

แม้ว่าจะยังไม่มั่นใจว่าบุคลิกของซูซูนั้นเป็นอย่างไร แต่ครีมซูยู่ถูกศึกษาค้นคว้าและผลิตโดยเธอ สิ่งนี้คือเรื่องจริง

สิ่งที่หลิวชิงชื่นชมมากที่สุดคือผู้หญิงที่มีความสามารถ

แต่อย่างไรก็ตามสำหรับฉินเทียน ภายในใจของหลิวชิงยังคงดูแคลนเขาและขอโทษเขาเพียงผิวเผินเท่านั้น

คุณมันก็แค่คนใฝ่ต่ำที่อาศัยความงามของภรรยาเพื่อที่จะยกฐานะของตนก็เท่านั้น จะไปมีความสามารถอะไรได้

แม้ว่าภรรยาของคุณจะมีความสามารถ แต่ประธานสำนักงานใหญ่ของเราถึงกับต้องเอ่ยปากด้วยตนเอง บางทีไม่แน่ว่าอาจจะหลงเสน่ห์ความงามของเธอด้วยก็เป็นได้

เห็นได้ชัดว่ามีความเสี่ยงที่จะถูกสวมเขา คุณยังมีความภาคภูมิใจอยู่อีก? ช่างเป็นคนที่โง่เขลาเสียจริง!

เธอรู้สึกว่าฉินเทียนนั้นไม่เหมาะสมกับซูซูเลยสักนิด แม้แต่ผู้หญิงที่มีทั้งความสามารถและความงามอย่างซูก็ยังถูกประธานเลี้ยงดู

คบหากับฉินเทียนนั้นเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างแท้จริง

ในขณะนั้น ฉินเทียนเพียงแค่ยิ้มและไม่เอ่ยอะไร

ซูซูรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก

เดิมที เรื่องใหญ่เช่นนี้ เธอเองก็ไร้ความมั่นใจในการควบคุม ตอนนี้มีมือดีอย่างหลิวชิงแล้ว เช่นนั้นปัญหาต่างๆย่อมได้รับการแก้ไข

“กงลี่ ฉันไม่โทษเธอ เธอเองก็ถูกบีบบังคับไร้ทางเลือก”

“เธอวางใจได้ เดี๋ยวฉันจะให้คนจัดเตรียมโรงพยาบาลที่ดีที่สุดให้แก่ลูกของเธอและได้รับการรักษาที่ดีที่สุด”

“แต่ก็นะ สำหรับการลงโทษเธอ ฉันมีเงื่อนไขข้อหนึ่ง” นัยต์ตาของเธอปรากฏแววตาหยอกล้อ

กงลี่เอ่ยด้วยความละอายแก่ใจ “ซูซูเธอพูดมาได้เลย ฉันจะยอมเป็นวัวจะยอมเป็นม้า จะฆ่าหรือจะแกงกันก็ได้!”

ซูซูรีบจับมือกงลี่ไว้และเอ่ย “ฉันก็แค่หยอกเธอเล่น”

“กงลี่ ในตอนที่ทำการวิจัยครีมซูยู่ เธอเองก็ให้ความช่วยเหลือไม่น้อย ตอนนี้ในที่สุดก็ถึงขั้นตอนการผลิตแล้ว ฉันหวังว่าเธอจะอยู่ช่วยฉัน”

“หากเธอไม่ตอบตกลง ฉันจะโกรธแล้วนะ”